ผมมีรายได้ค่อนข้างสูงจากการทำงานหนัก หลังเกษียณตั้งใจว่ามีเงิน 13-15 ล้าน หลังจากอ่านข้อมูลในพันทิปมาก ๆ ก็เลยวางเป้าหมายทำงานต่อไปให้หนักขึ้นวางแผนการใช้เงิน ลงทุนมากขึ้น ทำให้คาดว่าหลังเกษียณน่าจะมีเงินเกิน 20 ล้าน มี passive income ต่อเดือนเกิน 80,000 / เดือนขึ้นไปหลังเกษียณแล้วคิดว่าจะเที่ยวอย่างเดียว ดูผิวเผินน่าจะมีความสุขใช่ไหมครับเพราะมันก็ค่อย ๆ เป็นไปตามเป้าหมายในด้านการเงิน
แต่ช่วง1-2 ปีนี้ผมเห็นคนเกษียณอายุจาการทำงานใกล้ตัวร่างกายสุขภาพไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ และทยอยเสียชีวิตราวใบไม้ร่วงทำให้รู้สึกนอยด์อย่างมาก ชีวิตจริงหลังเกษียณมันอาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดสำหรับคนอีกหลาย ๆ คน
ผมยกตัวอย่าง
1.ลูกน้องผม 2 คนเกษียณอายุตามวาระ 55ปีของบริษัทเอกชน ได้เงินเกษียณไปหลักล้าน ทั้ง 2 คนมีชีวิตอยู่ไม่เกิน 5 ปี
- คนแรก อาศัยใน กทมต่อไปเพราะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ไม่คิดกลับ ตจว 3 ปีหลังจากเกษียณ เป็นโรคประจำตัวหน้ามืดลื่นล้มในห้องน้ำเสียชีวิต ใช้เงินเกษียณไม่ทันหมด
- คนที่ 2 กลับ ตจว วางแผนไปเลี้ยงปลาตามที่ตั้งใจอยู่ได้5 ปี เป็นลมหมดสติจมน้ำตายคาบ่อปลาเงินเกษียณไม่ทันหมดเหมือนกัน
2.คนรอบตัวอีกหลายคนวัยเกิน 80 ปีหมดสภาพทางร่างกายไปเยอะมาก ส่วนใหญ่ป่วยนอนติดเตียงเป็นภาระลูกหลานคนใกล้ชิดอย่างมาก เพราะเสียทั้งเงินและเวลาไปมากมายในการดูแลบางคนกว่าจะตายก็อีกหลายปีหลังจากการนอนติดเตียงสภาพน่าเวทนาทั้งตัวเองและคนดูแลอย่างมาก มีน้อย ที่อายุ 80ไปแล้วเดินเหินเที่ยวอย่างมีความสุข
ส่วนใหญ่จะตายช่วงอายุ 80 กว่าปีเยอะ ที่ผมเห็นอายุเกิน 80 ปีแล้วจะอยู่อย่างมีความสุขได้
2.1 คนอายุ 80ปีขึ้นไปต้องแข้งแรงมาก เดินเที่ยว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ได้ ทำกิจกรรมพวกนี้ได้รับรองมีความสุข
2.2ต้องมีเงินเหลือกินเหลือใช้เข้าขั้นเศรษฐีให้ลูกหลานไม่ลำบากไปอีก 3 ชั่วอายุคน ป่วยทีเข้า รพ. เอกชนฉุกเฉินจ่ายเงินได้ไม่มีปัญหา ไม่สะเทือนฐานะ
คือถ้าไม่ใช่แบบ ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมาผมว่าป่วยการที่จะมีชีวิตอยู่เกินอายุ 80 ปี เพราะลำบากทั้งตัวเองและคนใกล้ชิดรอบข้างที่มาลำบากกับการดูแลเราไปด้วย ผมยังคิดเลยว่าเราจะสะสมเงินไปทำไมตั้งมากมาย แก่แล้วก็ลำบาก ถ้าไม่มีแบบทั้ง 2ข้อ ชีวิตที่เหลืออยู่หลังเกษียณอายุ 80 ปีมันก็ไม่น่าอภิรมย์ให้มีชีวิตอยู่แล้วละ อยากให้เมืองไทยมีการุณฆาตจริงๆ ผมก็อยากเลือกจบชีวิตตนเองแบบนั้นเหมือนกัน
