คบกับแฟนมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ อยู่คนละจังหวัด ยังไม่แต่งงาน
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนมีคนทักแชทเฟสมาหาเราว่า “ผมมีเรื่องต้องบอกพี่ เรื่องเกี่ยวกับแฟนพี่และแฟนผม”
“อันนี้เป็นเฟสปลอมของผมนะครับ คือก่อนหน้านี้ผมสงสัยว่าแฟนผมกับแฟนพี่แอบคุยกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยมาก จนสุดท้ายเค้าก็ขอเลิกกับผม
แฟนบล็อคการติดต่อผมทุกอย่าง ก็มีแต่เฟสปลอมอันนี้แหละที่ผมยังพอจะส่องเฟสแฟนผมได้ บวกกับเพื่อนๆผมและเพื่อนๆเค้าก็ช่วยบอกข้อมูลกับผมตลอด เพราะทั้งเพื่อนๆผมและเพื่อนๆเค้าไม่มีใครยินดีกับการที่เค้าสองคนแอบคุยกันเลยครับ
เรื่องที่เค้าสองคนแอบคุยกัน ในเฟสมันเงียบมากๆไม่มีอะไรให้ผิดสังเกตเลย แต่ตอนที่เค้าอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วที่แฟนพี่ย้ายมารับงานที่นี่ เค้าสองคนดูแลเทคแคร์กันมากจนผิดสังเกต
แต่ผมคิดว่าพวกผู้ใหญ่ในที่ทำงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เพราะถ้าพวกเค้ารู้มันต้องเป็นเรื่องใหญ่มากแน่ๆ และผมก็เลยคิดว่าพี่ก็น่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน ผมเลยตัดสินใจทักมาบอกพี่
พี่ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับ พวกเพื่อนๆผมอาจจะใส่สีตีไข่ก็ได้ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเค้าไม่มาทำงานที่นี่ เราสองคนก็คงยังไม่เลิกกัน
รบกวนพี่ช่วยดูอีกทีนะครับ ผมยังรักแฟนผม และผมอยากได้แฟนผมคืนจริงๆ”
จากที่เค้าพิมพ์มา ทำให้เรานึกถึงเรื่องที่เราสงสัยแฟนเราอยู่ครั้งนึง
จำไม่ได้แล้วว่ากี่เดือนผ่านมาแล้ว แต่แน่นอนว่าอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
เราเคยจับได้ว่าเค้าแอบคุยไลน์กับคนๆนึงแบบ พิมพ์เสร็จ ลบแชท พิมพ์เสร็จ ลบแชท แล้วก็พยายามเบี่ยงโทรศัพท์ออกไม่ให้เราเห็น
แต่เราก็เห็นไง... เราเลยถามว่า “ไลน์ที่ชื่อ......ที่เมื่อกี้ยังมีอยู่เลยแล้วตอนนี้หายไปแล้ว คือใครเหรอ”
ซึ่งเค้าก็บอกมาตามตรงว่าเป็นน้องที่เจอที่ๆเค้าไปทำงาน น้องมันทักมา ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้คิดอะไร แต่กลัวว่าถ้าเราไปเปิดเจอจะคิดมาก ก็เลยลบทิ้ง
วันนั้นเรานิ่งมากๆไม่โวยวายอะไรเลย ก็รับฟังที่เค้าพูดทุกอย่างไม่ขัดอะไร แล้วก็บอกตบท้ายไปว่า... ทีหลังถ้าคุยอีกก็อย่าลบแชทนะ ยิ่งลบยิ่งน่าสงสัย ไม่ต้องลบหรอก จะคุยอะไรก็คุยไป เราเชื่อว่ามันไม่มีอะไร....เราเชื่อเธอ
