Hellboy (Neil Marshall, 2019) คะแนน D+ (6/10)
"รีบู๊ตแบบโหดดิบเถื่อนแต่ไม่สนุก" Hellboy เวอร์ชั่นเรท R จัดเต็มความโหดดิบ เลือดสาด แขนขาด หัวเละ ไม่แคร์โลก และยัดเยียดให้คนดูแบบจงใจ จนไม่รู้สึกสนุกและไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับหนังหรือเอาใจช่วยตัวเอกในเรื่อง จนไปถึงตัวร้ายที่เสียเวลายืดยาวอธิบายที่มาที่ไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เป็นตัวละครที่ดูโง่ ๆ ตัวหนึ่ง ไม่มีความน่ากลัว พล็อตหนังยัดเยียดคนดู ตัดสลับเรื่องราวดำเนินเรื่องไม่ไหลลื่น บทต่าง ๆ ดูง่ายเกินไป แต่ก็ไม่ได้เลอะเทอะจนรู้สึกปวดหัว ภาพรวมของพล็อตเรื่องยังพอมีเค้าโครงและเนื้อหาสาระที่ปะติดปะต่อกันได้อยู่แต่ก็ไม่ได้ดีอะไร สถานการณ์ของหนังก็ดูขาด ๆ เกิน ๆ ไม่มีเสน่ห์ไม่ชวนดึงดูดให้ติดตามต่อ น้ำหนักไม่สมดุล ช่วงกลางเรื่องหลับได้สบาย ๆ ซึ่งก็น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถจัดที่ทางและขยายเรื่องราวจากวัตถุดิบที่ตัวเองมี บทภาพยนตร์จึงไม่รองรับเวลาทั้งหมดของหนังที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง
ท้ายสุด Hellboy เวอร์ชั่นผู้กำกับ 'นีล มาร์แชล' คือการเข้าไปนั่งดูความโรคจิตของผู้กำกับที่อยากทำหนังเรท R อยากเอาสัตว์ประหลาดรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ มาวิ่งไล่กัดมนุษย์ มาฉีกร่างมนุษย์เล่นและก็โยนทิ้ง แล้วก็หายไปเฉย ๆ แบบไม่มีสาระอะไรและไม่รู้สึกสนุก ทั้ง ๆ ที่ตัวหนังมีเนื้อเรื่องที่น่าจะทำได้สนุกมากกว่านี้ ส่วนหน้าตาเฮลล์บอยเวอร์ชั่นนี้ก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร ดูดิบ ๆ เถื่อนใช้ได้ดี ทีมนักแสดงทั้งหมดไม่ได้โชว์การแสดงอะไรมากมายเพราะบทภาพยนตร์ไม่เอื้ออํานวย มิลลา โจโววิช ในบทแม่มดตัวร้ายก็สวยเกินที่จะน่ากลัวรวมทั้งยังรู้สึกตลกด้วย ดังนั้น เราจึงรู้สึกว่ากลับบ้านไปนั่งดู Hellboy ฉบับ 'กิเยร์โม เดลโตโร' เพลิน ๆ สองภาคติดไปเลยดีกว่า...ไม่ถูกใจเวอร์ชั่นนี้และคิดว่าภาคต่อคนไม่ได้ไปต่อ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
Review: Hellboy (Neil Marshall, 2019) รีวิวโดย Form Corleone
"รีบู๊ตแบบโหดดิบเถื่อนแต่ไม่สนุก" Hellboy เวอร์ชั่นเรท R จัดเต็มความโหดดิบ เลือดสาด แขนขาด หัวเละ ไม่แคร์โลก และยัดเยียดให้คนดูแบบจงใจ จนไม่รู้สึกสนุกและไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับหนังหรือเอาใจช่วยตัวเอกในเรื่อง จนไปถึงตัวร้ายที่เสียเวลายืดยาวอธิบายที่มาที่ไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เป็นตัวละครที่ดูโง่ ๆ ตัวหนึ่ง ไม่มีความน่ากลัว พล็อตหนังยัดเยียดคนดู ตัดสลับเรื่องราวดำเนินเรื่องไม่ไหลลื่น บทต่าง ๆ ดูง่ายเกินไป แต่ก็ไม่ได้เลอะเทอะจนรู้สึกปวดหัว ภาพรวมของพล็อตเรื่องยังพอมีเค้าโครงและเนื้อหาสาระที่ปะติดปะต่อกันได้อยู่แต่ก็ไม่ได้ดีอะไร สถานการณ์ของหนังก็ดูขาด ๆ เกิน ๆ ไม่มีเสน่ห์ไม่ชวนดึงดูดให้ติดตามต่อ น้ำหนักไม่สมดุล ช่วงกลางเรื่องหลับได้สบาย ๆ ซึ่งก็น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถจัดที่ทางและขยายเรื่องราวจากวัตถุดิบที่ตัวเองมี บทภาพยนตร์จึงไม่รองรับเวลาทั้งหมดของหนังที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง
ท้ายสุด Hellboy เวอร์ชั่นผู้กำกับ 'นีล มาร์แชล' คือการเข้าไปนั่งดูความโรคจิตของผู้กำกับที่อยากทำหนังเรท R อยากเอาสัตว์ประหลาดรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ มาวิ่งไล่กัดมนุษย์ มาฉีกร่างมนุษย์เล่นและก็โยนทิ้ง แล้วก็หายไปเฉย ๆ แบบไม่มีสาระอะไรและไม่รู้สึกสนุก ทั้ง ๆ ที่ตัวหนังมีเนื้อเรื่องที่น่าจะทำได้สนุกมากกว่านี้ ส่วนหน้าตาเฮลล์บอยเวอร์ชั่นนี้ก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร ดูดิบ ๆ เถื่อนใช้ได้ดี ทีมนักแสดงทั้งหมดไม่ได้โชว์การแสดงอะไรมากมายเพราะบทภาพยนตร์ไม่เอื้ออํานวย มิลลา โจโววิช ในบทแม่มดตัวร้ายก็สวยเกินที่จะน่ากลัวรวมทั้งยังรู้สึกตลกด้วย ดังนั้น เราจึงรู้สึกว่ากลับบ้านไปนั่งดู Hellboy ฉบับ 'กิเยร์โม เดลโตโร' เพลิน ๆ สองภาคติดไปเลยดีกว่า...ไม่ถูกใจเวอร์ชั่นนี้และคิดว่าภาคต่อคนไม่ได้ไปต่อ...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง