[บันทึกเดินทางของชาวสองล้อ ep.2] จากทีลอซูมุ่งสู่ที่สุดในแดนเหนือ

กระทู้ก่อนนี้ได้เล่าถึงการท่องเที่ยวแดนตะวันตกไปแล้ว
จาก [บันทึกเดินทางของชาวสองล้อ] ครั้งหนึ่งที่ "กอทูเล" ได้ที่  https://ppantip.com/topic/38772641
ซึ่งถ้าไม่ได้จดหมายของกำนันแช ช่วยหลายสิบชีวิตเอาไว้ บนดินแดนกระเหรี่ยงลุ่มแม่น้ำสาละวิน
ก็คงจะไม่มีใครรอดชีวิตกลับมาบอกเล่าเรื่องราวได้ค่ะ.... ขอกราบขอบพระคุณกำนันแชยิ่ง

และต่อจากกระทู้ที่แล้วที่บอกเล่าเล่าการเดินทางตามวิถีของชาวสองล้อในยุคก่อนรุ่นของพ่อแม่ส่งต่อบอกเล่ามา
ครั้งนี้จะพาขึ้นเหนือ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ "สูงสุด" และ "เหนือสุด" แดนสยาม
และไปสัมผัสกับน้ำตก "ทีลอซู" ดินแดนของชาวกระเหรี่ยงปกากะญอ 
ซึ่งอยู่ในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก  อันเป็นทางผ่านในการมุ่งสู่เหนือเส้นชัยในทริปนี้

เริ่มสตารท์เส้นทางจากกรุงเทพ โดยตั้งต้นกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ใช้เส้นทางสายเอเซีย มุ่งตรงสู่เหนือ โดยวิ่งกันยาวๆ จนมาถึงจังหวัดตาก 
จากถนนราดยางเส้นใหญ่ ยิ่งเข้าใกล้จุดหมายเท่าไหร่ก็กลายเป็นทางลูกรัง สภาพถนนหมู่บ้าน
ความยากลำบากในการเดินทางเริ่มปรากฎขึ้นเรื่อยๆ ความท้าทายยิ่งทวีคูณ อากาศก็พัดพาหมอกให้ปกคลุมถนน

ภูเขาเบื้องหลังลิบๆนั่น คือ ที่ตั้งของน้ำตกทีลอซู  




เมื่อขับเข้าไปใกล้ๆ ความชื้นของป่า และหมอกแห่งหุบเขาก็ปกคลุมถนน วิสัยทัศน์ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
หลายครั้งที่รถแฉลบออกนอกเส้นทางไปบ้าง และหุบเหวก็อยู่ไม่ไกล 
บางจังหวะก็ต้องไถลตัวยอมทิ้งรถไปก่อน  และค่อยตามลากจูงขึ้นมาทีหลัง 
เรียกได้ว่า สาวคู่ใจที่นั่งข้างหลัง ต้องรู้ใจคนขับ รู้จังหวะ ทิ้งน้ำหนักกันอย่างพอดี เพื่อให้ประคองรถกันไปได้



หมู่บ้านเล็กๆของชาวกระเหรี่ยง  เป็นเหมือนที่พักฟื้นของนักเดินทาง เติมเสบียงให้ทั้งคนและรถพร้อมไปต่อ


 

และระหว่างทางไปทีลอซู จะมีศาลอันเป็นที่เคารพให้สักการะก่อนออกเดินทาง




อุ่นใจเสมอเมื่อเจอเจ้าหน้าที่  เพราะเป็นเหมือน Google  ท้องถิ่น  
อยากรู้อะไรก็ได้รู้  อยากถามอะไรก็บอกได้  เดือดร้อนก็ขอพึ่งพา
นับได้ว่าเป็นตัวช่วยที่ดีในการเดินทาง และต้องปักหมุดเอาไว้





**เสริม**  อีกที่เที่ยวที่หากไปจังหวัดตากไม่ควรพลาดคือ  เจดีย์ยุทธหัตถี   
ซึ่งปัจจุบันพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวทำบุญสวยงามกว่าแต่ก่อนมาก



อีกจุดที่ควรแวะคือ แม่น้ำเมย อำเภอแม่สอด ปัจจุบันจะมีตลาดชายแดนไทย - พม่า ชื่อ ตลาดริมเมย อยู่ และในบริเวณนี้ก็สามารถถ่ายรูปกับป้ายสุดแดนตะวันตกได้อีกแห่ง นอกเหนือจากที่เขากระโจม จังหวัดราชบุรี

เพราะแม้จังหวัดตาก จะมีอาณาเขตติดกับแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่
แต่ก็ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของภาคตะวันตก มีชายแดนติดกับพม่า จนนำไปสู่วลีที่ว่า

"สุดประจิมที่ริมเมย"

แต่ถ้าตามดั้งเดิมจะมีคำว่า "สยามเมืองยิ้ม" แทรกร่วมอยู่ในวลีดังกล่าวด้วย



.
.
.
.

