ถือว่าเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอันต่อเนื่องในเกมล่าสุดที่หงส์แดงไล่ทุบเชลซี ถึงแม้ช่วงแรกหงส์แดงแทบจะฝ่าแนวรับของทีมเยือนเข้าไปง้างยิงประตูได้เลย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและพลังงานที่เหลือล้นของทีมงานและนักเตะ ก็ทำให้พวกเค้าจู่โจมอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง จนได้ประตูติดๆกัน และทำให้คุมเกมเอาไว้ได้เกือบทั้งหมดก่อนจะจบเกมด้วยชัยชนะสุดสำคัญ และโยนความกดดันไปให้กับเรือใบสีฟ้าอีกครั้ง
ลูกยิงระดับโลกของซาลาห์ มาถูกเวลาจริงๆ
สิ่งที่ได้เห็นในเกมที่ผ่านไป มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. จิตใจหงส์แดงที่แข็งแกร่ง - ถือเป็นจุดเด่นของทีมชุดนี้ ที่สู้สุดใจในทุกนาทีที่ลงสนาม หลายๆเกมที่ผ่านมาพวกเค้าสามารถสร้างแรงฮึดและพลิกเกมจากที่แย่ ไปเป็นแย่กว่า 😂🤣😂... ดีกว่าสิจ๊ะ!! จนทำให้ทีมกลับมาได้ชัยชนะ ซึ่งเกมนี้อาจจะเป็นอะไรที่ดูไม่หนักหนาเท่าไรที่ครึ่งแรกจบด้วยการเสมอ แต่อย่าลืมว่ามันคือเกมที่ต้องชนะเพื่อต่อลมหายใจการลุ้นแชมป์ ดังนั้นมันคงเป็นอะไรที่กดดันแบบมองไม่เห็น แต่พวกเค้าก็ใช้จิตใจที่เข้มแข็งและมุ่งมั่น จนเร่งเกมรุกและได้ประตูสุดสำคัญจนนำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด
2. ซาลาห์รีเทิร์น - วันนี้บังโมพากองหลังทีมเยือนทัวร์ได้อย่างสุดยอด และยังมีลูกยิงระดับโลก ที่เพอร์เฟคในทุกท่วงท่า ตั้งแต่การรับบอลยาว ลากหนีตัวประกบ และกดด้วยซ้ายเต็มแรงทำให้ลูกพุ่งวาบอย่างกับจรวดเข้าไปที่สามเหลี่ยม มันแสดงถึงความมั่นใจของเค้าที่พีคสุดๆในช่วงเวลาที่ทีมต้องการที่สุด เหมาะเจาะดีจริงๆ
วันที่บังโมคืนฟอร์ม ไม่มีใครเอาอยู่จริงๆ
3. 3 ประสานเจิดจรัส - เป็นเกมที่ 3 เทพแดนหน้าเล่นกันได้ดีทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องดีๆ เพราะในฤดูกาลนี้ส่วนใหญ่แล้วจะผลัดกันมีฟอร์มแบบผีเข้าผีออก การที่ทั้ง 3 คนมีความมั่นใจในการเล่นแบบนี้พร้อมๆกัน ย่อมทำให้คู่แข่งมีความปั่นป่วนในการหาทางรับมือ เพราะการเลือกที่จะจับตายใครคนใแคนนึง ก็เท่ากับว่าจะเปิดโอกาสให้คนอีกคนเล่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
