เราคุยกันมาได้3เดือนแล้ว เลยตัดสินใจคบกันเป็นแฟน เรื่องเพศสัมพันธ์นั้นยังไม่มี กอดหอมก็มีบ้าง ผช.อายุน้อยกว่าเรา เขายังเรียนไม่จบ เราเจอกันเพราะเขามาฝึกงาน ตอนแรกเราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะต้องมีแฟน โดยเฉพาะกับ ผช.ที่อายุน้อยกว่าเราหลายปี เพราะเราใช้ชีวิตคนเดียวมาตลอด เรามองว่าทุกอย่างมันดี มันโอเคอยุ่แล้ว ชีวิตนี้ไม่มีใครก็อยู่ได้ แต่ในที่สุดเราก็พลาดไปคุยเพราะความเอ็นดู เรามองว่าน้องคนนี้ขยัน น่ารัก จึงสอนจึงแนะนำ คุยเล่นบ้างเวลาน้องทักมาคุย เราไม่เคยรู้เลยว่าก่อนที่น้องจะมาทักแชทมาคุยกับเรา น้องอกหักมาจากรุ่นน้องในที่ทำงานของเรา(ซึ่งเรารู้สึกกับน้อง ผญ. คนนี้ว่าเขาเป็นคนที่ชอบทำงานเอาเปรียบ 'ชอบใช้คำว่าน้อง ใช้คำว่าพี่มาเอาเปรียบเรา' พูดง่ายๆว่าเราไม่ชอบหน้าเท่าไร แต่ก็คุยกันได้) ณ เวลานั้นเราก็แค่ปลอบเพราะเราสงสาร จากนั้นเราก็คุยเล่นกันเหมือนเดิม บลาๆๆๆก็คุยเล่นกันไปนั่นแหละ จนสุดท้ายน้องก็บอกว่าขอจีบเราได้ไหม เราก็บอกไปว่า ได้สิแต่จะติดรึเปล่าไม่รู้นะ พี่รักคนยาก พยายามไม่ให้ความหวังเขาแต่ก็ไม่เด็ดขาด ทุกครั้งที่ถูกจีบมากเกินไปก็จะเบรคน้องตลอด พูดดักคอตลอด ทุกครั้งที่คุยกันนานเกินไปก็จะหยุด จะถอยห่างตลอด ทุกคนในที่ทำงานก็งง เพราะตอนนั้นน้องมาหามาช่วยงานทุกวัน ฝึกงานจบแล้วก็ยังมา เราก็เริ่มอึดอัดมากขึ้นเพราะน้องชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเราชวนถอยหลายครั้งตั้งแต่เดือนแรกที่น้องบอกว่าขอจีบนั่นแหละ แต่ทุกครั้งเราสองคนก็ต้องมีน้ำตา กับน้องเราไม่รู้หรอกว่าเขารักหรือเปล่า แต่กับเราบอกได้เลยว่าสงสาร เป็นอย่างนี้มาตลอดสามเดือน จนเรารู้สึกว่าเราเหนื่อยมากเราไม่ไหวแล้ว ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เราไม่น่าเลยจริงๆ
เราไม่ให้มีการเริ่มต้น ในที่สุดเราก็โกหกน้องว่าอีก1เดือนข้างเราจะหมั้นกับผช.อีกคน น้องเชื่อเราเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างมันประจวบเหมาะมาก น้องเอาแต่ร้องไห้ ไม่ด่าเราสักคำ เอาแต่ขอโทษที่มาสร้างความวุ่นวายให้เรา ถามเราว่าทำไมเราทำแบบนี้คบกับอีกคนแล้วทำไมทำกันแบบนี้ บอกแค่ว่ามาหลอกกันทำไม ทำให้เขาเสียเวลาทำไม
จากนั้นน้องก็ทักมาน้อยลง ถ้าวิดีโอคอลมาก็แค่แป้บเดียว เราถาม เราขอโทษก็เอาแต่น้ำตาไหลแล้วรีบวางสายหนี เป็นอย่างนี้ได้ ประมาณอาทิตย์หนึ่ง เราก็เริ่มไม่ไหว เครียด เกิดมาไม่เคยโกหกใครเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ แถมยังต้องเป็นห่วงน้องอีก จนต้องแชทไปหาน้องไปขอโทษไปอธิบายแต่ก็ยังไม่ยอมสารภาพความจริง พูดง่ายๆก็คือแชทไปหลอกอีกครั้งนั่นแหละ หลอกให้เขาเข้าใจว่าทำไมต้องหมั้น ทำไมถึงไม่อยากคุยกับน้องแบบเกินพี่น้องอีก เราอ้างทุกอย่างทั้งอายุ หน้าที่การงาน แนวคิด นิสัย ความชอบ อาหารการกิน เหตุผลโคตรเยอะ
