หลวงปู่มั่นฯ สอนหลวงปู่ขาวฯ...ความเป็นอาจาย์คนนั้นสำคัญมาก...อาจารย์ผิดเพียงคนเดียวอาจพาคนอื่น ๆ ผิดไปด้วย"
》หลวงปู่มั่น ได้เทศน์สอนหลวงปู่ขาว ในสมาธิต่อไปว่า :-
"ท่านเอง (หลวงปู่ขาว) กำลังจะเป็นอาจารย์ของคนจำนวนมาก จึงควรทำกรุยหมายที่ถูกต้องดีงามไว้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กุลบุตร สุดท้ายภายหลัง ผู้ดำเนินตามจะไม่ผิดหวัง
ความเป็นอาจารย์คนนั้นสำคัญมาก จึงควรพิจารณาด้วยดี อาจารย์ผิดเพียงคนเดียว อาจพาคนอื่น ๆ ผิดไปด้วยเป็นจำนวนมากมาย
อาจารย์ทำถูกเพียงคนเดียว ก็สามารถนำผู้อื่นให้ถูกด้วยไม่มีประมาณเช่นเดียวกัน
ท่านควรพิจารณาเกี่ยวกับความเป็นอาจารย์ของคนจำนวนมากให้รอบคอบ เพื่อคนอื่นจะมีทางเดินโดยสะดวกราบรื่น ไม่ผิดพลาด เพราะความยึดเราเป็นอาจารย์สั่งสอน
คำว่า อาจารย์ ก็คือผู้ฝึกสอน หรืออบรมกิริยา ความเคลื่อนไหวที่แสดงออกแต่ละอาการ ควรให้ผู้อาศัยเป็นหลักดำเนินได้ ไม่เป็นกิริยาที่แสดงออกจากความผิดพลาด เพราะขาดการพิจารณาไตร่ตรองก่อนแสดงออกมา
พระพุทธเจ้าที่ว่าทรงเป็นศาสดาสอนโลกนั้น มิได้เป็นศาสดาเพียงเวลาแสดงธรรมให้พุทธบริษัทฟังเท่านั้น แต่ทรงเป็นศาสดาของโลกอยู่ทุกอิริยาบถ
ทรงสีหไสยาสน์ คือนอนตะแคงข้างขวาก็ดี ประทับนั่งก็ดี ประทับยืนก็ดี เสด็จไปในที่ต่าง ๆ แม้ที่สุดเสด็จภายในวัดก็ดี ล้วนเป็นศาสดาประจำพระอาการอยู่ทุก ๆ อิริยาบถ พระองค์ไม่ทรงทำให้ผิดพลาดจากความเป็นศาสดาเลย
ผู้มีสติปัญญาชอบวินิจฉัยไตร่ตรองอยู่แล้ว ย่อมยึดเป็นคติตัวอย่างเครื่องพร่ำสอนตนได้ทุก ๆ พระอาการที่ทรงเคลื่อนไหว
อย่าเข้าใจว่าพระองค์จะทรงปล่อยปละละเลยมารยาทเหมือนโลกทั้งหลาย ที่ชอบทำกิริยาต่าง ๆ จากคน ๆ เดียวในสถานที่ต่าง ๆ อยู่ที่หนึ่งประพฤติตัวอย่างหนึ่ง ไปอยู่ที่หนึ่งประพฤติตัวอีกอย่างหนึ่ง ไปอยู่ในที่อีกอย่างหนึ่ง แสดงกิริยาอาการอย่างหนึ่งเป็นลักษณะเปรตผี ทั้งเป็นคนดีทั้งเป็นคนชั่วทุกทิศไม่มีประมาณให้พอยึดเป็นหลักได้ทั้งตัวเองและผู้อื่น
ส่วนพระพุทธเจ้า มิได้เป็นอย่างโลกดังกล่าวมา แต่ทรงเป็นศาสดาทุกพระอิริยาบถ ตลอดวันนิพพาน
แต่ละพระอาการที่แสดงออก ทรงมีศาสดาประจำมิได้บกพร่องเลย ใครจะยึดเป็นสรณะ คือหลักที่พึ่งพิงเพื่อดำเนินตามเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น โดยไม่เลือกว่าเป็นพระอิริยาบถหรือพระอาการใด
จึงสมพระนามว่าเป็นศาสดาของโลกทั้งสาม"《
***ขออนุโมทนา ขอขอบคุณและขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา ข้อความข้างบนนี้เป็นโอวาทธรรมส่วนหนึ่ง จากหนังสือ "หลวงปู่ขาว อนาลโย" วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โครงการหนังสือบูรพาจรย์ เล่ม ๔ หน้า ๒๖๘ - ๒๗๐ สาธุๆๆ***
สารพัดธรรม(ทำ)
