เผยแพร่: 1 เม.ย. 2562 21:35 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ชาวฮ่องกง และแฟนผลงานต่างเรียก เลสลีจางอย่างคุ้นเคยว่า เกอเกอ ซึ่งมีความหมายถึง พี่ชาย หรือ พี่ใหญ่ ไม่ใช่เพียงเพราะบารมีความยิ่งใหญ่ หรืออิทธิพลที่เขามีกับทั้งวงการเพลง และภาพยนตร์ฮ่องกง แต่ยังเรียกขานด้วยความรู้สึกรัก ใกล้ชิด เหมือนเลสลีจางเป็น พี่ที่รักในครอบครัวของตน การสูญเสียเขา จึงเปรียบเหมือนการสูญเสียคนในครอบครัวไปตลอดกาล
ไชน่าเดลี - ร่วมรำลึกอาลัยการจากไป ของเลสลี จาง นักร้องและนักแสดงในดวงใจ ซึ่งฆ่าตัวตายเนื่องจากภาวะซึมเศร้า ซึ่งในปีนี้เป็นวันครบรอบ 16 ปีของการเสียชีวิต เลสลี จาง กระโดดจากระเบียงชั้น 24 โรงแรม Mandarin Oriental Hotel จบชีวิตตัวเอง เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ปี 2003 ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมา แฟนๆ ในฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฯลฯ จะมาชุมนุมกันเพื่อร่วมรำลึกถึงการจากไปของเขาบริเวณด้านหน้าโรงแรมแห่งนี้
"ฉันเป็นประกายสีพร่างพราว ฉันรักตัวเอง เหมือนดอกกุหลาบกำลังรอคอยที่จะผลิบานความงามแม้ในทะเลทราย" นี่เป็นท่อนเนื้อร้องของเพลง I am what I am ที่เลสลีจางขับขาน ให้ความสุขและกำลังใจผู้คน
เลสลี จาง คือหนึ่งในบุคคลสำคัญผู้สถาปนาวงการ Cantopop ให้ดังไปทั่วเอเชีย ก่อนที่ในเวลาต่อมายังบรรลุความสำเร็จสูงสุดเป็นหนึ่งในหัวขบวนนำยุคทองสู่วงการภาพยนตร์ฮ่องกง
เลสลี จาง เริ่มอาชีพของเขาในฐานะนักร้อง เมื่อปี 1977 แต่ความสำเร็จไม่ได้มาชั่วข้ามคืน เขาต้องอดทนอุตสาหะนานถึง 6 ปี จึงประสบความสำเร็จ จากเพลง The Wind Blows On ในปี 1983 และนับแต่นั้นอัลบัมเพลงของเขาก็ได้รับความนิยมมากมายเพลงแล้วเพลงเล่า ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงการได้รับการยกย่องให้เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่งาน CCTV-MTV Music Honors ปี 2000
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จทางการเป็นนักร้องมาถึงจุดอิ่มตัว เขาประกาศอำลาเวทีในปี 1995 เพื่อไปใช้ชีวิตที่ประเทศแคนาดา แม้จะมีคนใกล้ชิดจำนวนมากเตือนว่า ที่แคนาดาจะทำให้เขายิ่งคิดถึงฮ่องกง เขาไม่อาจจากแฟนเพลงของเขาไปไหนได้ ไม่นานเขาจะต้องกลับมา
และแล้ว หลังจากฮ่องกงไป 5 ปี เลสลีจาง กลับมาอีกครั้งจริงๆ แต่ไม่ได้กลับมาในฐานะนักร้อง แต่กลับมาในบทบาทด้านการแสดงภาพยนตร์ บทบาทการแสดงของเลสลี จาง เรื่องแล้วเรื่องเล่าในยุคนั้น ได้กรุยทางยุคทองแห่งภาพยนตร์ฮ่องกง ที่ผงาดระดับสากล ผลงานคลาสสิกมากมายของเขา ไม่มีใครแล้วสามารถเทียบเคียงได้จนถึงทุกวันนี้
บางคนอาจพูดว่า ไม่รู้จักเพลงของเลสลี จาง แต่ต้องรู้จักภาพยนตร์ของเขาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองเรื่อง แม้สื่อบันเทิงโลกตะวันตกยังยอมรับว่า “เลสลีจาง คือยักษ์ใหญ่เอเชีย เป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีการแสดงบนเวทีที่น่าตื่นเต้น ความงามที่น่าอัศจรรย์ และทักษะการแสดงระดับเป็นเลิศ”
ชาวฮ่องกง และแฟนผลงานต่างเรียก เลสลีจางอย่างคุ้นเคยว่า "เกอเกอ" ซึ่งมีความหมายถึง "พี่ชาย หรือ พี่ใหญ่" ไม่ใช่เพียงเพราะบารมีความยิ่งใหญ่ หรืออิทธิพลที่เขามีกับทั้งวงการเพลง และภาพยนตร์ฮ่องกง แต่ยังเรียกขานด้วยความรู้สึกรัก ใกล้ชิด เหมือนเลสลีจางเป็น พี่ที่รักในครอบครัวของตน การสูญเสียเขา จึงเปรียบเหมือนการสูญเสียคนในครอบครัวไปตลอดกาล
ชมภาพ เลสลี จาง เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึง "พี่ชาย" อันเป็นที่รักไม่เคยเสื่อมคลาย
