ในอดีตนั้น เสาชิงช้า ใช้เป็นที่ประกอบราชพิธี ตรียัมปวาย ตรีปวาย ของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู หรือเรียกว่า พิธีโล้ชิงช้า และที่สำคัญในละแวกย่านเสาชิงช้านั้น ยังมีร้านเด็ดๆที่ไม่ควรพลาดอยู่เพียบ วันนี้เราเลยอยากลองนำเสนอ เจ็ดร้านเด็ดย่านเสาชิงช้าให้เหล่านักชิมลิมรสได้ลองกัน เมนูไหนบ้างตามไปดูกันเลย .. การบรรยายเป็นมุมมองส่วนตัวของ จขกท. เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญานในการรับฟังและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองดีที่สุดนะคะ
1. ร้านศิริพรโภชนา
เปิดประเดิมมื้อเช้ากันด้วยข้าวหมูแดง-หมูกรอบ กันที่ร้าน ‘ศิริพรโภชนา’ จะบอกว่า ที่เลือกร้านนี้ไม่ได้เลือกจากข้าวหมูแดง-หมูกรอบนะคะ แต่ที่เลือกร้านนี้ เราเลือกมาทานต้มยำไข่ปลาล้วนๆเลยค่ะ จัดต้มยำกันตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ก็เกือบจะผิดหวังไม่ได้ทานแล้ว เนื่องด้วย วัตถุดิบยังไม่พร้อม ชามนี้ที่ได้มา Rare item มากๆค่ะ เพราะ เป็นชามแรกของวันและได้ชามเดียว ณ เวลานั้นด้วยค่ะ นับว่าโชคยังดี .. เรารู้สึกเฉยๆกับข้าวหมูแดง-หมูกรอบนะ ข้าวร้านนี้จะเป็นข้าวแข็ง แต่ต้มยำไข่ปลา เด็ดจริง ชอบที่ซุปมีความจัดจ้าน เปรี้ยวกำลังดี เผ็ดโอเค .. สำหรับใครที่เคยอ่านรีวิวของร้านนี้กันมาบ้าง คงจะเจอกับกระแสเรื่องการบริการที่ไม่ค่อยดี ตอนที่มาเราไม่ได้อ่านมาก่อนนะ ก็ดุ่มๆมาที่ร้านเลย คุณลุงคาดว่าจะเป็นเจ้าของร้านก็จะมีความเกรี้ยวกราดหน่อยๆ แอบตกใจนิดนึง หากมาทานก็ใจเย็นๆกันนะ อารมณ์เสียรสชาติอาหารจะไม่อร่อยเอา
2. ร้านขนมกุ๋ยช่าย เจ๊ต้อย
มาต่อกันที่ร้านที่สอง ขนมกุ๋ยช่าย เจ๊ต้อย โดยปกติแล้วเราเป็นคนนึงที่ไม่กินผักที่มีกลิ่นแรงๆ หรือเหม็นเขียวเลย แต่ขอยกเว้นสำหรับขนมกุ๋ยช่าย เพราะ เป็นขนมที่ชอบมาก ขนมกุ๋ยช่ายที่ขึ้นชื่อและกินบ่อยๆก็จะมีอยู่ไม่กี่เจ้า ที่ดังๆก็จะเป็นกุ๋ยช่ายตลาดพลู .. แต่วันนี้มาเที่ยวย่านนี้ก็ขอลองสักหน่อยแล้วกัน ขนมกุ๋ยช่ายเจ๊ต้อย มีด้วยกัน 5 ไส้ คือ กะหล่ำเห็ดหอม หน่อไม้สดกุ้งแห้ง เผือก มันแกว กุ๋ยช่าย ร้านนี้ แป้งบาง นิ่มมาก ขนาดพอดีคำ และที่สำคัญให้ไส้เยอะมาก ไส้โปรดที่แนะนำเลยคือกุ๋ยช่าย ออริจินัลสุดๆ ทานคู่กับซอสดำแล้ว ฟินไปเลยคร่าาา ~
3. เจ๊นี เผือกหิมะ
