สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
มังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 มาจากผู้กำกับคนเดียวกัน คือผู้กำกับฮ่องกง เจียงเจียจวิ้น
http://brxggroup.com/index.php/2017-03-31-15-27-01/2017-03-31-07-46-11/46-2017
มังกรหยก ภาคเอียก้วย 2019 มีผู้กำกับคนอื่นประกาศสร้างรีเมคแล้ว ผู้กำกับเจียงเจียจวิ้นจึงหลบไปสร้างดาบมังกรหยก 2019 แทน
ปัจจุบันส่วนใหญ่ยอมรับว่า ผลงานมังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 เป็นผลงานที่มีคุณค่าสูงและสมบูรณ์ตรงกับบทประพันธ์มากที่สุด โปรดักชั่นดีสุด casting นักแสดงเหมาะสมตรงตามบทประพันธ์และอายุของตัวละคร คอสตูมเสื้อผ้าหน้าผมดีมาก โลเกชั่นสวย และที่สำคัญบทภาพยนตร์กระชับไหลลื่น (TVB ฮ่องกง เบื่อที่เดินเรื่อง เยิ่นเย้อ บทสนทนาแข็งๆไม่เนียน ชอบเขียนบทละครเข้าป่า ดัดแปลงบทประพันธ์เดิมจนโครงเปลี่ยนไปมาก และที่สำคัญถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่ามักจะกำกับให้นักแสดงใช้สีหน้าท่าทางเกินความเหมาะสม จึงดูขาดๆเกินๆ ไม่มีความเป็นธรรมชาติ) นอกจากนี้ มีความดราม่าสูงมาก มีการพัฒนาของตัวละครเดินเรื่องอย่างมีเหตุผลมากที่สุด ให้ความสำคัญกับตัวประกอบมาก จึงดูน่าเชื่อถือและสนุกไปกับทุกตัวละครในเรื่อง มีการใช้อวจนภาษาในการแสดงสูง (ไม่ใช่ให้ตัวละครมาอธิบายว่าใครกำลังคิดอะไร หรือบรรยายภาพหรือบรรยายความรู้สึกของตัวละครด้วยเสียงแบบหนังอินเดีย)
จุดสังเกตของมังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 ของเจียงเจียจวิ้น ผู้กำกับฮ่องกง
1. มีความปราณีตในการคัดเลือกนักแสดงจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะไม่เน้นว่ามีชื่อเสียงดังมากแล้ว แต่เน้นว่าให้ตรงกับบทประพันธ์และนักแสดงหลักและตัวประกอบสามารถแสดงได้ตรงกับบทประพันธ์ ทีมคัดเลือกนักแสดงเก่งมาก คัดได้ดี เน้นหล่อและสวย ทั้งตัวหลักและตัวประกอบ ทำให้ตัวประกอบหลายตัวแสดงออกมาดูดีและน่าจดจำ ยกตัวอย่าง ตอนที่เปิดกล้องมังกรหยก 2017 ไปแล้ว ยังหานักแสดงที่แสดงเป็นอึ้งย้งที่เหมาะสมไม่ได้ ต้องรออีกพักใหญ่จะมีประกาศนักแสดงที่แสดงเป็นอึ้งย้ง นักข่าวต่างผิดหวังที่ไม่ได้เลือกนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากๆมาเป็นอึ้งย้ง แต่เลือกนักแสดงหน้าใหม่ หลี่อี้ถง (อายุ 26 ปี แต่แสดงเป็นอึ้งย้งอายุ 17 ปีได้เหมือนมาก) นักข่าวจึงไม่สนใจทำข่าว มังกรหยก 2017 มากนัก ทั้งก้วยเจ๋งและอึ้งย้งเป็นดาราหน้าใหม่ ต่างมีผลงานการแสดงไม่มาก