ผมไปเที่ยวสระน้ำด้านบนกับลูกสาวห้าขวบ
ไม่แนะนำให้เล่นสไลเดอร์ใหญ่อย่างแรงนะครับ ขนาดผมเล่น เป็นผู้ใหญ่แล้วยังรู้สึกน่ากลัวและมันสไลด์ค่อนข้างเร็วในตอนท้าย
แต่เราก็เข้าใจว่าไม่น่าตกลงมา เพราะว่าเค้าอธิบายเราก็ลงมาว่าคำนวณมาดีแล้วไม่ต้องห่วงแค่นอนไถลลงไป
มันจะเร็วแต่ไม่หลุดออกจากรางแน่นอน แต่ห้ามนั่งเท่านั้นเองเพราะว่าอันตราย
ซึ่งเราก็ปฎิบัติตามคำแนะนำของพนักงานที่ดูแลอยู่
เราขึ้นไปต่อคิวตามปรกติ คนค่อนข้างเยอะเพราะว่าเป็นวันหยุดเทศกาล
เห็นเด็กท่านอื่นอายุใกล้เคียง เค้าก็ไม่ได้ทักอะไร เราก็คิดว่าไม่น่าเป็นอะไรลูกเราก็คงลงได้
แต่ด้วยความเป็นห่วง ผมก้ออยากลงพร้อมลูกเพราะคิดว่าทำได้ ปรากฎว่าอันตรายกว่าถ้าทำแบบนั้น
โดยการให้ลูกนั่งตักแล้วลงมาพร้อมกัน ผมก็พร้อมที่จะทำตามคำแนะนำ ตามที่พนักงานบอก
ผมเลยลงมาก่อนลูกลงมาตาม ภรรยาผมลงเป็นคนสุดท้ายเผื่อมีอะไร
สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้ผมลงมาก่อนเพื่อนมากรอรับลูก
สักพักลูกผมไม่ลงมาสักที มีแต่ห่วงยางแขน ไม่รู้อะไรผมก็เรียกไม่ถูกที่สวมแขนพยุงไม่ให้จมอะครับ
ปรากฎว่ามีแต่เจ้าสิ่งนี้ลอยลงมาข้างเดียวผมใจหายมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทำไม่มีแค่นี่ที่ลงมา
แล้วลูกสาวผมหละ สักพัก อึดใจนึงก็นานทีเดียวสำหรับผมที่รออยู่ด้านล่าง (ซึ่งถ้านานกว่านี้อีกนิดผมคงตะโกนแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว) ลูกสาวผมก็ลงมาตามภรรยาผม
เราก็รีบออกจากพี้นที่ที่ใกล้ไสลด์ทันที เพราะว่าภรรยาผมก็ทำหน้าตกใจบอกว่ามีอะไรจะเล่าให้ฟัง
ซึ่งผมก็คิดว่ามันต้องไม่เป็นสิ่งที่ดีแน่เพราะว่ายืนรอค่อนข้างนาน หลังจากเดินออกจากตรงนั้นมาแล้ว
ภรรยาผมหน้าตาตื่นเล่าให้ฟังว่าลูกค้างอยู่กลางสไลเดอร์เพราะว่าเค้าไม่กล้าลงมา ยืนอยู่กลางสไลเดอร์โชคดีคือ
ภรรยาผมลงมาต่อทำให้พาลูกลงมาได้
ลูกเล่าให้ฟังว่า
เค้ารู้สึกไม่กล้าลง ไอ้ที่คล้องแขนมันหลุด เค้ารู้ว่า ภรรยาผมจะลงมาเลยยืนรอเพื่อที่จะรอลงไปพร้อมกัน
แน่นอนเค้าเพิ่งห้าขวบเองก็คิดได้แค่นี้เองแล้ว และสิ่งที่คิดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งระหว่างที่เล่นสไลเดอร์
ตอนลงมาภรรยาผมเค้าก็ไม่รู้ว่าลูกรออยู่เค้าก็ไถลงมาปรกติ พอเห็นลูกยืนอยู่กลางสไลเดอร์เค้าก็ตกใจ
รีบคว้าตัวลูกทำให้ลูกผม เสียหลักไปชนกับขอบสไลเดอร์ทำให้ตอนลูกลงมา เค้าตะโกนร้องบอกว่าเจ็บหัว
