เป็นที่สับสนกันมาก กันมากกับที่พักที่เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวชาวไทย กับ Diary of Taipei Hotel บ้างก็ว่าเดิน 400 เมตร บ้างก็ว่าเดิน 20 ก้าว
เอาล่ะ!
มาไขข้อข้องใจกัน
Diary of Taipei Hotel มีทั้งหมด 3 สาขา
ซึ่งสาขาที่อยู่ใกล้ MRT Ximen (ซีเหมิน) ที่สุด คือสาขา Zhonghua (จงหัว) ออกประตูทางออก
Exit 6
ถ้าจองผ่าน Booking.com แล้วงง เพราะชื่อมันก็เหมือนๆกัน ให้ดูที่อยู่นะคะ เพราะแต่ละสาขาจะบอกที่อยู่ชัดเจน สาขา Zhonghua (ติด MRT) อยู่ชั้น 5 (5F No.152 Zhonghua Rd.)
เดิน 20 ก้าว ถึงเลย!!
สาขาอื่น ไม่เคยไป แฮ่!
เวลาจอง ให้เล็งที่อยู่ของโรงแรมก่อนเลย ถ้า 5F เมื่อไหร่ ก็รีบจิ้มเลย เดี๋ยวเต็ม
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
การเดินทางไปยังโรงแรม Diary of Taipei Hotel นั้นไม่ยากเลย ตั้งใจดูนะ
MRT Ximen Exit 6 นะ แบบนี้นะ
ก้าวขึ้นบันได MRT ออกประตู 6 มาแล้ว ให้เดินย้อนมาสัก 10 ก้าว มองเห็น H&M มุมนี้
จากนั้น
กลับหลังหัน จะมองเห็นห้างฝั่งตรงข้ามถนน
เมื่อมองเห็นห้าง Party World แล้ว จากนั้น
ซ้ายหัน!
เห็นลูกศรแดงๆชี้อยู่นั่นมั้ย
นั่นล่ะป้ายโรงแรม Diary of Taipei Hotel
เอาล่ะ เดินเข้าไปใกล้อีกหน่อย
ป้ายก็แดงจน!
มั่นใจแล้ว เดินพุ่งเข้าไปเลย
เข้ามา เข้ามา ลิฟท์อยู่ขวามือจ้ะ
คือลิฟท์เค้าน่ะ มี 2 ฝั่งให้เลือกใช้ ฝั่งขวา ชั้น 1-4 เปิดทุกชั้น แต่ชั้น 5 ขึ้นไปต้องมีคีย์การ์ด ซึ่งวันแรกที่ไปเช็คอิน เราใช้ลิฟท์ฝั่งขวา มีคนกดชั้น 4 เป็นร้านเกมส์ แหล่งรวมวัยรุ่นเลยแหละ ส่วนตัวไม่ชอบเลย ดูวุ่นวายและไม่ปลอดภัย เลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะคะ
ลิฟท์ฝั่งซ้ายมีปุ่มให้กดแค่ชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่ง ชั้น 5 ไม่ต้องมีคีย์การ์ด เพราะเป็นชั้นล็อบบี้ของโรงแรม แต่ชั้นอื่นๆต้องใช้คีย์การ์ดเพราะเป็นห้องพักของแขกโรงแรมค่ะ
Check in ใช่มั้ย กดชั้น 5 โลดค่ะ
เราจองผ่าน Booking.com โดยเลือกการจ่ายด้วยบัตรเครดิตในวันที่เช็คอิน ทำให้เราได้ค่าห้องที่แพงขึ้นประมาณ 1 พันบาท ซึ่งเราโอเค ท่านใดสะดวกให้โรงแรมตัดบัตรเลยทันทีที่จอง ก็ไม่ต้องเสียค่ามัดจำใจ 1,000 บาทนะคะ
โรงแรมเปิดให้เข้าแขกเข้าพักได้เวลา 15.00 (บ่ายสาม) เป็นต้นไป แต่เช็คอินได้ตลอดเวลา เมื่อเราไปถึงตั้งแต่ไก่โห่ พนักงานจะเช็คอินให้ และให้เราฝากกระเป๋าเดินทางไว้ ให้เราไปเที่ยวก่อน หลังบ่ายสามค่อยมาใหม่
ฝากกระเป๋าแล้ว เดินตัวปลิวไปเที่ยวได้เลยค่ะ หลังบ่ายสามกลับมาเอากระเป๋า ได้คีย์การ์ดมา เปิดห้องอาบน้ำอาบท่า ไปกินชาบู (จะบอกว่า Hakkai Shabu ไม่ประทับฯเลย ชาบูบ้านเรา อลังการกว่านี้เยอะ)
ได้ชั้น 9 เราไปกัน 3 คนจองห้องใหญ่ เตียงคิงไซส์ 2 เตียง ซึ่งหาโรงแรมที่มีห้องใหญ่แบบนี้ได้ยากอยู่นะ เพราะส่วนมากจะให้นอนห้องนึงแค่ 2 คน
เกินมา 1 คน ต้องเปิดห้องใหม่นอนคนเดียว
บ้าบอ! ใครจะนอนคนเดียว กลัวผี!
มีหน้าต่างตรงหัวเตียงนะ ไม่ทันได้เปิดใช้หรอก มาถึงก็เหนื่อยจะแย่ หลับไปเลย ฉะนั้น มีหรือไม่มี ก็ไม่รู้สึกเลย
ไม่ถึงกับกว้างขวางขนาดนั้น แต่ก็อยู่ได้ ไม่อึดอัดอะไร
ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดี
ขอจบการรีวิว Diary of Taipei Hotel ไว้แต่เพียงเท่านี้
แต่ถ้าใครไม่ชอบโรงแรมสไตล์โฮสเทลแบบนี้ ติดกันเลยกับที่นี่ มีโรงแรม WestGate Hotel
เสียดายมาก ไม่รู้ว่ามีโรงแรมอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ก่อนมา เพราะส่วนตัวไม่ชอบ Hostel สักเท่าไหร่ เช็คราคาแล้ว แพงกว่า Diary of Taipei ประมาณหนึ่ง ให้ไว้เผื่อเป็นทางเลือกนะคะ
[CR] Review ที่พักไทเป Diary of Taipei Hotel สาขา Zhonghua ติด MRT Ximen (Exit 6) เดิน 20 ก้าวถึง เด็กพักได้ คนชราพักดี
เอาล่ะ!
มาไขข้อข้องใจกัน
Diary of Taipei Hotel มีทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งสาขาที่อยู่ใกล้ MRT Ximen (ซีเหมิน) ที่สุด คือสาขา Zhonghua (จงหัว) ออกประตูทางออก Exit 6
ถ้าจองผ่าน Booking.com แล้วงง เพราะชื่อมันก็เหมือนๆกัน ให้ดูที่อยู่นะคะ เพราะแต่ละสาขาจะบอกที่อยู่ชัดเจน สาขา Zhonghua (ติด MRT) อยู่ชั้น 5 (5F No.152 Zhonghua Rd.) เดิน 20 ก้าว ถึงเลย!!
สาขาอื่น ไม่เคยไป แฮ่!
เวลาจอง ให้เล็งที่อยู่ของโรงแรมก่อนเลย ถ้า 5F เมื่อไหร่ ก็รีบจิ้มเลย เดี๋ยวเต็ม
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
การเดินทางไปยังโรงแรม Diary of Taipei Hotel นั้นไม่ยากเลย ตั้งใจดูนะ
MRT Ximen Exit 6 นะ แบบนี้นะ
ก้าวขึ้นบันได MRT ออกประตู 6 มาแล้ว ให้เดินย้อนมาสัก 10 ก้าว มองเห็น H&M มุมนี้
จากนั้น กลับหลังหัน จะมองเห็นห้างฝั่งตรงข้ามถนน
เมื่อมองเห็นห้าง Party World แล้ว จากนั้น ซ้ายหัน!
เห็นลูกศรแดงๆชี้อยู่นั่นมั้ย นั่นล่ะป้ายโรงแรม Diary of Taipei Hotel
เอาล่ะ เดินเข้าไปใกล้อีกหน่อย
ป้ายก็แดงจน!
