สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวพันทิปปกติเราได้มีโอกาสหาข้อมูลท่องเที่ยวจากพันทิปบ่อยมากๆ จนวันนี้เรามีเวลาเขียนกระทู้
เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์กับเค้าบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่มีแพลนจะไปเที่ยวฟุกุโอกะนะค้า
ก่อนอื่นขอเกริ่นที่มาที่ไปข้อมูลเล็กๆน้อยๆของทริปนี้สักนิดนึงนะคะ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน(มั้ยย 555)… ทริปนี้เป็นทริปฮันนีมูนของเราเองค่ะ
ที่เลือกฟุกุโอกะเพราะมีความคิดที่ว่าเมืองนี้น่าจะเป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบไม่พลุกพล่านเช่นเมืองหลวงโตเกียว
บรรยากาศที่จินตนาการจากการอ่านหนังสือGuide Book ร่วมกับการเสพกระทู้อื่นๆของเพื่อนๆที่เคยไปมาทำให้รู้สึกว่า ฟุกุโอกะนี้น่าจะมีบรรยากาศละม้ายคล้ายคลึงกับบ้านนอกของเรา ที่มีที่เที่ยวเน้นไปทางธรรมชาติ ป่าเขา ออนเซน เป็นส่วนใหญ่
ช่วงที่เราไปคือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมปี2561ค่ะ อากาศที่คาดหวังไว้คือเลขตัวเดียว(เช็คจากในgoogleเอา) แต่เหมือนว่าพอถึงวันที่ไปจริงๆจะค่อนข้างหนาวเย็นน้อยกว่าที่คิดไว้นิดนึง ทำให้เสื้อผ้าต่างๆที่ขนไปน้านนได้ใช้ไม่กี่ตัว (เศร้าเบาๆ อุส่าฟิตติ้งมาเต็มที่ T_T)
เราแพลนไปทั้งหมด 5วัน เริ่มเที่ยวจาก Kitakyushu(kokura+Mojiko) , Beppu , Yufuin และจบทริปด้วย Hakata ค่า แต่ในกระทู้นี้เราจะพูดถึงแต่ เมือง Beppu น้า
เริ่มเดินทางค่ะ
ไปโลดดด….เราเริ่มเดินทางโดยออกจาก Kitakyushu ที่สถานี JR Kokura ไปลงที่สถานี JR Beppu โดยรถไฟขบวน LTD. EXP. ใช้เวลาประมาณ
78 นาที ก็มาถึงค่ะ
จากนั้นที่แพลนไว้คือจะเอากระเป๋าเดินทางฝากที่สถานีก่อน
แล้วนั่งรถบัสจากสถานีไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน Jigoku แต่!!! สามีดิชั้นค่า ลงจากรถไฟปุ๊ป ก็ปวดขี้ปั๊บ (ใช่เวลามั้ยยยย)
ในขณะที่ทุกๆคนที่ลงจากขบวนมาพร้อมกันนั้นต่างออกจากสถานีไปกันหมดแล้ว เลยทำให้ ล๊อคเกอร์ฝากกระเป๋า
เต็มมม! T_T ตอนนั้นคือลากกระเป๋าหาล๊อกเกกอร์เท่าไหร่ก็ไม่มีค่ะ
ที่สถานีBeppu เป็นสถานีเล็กๆ เลยมีล๊อกเกอร์ฝากกระเป๋าค่อนข้างน้อย
เราสองคนเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนเป็นเรียก Taxi ไปโรงแรมเลยค้า
แต่เนื่องด้วยเวลาตอนนั้นยังไม่สามารถเช็คอินได้
จึงแค่ฝากกระเป๋าแล้วก็ออกไปเที่ยวบ่อน้ำพุค่ะ จะบอกว่าจากที่สถานีไปรร.ไม่ไกลกันมากนั่งแทกซี่สัก10นาทีก็ถึงค่ะ