เมื่อออกมาจากจังหวัดตาก ก็มุ่งหน้าเข้าสู่เชียงใหม่  โดยตั้งเป้าหมายว่าต้องไปให้ถึง "สูงสุดแดนสยาม"
แม้ถนนจะดีกว่าในป่า  แต่ก็ยังถือว่าลำบากอยู่มาก  แผนที่ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญมากที่ขาดไม่ได้
และการแวะดูพิกัดเป็นระยะ  ก็ช่วยทำให้กำหนดตำแหน่งปัจจุบันได้เป็นอย่างดี



บางจังหวะต้องผลัดกันลงเดิน ทั้งลากทั้งดัน  ช่วยกันไป  แขนต้องแข็ง ขาต้องยัน  ประคองรถให้อยู่



เมื่อเข้ากลับเข้าสู่ถนนสายหลักได้การเดินทางก็สะดวกคล่องตัวขึ้น 
แวะเที่ยวตามทางบ้างทั้ง ดอยอ่างขาง และไชยปราการ จนสุดท้ายก็ไปถึงยังดอยอินทนนท์





อีกหนึ่งความฝันที่ทำสำเร็จ  





หลังจากนั้นก็เดินทางไปสู่เหนือสุดแดนสยาม  มีจุดหมายหลักคือ เชียงราย

และบนเส้นทางหลวงแผ่นดิน 109  แม่สรวย - ฝาง ก็เรียกได้ว่า วัดใจกันอยู่ จะถอย หรือ จะไปต่อดี

 

ในที่สุดก็ผ่านมาได้  สำรวจความพร้อมของรถเป็นระยะ  เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น
รถใครเสียก็ปะซ่อมกันตรงนั้น  ช่วยกันจัดเตรียมข้าวของให้เรียบร้อย และออกเดินทางต่อ


มาถึงแล้วที่พ่อฝันใฝ่  และด้วยการที่ภาคเหนือถือครองคำว่า  "สูงสุด" และ "เหนือสุด" แดนสยาม
พ่อจึงบนบานขอลูกชายจากพ่อขุนพญาเม็งราย อันเป็นที่เคารพสักการะของบ้านเมืองเหนือ
และก็ได้ลูกชายสมใจ  ซึ่งขอบอกก่อนว่า  แม่เป็นคนท้องยาก   ทั้งเราและน้องล้วนเป็นลูกขอมาทั้งนั้น
ซึ่งน้องชายก็มีอายุห่างจากเราหลายปีอยู่  จนนึกว่าจะได้เป็นลูกคนเดียวซะแล้ว 
ก็เป็นเรื่องของความเชื่อน่ะนะ



แวะเที่ยวต่อที่พิพิธภัณฑ์ฝิ่น ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น หอฝิ่น และปรับปรุงสวยงามขึ้น


น้ำตกขุนกรณ์  ที่ขึ้นชื่อว่า  น้ำตกสูงที่สุดในเชียงราย
น้ำใสไหลเย็น เหมาะแวะเที่ยวได้ทั้งปี  ใครไปเชียงราย ควรไปปักหมุดหย่อนเท้าแช่น้ำที่นี่


สุดท้ายก็พระตำหนักดอยตุง  ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งหากมาถึงเชียงราย



และก็ไม่พลาดที่จะไปยังพม่า  ครั้งนี้ข้ามแดนกันที่ ด่านท่าขี้เหล็ก ณ แม่สาย


ในยุคนั้นธงชาติของพม่า ยังมีหน้าตาแบบเก่าก่อนจะเปลี่ยนรูปแบบไปต่างจากในปัจจุบัน



แวะเที่ยวต่อแม่ฮ่องสอนเล็กน้อย  ออกเดินทางแต่เช้าตรู่จากเชียงราย  เห็นเงาตะคุ่มๆใหญ่ยักษ์ อยู่กลางถนน
ทั้งกลุ่มไม่แน่ใจมันคือสิ่งใด  ก็ขับตามไปไม่กล้าจะแซงหน้า  จินตนาการแปลกๆคิดไปถึง เต่ายักษ์ 
แต่เมื่อแสงตะวันสาดส่องถึงเห็นรูปร่างที่แท้จริง  เป็นเหมือนเครื่องสานอะไรซักอย่าง ใหญ่โตครอบรถได้ทั้งคัน
ไม่รู้ว่าสิ่งนี้ชื่ออะไร  และเอาไว้ทำหน้าที่ใด  แต่พ่อก็ขอเขาถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึก



หลังจากเที่ยวสมใจก็มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพ  พักผ่อนเอาแรง เก็บความทรงจำ
ก่อนจะวางแผนเตรียมพร้อมออกเดินทางในทริปใหม่อีกครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่