นักประวัติศาสตร์สงครามและนักการทหารทั่วโลก ล้วนมีความเห็นตรงกันว่า กลยุทธ์ของนายพลลี ที่ใช้กำลังบุกทะลวงตรง ๆ เข้ากลางแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของฝ่ายเหนือในสงคราม Gettysburg เป็นกลยุทธ์ที่ผิดพลาดและไม่มีทางได้ผล และเป็นจุดพลิกผันในสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา ที่ทำให้ฝ่ายเหนือเป็นฝ่ายมีชัยฝ่ายใต้ในเวลาต่อมา
ในการรบที่ Gettysburg ฝ่ายเหนือคุมชัยภูมิที่ได้เปรียบอยู่บนพื้นที่เนินสูง ซึ่งสามารถมองเห็นและตั้งรับฝ่ายใต้ได้อย่างมั่นคง นายพลผู้ช่วยของลีได้พยายามทักท้วงลีหลายครั้งว่า การโจมตีครั้งนี้จะไม่สำเร็จและนำความสูญเสียอย่างมหันต์มาให้ทางฝ่ายใต้
แต่ด้วยความดื้อรั้นและเชื่อมั่นในตัวเอง ประกอบกับที่ผ่านมาฝ่ายใต้ยังไม่เคยเป็นฝ่ายปราชัยมาก่อน ทำให้นายพลลีประมาทคู่ต่อสู้และไม่เชื่อในคำเตือน ยังคงเดินหน้าทำตามแผนการโจมตีต่อไป
ก่อนการบุก charge ด้วยทหารราบ ฝ่ายใต้ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ฝ่ายเหนือต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อหวังทำลายแนวต้านและปืนใหญ๋ของฝ่ายเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ในชัวภูมิที่ต่ำกว่า การคำนวณเป้าหมายทำได้ยาก ลูกกระสุนลอยข้ามแนวทหารของฝ่ายเหนือไปเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ฝ่ายเหนือเลย โดยที่ฝ่ายใต้เองก็ไม่รู้ในข้อเท็จจริงนี้
เมื่อกองทหารฝ่ายใต้เริ่มตั้งแถวและเดิน charge เข้าหาแนวของฝ่ายเหนือ จึงเป็นหายนะของทหารฝ่ายใต้ เมื่อทหารฝ่ายเหนือระดมยิงด้วยปืนใหญ่ที่ยังอยู่สมบูรณ์พร้อมทุกกระบอก กองทหารฝ่ายใต้กว่าจะฝ่าแนวปืนใหญ่เข้าไปถึงแนวของฝ่ายเหนือได้ ก็เหลือทหารแทบไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากจำนวนนับหมื่น เหลืออยู่เพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือการแตกพ่ายอย่างยับเยินของฝ่ายใต้
แต่ในความเห็นผม นายพลลี อาจจะไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะสงครามยืดเยื้อมาหลายปีโดยไม่มีอะไรคืบหน้า การบุกที่สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ อาจพลิกโฉมของสงครามได้ นายพลลีเชื่อมั่นในความกล้าบ้าบิ่นของทหารฝ่ายใต้ซึ่งถ้าตะลุยไปถึงแนวของฝ่ายเหนือได้ แนวก็จะแตกลงเองอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะตั้งรับไว้ดีแค่ไหน เพราะความกลัวตายของทหารฝ่ายเหนือซึ่งจะทำให้ฝ่ายใต้ได้ชัยครั้งใหญ่และพลิกโฉมของสงครามได้ เป็นการเดิมพันสูงที่คุ้มค่า ในแง่นักการทหารแล้ว ผมว่าแกไม่ได้ผิดพลาดในแผนการสงครามครั้งนี้ เพียงแต่ทหารฝ่ายใต้ที่ปะทะกับแนวของฝ่ายเหนือไม่ได้โหดอย่างที่แกคิด พอเห็นเพื่อนตายเยอะ ๆ ก็เริ่มถอดใจและหมดกำลังใจที่จะลุยต่อ ตอนหลังเลยเลิกสู้หันหลังวิ่งหนีออกจากสมรภูมิกันหมด
นายพล Robert E. Lee ทำผิดพลาดในสงคราม Gettysburg จริงหรือ?