แตกหัวแตก ผมก็รีบแหวกผมดูเพราะว่าผมลูกค่อนข้างยาว แต่ไม่พบรอยแตกหรือเลือดออกอะไร
สักพักเค้าก็บอกว่าหายเจ็บและเล่นต่อไปได้ แต่ตัวผมก็เลยรู้สึกแย่กลับเหตุการณ์นี้
ผมน่าจะลองเล่นก่อนคนอื่นไม่น่าเลย ผมไม่ได้ลองทำให้ลูกผมเกือบเกิดอันตราย
ผมคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรให้เด็กขนาดนี้เล่นไม่เหมาะเลย น่าจะแนะนำเรา ภรรยาผมก็ได้แต่บอกว่าให้ลืมๆ
ไปเถอะ เพราะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีแล้ว ผมก็เลยไปติดต่อ ผู้จัดการที่คุมอยู่ตอนนั่น
และเค้าก็ขอโทษผมและรับฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งผมเองก็เพิ่งทราบจากเขาว่า
ปรกติพนักงานที่คุมสไลเดอร์จะต้องรอให้คนที่ลงไปก่อนถึงพื้นน้ำ แล้วคนต่อไป ถึงลงได้เพื่อความปลอดภัย
แต่ในกรณีนี้ทำไมเค้าปล่อยภรรยาผมลงมา
ทั้งๆๆที่ลูกผมยังไม่ลงมาทำให้ชนกัน ทางผู้จัดการเค้าก็บอกว่าจะไปเช็กและตรวจสอบให้
ตามเหตุการณ์ที่ผมเล่าให้ฟังข้างบนครับ
ก็เลยอยากแชร์และเล่าให้ทุกท่านฟังเผื่อเป็นอุทาหรณ์ ข้อคิดเตือนใจในการทำผิดพลาดแบบผม
ขอบคุณครับที่สละเวลาอ่านจนจบ
และขอบคุณทุกๆๆความเห็นที่แชร์กันมาครับ
[SR] สวนน้ำแห่งนึงแถวบางกะปิ
ไม่แนะนำให้เล่นสไลเดอร์ใหญ่อย่างแรงนะครับ ขนาดผมเล่น เป็นผู้ใหญ่แล้วยังรู้สึกน่ากลัวและมันสไลด์ค่อนข้างเร็วในตอนท้าย
แต่เราก็เข้าใจว่าไม่น่าตกลงมา เพราะว่าเค้าอธิบายเราก็ลงมาว่าคำนวณมาดีแล้วไม่ต้องห่วงแค่นอนไถลลงไป
มันจะเร็วแต่ไม่หลุดออกจากรางแน่นอน แต่ห้ามนั่งเท่านั้นเองเพราะว่าอันตราย
ซึ่งเราก็ปฎิบัติตามคำแนะนำของพนักงานที่ดูแลอยู่
เราขึ้นไปต่อคิวตามปรกติ คนค่อนข้างเยอะเพราะว่าเป็นวันหยุดเทศกาล
เห็นเด็กท่านอื่นอายุใกล้เคียง เค้าก็ไม่ได้ทักอะไร เราก็คิดว่าไม่น่าเป็นอะไรลูกเราก็คงลงได้
แต่ด้วยความเป็นห่วง ผมก้ออยากลงพร้อมลูกเพราะคิดว่าทำได้ ปรากฎว่าอันตรายกว่าถ้าทำแบบนั้น
โดยการให้ลูกนั่งตักแล้วลงมาพร้อมกัน ผมก็พร้อมที่จะทำตามคำแนะนำ ตามที่พนักงานบอก
ผมเลยลงมาก่อนลูกลงมาตาม ภรรยาผมลงเป็นคนสุดท้ายเผื่อมีอะไร
สุดท้ายก็เกิดเรื่องจนได้ผมลงมาก่อนเพื่อนมากรอรับลูก
สักพักลูกผมไม่ลงมาสักที มีแต่ห่วงยางแขน ไม่รู้อะไรผมก็เรียกไม่ถูกที่สวมแขนพยุงไม่ให้จมอะครับ
ปรากฎว่ามีแต่เจ้าสิ่งนี้ลอยลงมาข้างเดียวผมใจหายมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทำไม่มีแค่นี่ที่ลงมา