แล้วบทสนทนาเรื่องนี้ก็จบลงตรงนั้น สั้นๆ และไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีก
(*แฟนไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงอื่นเลยค่ะ)
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน - เราคุยกับคนที่ทักแชทเรามา สรุปได้ว่าสองเหตุการณ์นี้ “คือคนๆเดียวกัน”
เค้าขอเราว่าอย่าให้ใครรู้ว่าเค้าบอกเรื่องนี้กับเรา เพราะถ้ามีคนจับได้ว่าเค้ามาบอกเรา ตัวเค้าต้องแย่แน่ๆ ซึ่งเราก็รับปากอย่างดี
หลังจากนั้นเราก็พยายามทำตัวปกติที่สุด แต่ก็แอบเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ซึ่งยากมาก เพราะอยู่คนละจังหวัด เจอกันก็แค่เดือนละ1-2 ครั้ง ต้องอาศัยเก็บข้อมูลจากการที่โทรคุยและ video call เท่านั้น
มีพฤติกรรมเค้าหลายๆอย่างที่แปลกไปจริงๆ ทั้งเปลี่ยนไปติดฟิล์มมือถือแบบ private และอื่นๆ - ถึงมันจะเล็กน้อยแต่เราก็สังเกตเห็น (ก็คบกันมาหลายปีจนไม่ต้องมองตาก็รู้ทันแล้วนี่) แต่เราก็ทำเป็นไม่เห็นไม่สงสัยอะไร
หลังจากนั้นเราได้มีโอกาสเจอแฟนครั้งนึง เราอาศัยจังหวะเค้าเข้าห้องน้ำและเช็คมือถือเค้า
แชทไลน์และแชทเฟส - ไม่มีประวัติการคุยอะไรเลย อาจจะลบทิ้งหรือไม่ได้คุยกันจริงๆ
เบอร์โทรศัพท์ - เมมไว้ด้วยชื่อตัวจริงๆไม่ได้ใช้ชื่อปลอม แต่แปลกตรงที่ในคนที่อยู่ตำแหน่งเดียวกัน แฟนเราเมมเบอร์แค่คนนี้คนเดียว ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ คนอื่นที่น่าจะเมมมากกว่ายังไม่ได้เมมเลยด้วยซ้ำ
ประวัติการโทรออก - แฟนเราใช้ไอโฟนเลยดูประวัติย้อนหลังได้ไม่นาน ซึ่งก็ไม่เจออะไร
see friendship ในเฟส - ไม่มีอะไรนอกจากรูปคู่ตอนไปออกงานกับที่ทำงาน 1 รูปซึ่งเป็นรูปที่ปกติมากๆ ใครๆก็สามารถถ่ายรูปคู่กับเค้าในงานนี้ได้
เบื้องต้นดูได้แค่นี้ แฟนออกจากห้องน้ำพอดีเลยต้องปิดไป (แฟนไม่รู้ว่าเราแอบเช็ค)
จากการเช็คครั้งนี้ก็สรุปได้ 2 ทาง - ถ้ามองแง่ร้ายก็คือเค้ายังคุยๆลบๆกันอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้ามองแง่ดีก็คือหลังจากที่เราจับได้ตอนนั้นเค้าก็ไม่คุยอีกจริงๆ ส่วนเบอร์ที่เมมไว้ก็แค่ยังไม่ได้ลบทิ้ง
หลังจากนั้นเรามีติดต่อกับคนที่ทักแชทเรามาอีกประมาณ 2-3 ครั้งเพื่อตรวจสอบว่าเรื่องที่เราต่างคนต่างสงสัยมันเกิดขึ้นจริงๆมั้ย ซึ่งหลายๆอย่างก็ตรงกัน
ตอนนี้กำลังรอโอกาสเจอเค้าอีกรอบจะลองเช็คมือถือเค้าอีกรอบนึงเผื่อได้ข้อมูลอะไรเพิ่ม เพราะข้อมูลล่าสุดตอนนี้คือเค้าใช้โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องค่ะ
...
บางทีก็ถามตัวเองนะว่า ถ้าจับได้ว่าเค้าคุยกันจริงๆแล้วจะทำไงต่อ?
