ฉันและสามีเริ่มรู้จักกันในปี 2543
ตกลงคบกันเป็นแฟนในปี 2544 และตกลงแต่งงานกันในปี 2553
แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส คิดว่าเชื่อใจและไว้ใจ
คงไม่จำเป็นสำหรับเราเพราะเราไม่ได้มีลูกด้วยกัน
ชีวิตคู่ของเราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเพราะสามีทำงานเกี่ยวกับก่อสร้างต้องย้ายที่ทำงานไปเรื่อยๆ
จนปลายปี 2556 สามีได้ย้ายกลับมาประจำที่สำนักงานใหญ่ซึ่งอยู่แถวบ้าน ทำให้ชายร้ายหญิงเลวได้เจอกัน
โดยสามีออกไปขี่จักรยานแถวหมู่บ้าน ได้ไปเจอกับหญิงเลวซึ่งก็ออกกำลังกายในหมู่บ้านเช่นกัน
ในการเริ่มขี่จักรยานแรกๆ จะออกจากบ้านประมาณ 18.00 น. เข้าบ้านไม่เกิน 19.00 น.
เมื่อทั้งคู่เริ่มสานสัมพันธ์กันโดยที่รู้อยู่แล้วว่าชายร้ายมีเมียแล้ว แต่ก็ยังคบหากัน เป็นเพื่อนกันใน Facebook ตามกด Like ที่ชายร้ายโพสต์ และใน Facebook
ชายเลวก็ได้ประกาศไว้อยู่แล้วว่าแต่งงานแล้ว
แต่หญิงร้ายก็ไม่สนใจตามกด Like เฉพาะที่ชายเลวโพสต์และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการสมสู่กัน
โดยไม่มีสำนึกของความเป็นข้าราชการที่ดีเลย คนเลวทั้งคู่แอบเจอกันอาทิตย์ละ 3 วันโดยชายเลวจะอ้างว่าไปขี่จักรยานเริ่มกลับบ้านดึกขึ้นเรื่อยๆ
โดยอ้างว่าขี่จักรยานไปไกลขึ้น ฉันก็เชื่อใจและไว้ใจทั้งๆ
ที่หลายคนเตือนแล้วว่ามันไม่ใช่ จนกระทั่งวันที่ 11 พฤษภาคม 2561
ฉันจับได้ว่าสามีมีกิ๊กเพราะดูการเดินทางในแอปแผนที่รายงานว่าวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 สามีแอบพากิ๊กเข้าโรงแรมแถวลำลูกกาคลอง 4 ซึ่งอยู่แถวบ้าน
และยังสำเริงสำราญกันไม่พอ พากันไปเที่ยวอีกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 อีก
นั่นคือการจับได้ครั้งแรกทำให้ฉันประชดตัดผมในเช้าวันต่อมา แทนที่คนเลว 2 คนควรจะหยุดและสำนึกได้ว่าที่ทำมันผิด แต่กลับหาทางที่จะคบกันต่อโดยคนเลวทั้ง 2 คนได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน มอบตำแหน่งเมียน้อยให้ทั้งๆที่ ฉันคือคนที่ถูกต้องมาโดยตลอด
จะยอมเป็นเมียน้อยไม่เอาทะเบียนสมรสมาให้ใครได้รับรู้
เพื่อป้องกันตำแหน่งหน้าที่ของความเป็นข้าราชการ หากฉันจับได้ในภายภาคหน้า
ชายเลวก็คิดว่ามันเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียวคงไม่มีผลเสียอะไร มีแต่ได้กับได้
ได้ทั้งสมบัติของหญิงเลวถ้าหากตายไป(หญิงเลวได้สร้างภาพพูดให้ตัวเองดูน่าสงสาร
ชีวิตรันทด หากตายไปทุกอย่างจะไปตกอยู่กันญาติ แม่ของหญิงเลวจะไม่ได้อะไรเลย
และขอให้ชายร้ายช่วยดูแลแม่หากหญิงเลวตายไป) และก็ยอมเป็นเมียน้อยด้วย เพราะชายเลวได้รับการล้างสมองมาจากหญิงเลวและแม่ของมันว่าความรักไม่ใช่การครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
ขอเพียงมาดูแลกันบ้าง ครอบครัวหญิงเลวเติบโตมาจากพ่อแอบมีเมียน้อย
แม่หญิงเลวคือคนที่พ่อจดทะเบียนสมรสด้วย แต่ก็ยอมให้พ่อหญิงเลวมีเมียต่อไป
นี่คือจุด
ของความคิดที่ส่งเสริมให้ผู้ชายทำร้ายสถาบันครอบครัว และให้ชายร้ายพยายามมาพูดอ้อมๆ เพื่อล้างสมองฉันเช่นกัน
แต่ฉันรับไม่ได้และไม่ยินยอม ความคิดเลวๆ จึงต้องหยุดไป ก็แอบคบกันไป
โดยชายเลวได้ปฏิบัติตัวเหมือนปกติทุกอย่าง ดูแล เอาใจใส่ อย่างที่เคยเป็น