หลวงปู่มั่นฯ สอนหลวงปู่ขาวฯ...ความเป็นอาจาย์คนนั้นสำคัญมาก...อาจารย์ผิดเพียงคนเดียวอาจพาคนอื่น ๆ ผิดไปด้วย"
》หลวงปู่มั่น ได้เทศน์สอนหลวงปู่ขาว ในสมาธิต่อไปว่า :-
"ท่านเอง (หลวงปู่ขาว) กำลังจะเป็นอาจารย์ของคนจำนวนมาก จึงควรทำกรุยหมายที่ถูกต้องดีงามไว้ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กุลบุตร สุดท้ายภายหลัง ผู้ดำเนินตามจะไม่ผิดหวัง
ความเป็นอาจารย์คนนั้นสำคัญมาก จึงควรพิจารณาด้วยดี อาจารย์ผิดเพียงคนเดียว อาจพาคนอื่น ๆ ผิดไปด้วยเป็นจำนวนมากมาย
อาจารย์ทำถูกเพียงคนเดียว ก็สามารถนำผู้อื่นให้ถูกด้วยไม่มีประมาณเช่นเดียวกัน
ท่านควรพิจารณาเกี่ยวกับความเป็นอาจารย์ของคนจำนวนมากให้รอบคอบ เพื่อคนอื่นจะมีทางเดินโดยสะดวกราบรื่น ไม่ผิดพลาด เพราะความยึดเราเป็นอาจารย์สั่งสอน
คำว่า อาจารย์ ก็คือผู้ฝึกสอน หรืออบรมกิริยา ความเคลื่อนไหวที่แสดงออกแต่ละอาการ ควรให้ผู้อาศัยเป็นหลักดำเนินได้ ไม่เป็นกิริยาที่แสดงออกจากความผิดพลาด เพราะขาดการพิจารณาไตร่ตรองก่อนแสดงออกมา
พระพุทธเจ้าที่ว่าทรงเป็นศาสดาสอนโลกนั้น มิได้เป็นศาสดาเพียงเวลาแสดงธรรมให้พุทธบริษัทฟังเท่านั้น แต่ทรงเป็นศาสดาของโลกอยู่ทุกอิริยาบถ
ทรงสีหไสยาสน์ คือนอนตะแคงข้างขวาก็ดี ประทับนั่งก็ดี ประทับยืนก็ดี เสด็จไปในที่ต่าง ๆ แม้ที่สุดเสด็จภายในวัดก็ดี ล้วนเป็นศาสดาประจำพระอาการอยู่ทุก ๆ อิริยาบถ พระองค์ไม่ทรงทำให้ผิดพลาดจากความเป็นศาสดาเลย
ผู้มีสติปัญญาชอบวินิจฉัยไตร่ตรองอยู่แล้ว ย่อมยึดเป็นคติตัวอย่างเครื่องพร่ำสอนตนได้ทุก ๆ พระอาการที่ทรงเคลื่อนไหว
อย่าเข้าใจว่าพระองค์จะทรงปล่อยปละละเลยมารยาทเหมือนโลกทั้งหลาย ที่ชอบทำกิริยาต่าง ๆ จากคน ๆ เดียวในสถานที่ต่าง ๆ อยู่ที่หนึ่งประพฤติตัวอย่างหนึ่ง ไปอยู่ที่หนึ่งประพฤติตัวอีกอย่างหนึ่ง ไปอยู่ในที่อีกอย่างหนึ่ง แสดงกิริยาอาการอย่างหนึ่งเป็นลักษณะเปรตผี ทั้งเป็นคนดีทั้งเป็นคนชั่วทุกทิศไม่มีประมาณให้พอยึดเป็นหลักได้ทั้งตัวเองและผู้อื่น
ส่วนพระพุทธเจ้า มิได้เป็นอย่างโลกดังกล่าวมา แต่ทรงเป็นศาสดาทุกพระอิริยาบถ ตลอดวันนิพพาน
แต่ละพระอาการที่แสดงออก ทรงมีศาสดาประจำมิได้บกพร่องเลย ใครจะยึดเป็นสรณะ คือหลักที่พึ่งพิงเพื่อดำเนินตามเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น โดยไม่เลือกว่าเป็นพระอิริยาบถหรือพระอาการใด
จึงสมพระนามว่าเป็นศาสดาของโลกทั้งสาม"《
***ขออนุโมทนา ขอขอบคุณและขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา ข้อความข้างบนนี้เป็นโอวาทธรรมส่วนหนึ่ง จากหนังสือ "หลวงปู่ขาว อนาลโย" วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โครงการหนังสือบูรพาจรย์ เล่ม ๔ หน้า ๒๖๘ - ๒๗๐ สาธุๆๆ***