เมื่อมังกรหยก 2017 ออกฉายที่จีนในไอ้ฉีอี้ยังไม่ทันอวสาน ในงานประกาศรางวัลที่เซี่ยงไฮ้ก็ได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ทันทีทั้งสองคน อนึ่งหลีอี้ถงที่แสดงเป็นอึ้งย้ง 2017 ไม่เคยดูหนังมังกรหยกฉบับเก่ามาก่อน ผู้กำกับบอกไม่ต้องไปดู ให้ตีความบุคลิกของบทอึ้งย้งตามความเข้าใจเองการแสดงของบทอึ้งย้งของหลี่อี้ถง จึงไม่ยึดติดกับการแสดงของอึ้งย้งคนเก่าๆ
2. จะเลือกใช้นักแสดงผสมจากฮ่องกงที่มีชื่อเสียงเข้ามาหลายคน เพื่อให้มังกรหยกทั้งสองเรื่องสามารถฉายที่ฮ่องกงแล้วมีคนฮ่องกงนิยมดูด้วย
3. เลือกใช้เพลงเดิมใน version เก่า เช่น มังกรหยก 2017 เพลงไตเติ้ลเดิมเป็นกวางตุ้ง จึงเลือกเป็นเพลงบรรเลงอย่างเดียว (ความจริงมีคนประพันธ์สำเนียงจีนกลาง แต่ยังคงเลือกใช้เพลงบรรเลงอย่างเดียว เพื่อรักษาบรรกาศต้นฉบันภาษากวางตุ้งไว้) ส่วนเพลงของดาบมังกรหยก 2019 ที่นำมาใช้เป็นจีนกลางอยู่แล้ว จึงเอามาทั้งหมด
4. ฉากการต่อสู้ เน้นสลิงกับ CG ซ้อนภาพ ไม่ใช้การปล่อยแสงใดๆ ชอบใช้ภาพสโลว์บ่อย เพื่อต้องเน้นสีหน้าและท่วงท่าของสลิงระหว่างการต่อสู้ แต่ก็มีข้อเสียคือบางครั้งบ่อย และนานเกินไป ลักษณะการต่อสู้จะไม่ใช้แบบจังหวะรับส่ง หนึ่ง สอง สาม สี่ เป็นท่าต่างๆ แบบที่ชอว์บราเดอร์และ TVB ชอบใช้
5. การถ่ายทำ เน้นซูมเข้าหน้าตัวละครทำให้เห็นภาพชัดลึกบ่อยครั้ง สลับการภาพ Tele ของ Location มีการใช้แสงและมุมกล้องดีมาก สไตล์ฮอลลีวูด งานโปรดักชั่นดูเป็นแบบระดับเดียวกับภาพยนตร์หรืองานโฆษณาที่เน้นคุณภาพของภาพที่ได้ว่าต้องสวยดูดี
6. ทีมออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบให้เสื้อผ้าที่ใส่ จะดูสบายตาแบบพาสเทล กลมกลืนกับฉากหลัง เสื้อผ้าซ้อนสีอ่อนหรือสีตัดกันเหลื่อมเข้าไปประมาณสี่ชั้น จึงดูแล้วไม่ฉูดฉาวแบบแฟนตาซี
7. ทีม sound track เก่งมาก ทำให้การดำเนินเรื่องได้อารมณ์ที่คล้อยตามได้ดีมาก ต้องไปสังเกตเองครับ
8. ยังข้อดีปลีกย่อยอีกหลายส่วน ข้อเสียก็มีบ้าง
แต่โดยรวมทั้งหมด มังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 มีความสมบูรณ์ที่สุดในตอนนี้แล้ว
อนึ่ง ตั้งแต่ 2015 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนแผ่นดินใหญ่ เข้าสู่งานคุณภาพสูงหลายเรื่องมาก ตอนนี้โดยรวมๆ การพัฒนาแซงหน้า ฮ่องกง ไต้หวัน ไปไกลพอควร
http://brxggroup.com/index.php/2017-03-31-15-27-01/2017-03-31-07-46-11/46-2017
มังกรหยก ภาคเอียก้วย 2019 มีผู้กำกับคนอื่นประกาศสร้างรีเมคแล้ว ผู้กำกับเจียงเจียจวิ้นจึงหลบไปสร้างดาบมังกรหยก 2019 แทน
