๋J-IDOL IN THAILAND : แบบนี้มีโอตะไทยonly 14/4/2019

Highlights
-มวลมหากองทัพกล้องในไลฟ์ไอดอล
-ราคากล้องทั้งหมดของโอตะที่ไปตามถ่ายเมมเบอร์ในงานนึงรวมแล้วสามารถดาวน์รถยนตร์ได้1คันสบายๆ
-โอตะที่มาเป็นไอดอลเพื่อหวีดไอดอลที่ตัวเองชอบอีกที?
-สุดยอดเครื่องรางของขลังสำหรับรอดการเกณฑ์ทหารของโอตะ
-แตะต้องไม่ได้! เดี๋ยวโดนเตะ!
-โอตะชวนไอดอลกินเหล้า
-ไปงานจับมือไอดอล แต่ไปคุยกับสตาฟที่คุมเลนจับมือของเมมเบอร์?

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยินดีต้อนรับสู่บทความ J-IDOL IN THAILAND  บทความที่จะเขียนถึงวงการไอดอลไทย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พูดถึงวัฒนธรรมแฟนคลับของแต่ละวงและแต่ละประเทศจะแตกต่างกันไป เดิมทีวัฒนธรรมโอตะนั้น ค่อนข้างมีความเฉพาะสูงอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น แต่โอตะนั้นไม่ได้มีแต่ในญี่ปุ่นเนี่ยสิ มันมีอยู่ทั่วโลก ไม่มากก็น้อย ซึ่งในไทยนั้นก็มีโอตะอยู่จำนวนมากเลยทีเดียว วันนี้เราจะนำเสนอ แบบนี้มีโอตะไทยonly


มวลมหากองทัพกล้องในไลฟ์ไอดอล
แน่นอนว่าในการดูไลฟ์การแสดงของไอดอลนั้น อุปกรณ์ที่เตรียมก็ไม่มีอะไรมาก ก็มีแค่แท่งไฟจะใช้กี่อันก็แล้วแต่ จะถือเป็นวูฟเวอรีนเลยก็ได้ หรือจะไปตัวเปล่าก็ได้ แต่สำหรับโอตะไทยนั้น ถ้าหากไม่ใช่คอนเสิร์ตใหญ่ของวง หรือมีกฏห้ามถ่ายรูปหละก็ จำนวนกล้องนั้นจะมากกว่าจำนวนแท่งไฟเสียอีก ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกวง แต่ที่เจอเยอะที่สุดก็น่าจะกับวงBNK48 ซึ่งโอตะสายตากล้องนั้นเยอะมาก มีเพจถ่ายรูปเมมเบอร์เต็มไปหมด เรียกได้ว่าใครไม่ได้ไปงานไม่ต้องห่วงเรื่องจะไม่มีย้อนหลังให้ดู มีคนถ่ายมาเป็นสิบๆคลิปแน่นอน และก็มีรูปสวยๆเป็นพันๆให้นำไปชมเชยกัน

ถ้าหากสงสัยว่ามันมหาศาลขนาดไหนก็ขอยกตัวอย่างด้วยรูปนี้ละกัน นี่แค่ขนาดงานเล็กๆนะเนี่ย ด้านหลังใครเตี้ยๆแทบมองไม่เห็น....




ราคากล้องทั้งหมดของโอตะที่ไปตามถ่ายเมมเบอร์ในงานนึงรวมแล้วสามารถดาวน์รถยนตร์ได้1คันสบายๆ
ยังอยู่กันที่เรื่องของโอตะสายตากล้อง โอตะสายตากล้องนั้นจะมีทุกรูปแบบของกล้องและมีสกิลที่มากน้อยแตกต่างกันไป 
กล้องจะมีตั้งแต่กล้องโทรศัพไปจนถึงกล้องมือโปรราคา100000บาทขึ้นไป
ส่วนฝีมือก็มีตั้งแต่ซื้อกล้องมาหัดถ่าย จนไปถึงพวกที่ถ่ายรูปเทพๆ หรือเป็นนักถ่ายภาพมืออาชีพเลยก็มี

