สวัสดีค่ะ เข้าเรื่องเลยเนอะ
ปัจจุบันเรากำลังคบหาดูใจกับผู้ชายคนนึงอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจะครบ 1 เดือนแล้ว
สิ่งที่มันเกิดขึ้นตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา คือเขายังจำเป็นต้องมีธุระที่จะคุยกับแฟนเก่า ที่คบมาประมาณ 6 ปี
ซึ่งเราไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายอะไร มีธุระก็ไปจัดการกันเอง เพียงแต่อย่ามายุ่งอะไรกับเราก็พอ และเราก็จะไม่ยุ่ง
ในความคิดเรา คำว่าธรุะ.. เมื่อเคลียร์เสร็จก็ควรจะเลิกติดต่อกันไป ยิ่งเขายืนยันว่าฝ่ายหญิงก็มีคนคุยใหม่แล้ว
ต้องเล่าแทรกว่า ทางครอบครัว ทางเพื่อนๆเขา รับรู้ว่าเขาเลิกกันแล้ว ครอบครัวก็รู้ว่ามาคุยกับเรา
(แต่เนื่องจากเป็นการรับรู้ผ่านแฟนเก่าเขา เราจึงถูกมองไม่ดีเท่าไหร่ ซึงไม่เป็นไร เราเข้าใจได้ ครอบครัวเขายังไม่เคยรู้จักเราด้วยตัวเอง)
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ แฟนเก่าเขาแอดเฟสกลับมา เราจับได้ ซึ่งแน่นอนตอนแรกเขาบ่ายเบี่ยง
(ไม่ลงรายละเอียดตรงนี้นะคะ น่าจะเดากันได้ว่าเวลาคนเราโดนจับได้มักจะบ่ายเบี่ยงด้วยวิธีใดกันบ้าง)
จนเปิดใจคุยกันว่า ถ้าไม่รับแอด มีปัญหาแน่ เพราะแฟนเก่าเขาคงไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ
(ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า แฟนเก่าเขา ทำงานที่เดียวกับคุณพ่อของฝ่ายชาย ยังต้องพบเจอกันบ่อยๆ และไม่รู้ว่าจะไปพูดอะไรเสียๆหายๆไหม)
นั้นแหละค่ะ เพื่อเป็นการตัดปัญหา เขาเลยทำให้แฟนเก่าเข้าใจว่า ไม่ได้ติดต่อกับเราแล้ว เราจึงไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขาในเฟส หรือ ไอจีเลย
เขาบอกว่า ฝ่ายแฟนเก่าเขา ติดต่อมาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง คนคุยใหม่เขาไม่ดีเลย และยังมาทำเหมือนเป็นห่วงเป็นใย
ซึ่งเรายืนยันไปว่า เราสนใจแค่ว่า ตัวคนที่เราคบอยู่ ตอบสนองยังไงกลับไปมากกว่า
ซึ่งเขาบอกว่า มันก็หลายความรู้สึก สมน้ำหน้าด้วย สงสารด้วย เป็นห่วงเหมือนกันว่าจะถูกหลอกไหม
และก็แน่นอนอีกนั้นแหละค่ะ ใจนึงเราก็เข้าใจความผูกพันมันต้องเป็นห่วงกันมันมีอยู่แล้ว
แต่อีกใจนึงเราก็ต้องพูดตรงๆว่า เรากลัวนะ เรากลัวว่าเขาจะยังรู้สึกต่อกันแบบนั้น หรือ อาจจะมีโอกาสกลับไปนัดเจอกัน
เพราะตัวเรา กับ คนที่เราคบอยู่คนละจังหวัดกัน และเขากับแฟนเก่าเขาอยู่จังหวัดเดียว
เราไม่รู้ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในจุดที่ถูกต้องไหม.. บางทีเราก็รู้สึกว่า จบไปแล้วทำไมไม่จบๆไป
ทำไมเขาถึงไม่ตัดให้เด็ดขาด แล้วถ้าแฟนเก่าเขายังมามีปัญหาอยู่ มันต้องเป็นเรื่องของเราไม่ใช่หรอ
เรื่องของเรากับเขาว่าจะผ่านจุดนั้นไปได้ยังไง แฟนเก่าจะทำอะไรก็ปล่อยให้ทำไปซิ แต่เขาแค่ยืนยันว่าเขาแค่ไม่อยากมีปัญหา
