ความมันส์หลังค่ำคืนแห่งยุโรป 🕊️🕊️

ในที่สุด UCL ก็ได้คู่ตัดเชือกครบเรียบร้อยแล้ว โดยมีการพลิกล็อคนิดๆ จากการที่แมนซิตี้ถูกไก่เดือยทองเขี่ยตกรอบ มีประเด็นมากมายที่ต้องพูดถึงกันทั้งในเกมและสภาวะหลังเกม ขอแจกแจงเท่าที่จับต้องได้ตามนี้นะจ๊ะ

1. ซาลาห์คมทุกจังหวะ - เป็นของขวัญต้อนรับซัมเมอร์แก่แฟนๆเดอะค้อปโดยเฉพาะ กับฟอร์มของซาลาห์ที่กลับมาดีวันดีคืน วันนี้มีจังหวะจ่ายสุดคม รวมถึงยิงประตูเฉียบๆที่บ่งบอกถึงความมั่นใจในตัวเองไปอีกลูก ขณะเดียวกันจังหวะที่มาเน่แตะหลบคาซิยาส ซาลาห์ก็ยังโชว์สปิริต ปล่อยให้มาเน่ยิงทั้งๆที่เค้ากำลังสปีดมาที่บอล แสดงถึงความครบเครื่องในด้านจิตใจที่ต้องการทำเพื่อทีมมากกว่าส่วนรวม มันช่างเหมาะเจาะจริงๆในช่วงเวลาแบบนี้


ประตูแบบบอลทูแฮนด์ทำให้เรือใบต้องน้ำตาตก

2. เฮนโดรุกกระจาย - กัปตันหงส์แดงอยู่ในช่วงที่ฟอร์มในเกมรุกดุดันที่สุด โดยตั้งแต่ได้เล่น box-2-box เค้ามีส่วนร่มโดยตรงกับ 3 ประตูใน 4 เกมล่าสุด ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของเค้าในชุดหงส์แดงเลย โดยในเกมล่าสุดเค้ามีการจ่ายคิลเลอร์พาสสวยๆอย่างน้อย 2 ครั้งให้เห็นและเป็น 1 แอสซิสต์ เป็นสิ่งที่ตอกย้ำว่าไฟในตัวเค้ายังจุดประกายได้ และพร้อมจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถือเป็นสิ่งดีๆอีกข้อนึงที่ทำให้แผงมิดฟิลด์ของหงส์แดงมีความสมบูรณ์ขึ้นมากกว่าเดิม

3. มิลเนอร์ + ดุม = ?? - พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีเดียวยามที่หงส์แดง มีสองคนนี้ลงด้วยกัน รวมทั้งคนที่เหลือในแผงกลางยังเป็นฟาบินโญ่ที่มีจุดเด่นเรื่องความเชื่องช้า ทำให้ช่วงแรกเกมรับดูป้อแป้มากๆ เพราะขาดการกรองเกมที่ดีจากแผงกลาง ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่ปอร์โตไม่สามารถใข้โอกาสที่มีเพื่อทำประตูนำในช่วงเวลานั้นได้

4. อลิสซอนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ - ต้องบอกว่าเค้าคือกลจักรสำคัญในเกมนี้เช่นกันที่ทำให้ทีมต้านทานการรุกของปอร์โตในช่วงแรกได้ เพราะถึงแม้ว่าปอร์โตจะมีจังหวะสุดท้ายที่ไม่เด็ดขาด แต่อีกข้อสำคัญก็คือการยืนตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมของนายแบบหน้าหล่อคนนี้ ที่ทำให้แทบบอลทุกลูกที่ปอร์โตยิงเข้ากรอบ มันก็จะไหลมาเข้าซองของนายทวารผู้นี้เสมอ และเค้าก็ทำแบบนี้มาแทบทุกเกม เพียงแค่มันเด่นชัดมากๆในเกมนี้

5. ราฮีมระดับโลกแล้วล่ะ - ฟอร์มนาทีนี้ของอดีตเด็กปั้นหงส์ มันเหมาะสมกับคำว่าระดับโลก ทั้งการเลี้ยงจี้ด้วยความเร็วที่ยากจะไล่ตาม รวมถึงการยิงประตูที่ไว้ใจได้ น่าเสียดายกับลูกล้ำหน้าในช่วงเวลาสุดท้าย เพราะถ้าเป็นประตูและกรุยทางพาเรือใบเป็นแชมป์ถ้วยหูโตในบั้นปลาย ไม่ใช่แค่ตำแหน่งนักเตะ PFA ที่มีลุ้น แต่น่าจะมีโอกาสไปไกลถึงบัลลังดอร์เลยด้วยซ้ำ

การร่วงรอบนี้ทำให้ราฮีมหมดลุ้นบัลลงดอร์

6. ซอนก็กำลังไต่ระดับขึ้นไป - หลังจากเคนเจ็บในช่วงที่สำคัญของฤดูกาล คงมีน้อยคนที่มองว่าไก่จะก้าวข้ามเรือใบมาได้ ซึ่งต้องกราบในฟอร์มของอาตี๋ซอน ที่เป็นคนยิงถึง 3 ประตูในรอบนี้ จนนำพาทีมเข้ารอบตัดเชือก ถ้าฟอร์มยังดีระดับนี้ และทีมยังขาดถ้วยอยู่ล่ะก็ คงจะอยู่กันได้อีกไม่นานแน่ๆ

