เมื่อผมเข้าไปช่วยลูกแมวที่ติดอยู่ในบ้านผีสิง...

เห็นเพจแมวแชร์เรื่องคนลงไปช่วยลูกแมวในท่อ เลยอยากแชร์เรื่องช่วยลูกแมวบ้าง

แต่ของผมช่วยลูกแมวที่ติดอยู่ในบ้านผีสิง!!! 😱😱

ใช่แล้วครับ บ้านหลังที่เห็นในรูปนี่ล่ะ!!

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองระยอง มีเรื่องเล่าว่า เจ้าของบ้านหลังนี้โดนหลอกให้ซื้อที่ดิน ต่อมาก็สร้างบ้านจนเสร็จและย้ายเข้ามาอยู่ เวลาผ่านไปไม่นาน ปรากฏว่าเจ้าของที่แปลงติดกัน ปิดกั้นทางเข้าออก ทำให้เจ้าของบ้านเครียดจนฆ่าตัวตาย ...เล่าต่อกันมาแบบนี้

....มันเป็นวันที่อากาศแจ่มใสครับ

ผมผ่านไปแถวบ้านหลังนี้ เพื่อตัดผ่านไปยังถนนเส้นหนึ่ง หูเจ้ากรรมพลันได้ยินเสียงลูกแมวร้องขอความช่วยเหลือแล่นเข้ามาในโสตสัมผัส หลังจากพยายามจับทิศทางที่มาของเสียง บ้านหลังนี้ก็ตั้งอยู่ตรงหน้าพอดิบพอดี...แน่นอนว่าบ้านไม่ได้หันมาเอง แต่เป็นผมเองที่หันหน้าเผชิญกับบ้านหลังนี้...นั่นเพราะเป็นทิศทางที่ได้ยินเสียงชัดที่สุดแล้ว

"เวรแล้ว"!!!! ...ผมอุทานออกมาพร้อมกลืนน้ำลายที่เหนียวและฝืดกว่าปกติ ให้ผ่านลำคอลงไป

...ไม่เคยมีครั้งไหนที่การตัดสินใจจะยากเย็นเพียงนี้

เสียงน้อยๆนั่น ฉุดรั้งสติผมกลับคืนหลังจากเตลิดไปไกล หลังจากสูดลมหายใจเข้าไปท่วมปอด ผมก็ลืมความกลัวไปสิ้น...ปีนเข้าบ้านอาถรรพ์นี้เข้าไปอย่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง

ทุกก้าวที่ย่างผ่าน เสียงกิ่งไม้ที่ถูกเหยียบหักกิ่งแล้ว กิ่งเล่า บรรยากาศที่เปลี่ยนเป็นทั้งเหน็บหนาว ทั้งอึดอัด ล้วนกระตุ้นให้หัวใจเต้นระรัว ราวกับจะทะลุออกมาจากอก..."เราบุกรุกบ้านเขา" ผมรำพึงรำพันอยู่ในหัว เพียงแต่ครั้งนี้เจ้าของบ้านไม่ใข่คน!!

"เวรเอ็ยยยย"!!!! ....ผมอุทานอีกครั้ง แต่จำกัดที่ต้องเงียบ เสียงอุทานนี้เลยได้ยินแค่ผมเพียงคนเดียว...สายตาผมเห็นลูกแมวตัวน้อยตัวนั้นนั่งขดด้วยความหวาดกลัว หน้าประตูบ้านที่เปิดอ้าอยู่...ด้วยความเชิญชวน

สิบสี่ล้านกว่าครั้งในสิบวิ ที่คำว่า"เอาไงดีวะ"แล่นเข้ามาในหัว วินาทีที่สิบสามผมก็ตัดสินใจได้ (ผมใช้เวลาอีกสองวิในการกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ)...ผมก้าวเท้าเข้าหาประตูบานนั้นอย่างรวดเร็ว

เวลาเจ้ากรรมคล้ายกลั่นแกล้ง สภาพแวดล้อมคล้ายหยุดนิ่ง ใบไม้ไม่ไหวติง ไม่มีแม้แต่เสียงกิ่งไม้เล็กๆที่ถูกเหยียบจนหัก ทันใดนั้น ขนแขนที่ราบติดกับแขนเพราะเหงื่อที่ชุ่ม กลับชูชันขึ้นมาราวกับถูกดึง...ตอนนี้ ลมหายใจผมหยุดนั้นไปแล้ว

ขาสองข้างที่แข็งเป็นหินไปแล้ว ตอนนี้กลับรู้สึกถึงการถูกบีบอย่างรุนแรง ทันใดนั้นผมก็ตาเหลือก พร้อมสะท้านไปทั้งร่างด้วยความตกใจถึงขีดสุด เสียงร้องกลับไม่เป็นภาษามนุษย์อีกต่อไป ยังไม่ทันสิ้นเสียง ผมก็กระโจนคว้าหมับไปที่ลูกแมวตัวนั้นอย่างแม่นยำ พร้อมแล่นกลับทางเก่าอย่างไม่คิดชีวิต....เสียงประตูปิดดังโครม!!!ไล่หลังมา แต่ผมไม่คิดอยากรับรู้อันใดอีก แล่นผ่านป่าที่เหมือนจะกางกั้นโลกทั้งโลกนี้ต่อไป

หลังจากกลับมาถึงบ้าน ผมเอาแมวน้อยใส่กรงที่เตรียมอาหารและน้ำไว้ หลังจากนั้นจึงสำรวจตัวเอง ...หนึ่ง สอง สาม สี่...ผมนับแผลที่ถูกกิ่งไม้ข่วน ดูเหมือนจะนับได้จนไม่สิ้นสุด แต่ที่สะดุดตาก็คือ รอยเขียวช้ำที่ต้นขา ที่คล้ายๆมือนั่น!!

ยิ้มยยยยยยยย!!!! เสียงคราวนี้มันหยาบ และแฝงไปด้วยความตกใจสุดขีด!! มันมาพร้อมความปวดที่แล่นวนเวียนอยู่ที่บริเวณนั้น ...ตอนนี้ผมเริ่มนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และผมพยายามรวบรวมความศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาทั้งหมด

สองวันถัดมา หลังจากที่ผมนำของเซ่นไหว้ เพื่อไปขอขมาเจ้าของบ้านหลังนั้น ขาผมก็หายปวดอย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนแผลจากกิ่งไม้ข่วนเหล่านั้น ก็คงลบหายไปตามกาลเวลา

ส่วนลูกแมวน้อยตัวนั้น ก็เติบโตอย่างมีความสุขในบ้านของเราต่อไป...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่