โรงแรมที่เราพักก็ตามหัวข้อกระทู้เลย Umi Kaoru Yado Hotel New Matsumi
โรงแรมนี้ดูเหมือนคนไทยจะไปพักอยู่บ่อยนะคะ
ก่อนหน้านี้ก็มีคนเคยรีวิวโรงแรมนี้ในพันทิปแต่น่าจะหลายปีมาแล้วค่ะ ข้อดีของรร.นี้ที่เห็นชัดๆเลยคือ พูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี
เมื่อเทียบกับที่อื่นๆในฟุกุโอกะที่ได้ไปพักมา
ในห้องพักมีคำอธิบายการใช้งานต่างๆเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ แล้วตอนไปฝากกระเป๋า เจ้าหน้าที่คอยแนะนำวิธีไปบ่อน้ำพุให้อย่างละเอียด
เช่น เราต้องไปยืนรอรถบัสป้ายตรงไหน ลงป้ายไหน รถบัสเบอร์อะไรรถมาอีกทีกี่โมง… พร้อมให้แผนที่มาด้วย คือดีมาก
ประทับใจสุด
พอลงรถก็จะมีจุด information center อยู่ตรงนั้นเลยค่ะ เข้าไปซื้อตั๋วได้เลย ตั๋วมีอยู่สองแบบ แบบรวม2โซน(8บ่อ) กับแบบซื้อแยกบ่อ บ่อละ
400เยน ซึ่งเราเลือกไปแค่โซนเดียวค่ะ คือโซนKannawa จะมีทั้งหมด6บ่อเดินถึงกันได้หมด แนะนำให้เริ่มเดินจากบ่อที่อยู่ไกลสุดแล้วไล่ชมทีละบ่อลงมาเรื่อยๆจนจบกลับมาที่เดิมที่ป้ายรถบัสค่ะ
มีร้านขายของฝากอยู่เกือบทุกบ่อ แต่บ่อที่อยู่ไกลสุดจะใหญ่สุดและของน่าซื้อสุด รวมถึงขนมด้วยจ้า
ที่นั่งแช่เท้าเน้อ (กลับรูปบ่อเป็น ขออภัยด้วยเน้ออ ><!)
หมดละค้า ยอมรับว่าบ่อท้ายๆเริ่มขี้เกียจละ 555 บวกกับมีฝนตกพรำๆ เลยอยากกลับเข้าที่พักพักผ่อนดีก่า
(ระยะเวลาที่เราใช้เดินเที่ยวชมบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมดประมาณ1ชั่วโมงนิดๆน่าจะได้ค่ะ
ไม่รวมระยะเวลาเดินทางจากรถบัสไปกลับสถานีอีกประมาณ40นาทีนะคะ
เผื่อไว้ถ้าเพื่อนๆจะแพลนไป แต่ก็ขึ้นกับว่าใครใช้เวลาชื่นชมนานแค่ไหนนะคะ
บางคนอาจจะลองนั่งแช่เท้าฟินๆไปอีก ก็อาจจะใช้เวลานานกว่านี้ค่า)
กลับมาถึงที่พัก
เจ้าหน้าที่ให้เลือกยูคาตะตรงล๊อบบี้ก่อนเลยค่ะ ชอบสีไหนก็เลือกกันไป
จากนั้นเค้าก็จะพาเราไปที่ห้องค่ะ พอเจ้าหน้าที่เปิดห้องพักมาร้องว้าวววววหนักมากกกกก
พนักงานแจ้งเวลาใช้งานออนเซนว่า เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่บ่ายสามถึงเที่ยงคืนหรือตี1ไม่แน่ใจ
เราหันมามองนาฬิกา 14.45 ใกล้แล้วนี่หน่า เตรียมตัวอย่างไวเลยค่า
พอไปถึง.....ไม่มีคนเลยเจ้าค่ะ ไม่มีเลย ทางโล่งโปร่งสบาย เราได้แช่คนเดียวฟินๆทั้งบ่อ มีฝนตกพรำๆนิดหน่อย
แต่สู้ค่า บรรยากาศคือ เต็ม10ให้100ไปเลยจ้า
อันนนี้บ่อในร่มนะคะ
อันนี้บ่อกลางแจ้ง อยู่คนละชั้นกับบ่อในร่มนะคะ เรามาแช่บ่อกลางแจ้งค่ะ ไม่ได้แช่ในร่ม แต่ทั้งสองบ่อไม่มีคนเลยค่า
