ตำนานหนังแอ็คชั่นไตรภาค Taken หนังดังที่แจ้งเกิดดารารุ่นใหญ่สายดราม่าที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่าง เลียม นีสัน สู่แอ็คชั่นสตาร์ในวัย 56 ปี ณ ตอนนั้น ตอน Taken ภาคแรกเข้าฉายในปี 2008 มันสร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งภาพยนตร์แอ็คชั่น เมื่อพระเอกของเรื่องไม่จำเป็นต้องเป็นคนหนุ่ม อายุเยอะแต่ก็ยังบู๊หนักได้เหมือนคนหนุ่ม และเป็นผลงานแอ็คชั่นเต็มตัวอย่างเป็นทางการของเลียม นีสัน เพราะก่อนหน้าแกจะจับงานแต่ดราม่าหนักๆหนังชิงรางวัลทั้งนั้น

 หนังเรื่อง Taken ในภาคแรกกำกับการแสดงโดย Pierre Morel ที่ก่อนหน้าแกคนนี้เคยเป็นผกก.ภาพในเรื่อง The Transporter (2002) มาก่อนและแกเคยได้กำกับหนัง
แอ็คชั่นสัญชาติฝรั่งเศสที่โด่งดังมาแล้วเรื่อง B-13 (2004) ภายหลังเรื่องนี้ทางฮฮลลีวู้ดได้ซื้อไปทำรีเมคนำแสดงโดย พอล วอล์กเกอร์ ในชื่อ Brick Mansion (2013) หนังยังได้โปรดิวเซอร์/มือเขียนบท อย่าง Luc Besson ผกก.ชื่อดังจากเรื่อง Leon The Professional (1994), The Fifth Element (1998), Lucy (2014) 

 ความตั้งใจแรกของตัวทีมงานผู้สร้างเรื่อง Taken นั้น ต้องการแค่ทำหนังแอ็คชั่นเรื่องหนึ่งขึ้นมาแค่นั้น ใจจริงแค่ลงแผ่นดีวีดีขายตามร้านโฮมวีดิโอไม่ต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ด้วยทุนสร่างไม่ได้มากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนังเกรดบีก็ว่าได้ การแคส
ติ้งเอานักแสดงฝีมือดีอย่าง เลียม นีสัน มาแสดงนั้น ตัวเลียม เคยสัมภาษณ์ว่า เขานั่นแค่ลองเปลี่ยนบทมาแสดงบทแอ็คชั่นหนักๆลืมเรื่องอายุของเราบ้างแค่นั้น และเป็นหนังคั้นเวลาระหว่างที่แกกำลังจะมีหนังโปรเจ็กต์ใหญ่ แต่ผลของมันคือหนังเกรดบีสัญชาติฝรั่งเศสเรื่องนี้ มันไปไกลกว่านั้นมาก หนังได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์และได้ไปฉายในอเมริกา ติดหนังดีทำเงินสูงสุด 4 สัปดาห์ติดใน Box Office 