แล้วลูกสาวผมหละ สักพัก อึดใจนึงก็นานทีเดียวสำหรับผมที่รออยู่ด้านล่าง (ซึ่งถ้านานกว่านี้อีกนิดผมคงตะโกนแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว) ลูกสาวผมก็ลงมาตามภรรยาผม
เราก็รีบออกจากพี้นที่ที่ใกล้ไสลด์ทันที เพราะว่าภรรยาผมก็ทำหน้าตกใจบอกว่ามีอะไรจะเล่าให้ฟัง
ซึ่งผมก็คิดว่ามันต้องไม่เป็นสิ่งที่ดีแน่เพราะว่ายืนรอค่อนข้างนาน หลังจากเดินออกจากตรงนั้นมาแล้ว
ภรรยาผมหน้าตาตื่นเล่าให้ฟังว่าลูกค้างอยู่กลางสไลเดอร์เพราะว่าเค้าไม่กล้าลงมา ยืนอยู่กลางสไลเดอร์โชคดีคือ
ภรรยาผมลงมาต่อทำให้พาลูกลงมาได้
ลูกเล่าให้ฟังว่า
เค้ารู้สึกไม่กล้าลง ไอ้ที่คล้องแขนมันหลุด เค้ารู้ว่า ภรรยาผมจะลงมาเลยยืนรอเพื่อที่จะรอลงไปพร้อมกัน
แน่นอนเค้าเพิ่งห้าขวบเองก็คิดได้แค่นี้เองแล้ว และสิ่งที่คิดก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งระหว่างที่เล่นสไลเดอร์
ตอนลงมาภรรยาผมเค้าก็ไม่รู้ว่าลูกรออยู่เค้าก็ไถลงมาปรกติ พอเห็นลูกยืนอยู่กลางสไลเดอร์เค้าก็ตกใจ
รีบคว้าตัวลูกทำให้ลูกผม เสียหลักไปชนกับขอบสไลเดอร์ทำให้ตอนลูกลงมา เค้าตะโกนร้องบอกว่าเจ็บหัว
แตกหัวแตก ผมก็รีบแหวกผมดูเพราะว่าผมลูกค่อนข้างยาว แต่ไม่พบรอยแตกหรือเลือดออกอะไร
สักพักเค้าก็บอกว่าหายเจ็บและเล่นต่อไปได้ แต่ตัวผมก็เลยรู้สึกแย่กลับเหตุการณ์นี้
ผมน่าจะลองเล่นก่อนคนอื่นไม่น่าเลย ผมไม่ได้ลองทำให้ลูกผมเกือบเกิดอันตราย
ผมคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรให้เด็กขนาดนี้เล่นไม่เหมาะเลย น่าจะแนะนำเรา ภรรยาผมก็ได้แต่บอกว่าให้ลืมๆ
ไปเถอะ เพราะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีแล้ว ผมก็เลยไปติดต่อ ผู้จัดการที่คุมอยู่ตอนนั่น
และเค้าก็ขอโทษผมและรับฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งผมเองก็เพิ่งทราบจากเขาว่า
ปรกติพนักงานที่คุมสไลเดอร์จะต้องรอให้คนที่ลงไปก่อนถึงพื้นน้ำ แล้วคนต่อไป ถึงลงได้เพื่อความปลอดภัย
แต่ในกรณีนี้ทำไมเค้าปล่อยภรรยาผมลงมา
ทั้งๆๆที่ลูกผมยังไม่ลงมาทำให้ชนกัน ทางผู้จัดการเค้าก็บอกว่าจะไปเช็กและตรวจสอบให้
ตามเหตุการณ์ที่ผมเล่าให้ฟังข้างบนครับ
ก็เลยอยากแชร์และเล่าให้ทุกท่านฟังเผื่อเป็นอุทาหรณ์ ข้อคิดเตือนใจในการทำผิดพลาดแบบผม
ขอบคุณครับที่สละเวลาอ่านจนจบ
และขอบคุณทุกๆๆความเห็นที่แชร์กันมาครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น