ไม่อยากให้ครอบครัวคิดมาก ยิ่งพ่อแม่เขาไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยตอนนี้ ยังไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรไปทำให้พวกท่านกังวล
เรื่องระหว่างเรากับเขา เราก็ไม่กล้าไปเรียกร้องอะไรมากด้วยความที่เรายังไม่ได้คบหากันนาน
คนที่มีผลกับชีวิตเขามากกว่า ยังไงก็คือแฟนเก่ากับครอบครัวเขา ส่วนการติดต่อกันกับเรา
ก็คุยกันตลอด บางทีก็โทรหาตลอดในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่ทุกคืนก็จะเปิดกล้องค้างสายไว้แล้วหลับไป
เราไม่รู้จริงๆค่ะว่าตอนนี้เราจะยังไงต่อ เราจะเดินต่อไป หรือ จะหยุดก่อน เราไม่ชอบตัวเองที่ต้องเป็นแบบนี้เลยค่ะ
ใจนึงเราก็เหมือนจะเด็ดขาดที่รู้สึกว่า ถ้าคุณคิดจะแบ่งชีวิตคุณเป็นหลายส่วน คุณก็ต้องบริหารให้ดีด้วย
แต่อีกใจนึงเราก็คิดอย่างเป็นกลางว่า โอเค เงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เราพยายามจะเข้าใจทุกฝ่าย
แต่เรื่องความไม่สบายใจอย่างอื่นมันมีแน่นอน เช่นว่า มีอยู่วันนึง เราเปิดกล้องแล้วโทรศัพท์แจ้งเตือนว่าเหลือแบต 20%
ทำให้กล้องมันดับไป แปปนึงแล้วกลับมาติดใหม่ เขาก็บอกว่า จริงหรอ ไหนถ่ายหน้าจอมาดูแบตเหลือเท่าไหร่
เราก็ถ่ายไป ก็จบไป จนสักพักหนึ่งประมาณ ตี 3 เขาบอกแปปนึงนะแม่โทรมา
(ซึ่งเราก็เชื่อแหละค่ะว่าคงเป็นคุณแม่เขา เพราะท่านอยู่ต่างประเทศ เวลาไม่ตรงกัน
ถึงแม้จะบอกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองสบายใจว่า แม่เขาอาจจะลืมคิดไปว่าที่เมืองไทยตอนนี้ตี 3)
เราเลยถือโอกาสแซวเขากลับมา ไหนแม่จริงป่าว แคปหน้าจอมาดูหน่อย แล้วเขาก็ทำเป็นเหมือนงอนตัดสายไป
แต่ก็ยังมาแซวเล่นกับเราในไลน์อยู่ เราเลยกดโทรไป ก็ขึ้นมาสายไม่ว่าง พอเขาคุยเสร็จก็โทรกลับมาหาเรา
แล้วก็เปิดกล้องหลับไปตามปกติอย่างที่เราทำกันทุกคืน
อ่อ เพิ่มเติมค่ะ* เขากับแฟนเก่าเขา เคยมีปัญหากันมาหลายรอบที่ต่างตนต่างไปมีคนคุยใหม่ แต่ยังอยู่ในบ้านเดียวกัน
แค่นอนแยกคนละมุม ซึ่งสำหรับเรา เราไม่เข้าใจความสัมพันธ์แบบนี้ ว่าอยู่กันไปได้ยังไง
แต่ครั้งนี้เขาบอกว่าเขาจริงจังนะที่จะเดินออกมา เพราะหลังจากที่เขาตัดสินใจจะคุยกับเรา เขาก็ย้ายออกจากบ้านกับแฟนเก่าและมาอยู่หอเลย
แต่เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว มันเป็นเพราะเขาแค่กลัวไม่เหลือใครรึป่าว พอมีเราที่ดูจะจริงจังไปด้วยได้ เลยเหมือนถือไพ่เหนือกว่า
ว่าจะเป็นคนเดินออกมาก่อน แบบนั้น เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่เขาสารภาพว่า เคยมีครั้งนึง หลังจากย้ายออกมา
เขาไปเจอแฟนเก่าเขา แล้วเราโทรไปพอดี เขาก็เปิดลำโพงให้แฟนเก่าเขาฟัง และแฟนเก่าเขาก็พูดว่า "ก็รวยกว่านิ ก็ดีกว่านิ" (หมายถึงเรา)
และเขาเลยตอบประชดกลับไปว่า "อือ ดีกว่า รวยกว่า" แบบนั้น
เฮ้อออออออออออออ เราต้องทำยังไงดีคะตอนนี้