 พล็อตเรื่องของหนังก็ไม่ได้มีอะไรมากกมาย หนังเล่าเรื่องของคุณพ่อคนหนึ่ง ไบรอัน
มิลล์ ที่ยอมลาออกจากงานก่อนจะเกษียนอายุเพื่อพยายามเข้าใกล้ชิดผูกความสัมพันธ์กับลูกสาวของเขา คิม ที่อดีตภรรยาของเขาได้ไปแต่งงานใหม่กับเศรษฐีนักธุรกิจคนหนึ่ง และอดีตภรรยาของไบรอันก็ดูไม่กินเส้นของเขาเท่าไหร่ ไม่นานหลังไบรอันได้พยายามผูกความสัมพันธ์ใหม่กับคิม คิมและเพื่อนสาวของเธอได้เดินทางไปเที่ยว เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส และถูก
แกงค์ลักพาตัวชาวอาเมเนี่ยนจับตัวไปบังคับขายตัวต่อ เมื่อไบรอันรู้ข่าวการหายตัวของคิมและเพื่อนสาว ลุงแกก็บุกเดี่ยวเดินทางจาก อเมริกา ไปฝรั่งเศส เมื่อตามหาคิม โดยใช้ความรู้ความสามารถเก่าของงานในอดีตของแก แกเป็นอดีตสายลับซีไอเอ ซึ่งตรงนี้ผมว่าหนังทำได้เจ๋ง คือ พระเอกไม่ได้เก่งแต่ต่อสู้ ยังโชว์ไหวพริบ เก่งการสืบสวนสืบสวน การแกะรอย ซึ่งภาคแรกดูจบมันเต็มอิ่มทั้งการแสดงดีๆของลุงเลียม และฉากแอ็คชั่นที่ไม่น่าเชื่อว่าคนอายุห้าสิบกว่าที่ไม่ค่อยได้แสดงหนังแอ็คชั่นจะแสดงได้ดีขนาดนี้ 

 ในภาคสองและภาคสามหนังได้ไฟเขียวสร้างต่อ เนื่องจากรายได้และคำวิจารณ์ในภาคแรกดี ภาคสองและภาคสามกำกับโดย Olivier Megaton ผกก.จากเรื่อง Transporter 3 (2008) ซึ่งภาคสองหนังรายได้ไม่ดีและคำวิจารณ์ติดลบ (แต่ผมชอบนะ) แกกลับมาแก้ตัวในภาคสาม หนังกลับมาติดอันดับหนังทำเงินสูงสุดบน US Box Office ตลอดทั้งเดือน ถึงคำวิจารณ์จะไม่ดีนัก แต่รายได้ภาคนี้ดีกว่าภาคก่อน เพราะเนื่องจากเป็นภาคสุดท้ายของหนังชุดนี้ด้วย และพล็อตเรื่องที่ไม่ซ้ำซากเกี่ยวกับการลักพาตัวแบบสองภาคแรก หนังมาแนวแอ็คชั่นสืบสวนสอบสวนมากขึ้น ปัญหาของหนังภาคสองและภาคสาม คือ การตัดต่อภาพไวไปด้วยในฉาก
แอ็คชั่น คัทบ่อยมาก และก็ shaky cam ทำให้ดูฉากแอ็คชั่นไม่ค่อยรู้เรื่อง ทำสไตล์หนังตระกูล Jason Bourne สไตล์ผกก. Paul Greengrass นั่นแหละ แต่ Olivier Megaton ผมว่ายังทำไม่ดีถึงขั้นเฮียพอล แต่ผมก็ยังดูหนังจนจบได้ เพราะ ชอบหนังภาคแรกมากๆและการแสดงของเลียมในบทนี้ด้วยเลยไม่ได้สนใจตรงจุดนี้มาก

 Taken 2 (2012) หนังเล่าเรื่องต่อจากเหตุการณ์ภาคแรกหนึ่งปีให้หลังที่ไบรอันได้ช่วยคิมลูกสาวออกมาจากปารีสได้ ตอนนี้พวกแกงค์อามาเนี่ยนที่เหลือที่โดนลุงไบรอันแกฆ่าทิ้ง ได้เตรียมการมาล้างแค้นลุงแกกับครอบครัว ขณะที่ไบรอันได้มาทำงานเป็นบอดี้การ์ดในเมืองอิสตันบูล ประเทศตรุกี และได้พาครอบครัวแกมาเที่ยวด้วย พวกตัวร้ายก็ได้เข้ามาพยายามจับตัวแกกับครอบครัว แต่เนื่องจากสถานการณ์คับขันทำให้ไบรอันต้องจำยอมให้ถูกจับตัวพร้อมกับอดีตภรรยาของแก มีเพียงคิมเท่านั้นที่รอดจากการถูกจับ และไบรอันได้พยายามติดต่ออย่างลับๆระหว่างถูกจับตัวให้คิมทำตามคำสั้งของเขา ในการหาตำแหน่งที่เขากับเมียถูกจับ และหาทางออกไปตามเก็บพวกมันทีละคนอย่างที่ไบรอันถนัดทำคือการแกะรอยหาเหยื่อและฆ่าทิ้ง 