มนุษย์เงินเดือนหลังจากเกษียณ คิดว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขได้อีกกี่ปี
แต่ช่วง1-2 ปีนี้ผมเห็นคนเกษียณอายุจาการทำงานใกล้ตัวร่างกายสุขภาพไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ และทยอยเสียชีวิตราวใบไม้ร่วงทำให้รู้สึกนอยด์อย่างมาก ชีวิตจริงหลังเกษียณมันอาจไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดสำหรับคนอีกหลาย ๆ คน
ผมยกตัวอย่าง
1.ลูกน้องผม 2 คนเกษียณอายุตามวาระ 55ปีของบริษัทเอกชน ได้เงินเกษียณไปหลักล้าน ทั้ง 2 คนมีชีวิตอยู่ไม่เกิน 5 ปี
- คนแรก อาศัยใน กทมต่อไปเพราะซื้อบ้านอยู่ที่นี่ไม่คิดกลับ ตจว 3 ปีหลังจากเกษียณ เป็นโรคประจำตัวหน้ามืดลื่นล้มในห้องน้ำเสียชีวิต ใช้เงินเกษียณไม่ทันหมด
- คนที่ 2 กลับ ตจว วางแผนไปเลี้ยงปลาตามที่ตั้งใจอยู่ได้5 ปี เป็นลมหมดสติจมน้ำตายคาบ่อปลาเงินเกษียณไม่ทันหมดเหมือนกัน
2.คนรอบตัวอีกหลายคนวัยเกิน 80 ปีหมดสภาพทางร่างกายไปเยอะมาก ส่วนใหญ่ป่วยนอนติดเตียงเป็นภาระลูกหลานคนใกล้ชิดอย่างมาก เพราะเสียทั้งเงินและเวลาไปมากมายในการดูแลบางคนกว่าจะตายก็อีกหลายปีหลังจากการนอนติดเตียงสภาพน่าเวทนาทั้งตัวเองและคนดูแลอย่างมาก มีน้อย ที่อายุ 80ไปแล้วเดินเหินเที่ยวอย่างมีความสุข
ส่วนใหญ่จะตายช่วงอายุ 80 กว่าปีเยอะ ที่ผมเห็นอายุเกิน 80 ปีแล้วจะอยู่อย่างมีความสุขได้
2.1 คนอายุ 80ปีขึ้นไปต้องแข้งแรงมาก เดินเที่ยว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ได้ ทำกิจกรรมพวกนี้ได้รับรองมีความสุข
2.2ต้องมีเงินเหลือกินเหลือใช้เข้าขั้นเศรษฐีให้ลูกหลานไม่ลำบากไปอีก 3 ชั่วอายุคน ป่วยทีเข้า รพ. เอกชนฉุกเฉินจ่ายเงินได้ไม่มีปัญหา ไม่สะเทือนฐานะ
คือถ้าไม่ใช่แบบ ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมาผมว่าป่วยการที่จะมีชีวิตอยู่เกินอายุ 80 ปี เพราะลำบากทั้งตัวเองและคนใกล้ชิดรอบข้างที่มาลำบากกับการดูแลเราไปด้วย ผมยังคิดเลยว่าเราจะสะสมเงินไปทำไมตั้งมากมาย แก่แล้วก็ลำบาก ถ้าไม่มีแบบทั้ง 2ข้อ ชีวิตที่เหลืออยู่หลังเกษียณอายุ 80 ปีมันก็ไม่น่าอภิรมย์ให้มีชีวิตอยู่แล้วละ อยากให้เมืองไทยมีการุณฆาตจริงๆ ผมก็อยากเลือกจบชีวิตตนเองแบบนั้นเหมือนกัน