มีละเลยกันเพียงเรื่องพาไปเที่ยวพักผ่อนแบบที่เคยทำมา เพราะชายร้ายต้องแอบเอาเวลาไปกับหญิงเลว
ทำให้ฉันไม่ระแวงระวังเลย การจับได้ครั้งต่อมาเกิดขึ้นเมื่อเดือน
มีนาคม 2562 ฉันแอบอัดเสียงในรถและพบว่าชายเลวไปรับหญิงร้ายที่บ้านเพื่อออกไปทำธุระข้างนอก
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ความลับเลวๆ ได้เปิดเผยขึ้น
ฉันก็ได้รู้ความจริงว่ากิ๊กของสามีคือใคร ในวันที่ 18 มีนาคม 2562 ก็ได้รู้ว่าอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันจึงไปถ่ายรูปหน้าบ้านหญิงเลวเพื่อต้องการสื่อว่าฉันรู้ทุกอย่างแล้วนะขอให้ทั้งคู่จบกันได้แล้ว แต่ความจริงอันแสนเลวสุดๆ
ก็ได้เปิดเผยให้ฉันได้รู้ว่าชายร้ายหญิงเลวได้จดทะเบียนสมรสกัน แทนที่จะมีสามัญสำนึกว่าความผิดทุกอย่างเปิดเผย
หญิงร้ายก็ไม่สำนึกกลับเหิมเกริมถือว่าตัวเองมีทะเบียนสมรส คือ ผู้ที่อยู่เหนือทุกอย่าง
ส่วนชายเลวกลับต่อว่าหาว่าฉันมีความรักที่เห็นแก่ตัวต้องการครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
ทางนู้นยอมเป็นเมียน้อยขอเวลาไปมาหาสู่กันบ้าง คืนนั้นแม่ของหญิงเลวก็ได้โทรมาเกลี่ยกล่อมขอให้ฉันยอมรับสภาพที่เป็นว่าชีวิตจริงมันไม่มีหรอกผัวเดียวเมียเดียว พูดความจริงทุกเรื่องพูดให้พยายามเห็นว่าทางหญิงเลวดียังไง แต่ฉันยังไงๆ ก็ไม่ยอม
ให้ชายเลวพูดว่ายังไงก็หย่า แต่ชายเลวไม่พูด พูดแค่ว่าฉันไม่ยอม สุดท้ายคืนนั้นทุกอย่างจบลงด้วยยังไงๆ
ทุกอย่างต้องจบ ให้ชายเลวเลือกว่าจะเอาหญิงเลวหรือจะอยู่กันต่อไป ชายร้ายก็เลือกสิ่งที่ถูกต้องคือ
“ฉัน” พอให้ไปหย่ากันดีๆ กลับเรียกร้องเงิน 500,000 บาท
และไปลงบันทึกประจำวันว่าฉันจะไม่เอาวินัยฟ้องร้องหญิงร้าย ฉันก็ไม่ยอม
ก็ยืดเยื้อกันอีก พอขอให้ทุกอย่างจบสวยๆ โดยยืนยันว่าจะไม่เอาเรื่องแน่นอน แต่กลับมายื่นข้อเสนอว่ายังไงๆ
ก็ต้องหากหลักประกันว่าจะไม่เอาวินัย สุดท้ายชายร้ายก็เลือกที่จะอยู่เฉยๆ
รอให้หญิงเลวยอมหย่า โดยไม่ติดต่อเพราะติดต่อไปทีไรก็บ่ายเบี่ยง
เลยจบปัญหาที่รอเวลาให้หญิงเลวติดต่อมา จนวันที่ 14 เมษายน 2562
หญิงเลวได้เปลี่ยนนามสกุลใน Facebook ประกาศใช้นามสกุลชายร้าย
เพราะชายร้ายไม่สนใจหญิงเลวเลยในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ฉันยอมที่จะอยู่เฉยๆ
รอเวลาให้คนเลว 2 คนจบกัน แต่ก็ยังมา Messenger หาฉัน
แฉวีรกรรมชายร้ายให้ฉันได้รับรู้ ต้องการให้ฉันทะเลาะแตกแยกกัน
ไม่จบไม่สิ้นสักทียอมอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ใช้ชีวิตในแบบที่เคยเป็น ก็ยังเอาเรื่องมาให้
ควรทำอย่างไรดี
ตกลงคบกันเป็นแฟนในปี 2544 และตกลงแต่งงานกันในปี 2553
แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส คิดว่าเชื่อใจและไว้ใจ
คงไม่จำเป็นสำหรับเราเพราะเราไม่ได้มีลูกด้วยกัน
ชีวิตคู่ของเราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเพราะสามีทำงานเกี่ยวกับก่อสร้างต้องย้ายที่ทำงานไปเรื่อยๆ
จนปลายปี 2556 สามีได้ย้ายกลับมาประจำที่สำนักงานใหญ่ซึ่งอยู่แถวบ้าน ทำให้ชายร้ายหญิงเลวได้เจอกัน
โดยสามีออกไปขี่จักรยานแถวหมู่บ้าน ได้ไปเจอกับหญิงเลวซึ่งก็ออกกำลังกายในหมู่บ้านเช่นกัน
ในการเริ่มขี่จักรยานแรกๆ จะออกจากบ้านประมาณ 18.00 น. เข้าบ้านไม่เกิน 19.00 น.
