ก่อนที่ผู้ชายจะจีบผู้หญิงคุณประเมินตัวเองก่อนมั้ยคะ?

     ตอนนี้เราอายุ 26 ปีค่ะ เราเข้าทำงานที่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นแถวสมุทรปราการมาปีกว่าๆแล้ว ปัญหาที่เราเจอในที่ทำงานนอกจากเรื่องงานแล้วคือปัญหาเรื่องผู้ชายที่มีครอบครัวแล้วค่ะ ชอบมาจีบไม่ก็ชอบพูดหยอดหรือพูดจาทะลึ่ง บางคนโทรไลน์มาตอนกลางคืนบอกจะมาหาที่ห้องบ้างซึ่งเรารู้สึกรำคาญพวกนี้มาก เพราะเราไม่อยากยุ่งกับคนที่มีครอบครัวแล้วและเราก็รู้ว่าพวกเขาแค่เล่นๆ อยากจะรู้ว่าเราเล่นด้วยมั้ย ถ้าได้ก็เอาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่คือเราไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น
     แล้วผู้ชายที่จีบเราส่วนใหญ่จะมีทั้งมีครอบครัวแล้วและก็ยังไม่มีบ้าง แต่คือแทบทุกคนเงินเดือนและตำแหน่งน้อยกว่าเราทั้งนั้นและก็กินเหล้ากันแทบจะทุกอาทิตย์ทั้งที่รายจ่ายมากกว่ารายรับ และส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนจบปริญญาตรี เราไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกคนที่ไม่จบปริญาตรีนะคะ 
     และผู้ชายบางคนเราปฎิเสธดีๆแล้วแต่ยังไม่หยุด เราเลยอยากรู้ว่าผู้ชายที่จะจีบผู้หญิงเขาไม่ประเมินตัวเองบ้างเหรอคะ คือตอนเราเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนแถวรังสิต คนที่จีบเราส่วนใหญ่เป็นลูกคนมีฐานะทั้งนั้นและหน้าตาก็ดี ซึ่งตอนเขาที่จีบเราเขาสุภาพมากและถ้าเราปฏิเสธหรือถ้าคุยกันแล้วมันไม่ใช่ เราก็บอกเขาตรงๆ เขาก็ถอยกันทั้งนั้นแต่ที่เราเจออยู่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เราเลยรู้สึกว่าผู้ชายตอนที่เขาจะจีบใครไม่ประเมินตัวเองก่อนเหรอ หรือคิดจะจีบเลยเขาไม่สนก็จีบต่อ พอบอกเเรงๆตรงๆก็หาว่าเราหยิ่ง คือเราไม่ได้จะดูถูกใครนะคะ แต่เราเลือกเวลาที่จะคบใครแม้แต่เพื่อนเราก็เลือกคนที่นิสัย ทัศนคติ มุมมอง ฐานะ การศึกษา หน้าที่การงาน ไม่ใช่จะคบใครก็คบ 

ปล.1ถ้าใครมีความรู้สึกว่าเราดูถูกคนที่ด้อยกว่าก็ด่าเราได้นะ เรายอมรับทุกความคิดเห็นจ้ะ
ปล.2เราเพิ่งสมัครพันทิปไม่รู้แท็กถูกรึป่าว ถ้าผิดขออภัยด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ เพี้ยนเซ็งเป็ด


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเเสดงความคิดเห็นมากนะคะ

แต่เราขอชี้เเจ้งเรื่องเงินเดือนและเรื่องการศึกษาหน่อยนะคะ คือเราเองก็ไม่ได้ร่ำรวยหรือเรียนเก่งอะไรเลยนะคะ เราเป็นคนธรรมดาทั่วๆไป แต่เราค่อยข้างจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตั้งแต่เราเข้ามาทำงานโรงงาน เราเข้าใจเลยว่าการทำงานกับคนที่มีการศึกษาต่างกันมากๆ มันเป็นยังไง การใช้ชีวิต ทัศนะคติของเราและของเขาต่างกันแค่ไหน คือเราพยายามคิดว่าทุกคนเท่ากัน ไม่แบ่งชนชั้น แต่พอได้เข้าไปทำงานด้วยแล้วได้เห็นทัศนะคติของพวกเขาในเรื่องต่างๆ ทำให้เรารู้เลยว่าการศึกษามีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนเรามากๆ และเราไม่มีทางที่จะเข้ากับพวกเขาได้ เราเลยไม่มีเพื่อนสนิทที่โรงงานเลยสักคน คนที่เราคุยด้วยและความเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ คนที่ทำงานล่ามด้วยกัน เราเลยคิดว่าเวลาที่จะคบใคร การศึกษา ทัศนคติของเขาเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ส่วนเรื่องเงินเดือน เราไม่ได้หวังผช ที่รวยกว่าเราเพื่อที่จะเลี้ยงเราได้ แต่เราชอบผช เก่ง ฉลาดคิด และการที่ผช ที่รู้ว่าตัวเองเงินเดือนน้อยกว่ามาจีบนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ดีแต่ถ้าเขาฉลาดเขาต้องคิดได้เเล้วว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ก็อนาคตเขาต้องลำบากแน่ๆ แทนที่จะหาความรู้ พัฒนาตังเองให้มีการศึกษาสูงขึ้น จะได้มีเงินเดือนเยอะขึ้น แต่กลับเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ไม่มีประโยชน์ ก็ทำให้รู้แล้วว่าผช แบบนี้ไม่รู้จักคิด ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ถ้าคำพูดแรงไป แต่มันก็เป็นเรื่องจริงค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เราเข้าใจคุณ อยากจะบอกว่าคนอีกระดับหนึ่งก็จะเป็นแบบนี้ เดี๋ยวก็จะมีดราม่าว่าแบ่งชนชั้นหรือเป็นการดูถูกกัน ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริง

คนที่โตมาแบบหนึ่ง ลักษณะครอบครัวแบบหนึ่งก็จะมีมุมมองและการใช้ชีวิตต่างกัน

เราว่าคุณก็ปฏิเสธไปตรงๆ ให้เข้าใจชัดๆ อย่าไปวุ่นวายกับผู้ชายแบบนั้นเลย เพราะมันทำให้เสียโอกาสเจอคนที่คิดเป็น และมีแบบแผนการใช้ชีวิตที่ดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
น่าสงสารคุณมากเลยคะ
เข้าใจเลยว่า รำคาญทั้งๆที่ปฎิเสธไปแล้วยังจามตื้ออีก
แต่มันไม่เกี่ยวกับฐานะหรอกคะ เค้าเรียกว่าทัศนคติ หรือคีโมไม่ตรงกัน

คนไม่กินเหล้า ไม่ชอบสังสรรค์จะให้ไปคบกับคนที่ชอบกินเหล้า ไปปาร์ตี้ทุกอาทิตย์ดูยังไงมันก็ไม่รอด ฝืนตัวเองเปล่า โดยเฉพาะพวกที่มีครอบครัวแล้ว ตามจีบคนอื่น แสดงให้ถึงความต่ำเตี้ยเรี่ยดินของคำว่าศักยภาพในความรับผิดชอบ

นานนานถึงจะเห็นคนมีสติแบบนี้ซักที เท่าที่อ่านพันทัพมาส่วนใหญ่พอโดนจีบ ก็ไม่ค่อยไตร่ตรองว่า ทัศนคติการใช้ชีวิตเหมือนกันรึเปล่า ความแตกต่างพื้นฐานทางสังคมกับครอบครัว ความรับผิดชอบ กับรวมไปถึง vision ผลที่ตามมา มันเลย..........

ดีใจที่ยังเห็นผู้หญิงไทยที่เห็นคุณค่าและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองคะ
ความคิดเห็นที่ 22
Sexual harassment บางบริษัทถือเป็นเรื่องใหญ่ แค่แซวเล่นก็ไม่ได้ ไม่รู้บริษัทคุณให้ความสำคัญแค่ไหน ปรึกษา HR น่าจะรู้ดี
ความคิดเห็นที่ 45
เราเคยทำงานเป็นล่ามมา5ปีในโรงงานญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ
สภาพแวดล้อมที่เราอยู่ก็ถือเป็นปัจจัยหลักที่จะมีผู้ชายลักษณะแบบนี้เข้ามา เขาไม่ได้คิดเรื่องประเมินตัวเองอะไรหรอกค่ะ ออกแนวจีบใครได้ก็เอาหมดมากกว่า

ตอนเราเจอส่วนใหญ่เจอระดับเอนจิเนียเข้ามายุ่งมากกว่า 90%จะเป็นคนที่มีครอบครัวแล้วเหมือนกันค่ะ โชคดีที่เราชัดเจนตั้งแต่แรกว่าไม่เล่นด้วย เเละไม่เคยให้อะไรที่เป็นข้อมูลส่วนตัวรวมถึงไลน์ด้วย จึงตัดปัญหาข้อนี้ออกไป
เขาเคยมาจับเนื้อต้องตัวเรา ดึงแขนเราเข้าหาเขา เราถีบกลับเลยค่ะ จากนั้นเขาก็ไม่กล้ามายุ่งกับเราอีกเลย

คนพวกนี้ที่เราเคยเจอเนี่ย มันก็จะมีกลุ่มที่เขาจะมุ่งเป้าจีบแค่ล่ามโดยเฉพาะค่ะ อาจจะด้วยเงินเดือน หรือด้วยความตำแหน่งล่ามก็แน่ใจ น้องล่ามคนใหม่เข้ามาก็โดนทำลุ่มล่าม ถึงขั้นเคาะประตูห้องพัก (เป็นหอพักบริษัทจัดหาให้ค่ะ) สุดท้ายน้องรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยจึงไปแจ้งฝ่ายบุคคลว่ามันเข้าข่าย sexual harassment  ฝ่ายบุคคลเลยจัดการให้ จากนั้นเขาก็ไม่มายุ่งอีกเลยค่ะ

ถ้า จขกท ไม่โอเค ก็ไปบอกฝ่ายบุคคลไว้นะคะ เพื่อความปลอดภัยจองตัวเราเอง  
บางทีคุณ จขกท อาจจะบุคลิกจิ้มลิ้มดูเรียบร้อย คนเลยคิดว่าไม่มีพิษมีภัยเลยจะทำอะไรก็ได้ สังคมโรงงานแบบนี้คนมากหน้าหลายตา หลายความคิด บางทีเราอาจจะต้องเปลี่ยนบุคลิกให้ดูไม่สนไม่แคร์บ้างนะคะ เพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยค่ะ
เอาจริงๆการวางตัวของเรา คือสิ่งที่จะคัดกรองคนเข้ามานะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าให้เขาประเมิน ตัวเองเขาคงคิดว่าผ่านอ่ะครับ 55555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่