4. นักเตะหงส์แดงฟิตมากๆ - ถึงแม้ว่าโปรแกรมการแข่งของลิเวอร์พูลจะน้อยกว่าคู่แข่งแย่งแชมป์ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเพราะรูปแบบการเล่นของหงส์แดงที่หลากหลายขึ้น มีส่วนทำให้นักเตะต้องเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บน้อยลง ต้องชมการมองการณ์ไกลของคลอป ที่ดูขัดใจแฟนๆนิดๆในช่วงแรก แต่มาจนวันนี้ทุกสิ่งที่เค้าจัดการมันเริ่มเห็นผลแล้ว
5. ซาร์รี่เหนื่อยแน่นอน - เชลซีอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมต่อการพลาดพื้นที่ UCL เนื่องจากมีโปรแกรมหนักรออยู่ในการเยือนผีแดง โดยเฉพาะฟอร์มในการไปเป็นทีมเยือนกลุ่มทีม Big Six ที่แพ้รวด ซึ่งดูแนวโน้มแล้วโอกาสพลาดพื้นที่ UCL นั้นค่อนข้างสูง เพราะปัญหาต่างๆภายในทีมนั้นมีค่อนข้างมากมาย โดยเฉพาะนักเตะที่มีให้เลือกใช้เยอะจนปวดหัว ทำให้มีนักเตะได้ลงเตะมากหน้าหลายตา และกลายเป็นทีมที่ดูทีมเวิร์คไม่ลงตัว จนในที่สุดทั้งทีมก็ต้องพึ่งพาอาซาร์อยู่คนเดียว
6. กองหลังต้องระดับโลกทุกยิบตา - จริงอยู่ที่อลิสซอนมีจังหวะเซฟสวยๆจากลูกยิงเผาขนของอาซาร์ และเกมรับโดยรวมของลิเวอร์พูลก็ยังเล่นได้ดี แต่ก็ยังมีอาการรวนเมื่อปล่อยให้เชลซีได้บุกอยู่พักใหญ่ จนอาซาร์ได้โอกาสหลุดมายิงชนเสาหนนึง รวมถึงจังหวะนอนพักเหนื่อยของโรเบิร์ตสัน นั่นทำให้เห็นว่าการพลาดแค่เสี้ยววินาที ก็อาจจะทำให้ทีมน้ำตาตกได้ ดังนั้น 4 เกมสุดท้าย นักเตะหงส์แดงต้องตั้งสมาธิมั่นให้ได้ทุกวินาทีในสนาม
รบส ชิวเกินไปนะ ไม่ดีไม่ทำนะครับ 😂🤣
7. คลอปเขี้ยวจริงๆ - เกมนี้เค้าโชว์กึ๋นการแก้เกมจากครึ่งแรก จนลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง ไม่เพียงแค่นั้นหลังจากเชลซีแก้เกมจนเล่นเกมรุกได้น่ากลัวขึ้น คลอปก็รีบเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อแพคเกมแดนกลางให้รับได้แน่นขึ้น ซึ่งได้ผลทันทีเมื่อลิเวอร์พูลสามารถกลับมาครอบครองเกมได้สำเร็จ ก่อนจะคว้าชัยชนะอย่างสวยงาม
8. โชคยังอยู่ข้างหงส์ - จังหวะยิงผ่านมืออลิสซอน ถ้าไม่ได้เสาช่วยไว้มันก็คงกลายเป็นเกมที่ยากลำบากของหงส์แดงอย่างแน่นอน ในเมื่อบุญพาวาสนาส่งขนาดนี้ ก็ช่วยไปสิงสู่ปีศาจแดง ช่วยยันเรือใบสีฟ้าไว้ให้อยู่ด้วยละกัน
9. ผู้ท้าชิงที่น่าเกรงขาม - ต้องยอมรับว่าลิเวอร์พูลช่วงที่เป็นจ่าฝูงและนำห่างนั้น เป็นช่วงที่มีฟอร์มการเล่นแย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่กลับกันเมื่อพวกเค้าเป็นผู้ไล่ตาม กลับไล่กวดผู้นำอย่างกระชั้นชิด โดยทั้งใช้ฝีเท้า และดวง จนทำให้อันดับสลับไปมาระหว่างที่ 1 และที่ 2 อยู่แทบทุกสัปดาห์ ซึ่งในเวลานี้สถานการณ์แบบเดิมๆในต้นฤดูกาลก็กลับมาอีกแล้ว และถ้าคราวนี้ลิเวอร์พูลแซงขึ้นนำได้ มันคงหมายถึงตำแหน่งแชมป์ในรอบเกือบ 3 ทศวรรษอย่างแน่นอน
10. 2 ทีมที่ดีที่สุดในยุโรป - ไม่ต้องบรรยาอะไรมากทั้งผลงานในลีคที่ประกอบด้วยทีมแกร่งมากมาย รวมทั้งผลงานในถ้วยยุโรปของทั้งคู่ อาจจะเร็วไปที่จะบอกว่าทั้งแมนซิตี้และลิเวอร์พูลคือ Top 2 ของยุโรปในนาทีนี้ แต่ถ้าคู่ชิงใน UCL กลายเป็น 2 ทีมนี้ล่ะก็ ทุกๆคนคงหายข้องใจเอง
ฟอร์มของทีมเป๊ปยิ่งกว่าระดับโลก แต่ถ้าชะงักเมื่อไรหงส์แดงก็พร้อมเสียบทุกเวลา
11. เรือใบแรงห้ามสะดุด - ถึงหงส์แดงจะไล่ตามได้เยี่ยมแล้ว แต่ที่สุดยอดกว่าจริงๆก็คือฟอร์มการเล่นของเรือใบที่ตอนนี้ชนะ 9 นัดรวดในลีคเข้าไปแล้ว นี่ถ้าพวกเค้าชนะรวดอีก 5 เกม ก็จะแบเบอร์เป็นแชมป์สบายๆ มันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับบางทีมในปี 2014 ที่จำเป็นต้องชนะรวดถึง 14 เกมสุดท้ายเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้เลย ซึ่งบทสรุปของทีมนั้นในปีนั้นก็คือ...
ก็นั่นล่ะฮะ เกมลีคอยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ลุ้นกันมันส์ทั้งแชมป์และโควตา UCL คาดว่าปีนี้เรือใบและหงส์แดงคงกุมใจแฟนบอลมือใหม่ได้อีกเพียบจากฟอร์มการเล่นระดับนี้
ดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ น่าจะกลายเป็นเกมตัดสินแชมป์ เดิมพันจากผลของเกมนี้มีถึง 6 ทีมที่ร่วมชะตากรรม
เชียร์กันให้สนุก และอย่าลืมมาลุ้นผีแดงในศึกดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าด้วยกันฮะ😁😁
ควันหลงหงส์จิกสิงห์ 🕊️ 🗡️ 🦁
ลูกยิงระดับโลกของซาลาห์ มาถูกเวลาจริงๆ
สิ่งที่ได้เห็นในเกมที่ผ่านไป มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. จิตใจหงส์แดงที่แข็งแกร่ง - ถือเป็นจุดเด่นของทีมชุดนี้ ที่สู้สุดใจในทุกนาทีที่ลงสนาม หลายๆเกมที่ผ่านมาพวกเค้าสามารถสร้างแรงฮึดและพลิกเกมจากที่แย่ ไปเป็นแย่กว่า 😂🤣😂... ดีกว่าสิจ๊ะ!! จนทำให้ทีมกลับมาได้ชัยชนะ ซึ่งเกมนี้อาจจะเป็นอะไรที่ดูไม่หนักหนาเท่าไรที่ครึ่งแรกจบด้วยการเสมอ แต่อย่าลืมว่ามันคือเกมที่ต้องชนะเพื่อต่อลมหายใจการลุ้นแชมป์ ดังนั้นมันคงเป็นอะไรที่กดดันแบบมองไม่เห็น แต่พวกเค้าก็ใช้จิตใจที่เข้มแข็งและมุ่งมั่น จนเร่งเกมรุกและได้ประตูสุดสำคัญจนนำมาซึ่งชัยชนะในที่สุด