มั่นใจแล้ว เดินพุ่งเข้าไปเลย
เข้ามา เข้ามา ลิฟท์อยู่ขวามือจ้ะ
คือลิฟท์เค้าน่ะ มี 2 ฝั่งให้เลือกใช้ ฝั่งขวา ชั้น 1-4 เปิดทุกชั้น แต่ชั้น 5 ขึ้นไปต้องมีคีย์การ์ด ซึ่งวันแรกที่ไปเช็คอิน เราใช้ลิฟท์ฝั่งขวา มีคนกดชั้น 4 เป็นร้านเกมส์ แหล่งรวมวัยรุ่นเลยแหละ ส่วนตัวไม่ชอบเลย ดูวุ่นวายและไม่ปลอดภัย เลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะคะ
ลิฟท์ฝั่งซ้ายมีปุ่มให้กดแค่ชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่ง ชั้น 5 ไม่ต้องมีคีย์การ์ด เพราะเป็นชั้นล็อบบี้ของโรงแรม แต่ชั้นอื่นๆต้องใช้คีย์การ์ดเพราะเป็นห้องพักของแขกโรงแรมค่ะ
Check in ใช่มั้ย กดชั้น 5 โลดค่ะ
เราจองผ่าน Booking.com โดยเลือกการจ่ายด้วยบัตรเครดิตในวันที่เช็คอิน ทำให้เราได้ค่าห้องที่แพงขึ้นประมาณ 1 พันบาท ซึ่งเราโอเค ท่านใดสะดวกให้โรงแรมตัดบัตรเลยทันทีที่จอง ก็ไม่ต้องเสียค่ามัดจำใจ 1,000 บาทนะคะ
โรงแรมเปิดให้เข้าแขกเข้าพักได้เวลา 15.00 (บ่ายสาม) เป็นต้นไป แต่เช็คอินได้ตลอดเวลา เมื่อเราไปถึงตั้งแต่ไก่โห่ พนักงานจะเช็คอินให้ และให้เราฝากกระเป๋าเดินทางไว้ ให้เราไปเที่ยวก่อน หลังบ่ายสามค่อยมาใหม่
ฝากกระเป๋าแล้ว เดินตัวปลิวไปเที่ยวได้เลยค่ะ หลังบ่ายสามกลับมาเอากระเป๋า ได้คีย์การ์ดมา เปิดห้องอาบน้ำอาบท่า ไปกินชาบู (จะบอกว่า Hakkai Shabu ไม่ประทับฯเลย ชาบูบ้านเรา อลังการกว่านี้เยอะ)
ได้ชั้น 9 เราไปกัน 3 คนจองห้องใหญ่ เตียงคิงไซส์ 2 เตียง ซึ่งหาโรงแรมที่มีห้องใหญ่แบบนี้ได้ยากอยู่นะ เพราะส่วนมากจะให้นอนห้องนึงแค่ 2 คน
เกินมา 1 คน ต้องเปิดห้องใหม่นอนคนเดียว
บ้าบอ! ใครจะนอนคนเดียว กลัวผี!
มีหน้าต่างตรงหัวเตียงนะ ไม่ทันได้เปิดใช้หรอก มาถึงก็เหนื่อยจะแย่ หลับไปเลย ฉะนั้น มีหรือไม่มี ก็ไม่รู้สึกเลย
ไม่ถึงกับกว้างขวางขนาดนั้น แต่ก็อยู่ได้ ไม่อึดอัดอะไร
ห้องน้ำสะอาดสะอ้านดี
ขอจบการรีวิว Diary of Taipei Hotel ไว้แต่เพียงเท่านี้
แต่ถ้าใครไม่ชอบโรงแรมสไตล์โฮสเทลแบบนี้ ติดกันเลยกับที่นี่ มีโรงแรม WestGate Hotel
เสียดายมาก ไม่รู้ว่ามีโรงแรมอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ก่อนมา เพราะส่วนตัวไม่ชอบ Hostel สักเท่าไหร่ เช็คราคาแล้ว แพงกว่า Diary of Taipei ประมาณหนึ่ง ให้ไว้เผื่อเป็นทางเลือกนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้