คือระหว่างแฟนเรากับผู้หญิงคนนั้น จะมองเข้าข้างกันยังไงก็เป็นความสัมพันธ์ที่เปิดเผยได้ยากมากๆ
เราพยายามมองในมุมบุคคลอื่น พยายามคิดแทนทุกฝ่าย...... ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริง เค้าสองคนก็สานต่อไม่ได้อยู่ดี
หนึ่ง - ครอบครัวแฟนเราต้องรับไม่ได้แน่ๆ บ้านนู่นเค้าเอ็นดูเรามาก เรียกเราเป็นลูกมานานแล้ว
สอง - เพื่อนเค้า ที่ทำงานเค้า จะต้องไม่มีใครรับได้กับเรื่องนี้ ทุกคนรู้ว่าเราเป็นแฟนเค้า และถ้าเค้าจะเลิกกับเราเพื่อไปคบกับอีกคน (หรือต่อให้ไม่เลิกและคบซ้อนก็ตาม) ถ้าผู้ใหญ่จับได้โทษมีสถานเดียวคือต้องออกจากที่ทำงาน หน้าที่การงานพังแน่นอน หนี้สินและภาระก็รออยู่เยอะ และแฟนเราก็เป็นคนฉลาดพอที่จะไม่เอาความมั่นคงของตัวเองไปแลกแน่ๆ
ตัวเราก็ยังเป็นคนที่เค้าพาออกสื่อ ทุกรูปทุกโพสต์เด่นหราในทุกโซเชียลมีเดีย รูปคู่ของเรายังวางบนโต๊ะทำงานของเค้า แหวนคู่ของเราก็ยังติดนิ้วไม่เคยถอด
จะมองด้วยเหตุผลยังไง เราก็คือที่หนึ่งที่เดียวที่เค้าจะเลือกอยู่ดี ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต
ถ้าจะมองแบบปิดตาข้างหนึ่ง - เค้าก็อาจจะแค่เปลี่ยนกลิ่นเปลี่ยนรสไปหาเด็กๆให้พอกระชุ่มกระชวยเท่านั้นไม่ได้คิดอะไร, หรือเค้าอาจจะไม่ได้คุยอะไรกับเด็กนี่เลยด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะแค่ปั่นกระแสตัวเองก็ได้
แต่ตัวเราเองก็ suffer ประมาณนึงเลย ปกติคุยกับแฟนได้ทุกเรื่อง พอมีเรื่องที่เป็นความลับขึ้นมามันก็อึดอัดใจไม่น้อย....
...เราควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ?
รู้ว่าแฟนแอบมีกิ๊ก แต่ก็รู้ว่าแฟนยังยกให้เราเป็นที่ 1 อยู่ดี .. ควรทำยังไงดีคะ ?
เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนมีคนทักแชทเฟสมาหาเราว่า “ผมมีเรื่องต้องบอกพี่ เรื่องเกี่ยวกับแฟนพี่และแฟนผม”
“อันนี้เป็นเฟสปลอมของผมนะครับ คือก่อนหน้านี้ผมสงสัยว่าแฟนผมกับแฟนพี่แอบคุยกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เราทะเลาะกันบ่อยมาก จนสุดท้ายเค้าก็ขอเลิกกับผม
แฟนบล็อคการติดต่อผมทุกอย่าง ก็มีแต่เฟสปลอมอันนี้แหละที่ผมยังพอจะส่องเฟสแฟนผมได้ บวกกับเพื่อนๆผมและเพื่อนๆเค้าก็ช่วยบอกข้อมูลกับผมตลอด เพราะทั้งเพื่อนๆผมและเพื่อนๆเค้าไม่มีใครยินดีกับการที่เค้าสองคนแอบคุยกันเลยครับ
เรื่องที่เค้าสองคนแอบคุยกัน ในเฟสมันเงียบมากๆไม่มีอะไรให้ผิดสังเกตเลย แต่ตอนที่เค้าอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วที่แฟนพี่ย้ายมารับงานที่นี่ เค้าสองคนดูแลเทคแคร์กันมากจนผิดสังเกต
แต่ผมคิดว่าพวกผู้ใหญ่ในที่ทำงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ เพราะถ้าพวกเค้ารู้มันต้องเป็นเรื่องใหญ่มากแน่ๆ และผมก็เลยคิดว่าพี่ก็น่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน ผมเลยตัดสินใจทักมาบอกพี่