2. ซาลาห์รีเทิร์น - วันนี้บังโมพากองหลังทีมเยือนทัวร์ได้อย่างสุดยอด และยังมีลูกยิงระดับโลก ที่เพอร์เฟคในทุกท่วงท่า ตั้งแต่การรับบอลยาว ลากหนีตัวประกบ และกดด้วยซ้ายเต็มแรงทำให้ลูกพุ่งวาบอย่างกับจรวดเข้าไปที่สามเหลี่ยม มันแสดงถึงความมั่นใจของเค้าที่พีคสุดๆในช่วงเวลาที่ทีมต้องการที่สุด เหมาะเจาะดีจริงๆ
วันที่บังโมคืนฟอร์ม ไม่มีใครเอาอยู่จริงๆ
3. 3 ประสานเจิดจรัส - เป็นเกมที่ 3 เทพแดนหน้าเล่นกันได้ดีทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องดีๆ เพราะในฤดูกาลนี้ส่วนใหญ่แล้วจะผลัดกันมีฟอร์มแบบผีเข้าผีออก การที่ทั้ง 3 คนมีความมั่นใจในการเล่นแบบนี้พร้อมๆกัน ย่อมทำให้คู่แข่งมีความปั่นป่วนในการหาทางรับมือ เพราะการเลือกที่จะจับตายใครคนใแคนนึง ก็เท่ากับว่าจะเปิดโอกาสให้คนอีกคนเล่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
4. นักเตะหงส์แดงฟิตมากๆ - ถึงแม้ว่าโปรแกรมการแข่งของลิเวอร์พูลจะน้อยกว่าคู่แข่งแย่งแชมป์ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเพราะรูปแบบการเล่นของหงส์แดงที่หลากหลายขึ้น มีส่วนทำให้นักเตะต้องเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บน้อยลง ต้องชมการมองการณ์ไกลของคลอป ที่ดูขัดใจแฟนๆนิดๆในช่วงแรก แต่มาจนวันนี้ทุกสิ่งที่เค้าจัดการมันเริ่มเห็นผลแล้ว
5. ซาร์รี่เหนื่อยแน่นอน - เชลซีอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมต่อการพลาดพื้นที่ UCL เนื่องจากมีโปรแกรมหนักรออยู่ในการเยือนผีแดง โดยเฉพาะฟอร์มในการไปเป็นทีมเยือนกลุ่มทีม Big Six ที่แพ้รวด ซึ่งดูแนวโน้มแล้วโอกาสพลาดพื้นที่ UCL นั้นค่อนข้างสูง เพราะปัญหาต่างๆภายในทีมนั้นมีค่อนข้างมากมาย โดยเฉพาะนักเตะที่มีให้เลือกใช้เยอะจนปวดหัว ทำให้มีนักเตะได้ลงเตะมากหน้าหลายตา และกลายเป็นทีมที่ดูทีมเวิร์คไม่ลงตัว จนในที่สุดทั้งทีมก็ต้องพึ่งพาอาซาร์อยู่คนเดียว
6. กองหลังต้องระดับโลกทุกยิบตา - จริงอยู่ที่อลิสซอนมีจังหวะเซฟสวยๆจากลูกยิงเผาขนของอาซาร์ และเกมรับโดยรวมของลิเวอร์พูลก็ยังเล่นได้ดี แต่ก็ยังมีอาการรวนเมื่อปล่อยให้เชลซีได้บุกอยู่พักใหญ่ จนอาซาร์ได้โอกาสหลุดมายิงชนเสาหนนึง รวมถึงจังหวะนอนพักเหนื่อยของโรเบิร์ตสัน นั่นทำให้เห็นว่าการพลาดแค่เสี้ยววินาที ก็อาจจะทำให้ทีมน้ำตาตกได้ ดังนั้น 4 เกมสุดท้าย นักเตะหงส์แดงต้องตั้งสมาธิมั่นให้ได้ทุกวินาทีในสนาม
รบส ชิวเกินไปนะ ไม่ดีไม่ทำนะครับ 😂🤣