 Taken 3 (2015) เมื่อไบรอันถูกใส่ร้ายและจัดฉากจากกลุ่มบุคคลปริศนาว่าแกได้ฆาตกรรมอดีตภรรยาของแกที่ห้องพักของแกเอง คราวนี้เหตุเกิดในบ้านเกิดของแก ในเมืองแอลเอ อเมริกา ทำให้แกมีการติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของแก ซึ่งเคยเป็นสายลับซีไอเอเหมือนแก ในการสืบหาคนก่อเรื่อง ขณะที่แกต้องหนีการจับกุมจากตำรวจทั่วเมืองที่หมายตัวจับแก และแกต้องปกป้องสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของแกด้วยนั่นคือ คิม ลูกสาวของแกที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มคนปริศนาด้วย

 ตัวละคร ไบรอัน มิลล์ ของลุงเลียม นีสัน เป็นอีกหนึ่งในตัวละครในโลกภาพยนตร์
แอ็คชั่นที่โด่งดัง แล้วหลายๆสิ่งที่น่าจดจำในหนังที่แกได้ทำไว้ อย่างฉากโทรศัพท์กับประโยคเด็ดในเรื่อง "I will find you and I will kill you." เล่นเอามาล้อกันจนถึงทุกวันนี้ และเป็นฉากตำนานที่คนดูส่วนใหญ่จดจำมากกว่าฉากแอ็คชั่นในเรื่องซะอีก

 หนังชุด Taken ทั้งสามภาค ก็ไม่ต่างกับหนังเรื่อง Transporter หรือ John Wick ที่ความตั้งใจแรกของทีมงานไม่ได้คาดหวังให้หนังดังและมาไกลจนได้สร้างภาคต่อ และทำให้นักแสดงนำที่ดังอยู่แล้วกลับขึ้นมาดังกว่าเดิมอีกและตัวละครเอกก็ดังเป็นที่จดจำเช่นกันทั้ง
ไบรอัน มิลล์ และ จอห์น วิค รวมถึงบทของเจสัน สเตแธม แฟรงค์ มาร์ตินในเรื่อง Transporter  

 ปัจจุบันนี้ เลียม นีสัน อายุ 67 ปีแล้ว ก็ยังมีผลงานหนังหลากหลายแนวออกมาให้เห็น แต่หลัง Taken ภาคแรก แกก็เป็นไอคอนคนหนึ่งที่ต้องแสดงหนังแนวแอ็คชั่นมาตลอด หลายบทต่อจากเรื่อง Taken ก็จะติดภาพแกจาก
บทไบรอัน มิลล์ นี้แหละ เหมือน เจสัน สเตแธม ที่จะไปแสดงหนังบู๊เรื่องไหนก็จะติดภาพจากหนังเรื่อง Transporter แต่ชื่อของเลียม นีสัน ก็ยังขายได้ถึงทุกวันนี้ ถึงอาจจะไม่เป็นที่นิยมมากมายเหมือนสมัยแกแสดง Taken ใหม่ๆก็ตาม 

 นี่เป็นหนึ่งในหนังแอ็คชั่น
ภาคต่อที่ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ฉากแอ็คชั่นไม่ได้อลังการ เน้นความสมจริง พล็อตเรื่องง่ายๆแต่น่าสนใจ ทำให้หนังเรื่อง Taken เป็นตำนานที่คอหนังทั่วโลกไม่มีวันลืม บทคุณพ่อสุดโหดผู้หวงลูก ไบรอัน มิลล์ คนนี้ครับ