บ่อกลางแจ้งจะมีที่แต่งตัวให้แค่ที่เดียว ไม่เยอะเท่าบ่อในร่มค่ะ
ส่วนอ่างแช่ในห้องพัก
พนักงานแจ้งว่าน้ำที่ใช้ก็เป็นน้ำแร่ออนเซนเหมือนกันน้า แช่ในห้องก็ชิวไปอีกแบบ
แช่เพลินจนตัวเปื่อยไปเล้ยย
วาร์ปมาอาหารเช้ากันเลยนะคะ ที่นี่มาเป็นsetเตรียมให้ไว้เป็นคนๆเลยค่ะ
เห็นเป็นหลุมๆดูน้อยๆนั่นอิ่มอยู่นะคะ ตบท้ายด้วยพุดดดิ้งนมสตรอเบอรี่
ก็อิ่มอร่อยกันไปพร้อมเดินทางเปลี่ยนเมืองไปเที่ยวที่อื่นกันต่อค่า
ภายในสถานีBeppu พอมีร้านค้า ร้านกาแฟ ขายของฝากพอให้เดินเล่นฆ่าเวลารอรถไฟได้อยู่พักนึงค่ะ
พอใกล้เวลารถไฟก็รีบเข้าชานชลา ได้เวลาโบกมือบ๊ายบายเมืองนี้จริงๆแล้วค่ะ
จบแล้วจ้า การเดินทางในเมืองน่ารักๆเมืองนี้
ขอเพิ่มเติมอีกเล็กๆน้อยๆสำหรับเมืองนี้นิดนึงค่ะ ถึงแม้เมืองนี้จะเล็กๆ
ก็ยังมีห้าง มีร้านอาหารอยู่บ้างค่ะ เรากับแฟนไปเดินห้างใกล้ๆที่พักมาค่ะ ชื่อห้าง
Youme Townไม่ใหญ่โตมาก ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเอง เช่น GU Uniqlo Daizo พอเดินเพลินๆได้เหมือนกันนะคะ
ขอจบกระทู้นี้ด้วยภาพของฝากจากเมืองBeppuค่ะ (สาวกโคนันเลยต้องแพ้กับสิ่งนี้ ><
ใครแปลภาษาญี่ปุ่นในพวงกุณแจได้บอกทีค่า ซื้อมาก็อ่านไม่ออก เดาว่า
ไม่เป็นชื่อเมืองก็คงแปลว่าน้ำพุร้อนหรือออนเซนมั้งคะ 55555)
(กลับรูปไม่เป็นจ้าา T-T )
วิวบนรถไฟ ธรรมชาติสุดๆ
เที่ยวเมือง Beppu [Fukuoka] พักที่ Umi Kaoru Yado Hotel New Matsumi
เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์กับเค้าบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆที่มีแพลนจะไปเที่ยวฟุกุโอกะนะค้า
ก่อนอื่นขอเกริ่นที่มาที่ไปข้อมูลเล็กๆน้อยๆของทริปนี้สักนิดนึงนะคะ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน(มั้ยย 555)… ทริปนี้เป็นทริปฮันนีมูนของเราเองค่ะ
ที่เลือกฟุกุโอกะเพราะมีความคิดที่ว่าเมืองนี้น่าจะเป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบสงบไม่พลุกพล่านเช่นเมืองหลวงโตเกียว
บรรยากาศที่จินตนาการจากการอ่านหนังสือGuide Book ร่วมกับการเสพกระทู้อื่นๆของเพื่อนๆที่เคยไปมาทำให้รู้สึกว่า ฟุกุโอกะนี้น่าจะมีบรรยากาศละม้ายคล้ายคลึงกับบ้านนอกของเรา ที่มีที่เที่ยวเน้นไปทางธรรมชาติ ป่าเขา ออนเซน เป็นส่วนใหญ่
ช่วงที่เราไปคือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมปี2561ค่ะ อากาศที่คาดหวังไว้คือเลขตัวเดียว(เช็คจากในgoogleเอา) แต่เหมือนว่าพอถึงวันที่ไปจริงๆจะค่อนข้างหนาวเย็นน้อยกว่าที่คิดไว้นิดนึง ทำให้เสื้อผ้าต่างๆที่ขนไปน้านนได้ใช้ไม่กี่ตัว (เศร้าเบาๆ อุส่าฟิตติ้งมาเต็มที่ T_T)