อย่างที่บอกว่าในไลฟ์การแสดงครั้งนึงนั้นจะมีโอตะสายตากล้องไปเยอะมาก โดยเฉพาะไลฟ์ตู้ปลาของBNK48 เป็นไลฟ์ที่จะให้เมมเบอร์มานั่งพูดคุยกับโอตะ โดยเมมเบอร์จะอยู่ให้ห้องที่มีกระจกล้อมรอบและมีโอตะนั่งดูอยู่ข้างนอก(นอกจากจะไว้จัดรายการแล้ว ยังใช้ในการประชาสัมพันธ์ประกาศเรื่องสำคัญ หรือการฝึกสกิลMCของเมมเบอร์อีกด้วย) ในไลฟ์ตู้ปลาโอตะสายตากล้องนั้นไปเยอะมาก เรียกได้ว่า80%ของรอบๆตู้นั้นคือตากล้อง และไม่ใช่ตากล้องระดับง่อยๆ แต่ทุกคนล้วนมีฝีมือการถ่ายภาพเรียกว่าระดับโปรเลยหละ แถมมีกล้องคู่ใจราคาหลักหมื่นไปถึงแสนขึ้นไปทุกคน โดยรวมๆแล้วในไลฟ์ครั้งนึง ราคากล้องทั้งหมดของโอตะสามารถดาวน์รถยนตร์ดีๆคันนึงได้สบายๆ! เผลอๆสามารถซื้อบ้านได้หลังนึงเลยทีเดียว






โอตะที่มาเป็นไอดอลเพื่อหวีดไอดอลที่ตัวเองชอบอีกที?
โอตะหลายๆคนก็มีความฝันที่อยากจะใกล้ชิดกับไอดอลที่ตัวเองชอบ โดยวิธีที่จะใกล้ชิดได้มากที่สุดโดยที่ทะลุระดับVIPไปเลยก็คือ การเป็นไอดอลวงนั้นไปด้วยซะเลย! ที่ผมกำลังพูดถึง หมายถึงกรณีของไอดอลสาวเชียงใหม่ของวงBNK48 "รตาBNK48" เดิมทีนั้นรตาก็เป็นโอตะคนนึงที่ตามหวีดBNK48อยู่แล้ว โดยมีโอชิ(คนที่ชอบ)ก็คือ เฌอปราง น้ำหนึ่ง โมบาย แต่ถึงกะนั้นวันดีคืนดี BNK48เปิดรับสมัครเมมเบอร์รุ่นที่2 ซึ่งรตานั้นได้ไปสมัคร และก็ผ่านเข้ารอบจนได้มาเป็นเมมเบอร์ซะงั้น!!!!! ซึ่งสิ่งแรกที่รตาทำในฐานะไอดอลในวงก็คือ
-ในงานจับมือครั้งแรกที่มีรุ่น2ร่วมงาน ตอนใกล้จะเลิกงาน รตาเดินไปต่อแถวเลนจับมือ"น้ำหนึ่ง" ซึ่งก็คือโอชิของรตานั่นเอง
-ให้น้ำหนึ่งเซ็นลายเซ็นบนPhotosetที่ตัวเองมี นั่นหมายถึงรูปที่รตามีนั้นเป็นระดับUSSR ที่มีใบเดียวในโลก แถมมีหลายใบด้วย ไม่รู้ว่าตอนออกจากวงจะเอาไปปล่อยขายป่ะนะ คิคิ

จนโอตะต่างสรรเสริญว่า นี่แหละโอตะVIPตัวจริง






สุดยอดเครื่องรางของขลังสำหรับรอดการเกณฑ์ทหารของโอตะ
ในไทยนั้นจะมีEventใหญ่ประจำปีสำหรับชายไทยที่มีอายุครบ22ปีก็คือ "การเกณฑ์ทหาร" โดยเรื่องนี้ใครๆก็ไม่อยากเป็นใช่ป่ะหละ เพราะว่าการเป็นทหารเกณฑ์ในไทยนั้น ยิ่งกว่าตกนรกอีก บรึ๊ยยยยยยยยยยย ก่อนวันเกณฑ์ทหารชายไทยหลายๆคนก็ได้ไปไหว้พระสิ่งศักสิทธิขอพรให้รอดจากการจับสลากเสี่ยงโชคที่จะได้เข้าไปเป็นทหาร