ในการรบที่ Gettysburg ฝ่ายเหนือคุมชัยภูมิที่ได้เปรียบอยู่บนพื้นที่เนินสูง ซึ่งสามารถมองเห็นและตั้งรับฝ่ายใต้ได้อย่างมั่นคง นายพลผู้ช่วยของลีได้พยายามทักท้วงลีหลายครั้งว่า การโจมตีครั้งนี้จะไม่สำเร็จและนำความสูญเสียอย่างมหันต์มาให้ทางฝ่ายใต้
แต่ด้วยความดื้อรั้นและเชื่อมั่นในตัวเอง ประกอบกับที่ผ่านมาฝ่ายใต้ยังไม่เคยเป็นฝ่ายปราชัยมาก่อน ทำให้นายพลลีประมาทคู่ต่อสู้และไม่เชื่อในคำเตือน ยังคงเดินหน้าทำตามแผนการโจมตีต่อไป
ก่อนการบุก charge ด้วยทหารราบ ฝ่ายใต้ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ฝ่ายเหนือต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อหวังทำลายแนวต้านและปืนใหญ๋ของฝ่ายเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ในชัวภูมิที่ต่ำกว่า การคำนวณเป้าหมายทำได้ยาก ลูกกระสุนลอยข้ามแนวทหารของฝ่ายเหนือไปเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่ได้สร้างความเสียหายแก่ฝ่ายเหนือเลย โดยที่ฝ่ายใต้เองก็ไม่รู้ในข้อเท็จจริงนี้
เมื่อกองทหารฝ่ายใต้เริ่มตั้งแถวและเดิน charge เข้าหาแนวของฝ่ายเหนือ จึงเป็นหายนะของทหารฝ่ายใต้ เมื่อทหารฝ่ายเหนือระดมยิงด้วยปืนใหญ่ที่ยังอยู่สมบูรณ์พร้อมทุกกระบอก กองทหารฝ่ายใต้กว่าจะฝ่าแนวปืนใหญ่เข้าไปถึงแนวของฝ่ายเหนือได้ ก็เหลือทหารแทบไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากจำนวนนับหมื่น เหลืออยู่เพียงไม่กี่พันคนเท่านั้น ซึ่งผลที่ตามมาก็คือการแตกพ่ายอย่างยับเยินของฝ่ายใต้
แต่ในความเห็นผม นายพลลี อาจจะไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะสงครามยืดเยื้อมาหลายปีโดยไม่มีอะไรคืบหน้า การบุกที่สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ อาจพลิกโฉมของสงครามได้ นายพลลีเชื่อมั่นในความกล้าบ้าบิ่นของทหารฝ่ายใต้ซึ่งถ้าตะลุยไปถึงแนวของฝ่ายเหนือได้ แนวก็จะแตกลงเองอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะตั้งรับไว้ดีแค่ไหน เพราะความกลัวตายของทหารฝ่ายเหนือซึ่งจะทำให้ฝ่ายใต้ได้ชัยครั้งใหญ่และพลิกโฉมของสงครามได้ เป็นการเดิมพันสูงที่คุ้มค่า ในแง่นักการทหารแล้ว ผมว่าแกไม่ได้ผิดพลาดในแผนการสงครามครั้งนี้ เพียงแต่ทหารฝ่ายใต้ที่ปะทะกับแนวของฝ่ายเหนือไม่ได้โหดอย่างที่แกคิด พอเห็นเพื่อนตายเยอะ ๆ ก็เริ่มถอดใจและหมดกำลังใจที่จะลุยต่อ ตอนหลังเลยเลิกสู้หันหลังวิ่งหนีออกจากสมรภูมิกันหมด