ถัดจากร้านกุ๋ยช่ายมานิดเดียวก็จะเจอกับร้านเจ๊นี เผือกหิมะ พิกัดอยู่ตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเสือ ส่วนตัวเป็นร้านที่ทานแล้วอร่อยที่สุด เผือกร้านนี้ไม่ร่วน เนื้อแน่น เผือกหั่นชิ้นค่อนข้างใหญ่ ทอดในน้ำมันร้อนๆ จากนั้นนำมาลงไปผัดในกระทะที่ละลายน้ำตาลโดยเฉพาะ เท่านี้ก็ได้เผือกทอดหิมะแล้ว ทำกันสดๆหน้าร้านเลย แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ หากทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงหรือทิ้งข้ามคืนความอร่อยจะลดน้อยลงไปเยอะค่ะ .. นอกจากเผือกหิมะแล้ว ที่นี่ก็ยังมี เผือกฉาบหวาน-เผือกฉาบเค็มและครองแครง (ถุงละ 60 บาท) ให้ลองชิมอีกด้วย
4. บัวลอยเกตุแก้ว
เดินต่อมาอีกหน่อย เราจะพาไปชิมขนมไทยโบราณที่คนไทยคุ้นเคยดี นั่นก็คือ บัวลอย วันนี้เราขอนำเสนอ บัวลอยเกตุแก้ว จุดเด่นอยู่ที่กะทิซึ่งจะหอมมาก กลมกล่อม ไม่เลี่ยน ที่ร้านจะมีไข่ให้เลือก 2 แบบ คือ ไข่หวานและไข่เค็ม ตัวแป้งบัวลอย มีด้วยกันทั้งหมด 5 สี คือ อัญชัน ใบเตย แครอต ฟักทอง บีตรูต จึงทำให้แป้งเต็มไปด้วยสีสันต่างๆ น่ารับประทาน และแป้งก็มีความเหนียวนุ่มกำลังดี เคี้ยวง่าย ไม่ติดฟัน ร้านนี้แนะนำให้มาลอง .. จากที่ตะลุยกินทางสามแพร่งมา ขอให้บัวลอยเกตุแก้วชนะเลิศค่า 10/10 ไปเลย .. ด้วยความที่หลายใจ อยากกินบัวลอยทั้งไข่เค็มและไข่หวาน แม่ค้าจัดให้ เอา ‘ไข่คู่’ ไปเลย .. ร้านนี้ แม่ค้าน่ารักเป็นกันเองสุดๆ
ปล. ถ้าอยากนั่งทานบัวลอย ที่นั่งอาจมีน้อย ข้ามมาทานตรงบันไดหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขา ตะนาว แบบเราก็ได้น้าาา
5. นัฐพร ไอศครีมรสไทย
ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงแพร่งภูธร เป็นไอศครีมไทยโบราณ ที่ยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี รสชาติไทยๆ รสชาติของที่นี่มีให้เลือกไม่มาก ก็จะมีกะทิสด นมสด ช็อคโกแลต กาแฟ ชานม งาดำญี่ปุ่น ชาเขียว มะพร้าวอ่อนและมะม่วงมหาชนก พร้อมด้วยท้อปปิ้งแบบไทยๆอย่างถั่วแดง ถั่วเหลืง ถั่งลิสง ลูกชิด ข้าวโพด ลูกเดือย มันเชื่อม .. อย่างในภาพเราสั่งมาทั้งหมด 3 ถ้วย ก็จะมีกะทิสด ชาเขียวมัทฉะ มะพร้าวอ่อน แต่ที่เด็ดอยากให้ลองเลยก็คือ มะพร้าวอ่อน ซึ่งเราแอบเห็นวิธีทำ คือ เค้าเอามะพร้าวอ่อนมาสับกับเกล็ดน้ำแข็ง แล้วรสชาติชื่นใจมาก หอมหวานกลิ่นมะพร้าวอ่อนจริงๆ เพิ่มท็อปปิ้งด้วยลูกเดือยสักหน่อย เปรมสิครับงานนี้
6. ไทยทำ เกาเหลามันสมองหมู