แต่ไม่ใช่กับโอตะไทย! มีโอตะไทยท่านนึงได้ห้อยรูปphotosetโอชิตัวเองและก็ทำเป็นเครื่องรางให้รอดการเกณฑ์ทหารซะเลย!!!!! ผลปรากฏว่า โอตะคนนั้นรอดจากการเกณฑ์ทหาร! แถมได้ออกข่าวหลายๆสื่อซะด้วย ในวันต่อมา ไอดอลที่โอตะคนนั้นได้พกเป็นเครื่องราง หรือก็คือ "ปูเป้BNK48" ก็ได้รับการยกย่องจากโอตะหลายๆท่านว่าศักสิทธิจริง! (ถึงจริงๆมันจะเป็นเพราะเรื่องบังเอิญก็เถอะ แต่ถือว่าเป็นสีสันขำๆระหว่างโอตะและไอดอล55)






แตะต้องไม่ได้! เดี๋ยวโดนเตะ!
กลับมาเรื่องของตากล้องกันต่อ ตากล้องนั้นจะถูกจัดไปให้อยู่ด้านหลังเสมอๆเพราะเนื่องจากจะไปบังคนอื่นเข้าซึ่งแบบนี้จะทำให้ภาพไม่ชัด และอาจจะถูกบังได้เพราะด้านหลังมันไกลมากกกกกกกกกก แทบไม่เห็นอะไรเลย แต่ไม่ใช่สำหรับโอตะไทย! พวกเขามีไอเท็ม1สิ่งที่ทำให้เขาได้รูปสวยๆแม้จะอยู่หลังๆ
นั่นก็คือ "บันได" ท่านอ่านไม่ผิดหรอกครับ มันก็คือบันได โอตะตากล้องนั้นพกบันไดส่วนตัวมากเลย เพื่อเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง และจะได้ภาพสวยๆ แต่ถึงอย่างงั้นมันก็เป็นปัญหาอยู่ดี เนื่องจากความสูงของการต่อตัวของตากล้องทำให้คนที่อยู่หลังโซนตากล้อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น แล้วเกิดสนใจอยากดู หรือคนที่มาดูไลฟ์สาย จะไม่มองเห็นแม้แต่นิดเดียว ที่แย่ไปกว่านั้นคือ บางEventไม่มีการจัดโซนสำหรับตากล้อง ตากล้องเลยเล่นไปตั้งบันไดกันแถวกลางๆซะเลย ซึ่งมันบังคนดูคนอื่นมากๆ ถึงจะไม่มีกฏห้ามถ่าย แต่มารยาทในการดูไลฟ์ควรจะมีบ้างนะ! แม้จะมีคนไปสะกิดเตือน แต่ถ้าเจอพวกตากล้องนิสัยเสียหละก็จะโดนตะคอกกลับมาแถมโดนด่าด้วย ซึ่งในงานEventที่พัทยาที่ผ่านมาของBNK48 มีโอตะท่านนึงไปเจอบันไดของเหล่าตากล้องวางไว้เพื่อของพื้นที่ถ่ายรูปเจ็มไปหมด จนถึงขั้นต้องถ่ายรูปทำท่ากำลังไหว้บันได พร้อมแคปชั่นว่า แตะต้องไม่ได้! เดี๋ยวโดนเตะ
ซึ่งนั่นก็สื่อว่า ตากล้องนั้นโครตดุ อย่าไปหือกับเขาเดี๋ยวโดนด่า โดนเตะเอานะ!