ปัจจุบันส่วนใหญ่ยอมรับว่า ผลงานมังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 เป็นผลงานที่มีคุณค่าสูงและสมบูรณ์ตรงกับบทประพันธ์มากที่สุด โปรดักชั่นดีสุด casting นักแสดงเหมาะสมตรงตามบทประพันธ์และอายุของตัวละคร คอสตูมเสื้อผ้าหน้าผมดีมาก โลเกชั่นสวย และที่สำคัญบทภาพยนตร์กระชับไหลลื่น (TVB ฮ่องกง เบื่อที่เดินเรื่อง เยิ่นเย้อ บทสนทนาแข็งๆไม่เนียน ชอบเขียนบทละครเข้าป่า ดัดแปลงบทประพันธ์เดิมจนโครงเปลี่ยนไปมาก และที่สำคัญถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่ามักจะกำกับให้นักแสดงใช้สีหน้าท่าทางเกินความเหมาะสม จึงดูขาดๆเกินๆ ไม่มีความเป็นธรรมชาติ) นอกจากนี้ มีความดราม่าสูงมาก มีการพัฒนาของตัวละครเดินเรื่องอย่างมีเหตุผลมากที่สุด ให้ความสำคัญกับตัวประกอบมาก จึงดูน่าเชื่อถือและสนุกไปกับทุกตัวละครในเรื่อง มีการใช้อวจนภาษาในการแสดงสูง (ไม่ใช่ให้ตัวละครมาอธิบายว่าใครกำลังคิดอะไร หรือบรรยายภาพหรือบรรยายความรู้สึกของตัวละครด้วยเสียงแบบหนังอินเดีย)
จุดสังเกตของมังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 ของเจียงเจียจวิ้น ผู้กำกับฮ่องกง
1. มีความปราณีตในการคัดเลือกนักแสดงจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะไม่เน้นว่ามีชื่อเสียงดังมากแล้ว แต่เน้นว่าให้ตรงกับบทประพันธ์และนักแสดงหลักและตัวประกอบสามารถแสดงได้ตรงกับบทประพันธ์ ทีมคัดเลือกนักแสดงเก่งมาก คัดได้ดี เน้นหล่อและสวย ทั้งตัวหลักและตัวประกอบ ทำให้ตัวประกอบหลายตัวแสดงออกมาดูดีและน่าจดจำ ยกตัวอย่าง ตอนที่เปิดกล้องมังกรหยก 2017 ไปแล้ว ยังหานักแสดงที่แสดงเป็นอึ้งย้งที่เหมาะสมไม่ได้ ต้องรออีกพักใหญ่จะมีประกาศนักแสดงที่แสดงเป็นอึ้งย้ง นักข่าวต่างผิดหวังที่ไม่ได้เลือกนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากๆมาเป็นอึ้งย้ง แต่เลือกนักแสดงหน้าใหม่ หลี่อี้ถง (อายุ 26 ปี แต่แสดงเป็นอึ้งย้งอายุ 17 ปีได้เหมือนมาก) นักข่าวจึงไม่สนใจทำข่าว มังกรหยก 2017 มากนัก ทั้งก้วยเจ๋งและอึ้งย้งเป็นดาราหน้าใหม่ ต่างมีผลงานการแสดงไม่มาก เมื่อมังกรหยก 2017 ออกฉายที่จีนในไอ้ฉีอี้ยังไม่ทันอวสาน ในงานประกาศรางวัลที่เซี่ยงไฮ้ก็ได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งหน้าใหม่ทันทีทั้งสองคน อนึ่งหลีอี้ถงที่แสดงเป็นอึ้งย้ง 2017 ไม่เคยดูหนังมังกรหยกฉบับเก่ามาก่อน ผู้กำกับบอกไม่ต้องไปดู ให้ตีความบุคลิกของบทอึ้งย้งตามความเข้าใจเองการแสดงของบทอึ้งย้งของหลี่อี้ถง จึงไม่ยึดติดกับการแสดงของอึ้งย้งคนเก่าๆ