เมื่อทั้งคู่เริ่มสานสัมพันธ์กันโดยที่รู้อยู่แล้วว่าชายร้ายมีเมียแล้ว แต่ก็ยังคบหากัน เป็นเพื่อนกันใน Facebook ตามกด Like ที่ชายร้ายโพสต์ และใน Facebook
ชายเลวก็ได้ประกาศไว้อยู่แล้วว่าแต่งงานแล้ว
แต่หญิงร้ายก็ไม่สนใจตามกด Like เฉพาะที่ชายเลวโพสต์และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการสมสู่กัน
โดยไม่มีสำนึกของความเป็นข้าราชการที่ดีเลย คนเลวทั้งคู่แอบเจอกันอาทิตย์ละ 3 วันโดยชายเลวจะอ้างว่าไปขี่จักรยานเริ่มกลับบ้านดึกขึ้นเรื่อยๆ
โดยอ้างว่าขี่จักรยานไปไกลขึ้น ฉันก็เชื่อใจและไว้ใจทั้งๆ
ที่หลายคนเตือนแล้วว่ามันไม่ใช่ จนกระทั่งวันที่ 11 พฤษภาคม 2561
ฉันจับได้ว่าสามีมีกิ๊กเพราะดูการเดินทางในแอปแผนที่รายงานว่าวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 สามีแอบพากิ๊กเข้าโรงแรมแถวลำลูกกาคลอง 4 ซึ่งอยู่แถวบ้าน
และยังสำเริงสำราญกันไม่พอ พากันไปเที่ยวอีกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 อีก
นั่นคือการจับได้ครั้งแรกทำให้ฉันประชดตัดผมในเช้าวันต่อมา แทนที่คนเลว 2 คนควรจะหยุดและสำนึกได้ว่าที่ทำมันผิด แต่กลับหาทางที่จะคบกันต่อโดยคนเลวทั้ง 2 คนได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน มอบตำแหน่งเมียน้อยให้ทั้งๆที่ ฉันคือคนที่ถูกต้องมาโดยตลอด
จะยอมเป็นเมียน้อยไม่เอาทะเบียนสมรสมาให้ใครได้รับรู้
เพื่อป้องกันตำแหน่งหน้าที่ของความเป็นข้าราชการ หากฉันจับได้ในภายภาคหน้า
ชายเลวก็คิดว่ามันเป็นแค่กระดาษแผ่นเดียวคงไม่มีผลเสียอะไร มีแต่ได้กับได้
ได้ทั้งสมบัติของหญิงเลวถ้าหากตายไป(หญิงเลวได้สร้างภาพพูดให้ตัวเองดูน่าสงสาร
ชีวิตรันทด หากตายไปทุกอย่างจะไปตกอยู่กันญาติ แม่ของหญิงเลวจะไม่ได้อะไรเลย
และขอให้ชายร้ายช่วยดูแลแม่หากหญิงเลวตายไป) และก็ยอมเป็นเมียน้อยด้วย เพราะชายเลวได้รับการล้างสมองมาจากหญิงเลวและแม่ของมันว่าความรักไม่ใช่การครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
ขอเพียงมาดูแลกันบ้าง ครอบครัวหญิงเลวเติบโตมาจากพ่อแอบมีเมียน้อย
แม่หญิงเลวคือคนที่พ่อจดทะเบียนสมรสด้วย แต่ก็ยอมให้พ่อหญิงเลวมีเมียต่อไป
นี่คือจุดของความคิดที่ส่งเสริมให้ผู้ชายทำร้ายสถาบันครอบครัว และให้ชายร้ายพยายามมาพูดอ้อมๆ เพื่อล้างสมองฉันเช่นกัน
แต่ฉันรับไม่ได้และไม่ยินยอม ความคิดเลวๆ จึงต้องหยุดไป ก็แอบคบกันไป
โดยชายเลวได้ปฏิบัติตัวเหมือนปกติทุกอย่าง ดูแล เอาใจใส่ อย่างที่เคยเป็น