พี่ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับ พวกเพื่อนๆผมอาจจะใส่สีตีไข่ก็ได้ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเค้าไม่มาทำงานที่นี่ เราสองคนก็คงยังไม่เลิกกัน
รบกวนพี่ช่วยดูอีกทีนะครับ ผมยังรักแฟนผม และผมอยากได้แฟนผมคืนจริงๆ”
จากที่เค้าพิมพ์มา ทำให้เรานึกถึงเรื่องที่เราสงสัยแฟนเราอยู่ครั้งนึง
จำไม่ได้แล้วว่ากี่เดือนผ่านมาแล้ว แต่แน่นอนว่าอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
เราเคยจับได้ว่าเค้าแอบคุยไลน์กับคนๆนึงแบบ พิมพ์เสร็จ ลบแชท พิมพ์เสร็จ ลบแชท แล้วก็พยายามเบี่ยงโทรศัพท์ออกไม่ให้เราเห็น
แต่เราก็เห็นไง... เราเลยถามว่า “ไลน์ที่ชื่อ......ที่เมื่อกี้ยังมีอยู่เลยแล้วตอนนี้หายไปแล้ว คือใครเหรอ”
ซึ่งเค้าก็บอกมาตามตรงว่าเป็นน้องที่เจอที่ๆเค้าไปทำงาน น้องมันทักมา ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้คิดอะไร แต่กลัวว่าถ้าเราไปเปิดเจอจะคิดมาก ก็เลยลบทิ้ง
วันนั้นเรานิ่งมากๆไม่โวยวายอะไรเลย ก็รับฟังที่เค้าพูดทุกอย่างไม่ขัดอะไร แล้วก็บอกตบท้ายไปว่า... ทีหลังถ้าคุยอีกก็อย่าลบแชทนะ ยิ่งลบยิ่งน่าสงสัย ไม่ต้องลบหรอก จะคุยอะไรก็คุยไป เราเชื่อว่ามันไม่มีอะไร....เราเชื่อเธอ
แล้วบทสนทนาเรื่องนี้ก็จบลงตรงนั้น สั้นๆ และไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีก
(*แฟนไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงอื่นเลยค่ะ)
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน - เราคุยกับคนที่ทักแชทเรามา สรุปได้ว่าสองเหตุการณ์นี้ “คือคนๆเดียวกัน”
เค้าขอเราว่าอย่าให้ใครรู้ว่าเค้าบอกเรื่องนี้กับเรา เพราะถ้ามีคนจับได้ว่าเค้ามาบอกเรา ตัวเค้าต้องแย่แน่ๆ ซึ่งเราก็รับปากอย่างดี
หลังจากนั้นเราก็พยายามทำตัวปกติที่สุด แต่ก็แอบเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ ซึ่งยากมาก เพราะอยู่คนละจังหวัด เจอกันก็แค่เดือนละ1-2 ครั้ง ต้องอาศัยเก็บข้อมูลจากการที่โทรคุยและ video call เท่านั้น
มีพฤติกรรมเค้าหลายๆอย่างที่แปลกไปจริงๆ ทั้งเปลี่ยนไปติดฟิล์มมือถือแบบ private และอื่นๆ - ถึงมันจะเล็กน้อยแต่เราก็สังเกตเห็น (ก็คบกันมาหลายปีจนไม่ต้องมองตาก็รู้ทันแล้วนี่) แต่เราก็ทำเป็นไม่เห็นไม่สงสัยอะไร
หลังจากนั้นเราได้มีโอกาสเจอแฟนครั้งนึง เราอาศัยจังหวะเค้าเข้าห้องน้ำและเช็คมือถือเค้า
แชทไลน์และแชทเฟส - ไม่มีประวัติการคุยอะไรเลย อาจจะลบทิ้งหรือไม่ได้คุยกันจริงๆ
เบอร์โทรศัพท์ - เมมไว้ด้วยชื่อตัวจริงๆไม่ได้ใช้ชื่อปลอม แต่แปลกตรงที่ในคนที่อยู่ตำแหน่งเดียวกัน แฟนเราเมมเบอร์แค่คนนี้คนเดียว ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ คนอื่นที่น่าจะเมมมากกว่ายังไม่ได้เมมเลยด้วยซ้ำ