เมื่อคนที่คุณคบอยู่ประมาณ 1 เดือน ยังติดต่อกับแฟนเก่าที่คบมา 6 ปี
ปัจจุบันเรากำลังคบหาดูใจกับผู้ชายคนนึงอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจะครบ 1 เดือนแล้ว
สิ่งที่มันเกิดขึ้นตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา คือเขายังจำเป็นต้องมีธุระที่จะคุยกับแฟนเก่า ที่คบมาประมาณ 6 ปี
ซึ่งเราไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายอะไร มีธุระก็ไปจัดการกันเอง เพียงแต่อย่ามายุ่งอะไรกับเราก็พอ และเราก็จะไม่ยุ่ง
ในความคิดเรา คำว่าธรุะ.. เมื่อเคลียร์เสร็จก็ควรจะเลิกติดต่อกันไป ยิ่งเขายืนยันว่าฝ่ายหญิงก็มีคนคุยใหม่แล้ว
ต้องเล่าแทรกว่า ทางครอบครัว ทางเพื่อนๆเขา รับรู้ว่าเขาเลิกกันแล้ว ครอบครัวก็รู้ว่ามาคุยกับเรา
(แต่เนื่องจากเป็นการรับรู้ผ่านแฟนเก่าเขา เราจึงถูกมองไม่ดีเท่าไหร่ ซึงไม่เป็นไร เราเข้าใจได้ ครอบครัวเขายังไม่เคยรู้จักเราด้วยตัวเอง)
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ แฟนเก่าเขาแอดเฟสกลับมา เราจับได้ ซึ่งแน่นอนตอนแรกเขาบ่ายเบี่ยง
(ไม่ลงรายละเอียดตรงนี้นะคะ น่าจะเดากันได้ว่าเวลาคนเราโดนจับได้มักจะบ่ายเบี่ยงด้วยวิธีใดกันบ้าง)
จนเปิดใจคุยกันว่า ถ้าไม่รับแอด มีปัญหาแน่ เพราะแฟนเก่าเขาคงไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ
(ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า แฟนเก่าเขา ทำงานที่เดียวกับคุณพ่อของฝ่ายชาย ยังต้องพบเจอกันบ่อยๆ และไม่รู้ว่าจะไปพูดอะไรเสียๆหายๆไหม)
นั้นแหละค่ะ เพื่อเป็นการตัดปัญหา เขาเลยทำให้แฟนเก่าเข้าใจว่า ไม่ได้ติดต่อกับเราแล้ว เราจึงไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขาในเฟส หรือ ไอจีเลย
เขาบอกว่า ฝ่ายแฟนเก่าเขา ติดต่อมาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง คนคุยใหม่เขาไม่ดีเลย และยังมาทำเหมือนเป็นห่วงเป็นใย
ซึ่งเรายืนยันไปว่า เราสนใจแค่ว่า ตัวคนที่เราคบอยู่ ตอบสนองยังไงกลับไปมากกว่า
ซึ่งเขาบอกว่า มันก็หลายความรู้สึก สมน้ำหน้าด้วย สงสารด้วย เป็นห่วงเหมือนกันว่าจะถูกหลอกไหม
และก็แน่นอนอีกนั้นแหละค่ะ ใจนึงเราก็เข้าใจความผูกพันมันต้องเป็นห่วงกันมันมีอยู่แล้ว
แต่อีกใจนึงเราก็ต้องพูดตรงๆว่า เรากลัวนะ เรากลัวว่าเขาจะยังรู้สึกต่อกันแบบนั้น หรือ อาจจะมีโอกาสกลับไปนัดเจอกัน
เพราะตัวเรา กับ คนที่เราคบอยู่คนละจังหวัดกัน และเขากับแฟนเก่าเขาอยู่จังหวัดเดียว
เราไม่รู้ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในจุดที่ถูกต้องไหม.. บางทีเราก็รู้สึกว่า จบไปแล้วทำไมไม่จบๆไป
ทำไมเขาถึงไม่ตัดให้เด็ดขาด แล้วถ้าแฟนเก่าเขายังมามีปัญหาอยู่ มันต้องเป็นเรื่องของเราไม่ใช่หรอ
เรื่องของเรากับเขาว่าจะผ่านจุดนั้นไปได้ยังไง แฟนเก่าจะทำอะไรก็ปล่อยให้ทำไปซิ แต่เขาแค่ยืนยันว่าเขาแค่ไม่อยากมีปัญหา