มีละเลยกันเพียงเรื่องพาไปเที่ยวพักผ่อนแบบที่เคยทำมา เพราะชายร้ายต้องแอบเอาเวลาไปกับหญิงเลว
ทำให้ฉันไม่ระแวงระวังเลย การจับได้ครั้งต่อมาเกิดขึ้นเมื่อเดือน
มีนาคม 2562 ฉันแอบอัดเสียงในรถและพบว่าชายเลวไปรับหญิงร้ายที่บ้านเพื่อออกไปทำธุระข้างนอก
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ความลับเลวๆ ได้เปิดเผยขึ้น
ฉันก็ได้รู้ความจริงว่ากิ๊กของสามีคือใคร ในวันที่ 18 มีนาคม 2562 ก็ได้รู้ว่าอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันจึงไปถ่ายรูปหน้าบ้านหญิงเลวเพื่อต้องการสื่อว่าฉันรู้ทุกอย่างแล้วนะขอให้ทั้งคู่จบกันได้แล้ว แต่ความจริงอันแสนเลวสุดๆ
ก็ได้เปิดเผยให้ฉันได้รู้ว่าชายร้ายหญิงเลวได้จดทะเบียนสมรสกัน แทนที่จะมีสามัญสำนึกว่าความผิดทุกอย่างเปิดเผย
หญิงร้ายก็ไม่สำนึกกลับเหิมเกริมถือว่าตัวเองมีทะเบียนสมรส คือ ผู้ที่อยู่เหนือทุกอย่าง
ส่วนชายเลวกลับต่อว่าหาว่าฉันมีความรักที่เห็นแก่ตัวต้องการครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
ทางนู้นยอมเป็นเมียน้อยขอเวลาไปมาหาสู่กันบ้าง คืนนั้นแม่ของหญิงเลวก็ได้โทรมาเกลี่ยกล่อมขอให้ฉันยอมรับสภาพที่เป็นว่าชีวิตจริงมันไม่มีหรอกผัวเดียวเมียเดียว พูดความจริงทุกเรื่องพูดให้พยายามเห็นว่าทางหญิงเลวดียังไง แต่ฉันยังไงๆ ก็ไม่ยอม
ให้ชายเลวพูดว่ายังไงก็หย่า แต่ชายเลวไม่พูด พูดแค่ว่าฉันไม่ยอม สุดท้ายคืนนั้นทุกอย่างจบลงด้วยยังไงๆ
ทุกอย่างต้องจบ ให้ชายเลวเลือกว่าจะเอาหญิงเลวหรือจะอยู่กันต่อไป ชายร้ายก็เลือกสิ่งที่ถูกต้องคือ
“ฉัน” พอให้ไปหย่ากันดีๆ กลับเรียกร้องเงิน 500,000 บาท
และไปลงบันทึกประจำวันว่าฉันจะไม่เอาวินัยฟ้องร้องหญิงร้าย ฉันก็ไม่ยอม
ก็ยืดเยื้อกันอีก พอขอให้ทุกอย่างจบสวยๆ โดยยืนยันว่าจะไม่เอาเรื่องแน่นอน แต่กลับมายื่นข้อเสนอว่ายังไงๆ
ก็ต้องหากหลักประกันว่าจะไม่เอาวินัย สุดท้ายชายร้ายก็เลือกที่จะอยู่เฉยๆ
รอให้หญิงเลวยอมหย่า โดยไม่ติดต่อเพราะติดต่อไปทีไรก็บ่ายเบี่ยง
เลยจบปัญหาที่รอเวลาให้หญิงเลวติดต่อมา จนวันที่ 14 เมษายน 2562
หญิงเลวได้เปลี่ยนนามสกุลใน Facebook ประกาศใช้นามสกุลชายร้าย
เพราะชายร้ายไม่สนใจหญิงเลวเลยในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ฉันยอมที่จะอยู่เฉยๆ
รอเวลาให้คนเลว 2 คนจบกัน แต่ก็ยังมา Messenger หาฉัน
แฉวีรกรรมชายร้ายให้ฉันได้รับรู้ ต้องการให้ฉันทะเลาะแตกแยกกัน
ไม่จบไม่สิ้นสักทียอมอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ใช้ชีวิตในแบบที่เคยเป็น ก็ยังเอาเรื่องมาให้