เราแพลนไปทั้งหมด 5วัน เริ่มเที่ยวจาก Kitakyushu(kokura+Mojiko) , Beppu , Yufuin และจบทริปด้วย Hakata ค่า แต่ในกระทู้นี้เราจะพูดถึงแต่ เมือง Beppu น้า
เริ่มเดินทางค่ะ
ไปโลดดด….เราเริ่มเดินทางโดยออกจาก Kitakyushu ที่สถานี JR Kokura ไปลงที่สถานี JR Beppu โดยรถไฟขบวน LTD. EXP. ใช้เวลาประมาณ
78 นาที ก็มาถึงค่ะ
จากนั้นที่แพลนไว้คือจะเอากระเป๋าเดินทางฝากที่สถานีก่อน
แล้วนั่งรถบัสจากสถานีไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน Jigoku แต่!!! สามีดิชั้นค่า ลงจากรถไฟปุ๊ป ก็ปวดขี้ปั๊บ (ใช่เวลามั้ยยยย)
ในขณะที่ทุกๆคนที่ลงจากขบวนมาพร้อมกันนั้นต่างออกจากสถานีไปกันหมดแล้ว เลยทำให้ ล๊อคเกอร์ฝากกระเป๋า
เต็มมม! T_T ตอนนั้นคือลากกระเป๋าหาล๊อกเกกอร์เท่าไหร่ก็ไม่มีค่ะ
ที่สถานีBeppu เป็นสถานีเล็กๆ เลยมีล๊อกเกอร์ฝากกระเป๋าค่อนข้างน้อย
เราสองคนเลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนเป็นเรียก Taxi ไปโรงแรมเลยค้า
แต่เนื่องด้วยเวลาตอนนั้นยังไม่สามารถเช็คอินได้
จึงแค่ฝากกระเป๋าแล้วก็ออกไปเที่ยวบ่อน้ำพุค่ะ จะบอกว่าจากที่สถานีไปรร.ไม่ไกลกันมากนั่งแทกซี่สัก10นาทีก็ถึงค่ะ
โรงแรมที่เราพักก็ตามหัวข้อกระทู้เลย Umi Kaoru Yado Hotel New Matsumi
โรงแรมนี้ดูเหมือนคนไทยจะไปพักอยู่บ่อยนะคะ
ก่อนหน้านี้ก็มีคนเคยรีวิวโรงแรมนี้ในพันทิปแต่น่าจะหลายปีมาแล้วค่ะ ข้อดีของรร.นี้ที่เห็นชัดๆเลยคือ พูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี
เมื่อเทียบกับที่อื่นๆในฟุกุโอกะที่ได้ไปพักมา
ในห้องพักมีคำอธิบายการใช้งานต่างๆเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ แล้วตอนไปฝากกระเป๋า เจ้าหน้าที่คอยแนะนำวิธีไปบ่อน้ำพุให้อย่างละเอียด
เช่น เราต้องไปยืนรอรถบัสป้ายตรงไหน ลงป้ายไหน รถบัสเบอร์อะไรรถมาอีกทีกี่โมง… พร้อมให้แผนที่มาด้วย คือดีมาก
ประทับใจสุด
พอลงรถก็จะมีจุด information center อยู่ตรงนั้นเลยค่ะ เข้าไปซื้อตั๋วได้เลย ตั๋วมีอยู่สองแบบ แบบรวม2โซน(8บ่อ) กับแบบซื้อแยกบ่อ บ่อละ
400เยน ซึ่งเราเลือกไปแค่โซนเดียวค่ะ คือโซนKannawa จะมีทั้งหมด6บ่อเดินถึงกันได้หมด แนะนำให้เริ่มเดินจากบ่อที่อยู่ไกลสุดแล้วไล่ชมทีละบ่อลงมาเรื่อยๆจนจบกลับมาที่เดิมที่ป้ายรถบัสค่ะ
มีร้านขายของฝากอยู่เกือบทุกบ่อ แต่บ่อที่อยู่ไกลสุดจะใหญ่สุดและของน่าซื้อสุด รวมถึงขนมด้วยจ้า
ที่นั่งแช่เท้าเน้อ (กลับรูปบ่อเป็น ขออภัยด้วยเน้ออ ><!)