MGRonline
เลสลี จาง กี่ปีผ่านไป ยังอยู่ในความทรงจำตลอดกาล
ชาวฮ่องกง และแฟนผลงานต่างเรียก เลสลีจางอย่างคุ้นเคยว่า เกอเกอ ซึ่งมีความหมายถึง พี่ชาย หรือ พี่ใหญ่ ไม่ใช่เพียงเพราะบารมีความยิ่งใหญ่ หรืออิทธิพลที่เขามีกับทั้งวงการเพลง และภาพยนตร์ฮ่องกง แต่ยังเรียกขานด้วยความรู้สึกรัก ใกล้ชิด เหมือนเลสลีจางเป็น พี่ที่รักในครอบครัวของตน การสูญเสียเขา จึงเปรียบเหมือนการสูญเสียคนในครอบครัวไปตลอดกาล
ไชน่าเดลี - ร่วมรำลึกอาลัยการจากไป ของเลสลี จาง นักร้องและนักแสดงในดวงใจ ซึ่งฆ่าตัวตายเนื่องจากภาวะซึมเศร้า ซึ่งในปีนี้เป็นวันครบรอบ 16 ปีของการเสียชีวิต เลสลี จาง กระโดดจากระเบียงชั้น 24 โรงแรม Mandarin Oriental Hotel จบชีวิตตัวเอง เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ปี 2003 ซึ่งนับจากวันนั้นเป็นต้นมา แฟนๆ ในฮ่องกง, จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฯลฯ จะมาชุมนุมกันเพื่อร่วมรำลึกถึงการจากไปของเขาบริเวณด้านหน้าโรงแรมแห่งนี้
"ฉันเป็นประกายสีพร่างพราว ฉันรักตัวเอง เหมือนดอกกุหลาบกำลังรอคอยที่จะผลิบานความงามแม้ในทะเลทราย" นี่เป็นท่อนเนื้อร้องของเพลง I am what I am ที่เลสลีจางขับขาน ให้ความสุขและกำลังใจผู้คน
เลสลี จาง คือหนึ่งในบุคคลสำคัญผู้สถาปนาวงการ Cantopop ให้ดังไปทั่วเอเชีย ก่อนที่ในเวลาต่อมายังบรรลุความสำเร็จสูงสุดเป็นหนึ่งในหัวขบวนนำยุคทองสู่วงการภาพยนตร์ฮ่องกง
เลสลี จาง เริ่มอาชีพของเขาในฐานะนักร้อง เมื่อปี 1977 แต่ความสำเร็จไม่ได้มาชั่วข้ามคืน เขาต้องอดทนอุตสาหะนานถึง 6 ปี จึงประสบความสำเร็จ จากเพลง The Wind Blows On ในปี 1983 และนับแต่นั้นอัลบัมเพลงของเขาก็ได้รับความนิยมมากมายเพลงแล้วเพลงเล่า ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงการได้รับการยกย่องให้เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่งาน CCTV-MTV Music Honors ปี 2000
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จทางการเป็นนักร้องมาถึงจุดอิ่มตัว เขาประกาศอำลาเวทีในปี 1995 เพื่อไปใช้ชีวิตที่ประเทศแคนาดา แม้จะมีคนใกล้ชิดจำนวนมากเตือนว่า ที่แคนาดาจะทำให้เขายิ่งคิดถึงฮ่องกง เขาไม่อาจจากแฟนเพลงของเขาไปไหนได้ ไม่นานเขาจะต้องกลับมา
และแล้ว หลังจากฮ่องกงไป 5 ปี เลสลีจาง กลับมาอีกครั้งจริงๆ แต่ไม่ได้กลับมาในฐานะนักร้อง แต่กลับมาในบทบาทด้านการแสดงภาพยนตร์ บทบาทการแสดงของเลสลี จาง เรื่องแล้วเรื่องเล่าในยุคนั้น ได้กรุยทางยุคทองแห่งภาพยนตร์ฮ่องกง ที่ผงาดระดับสากล ผลงานคลาสสิกมากมายของเขา ไม่มีใครแล้วสามารถเทียบเคียงได้จนถึงทุกวันนี้
บางคนอาจพูดว่า ไม่รู้จักเพลงของเลสลี จาง แต่ต้องรู้จักภาพยนตร์ของเขาอย่างน้อยหนึ่งหรือสองเรื่อง แม้สื่อบันเทิงโลกตะวันตกยังยอมรับว่า “เลสลีจาง คือยักษ์ใหญ่เอเชีย เป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีการแสดงบนเวทีที่น่าตื่นเต้น ความงามที่น่าอัศจรรย์ และทักษะการแสดงระดับเป็นเลิศ”
ชาวฮ่องกง และแฟนผลงานต่างเรียก เลสลีจางอย่างคุ้นเคยว่า "เกอเกอ" ซึ่งมีความหมายถึง "พี่ชาย หรือ พี่ใหญ่" ไม่ใช่เพียงเพราะบารมีความยิ่งใหญ่ หรืออิทธิพลที่เขามีกับทั้งวงการเพลง และภาพยนตร์ฮ่องกง แต่ยังเรียกขานด้วยความรู้สึกรัก ใกล้ชิด เหมือนเลสลีจางเป็น พี่ที่รักในครอบครัวของตน การสูญเสียเขา จึงเปรียบเหมือนการสูญเสียคนในครอบครัวไปตลอดกาล
ชมภาพ เลสลี จาง เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึง "พี่ชาย" อันเป็นที่รักไม่เคยเสื่อมคลาย
MGRonline