7. คลอปเขี้ยวจริงๆ - เกมนี้เค้าโชว์กึ๋นการแก้เกมจากครึ่งแรก จนลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในครึ่งหลัง ไม่เพียงแค่นั้นหลังจากเชลซีแก้เกมจนเล่นเกมรุกได้น่ากลัวขึ้น คลอปก็รีบเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อแพคเกมแดนกลางให้รับได้แน่นขึ้น ซึ่งได้ผลทันทีเมื่อลิเวอร์พูลสามารถกลับมาครอบครองเกมได้สำเร็จ ก่อนจะคว้าชัยชนะอย่างสวยงาม
8. โชคยังอยู่ข้างหงส์ - จังหวะยิงผ่านมืออลิสซอน ถ้าไม่ได้เสาช่วยไว้มันก็คงกลายเป็นเกมที่ยากลำบากของหงส์แดงอย่างแน่นอน ในเมื่อบุญพาวาสนาส่งขนาดนี้ ก็ช่วยไปสิงสู่ปีศาจแดง ช่วยยันเรือใบสีฟ้าไว้ให้อยู่ด้วยละกัน
9. ผู้ท้าชิงที่น่าเกรงขาม - ต้องยอมรับว่าลิเวอร์พูลช่วงที่เป็นจ่าฝูงและนำห่างนั้น เป็นช่วงที่มีฟอร์มการเล่นแย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่กลับกันเมื่อพวกเค้าเป็นผู้ไล่ตาม กลับไล่กวดผู้นำอย่างกระชั้นชิด โดยทั้งใช้ฝีเท้า และดวง จนทำให้อันดับสลับไปมาระหว่างที่ 1 และที่ 2 อยู่แทบทุกสัปดาห์ ซึ่งในเวลานี้สถานการณ์แบบเดิมๆในต้นฤดูกาลก็กลับมาอีกแล้ว และถ้าคราวนี้ลิเวอร์พูลแซงขึ้นนำได้ มันคงหมายถึงตำแหน่งแชมป์ในรอบเกือบ 3 ทศวรรษอย่างแน่นอน
10. 2 ทีมที่ดีที่สุดในยุโรป - ไม่ต้องบรรยาอะไรมากทั้งผลงานในลีคที่ประกอบด้วยทีมแกร่งมากมาย รวมทั้งผลงานในถ้วยยุโรปของทั้งคู่ อาจจะเร็วไปที่จะบอกว่าทั้งแมนซิตี้และลิเวอร์พูลคือ Top 2 ของยุโรปในนาทีนี้ แต่ถ้าคู่ชิงใน UCL กลายเป็น 2 ทีมนี้ล่ะก็ ทุกๆคนคงหายข้องใจเอง
ฟอร์มของทีมเป๊ปยิ่งกว่าระดับโลก แต่ถ้าชะงักเมื่อไรหงส์แดงก็พร้อมเสียบทุกเวลา
11. เรือใบแรงห้ามสะดุด - ถึงหงส์แดงจะไล่ตามได้เยี่ยมแล้ว แต่ที่สุดยอดกว่าจริงๆก็คือฟอร์มการเล่นของเรือใบที่ตอนนี้ชนะ 9 นัดรวดในลีคเข้าไปแล้ว นี่ถ้าพวกเค้าชนะรวดอีก 5 เกม ก็จะแบเบอร์เป็นแชมป์สบายๆ มันเป็นสถานการณ์เดียวกันกับบางทีมในปี 2014 ที่จำเป็นต้องชนะรวดถึง 14 เกมสุดท้ายเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้เลย ซึ่งบทสรุปของทีมนั้นในปีนั้นก็คือ...
ก็นั่นล่ะฮะ เกมลีคอยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ลุ้นกันมันส์ทั้งแชมป์และโควตา UCL คาดว่าปีนี้เรือใบและหงส์แดงคงกุมใจแฟนบอลมือใหม่ได้อีกเพียบจากฟอร์มการเล่นระดับนี้
ดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ น่าจะกลายเป็นเกมตัดสินแชมป์ เดิมพันจากผลของเกมนี้มีถึง 6 ทีมที่ร่วมชะตากรรม
เชียร์กันให้สนุก และอย่าลืมมาลุ้นผีแดงในศึกดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าด้วยกันฮะ😁😁