ประวัติการโทรออก - แฟนเราใช้ไอโฟนเลยดูประวัติย้อนหลังได้ไม่นาน ซึ่งก็ไม่เจออะไร
see friendship ในเฟส - ไม่มีอะไรนอกจากรูปคู่ตอนไปออกงานกับที่ทำงาน 1 รูปซึ่งเป็นรูปที่ปกติมากๆ ใครๆก็สามารถถ่ายรูปคู่กับเค้าในงานนี้ได้
เบื้องต้นดูได้แค่นี้ แฟนออกจากห้องน้ำพอดีเลยต้องปิดไป (แฟนไม่รู้ว่าเราแอบเช็ค)
จากการเช็คครั้งนี้ก็สรุปได้ 2 ทาง - ถ้ามองแง่ร้ายก็คือเค้ายังคุยๆลบๆกันอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้ามองแง่ดีก็คือหลังจากที่เราจับได้ตอนนั้นเค้าก็ไม่คุยอีกจริงๆ ส่วนเบอร์ที่เมมไว้ก็แค่ยังไม่ได้ลบทิ้ง
หลังจากนั้นเรามีติดต่อกับคนที่ทักแชทเรามาอีกประมาณ 2-3 ครั้งเพื่อตรวจสอบว่าเรื่องที่เราต่างคนต่างสงสัยมันเกิดขึ้นจริงๆมั้ย ซึ่งหลายๆอย่างก็ตรงกัน
ตอนนี้กำลังรอโอกาสเจอเค้าอีกรอบจะลองเช็คมือถือเค้าอีกรอบนึงเผื่อได้ข้อมูลอะไรเพิ่ม เพราะข้อมูลล่าสุดตอนนี้คือเค้าใช้โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องค่ะ
...
บางทีก็ถามตัวเองนะว่า ถ้าจับได้ว่าเค้าคุยกันจริงๆแล้วจะทำไงต่อ?
คือระหว่างแฟนเรากับผู้หญิงคนนั้น จะมองเข้าข้างกันยังไงก็เป็นความสัมพันธ์ที่เปิดเผยได้ยากมากๆ
เราพยายามมองในมุมบุคคลอื่น พยายามคิดแทนทุกฝ่าย...... ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริง เค้าสองคนก็สานต่อไม่ได้อยู่ดี
หนึ่ง - ครอบครัวแฟนเราต้องรับไม่ได้แน่ๆ บ้านนู่นเค้าเอ็นดูเรามาก เรียกเราเป็นลูกมานานแล้ว
สอง - เพื่อนเค้า ที่ทำงานเค้า จะต้องไม่มีใครรับได้กับเรื่องนี้ ทุกคนรู้ว่าเราเป็นแฟนเค้า และถ้าเค้าจะเลิกกับเราเพื่อไปคบกับอีกคน (หรือต่อให้ไม่เลิกและคบซ้อนก็ตาม) ถ้าผู้ใหญ่จับได้โทษมีสถานเดียวคือต้องออกจากที่ทำงาน หน้าที่การงานพังแน่นอน หนี้สินและภาระก็รออยู่เยอะ และแฟนเราก็เป็นคนฉลาดพอที่จะไม่เอาความมั่นคงของตัวเองไปแลกแน่ๆ
ตัวเราก็ยังเป็นคนที่เค้าพาออกสื่อ ทุกรูปทุกโพสต์เด่นหราในทุกโซเชียลมีเดีย รูปคู่ของเรายังวางบนโต๊ะทำงานของเค้า แหวนคู่ของเราก็ยังติดนิ้วไม่เคยถอด
จะมองด้วยเหตุผลยังไง เราก็คือที่หนึ่งที่เดียวที่เค้าจะเลือกอยู่ดี ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต
ถ้าจะมองแบบปิดตาข้างหนึ่ง - เค้าก็อาจจะแค่เปลี่ยนกลิ่นเปลี่ยนรสไปหาเด็กๆให้พอกระชุ่มกระชวยเท่านั้นไม่ได้คิดอะไร, หรือเค้าอาจจะไม่ได้คุยอะไรกับเด็กนี่เลยด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะแค่ปั่นกระแสตัวเองก็ได้
แต่ตัวเราเองก็ suffer ประมาณนึงเลย ปกติคุยกับแฟนได้ทุกเรื่อง พอมีเรื่องที่เป็นความลับขึ้นมามันก็อึดอัดใจไม่น้อย....
...เราควรทำยังไงกับเรื่องนี้ดีคะ?