7. โปเชตติโน ข้ามขีดจำกัดได้แล้ว - อาจจะนับเป็น Milestone แรกของกุนซืออาเจนไตน์ที่สามารถทะลุข้อจำกัดที่ไม่เคยข้ามผ่านมาได้ การล้มแมนซิตี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในอาชีพกุนซือ ซึ่งถ้าเค้าไม่ประมาทจนเกินไปก็มีโอกาสพาทีมเข้าชิง UCL เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ให้กับตัวเค้าเองและสโมสร


พอชก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้แล้ว แต่ต้องดูว่าจะไปไกลได้แค่ไหน

8. Pepp ล้มเหลว - แน่นอนว่าเป้าหมายอันดับ 1 ของพลพรรคเรือใบ และแฟนๆ ย่อมหนีไม่พ้นถ้วย UCL ที่พวกเค้าไม่เคยได้สัมผัส ปีนี้มีโอกาสอันดีที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมาย แต่ไม่น่าเชื่อว่าพวกเค้าจะพลาดท่าให้กับทีมที่เป็นเสมือนลูกไล่มาตลอด คาดว่าด้วยความผิดหวังในครั้งนี้ เกมลีคนัดถัดไปที่ทั้งคู่ต้องหวนมาเจอกันอีก คงระอุอย่างแน่นอน เพราะเดิมพันของทั้งคู่มันก็คือเป้าหมายสำคัญประจำฤดูกาล ไม่แพ้กับเกม UCL ที่เพิ่งผ่านพ้นไป

9. กุนนอนไม่หลับไปหลายวัน - การดีใจเก้อหลังจากเปิดบอลให้ราฮีมยิงประตูที่โดนตัดสินว่าล้ำหน้า และที่สำคัญคือการพลาดจุดโทษในเกมแรก คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดที่ทำให้เรือใบตกรอบ นั่นคงทำให้เค้าเฟลไปอีกแสนนาน

10. VAR ขัดใจ แต่ตรงใจ - ถ้าไม่มี VAR มันก็จะมีดราม่าเกิดขึ้นในอีกรูปแบบนึง ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีนี้มันช่วยให้ทีมที่กำลังจะเสียหายจากข้อจำกัดของสายตามนุษย์ ได้กลับมาทวงความยุติธรรมอีกครั้ง ถึงจะขัดอารมณ์ แต่มันก็ดีกว่าการที่ทีมที่เป็นเหยื่อ ต้องพบกับคราบน้ำตากับความผิดพลาดจากคนบางคนโดยที่พวกเค้าไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้


เป๊ปจะมีฤดูกาลที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงถ้าทะลึ่งพลาดถ้วยลีค

11. UCL รอบตัดเชือกการปะทะของนักเตะแห่งอนาคต - ต้องยอมรับว่าไก่เดือยทองและอาแจกซ์ ประกอบไปด้วยนักเตะวัยรุ่นคุณภาพคับแก้วที่ค่อยๆเติบโต และรอหล่อหลอมประสบการณ์เพื่อก้าวไปอีกขั้น เกมรอบตัดเชือกระหว่างสองทีมนี้คงเป็นอะไรที่เราน่าจะจับตาดูบรรดานักเตะเหล่านั้นที่มีโอกาสก้าวมาเป็นนักเตะระดับโลกในอนาคตอันใกล้นี้

12. คาดเดาแชมป์ UCL ลำบาก - นาทีนี้เต็ง 1-4 คงคาดเดาได้ว่าบ่อนพนันจะวางตัวไว้แบบไหน แต่ในสถานการณ์จริงทุกทีมมีโอกาสทะลุถึงแชมป์พอๆกัน ม้ามืดแบบอาแจกซ์และไก่เดือยทอง หรือรองแชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลต่างก็มีรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจของตัวเอง ถึงแม้บาร์เซโลน่าจะมีเมสซี่นำทัพ ก็ใช่ว่าจะใข้ความเป็นสตาร์ก้าวไปคว้าแชมป์โดยผ่านทีมเหล่านี้ไปได้ง่ายๆ นี่ถ้าบอล UCL เตะกันหัวค่ำกว่านี้ ผมเองคงจะนั่งดูมันทุกเกมเลยล่ะ

13. ลุ้นแชมป์ลีคโคตรเดือดแน่นอน - แมนซิตี้เหลือแค่ถ้วยใหญ่ถ้วยเดียวที่จะมาช่วยบรรเทาความผิดหวังจาก UCL ดังนั้นแต่ละเกมที่เหลืออยู่ ไม่อยากจะคิดว่าคู่ต่อสู้ของพวกเค้าจะต้องเจออะไรบ้าง สาวกหงส์แดงคงได้แต่ส่งกำลังใจให้อริสำคัญอย่างผีแดงและไก่เดือยทองช่วยเบรคคู่แข่งสำคัญในการลุ้นแชมป์ครั้งนี้ให้ได้ เพราะพวกเค้าไม่สามารถเป็นแชมป์ได้ด้วยความสามารถของตัวเองล้วนๆได้แล้วในทางทฤษฎี

ฟุตบอลก็แบบนี้ล่ะครับ ต้นสัปดาห์เรือใบคือโคตรทีมที่อาจจะทำลายทุกสถิติ พอกลางสัปดาห์มันก็เปลี่ยนเป็นอีกเรื่องนึง และต้องมาคอยดูหลังจบเกมกับแมนยูว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบไหนไปอีก เพราะการพลาดแค่พริบตาเดียวมันอาจเปลี่ยนพวกเค้าจากทีมที่จะทำลายทุกสถิติ กลายเป็นทีมที่ล้มเหลวประจำปีได้อย่างง่ายๆ อยู่ที่พวกเค้าแล้วล่ะว่าจะฟื้นสภาพจิตใจและกลับมาผงาดได้อย่างรวดเร็วทันทีเลยรึเปล่า เดี๋ยวเราก็รู้กัน!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่