ด้วยความแปลกใหม่และอยากลองของแปลก เลยแวะเข้ามาชิมกับเมนูเกาเหลาสมองหมู .. ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 และเป็นร้านแรกที่ได้เชลล์ชวนชิม ถือว่าเป็นร้านในตำนานอีกร้านนึงเลย .. เราทานสมองหมูที่นี่เป็นครั้งแรก รู้สึกไม่คุ้นเอาซะเลย สมองหมูที่สัมผัสลงบนลิ้นรู้สึกหยึยย์ๆ นุ่มมาก แค่ลิ้นแตะก็ละลายแล้ว ของแบบนี้ต้องลองเองนะ ถึงจะรู้ว่าเป็นยังไง อธิบายไม่ถูกจริงๆ
7. บ้านขนมปังขิง
ตบท้ายที่สุดท้ายด้วยของหวานสุดแสนวิเศษ ‘บ้านขนมปังขิง’ .. ร้านตั้งอยู่ซอยหลังโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า นะคะ หน้าร้านไม่มีที่จอดรถ ถ้านำรถมาเองสามารถนำไปจอดได้ที่รับฝากรถศาลเจ้าพอเสือค่ะ ร้านเปิดเวลา 11.00 น.-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
บ้านไม้เก่าอายุกว่าร้อยปี พร้อมเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนอีกครั้ง กับร้านกาแฟบ้านเรือนไทยสไตล์ฝรั่ง ย่านเสาชิงช้า บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Ginger Bread House ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในสมัยรัชกาลที่ 4 นับวันคนรุ่นหลังจะหาชมได้ยากมากขึ้น
มาย่านเสาชิงช้า อย่าลืมมาแวะชมความคลาสสิคของบ้านไม้หลังเก่าที่รอคอยให้ทุกคนมาค้นหา เพื่อส่งต่อความทรงจำถึงคนรุ่นใหม่ พร้อมทานของว่างเลิศรส ขนมไทยฟิวชั่น เค้ก ชาและกาแฟรสชาติดี ได้ที่นี่ ‘บ้านขนมปังขิง’ ค่ะ
ร้านอาหารในย่านนี้มีทั้งร้านเก่าแก่และร้านที่ดูทันสมัยอีกเยอะแยะมากมาย ใครมาแถวๆเสาชิงช้าน่าจะถูกใจกับการตะลอนหาของทานจนอิ่มแบบเรานะคะ อิ่มท้องแล้วอย่าลืมแวะสักการะศาลเจ้าพ่อเสือและวันสุทัศน์เทพวรารามกันนะคะ มาทั้งทีจะได้อิ่มทั้งบุญและอิ่มท้องไปในคราวเดียวกัน
ขอบคุณ SONY A6500 + Lens 16-70mm F/4
ที่ทำให้เราได้ภาพสวยๆตลอดทริปนี้
แต่งภาพโดยโปรแกรม Lr
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีน้อมรับทุกคำติชม
สามารถติดตามการเดินทางของเราได้อีกหนึ่งช่องทาง
และฝากกด LIKE และกด SUBSCRIBE เพื่อเป็นกำลังใจให้การทำวีดีโอการเดินทางของเราในครั้งต่อๆไปด้วยนะคะ
ขอฝากผลงานรีวิวก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ
.. เจอกันการเดินทางครั้งต่อไป ..
** ถ้าชอบการเดินทางของเรา อย่าลืมกดโหวตเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ **
[CR] ✿ : : SAO-CHING-CHA : : ✿ ~ Half Day Trip ~ แปดโมงถึงเที่ยง กินแหลกไม่เกี่ยง เจ็ดร้านเด็ด ย่านเสาชิงช้า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น