▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศาลาคนโสด
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
💟คุนหมิง ครั้งนึงที่เราได้รู้จักกัน🌧️
10-13 เมษายน 2562
คุณหมิง-ลี่เจียง-ภูเขาหิมะมังกรหยก
รีวิวฉบับ...... ไปกับทัวร์
เราเดินทางกันด้วย Kunming airline กับ อาหารรองท้องกันหิว555
วันแรก10 เมษา เรานัดเจอกับไกด์ 5โมงเย็น เพื่อเช็คอิน แต่วันนั้นเครื่องดีเลย์ไปหน่อย เลยออกจากไทย 21.25น. ไปถึงสนามบินคุนหมิงราว เที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ขั่วโมง หลังจากนั้นก็เดินทางไป โรงแรมที่พัก กว่าจะอะไรเสร็จปาเข้าตี3แล้ว เจ้ากรรม ไกด์นัดเวลา มอนิ่งคอล ตี5 เพื่อทานอาหารเช้า6โมง ซ้ำพอถึงเวลาอาหารเช้ายังไม่มี เตรียมยังไม่ทันเสร็จเลย สรุปมื้อนั้นกินข้าวผัดเกลือ กับหมูแผ่นที่คล้ายๆบาโลน่าบ้านเราอ่ะ
โฉมหน้าสถานีรถไป คุนหมิง คนเยอะมาก ต้องตรวจกระเป๋าก่อนเข้าสถานี อันนี้เราเดินจากโรงแรมไปสถานีอีกประมาณ200เมตร
ด้านในสถานี คนยังเยอะ ต่อคิวเพื่อไปขึ้น
รถไฟ
โฉมหน้าสถานีปลายทาง ลี่เจียง หลังจากนั่งกันมา3 ชั่วโมงพอดีเป๊ะ
ราวเวลา7โมงออกจาก โรงแรม เพื่อไปนั่งรถไฟความเร็วสูง จากคุนหมิง ไปลี่เจียง
รถไฟนี้ใช้เวลาเดินทาง3ชั่วโมง แทนการนั่งรถที่อาจจะต้องใข้มากถึง7 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว
8.25 เวลาขึ้นรถไฟ ซึ่งขบวนที่นั่งนั้นวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 160-190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ครั้นเวลา ราว11โมงกว่าก็เดินทางถึงสถานีลี่เจียง ก็นั่งรถต่อไปยังหมู่บ้าน ซู่เหอ ซึ่งเป็นที่พักในคืนที่2ของคณะครับ
นี่คือภายในห้องและโรงแรมที่พัก
ตอนเย็นก็ออกมาเดินที่ หมู่บ้านโบราณซู่เหอ
ภายในหมู่บ้านก็จะมีร้านค้า ร้านขนม มีลานโชว์การแสดงพื้นเมืองด้วย
นี่คือบรรยากาศหมู่บ้านโบราณซู่เหอ ยามบ่ายถึงเย็น ก็จะมีร้านค้าแบบโบราณๆๆ ขายสินค้าพื้นเมือง ของกินต่างๆ มีล่นแสดงโชว์ร้องเล่นเต้นรำของหมู่บ้าน เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่น่าสนใจที่ไม่ไกลจาก ภูเขาหิมะมังกรหยกครับ
วันที่3 12 เมษา ตอนเช้าเราเริ่มออกเดินทางจากที่พักไปที่จุดไฮไลน์อีกจุดของทริปคือ ภูเขาหิมะมังกรหยก ซึ่งภูเขานี้มีหิมะปกคลุมตลอดปี และมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า5500 เมตร แต่จุดที่ผมไปนั้นผมขึ้นไปได้เต็มที่แค่4650 เมตรซึ่งอากาศในวันนั้นที่ภาคพื้นดินราว 10-18องศา แต่บนเขาจะราวๆ2-9 องศา จขกท.อัดเสื้อ3ชั้นกันเลยทีเดียว
จริงไการขึ้นเขานี้ถ้าเป็นคนที่ออกกำลังกายประจำ ผมว่าสามารถขึ้นได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นเด็ก หรือคนแก่ หรือคนที่ไม่แข็งแรง อาจจะทำให้ เวียนหัว หายใจไม่ทันได้ ซึ่งที่นั้นเค้าจะมีบริการขายออกซิเจนกระป๋อง เพื่อใช้ในการช่วยหายใจครับ แต่เนื่องจากผมไปกับทัวร์ไกด์ก็เลยนำมาจำหน่ยให้ในราคากระป๋องละ 100หยวน และมีขายยาจีนขวดเล็กๆแดงๆ เพื่อปรับการไหลเวียนของเลือด อีกกล่องละ150 หยวน มี10ขวด ให้กินหลังอาหารมื้อละ2ขวด ก่อนขึ้นเขาครับ
แต่ถ้าใครไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรคับ
กระป๋อง ออกซิเจน ก็เหมือนที่ฉีดยุงแท้ๆเลย 555 แต่อันนี้มาฉีดใส่จมูก ขนาด 140มล. 100หยวนจ้า
ขาลงจากภูเขา เราได้แวะจุดท่องเที่ยวอีกจุดคือ น้ำตกจิวจ้ายโกวน้อย
บรรยากาศวิว ที่น้ำตก จิวจ้ายโกวน้อย ภาพวิว สดใส สวยมาก ตัวขาๆที่เห็นนั่น ก็คือ "จามรี" นั่นเอง อิอิ เมืองไทยไม่มีนะ
ช่วงเย็นคณะทัวร์พามาที่หมู่บ้านโบราณลี่เจียง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ มีสัญญลักษณ์ที่เอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ กังหันน้ำนี่แหละครับ
ระหว่างเดิน หิวๆ เลยซื้อ โยเกิร์ตนมอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้วยละ 10หยวน
แล้วก็ขนมอะไรก็เรียกไม่ถูก แต่เค้าใช้เห็นไปทอด ต่อยไข่นกกระทาลงไป 4อัน 25 หยวนแหนะ แพงจัง
เช้าวันที่4 13 เมษา เราต้องเดินทางกลับแล้ว จึงต้แงตื่นตี5 เพื่อมาทานอาหารเช้าของโรงแรม และออกเดินทางเพื่อไปสถานีรถไฟ ลี่เจียง เพื่อนั่งกลับมาที่เมืองคุณหมิง เพื่อเตรียมตัวกลับ เช็คอินเวลา 15.00 เครื่องออกราว6โมงเย็น ถึงไทยเวลาประมาณ1ทุ่มตามเวลาประเทศไทยครับ
จริงๆทริปนี้มีให้ชมโชว์การแสดงของผู้กำกับ จางอี้โหมว แต่ทางลูกทัวร์ต้องจ่ายค่าตั๋วเพิ่มต่างหาก อีก300 หยวน บางคนรวมถึงผมด้วยก็เลยไม่ได้เข้าชมการแสดงครับ 555 😂
นี่คืออาหารมื้อสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับแล้ว "สุกี้เห็ด" สารพัดเห็ดจริงๆ มีไรก็ใส่ลงไป แต่ต้องทำให้สุก สุดๆเลยนะ ไม่งั้นท้องเสีย5555