2. จะเลือกใช้นักแสดงผสมจากฮ่องกงที่มีชื่อเสียงเข้ามาหลายคน เพื่อให้มังกรหยกทั้งสองเรื่องสามารถฉายที่ฮ่องกงแล้วมีคนฮ่องกงนิยมดูด้วย
3. เลือกใช้เพลงเดิมใน version เก่า เช่น มังกรหยก 2017 เพลงไตเติ้ลเดิมเป็นกวางตุ้ง จึงเลือกเป็นเพลงบรรเลงอย่างเดียว (ความจริงมีคนประพันธ์สำเนียงจีนกลาง แต่ยังคงเลือกใช้เพลงบรรเลงอย่างเดียว เพื่อรักษาบรรกาศต้นฉบันภาษากวางตุ้งไว้) ส่วนเพลงของดาบมังกรหยก 2019 ที่นำมาใช้เป็นจีนกลางอยู่แล้ว จึงเอามาทั้งหมด
4. ฉากการต่อสู้ เน้นสลิงกับ CG ซ้อนภาพ ไม่ใช้การปล่อยแสงใดๆ ชอบใช้ภาพสโลว์บ่อย เพื่อต้องเน้นสีหน้าและท่วงท่าของสลิงระหว่างการต่อสู้ แต่ก็มีข้อเสียคือบางครั้งบ่อย และนานเกินไป ลักษณะการต่อสู้จะไม่ใช้แบบจังหวะรับส่ง หนึ่ง สอง สาม สี่ เป็นท่าต่างๆ แบบที่ชอว์บราเดอร์และ TVB ชอบใช้
5. การถ่ายทำ เน้นซูมเข้าหน้าตัวละครทำให้เห็นภาพชัดลึกบ่อยครั้ง สลับการภาพ Tele ของ Location มีการใช้แสงและมุมกล้องดีมาก สไตล์ฮอลลีวูด งานโปรดักชั่นดูเป็นแบบระดับเดียวกับภาพยนตร์หรืองานโฆษณาที่เน้นคุณภาพของภาพที่ได้ว่าต้องสวยดูดี
6. ทีมออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบให้เสื้อผ้าที่ใส่ จะดูสบายตาแบบพาสเทล กลมกลืนกับฉากหลัง เสื้อผ้าซ้อนสีอ่อนหรือสีตัดกันเหลื่อมเข้าไปประมาณสี่ชั้น จึงดูแล้วไม่ฉูดฉาวแบบแฟนตาซี
7. ทีม sound track เก่งมาก ทำให้การดำเนินเรื่องได้อารมณ์ที่คล้อยตามได้ดีมาก ต้องไปสังเกตเองครับ
8. ยังข้อดีปลีกย่อยอีกหลายส่วน ข้อเสียก็มีบ้าง
แต่โดยรวมทั้งหมด มังกรหยก 2017 และดาบมังกรหยก 2019 มีความสมบูรณ์ที่สุดในตอนนี้แล้ว
อนึ่ง ตั้งแต่ 2015 เป็นต้นมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนแผ่นดินใหญ่ เข้าสู่งานคุณภาพสูงหลายเรื่องมาก ตอนนี้โดยรวมๆ การพัฒนาแซงหน้า ฮ่องกง ไต้หวัน ไปไกลพอควร
แสดงความคิดเห็น
มังกรหยก 2017 ดาบมังกรหยก 2019 แล้วมังกรหยกภาค 2 (เอี๊ยะก้วย เซียวเหล่งนึ่ง) มีไหมครับ?
ผมเพิ่งเริ่มดูมังกรหยกเมื่อไม่นานมานี้
โดยภาคแรกที่ดู คือ มังกรหยก 2017
ดูแล้วติดงอมแงม งานภาพอลังการ
แล้วก็มาเห็นดาบมังกรหยก 2019 เข้าใจว่าเป็นทีมสร้างชุดเดียวกัน
แล้วภาคเอี๊ยก้วย ทีมนี้เค้าทำด้วยไหมครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบล่วงหน้าครับ
Edit1. ถามเพิ่มเป็นความรู้นะครับ
ตามที่ผมเข้าใจควรจะสร้าง 1 2 3 ตามลำดับ
ทำไมรอบนี้ถึงสร้าง 1 แล้วไป 3 เลย
หรือว่า ตั้งแต่เมื่อก่อน (ทีมอื่นๆ) ก็สร้างไม่เรียงเหมือนกันครับ?