โอตะชวนไอดอลกินเหล้า
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่โอตะท่านไหน แต่ก็คือตัวผู้เขียนเอง แหะๆ "ปูเป้BNK48" เป็นคนที่หน้าตากวนๆ หน้าตาดูเกรี้ยวกราด ซึ่งหน้าตาแบบนี้เขาเรียกว่า ไทป์เพื่อนวงเหล้า เรื่องนี้ไม่ใช่การโมเมของตัวผมเอง แต่เนื่องจากมีการพูดคุยของโอตะญี่ปุ่นในเวปไซต์นึงว่าถ้าหากอยากเป็นอย่างงู้นอย่างงี้ จะต้องเป็นเมมเบอร์คนไหน ซึ่งก็ประมาณนี้

ถ้าอยากแต่งงานด้วย=แก้ว
ถ้าอยากจะเป็นกิ๊กด้วย=อร
ถ้าจะเป็นเพื่อนแดรกเหล้าด้วย=ปูเป้
ถ้าเป็นคนที่จะคอยให้คำปรึกษา=เฌอปราง

เพราะเหตุฉะนี้แหละ ซึ่งเอาจริงๆหน้าตาปูเป้อยากจะชวนไปกินเหล้าจริง! เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้แหละ แต่เห็นหน้าเป้แล้วอยากจะชวนไปกินเหล้าทันที มีครั้งนึงในงานจับมือปูเป้เดินมา ผมได้ตะโกนไปถามเป้ว่า "เป้ไปกินเหล้าป่าว" ซึ่งปูเป้ไม่ได้ยินหรอก แต่ก็ถือว่าเป็นการชวนที่ส่งไปไม่ถึง5555555
จึงเป็นที่มาของ โอตะชวนไอดอลกินเหล้า


ไปงานจับมือไอดอล แต่ไปคุยกับสตาฟที่คุมเลนจับมือของเมมเบอร์?
8วินาทีอันมี้ค่า ของการไปงานจับมือที่จะได้พูดคุยกับไอดอลที่เราชื่นชอบ แน่นอนว่าหลายๆคนก็เตรียมบทพูดไปเพื่อที่จะไม่เสียเวลาเปล่าๆและพูดคุยได้มากที่สุด 

แต่ไม่ใช่กับโอตะบางท่าน โอตะไทยนั้นขี้แกล้งมาก จะมีวิธีแกล้งไอดอลในเลนจับมือเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น วิ่งผลัดในเลนจับมือ ร้องประสานเสียงให้เมมเบอร์ฟัง ยืนหน้านิ่งๆจ้องตาเมมเบอร์ รวมไปถึง เข้าไปเพื่อไปพูดคุยกับสตาฟที่คุมเลนจับมือ

เหตุการณ์นี้เป็นการเล่าต่อๆกันมา แต่จริงแท้100%เพราะเคยไปงานจับมือ แล้วไอ้เลนข้างๆมันทำ(555555) 
โดยเนื้อหาการพูดคุยก็จะไม่มีอะไรมาก ทำไปเพื่อแกล้งเมมเบอร์ล้วนๆ โดยจะเดินเข้าไปไม่จับมือไอดอล แต่จะไปพูดคุยกับสตาฟว่า
-พี่เหนื่อยมั้ยครับ
-พี่ได้เงินเท่าไหร่เนี่ย
หรือกะทั่งเรื่องจิปาถะ เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน

หรือถ้าหากเป็นผู้หญิงก็จะไปจีบซะเลย เพราะสตาฟส่วนใหญ่หนุ่มๆสาวๆทั้งนั้น!

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่โอตะที่เอามาเล่าแต่เมมเบอร์นั้นก็ได้เอามาเล่าสู่ให้โอตะฟังเหมือนกัน ซึ่งไอดอลนั้นถึงกับเหวอเลยทีเดียว ตะโกนเรีบกให้มาหาแต่โอตะก็ไม่มาสุดท้ายเวลาหมดก็บ๊ายบายพี่สตาฟแล้วก็เดินออกจากเลนไปแบบงงๆ ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องฮาๆประจำงานจับมือทุกครั้ง


Author
เรวัต ยิ่งภักดี 
ปัจจุบันก็ทำงานProductionอยู่เกี่ยวกับผลิตโฆษณา
แฮปปี้กับการไปออกกองถ่ายแต่ละครั้ง เพราะได้เจออะไรใหม่ๆบ่อย
เวลาว่างจะใช้ไปกับการตามไอดอลซะส่วนใหญ่
เวลาคิดงานไม่ออกจะชอบเปิดPantipอ่าน
ใช้นามแฝงในPantipว่า"พี่เสือ" โดยไม่ได้ตั้งใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่