ไม่อยากให้ครอบครัวคิดมาก ยิ่งพ่อแม่เขาไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยตอนนี้ ยังไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรไปทำให้พวกท่านกังวล
เรื่องระหว่างเรากับเขา เราก็ไม่กล้าไปเรียกร้องอะไรมากด้วยความที่เรายังไม่ได้คบหากันนาน
คนที่มีผลกับชีวิตเขามากกว่า ยังไงก็คือแฟนเก่ากับครอบครัวเขา ส่วนการติดต่อกันกับเรา
ก็คุยกันตลอด บางทีก็โทรหาตลอดในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่ทุกคืนก็จะเปิดกล้องค้างสายไว้แล้วหลับไป
เราไม่รู้จริงๆค่ะว่าตอนนี้เราจะยังไงต่อ เราจะเดินต่อไป หรือ จะหยุดก่อน เราไม่ชอบตัวเองที่ต้องเป็นแบบนี้เลยค่ะ
ใจนึงเราก็เหมือนจะเด็ดขาดที่รู้สึกว่า ถ้าคุณคิดจะแบ่งชีวิตคุณเป็นหลายส่วน คุณก็ต้องบริหารให้ดีด้วย
แต่อีกใจนึงเราก็คิดอย่างเป็นกลางว่า โอเค เงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน เราพยายามจะเข้าใจทุกฝ่าย
แต่เรื่องความไม่สบายใจอย่างอื่นมันมีแน่นอน เช่นว่า มีอยู่วันนึง เราเปิดกล้องแล้วโทรศัพท์แจ้งเตือนว่าเหลือแบต 20%
ทำให้กล้องมันดับไป แปปนึงแล้วกลับมาติดใหม่ เขาก็บอกว่า จริงหรอ ไหนถ่ายหน้าจอมาดูแบตเหลือเท่าไหร่
เราก็ถ่ายไป ก็จบไป จนสักพักหนึ่งประมาณ ตี 3 เขาบอกแปปนึงนะแม่โทรมา
(ซึ่งเราก็เชื่อแหละค่ะว่าคงเป็นคุณแม่เขา เพราะท่านอยู่ต่างประเทศ เวลาไม่ตรงกัน
ถึงแม้จะบอกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองสบายใจว่า แม่เขาอาจจะลืมคิดไปว่าที่เมืองไทยตอนนี้ตี 3)
เราเลยถือโอกาสแซวเขากลับมา ไหนแม่จริงป่าว แคปหน้าจอมาดูหน่อย แล้วเขาก็ทำเป็นเหมือนงอนตัดสายไป
แต่ก็ยังมาแซวเล่นกับเราในไลน์อยู่ เราเลยกดโทรไป ก็ขึ้นมาสายไม่ว่าง พอเขาคุยเสร็จก็โทรกลับมาหาเรา
แล้วก็เปิดกล้องหลับไปตามปกติอย่างที่เราทำกันทุกคืน
อ่อ เพิ่มเติมค่ะ* เขากับแฟนเก่าเขา เคยมีปัญหากันมาหลายรอบที่ต่างตนต่างไปมีคนคุยใหม่ แต่ยังอยู่ในบ้านเดียวกัน
แค่นอนแยกคนละมุม ซึ่งสำหรับเรา เราไม่เข้าใจความสัมพันธ์แบบนี้ ว่าอยู่กันไปได้ยังไง
แต่ครั้งนี้เขาบอกว่าเขาจริงจังนะที่จะเดินออกมา เพราะหลังจากที่เขาตัดสินใจจะคุยกับเรา เขาก็ย้ายออกจากบ้านกับแฟนเก่าและมาอยู่หอเลย
แต่เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว มันเป็นเพราะเขาแค่กลัวไม่เหลือใครรึป่าว พอมีเราที่ดูจะจริงจังไปด้วยได้ เลยเหมือนถือไพ่เหนือกว่า
ว่าจะเป็นคนเดินออกมาก่อน แบบนั้น เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่เขาสารภาพว่า เคยมีครั้งนึง หลังจากย้ายออกมา
เขาไปเจอแฟนเก่าเขา แล้วเราโทรไปพอดี เขาก็เปิดลำโพงให้แฟนเก่าเขาฟัง และแฟนเก่าเขาก็พูดว่า "ก็รวยกว่านิ ก็ดีกว่านิ" (หมายถึงเรา)
และเขาเลยตอบประชดกลับไปว่า "อือ ดีกว่า รวยกว่า" แบบนั้น
เฮ้อออออออออออออ เราต้องทำยังไงดีคะตอนนี้