หมดละค้า ยอมรับว่าบ่อท้ายๆเริ่มขี้เกียจละ 555 บวกกับมีฝนตกพรำๆ เลยอยากกลับเข้าที่พักพักผ่อนดีก่า
(ระยะเวลาที่เราใช้เดินเที่ยวชมบ่อน้ำพุร้อนทั้งหมดประมาณ1ชั่วโมงนิดๆน่าจะได้ค่ะ
ไม่รวมระยะเวลาเดินทางจากรถบัสไปกลับสถานีอีกประมาณ40นาทีนะคะ
เผื่อไว้ถ้าเพื่อนๆจะแพลนไป แต่ก็ขึ้นกับว่าใครใช้เวลาชื่นชมนานแค่ไหนนะคะ
บางคนอาจจะลองนั่งแช่เท้าฟินๆไปอีก ก็อาจจะใช้เวลานานกว่านี้ค่า)
กลับมาถึงที่พัก
เจ้าหน้าที่ให้เลือกยูคาตะตรงล๊อบบี้ก่อนเลยค่ะ ชอบสีไหนก็เลือกกันไป
จากนั้นเค้าก็จะพาเราไปที่ห้องค่ะ พอเจ้าหน้าที่เปิดห้องพักมาร้องว้าวววววหนักมากกกกก
พนักงานแจ้งเวลาใช้งานออนเซนว่า เริ่มใช้งานได้ตั้งแต่บ่ายสามถึงเที่ยงคืนหรือตี1ไม่แน่ใจ
เราหันมามองนาฬิกา 14.45 ใกล้แล้วนี่หน่า เตรียมตัวอย่างไวเลยค่า
พอไปถึง.....ไม่มีคนเลยเจ้าค่ะ ไม่มีเลย ทางโล่งโปร่งสบาย เราได้แช่คนเดียวฟินๆทั้งบ่อ มีฝนตกพรำๆนิดหน่อย
แต่สู้ค่า บรรยากาศคือ เต็ม10ให้100ไปเลยจ้า
อันนนี้บ่อในร่มนะคะ
อันนี้บ่อกลางแจ้ง อยู่คนละชั้นกับบ่อในร่มนะคะ เรามาแช่บ่อกลางแจ้งค่ะ ไม่ได้แช่ในร่ม แต่ทั้งสองบ่อไม่มีคนเลยค่า
บ่อกลางแจ้งจะมีที่แต่งตัวให้แค่ที่เดียว ไม่เยอะเท่าบ่อในร่มค่ะ
ส่วนอ่างแช่ในห้องพัก
พนักงานแจ้งว่าน้ำที่ใช้ก็เป็นน้ำแร่ออนเซนเหมือนกันน้า แช่ในห้องก็ชิวไปอีกแบบ
แช่เพลินจนตัวเปื่อยไปเล้ยย
วาร์ปมาอาหารเช้ากันเลยนะคะ ที่นี่มาเป็นsetเตรียมให้ไว้เป็นคนๆเลยค่ะ
เห็นเป็นหลุมๆดูน้อยๆนั่นอิ่มอยู่นะคะ ตบท้ายด้วยพุดดดิ้งนมสตรอเบอรี่
ก็อิ่มอร่อยกันไปพร้อมเดินทางเปลี่ยนเมืองไปเที่ยวที่อื่นกันต่อค่า
ภายในสถานีBeppu พอมีร้านค้า ร้านกาแฟ ขายของฝากพอให้เดินเล่นฆ่าเวลารอรถไฟได้อยู่พักนึงค่ะ
พอใกล้เวลารถไฟก็รีบเข้าชานชลา ได้เวลาโบกมือบ๊ายบายเมืองนี้จริงๆแล้วค่ะ
จบแล้วจ้า การเดินทางในเมืองน่ารักๆเมืองนี้
ขอเพิ่มเติมอีกเล็กๆน้อยๆสำหรับเมืองนี้นิดนึงค่ะ ถึงแม้เมืองนี้จะเล็กๆ
ก็ยังมีห้าง มีร้านอาหารอยู่บ้างค่ะ เรากับแฟนไปเดินห้างใกล้ๆที่พักมาค่ะ ชื่อห้าง
Youme Townไม่ใหญ่โตมาก ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเอง เช่น GU Uniqlo Daizo พอเดินเพลินๆได้เหมือนกันนะคะ
ขอจบกระทู้นี้ด้วยภาพของฝากจากเมืองBeppuค่ะ (สาวกโคนันเลยต้องแพ้กับสิ่งนี้ ><
ใครแปลภาษาญี่ปุ่นในพวงกุณแจได้บอกทีค่า ซื้อมาก็อ่านไม่ออก เดาว่า
ไม่เป็นชื่อเมืองก็คงแปลว่าน้ำพุร้อนหรือออนเซนมั้งคะ 55555)
(กลับรูปไม่เป็นจ้าา T-T )
วิวบนรถไฟ ธรรมชาติสุดๆ