สุดท้ายน้องก็เข้าใจและโอเค น้องบอกว่า 'งั้นเราปล่อยมือกัน' (😁นี่แหละ สิ่งนี้ที่รอคอย สามเดือนที่ผ่านมาเกิดผลแล้วค่ะ)
เท่านั้นแหละ ทุกอย่างน่าจะจบ แต่มันไม่จบนี่สิ
ในที่สุดน้องก็รู้ว่าความจริงว่างานหมั้นจอมลวงโลกนั้นนไม่มีจริง วัน
หมั้นมันเลยมาแล้ว 555แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หัวเราะไม่ออกเลย คราวนี้เราดวงตก น้องไม่ด่าไม่ว่าสักคำ น้องถามแค่ว่ารังเกียจผมขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ทำไมต้องหลอกกันอีกแล้ว เมื่อไรจะเลิกหลอกกันสักที พูดแค่ว่าเสียใจ รู้มั้ยตั้งแต่วันที่พี่บอกผมว่าจะหมั้น ผมคิดถึงพี่ ผมร้องไห้ตลอด ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ร้อง นอนหลับตื่นมานึกถึงก็ร้อง แล้วพี่รุ้มั้ยฝึกงานรอบสองเทอมนี้ผมก็ติดต่อทำเรื่องมาฝึกงานที่ทำงานพี่เรียบร้อยแล้ว แล้วพี่ก็ทิ้งผม ผมจะทำยังไง ย้ายที่ฝึกไม่ได้แล้วด้วย ผมเห็นพี่ผมจะทำยังไง
ผมจะทักพี่แบบไหน ต้องทำตัวแบบไหน พูดไปร้องไห้ไป พี่อาจจะยิ้มอาจสนุกตอนที่ผมบอกว่าจะไม่ยุ่งกับพี่อีก แต่ผมมีแต่เสียใจมีแต่ร้องไห้ เมื่อไรพี่จะเลิกเล่นกับความรู้สึกผมสักที
เราก็เอ๋อรับประทาน รู้สึกผิดมากเหมือนทำร้ายคนคนหนึ่งตลอดเวลาอยู่แล้ว พอมาเจอประโยคในวันนี้โคตรเจ็บโคตรรู้สึกแย่กับตัวเอง เพื่อความสุขของตัวเองเราทำร้ายคนหนึ่งคนที่อาจจะรักเราขนาดนี้เลย คิดๆๆที่ผ่านมาเราทำอะไรลงไป เราเอาแต่หนี เราไม่ยอมคุยกับใครจนบางคนก็บอกว่าเราเย็นชา เราหยิ่ง เราปิดกั้น ใช่มันคือเรื่องจริงเรายอมรับแล้ว แล้วทำไมเราถึงคุยกับน้องคนนี้ ความรู้สึกของน้องเราควรรับผิดชอบบ้างไหม เราเห็นแก่ตัวเหลือเกิน แล้วเราจะสบายใจไหมถ้าเราเลิกคุยกันจริงๆ เราคงรู้สึกผิดตลอดไป สุดท้าย
เราก็ร้องไห้ ร้องเยอะที่สุดที่เคยร้องตลอดสามเดือน เราขอโทษจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้เราและน้องรู้สึกดีขึ้น ตอนนั้นต่างคนต่างรู้สึกแย่ สุดท้ายคุยไปคุยมาน้องก็ขอคบเป็นแฟน เราก็ตัดสินใจในทันที ว่า คบก็คบ น้องจะมาแก้แค้นเราก็ไม่ว่า ถือว่าหายกันก็ยังดี ไม่อยากรู้สึกผิดอีกแล้ว ทรมาน ไม่อยากโกหกไม่อยากให้ใครเสียใจอีกแล้ว เหนื่อยกันมามากเหลือเกิน จากวันนั้นจนวันนี้ก็จะหนึ่งเดือนแล้วที่เราคบกัน เราหัวเราะมากขึ้นน้องก็คงมีความสุขมากขึ้น แต่ก็ไม่ที่สุด เพราะหลายครั้งที่เราชอบเงียบหาย มีปัญหาอะไรก็เงียบไม่ยอมบอกน้อง ไม่พอใจน้องเราก็เงียบ น้องก็จะคอยถามคอยทักหาคอยห่วงตลอด
จนทุกอย่างเริ่มร่อแร่อีกครั้ง เรารู้สึกผิดเหลือเกิน ทำไมเราชอบรู้สึกว่าไม่มีแฟนก็ไม่เป็นไร ถ้าน้องขอเลิกเมื่อไรเราจะไม่ขอคุยกับใครอีกแล้ว ถ้าใครคนใดคนหนึ่งพูดคำว่าเลิกเมื่อไรจะขอเลิกลาขาดทันที ในที่สุดเราก็ทนไม่ไหวขอเปิดใจพูดกับน้องตรงๆ ถึงความคิดที่ทำให้เราชอบเงียบหาย บอกแม้กระทั่งความรู้สึกที่ว่า เรายังไม่รู้เลยว่าเรารักน้องแบบ ชญ. หรือเปล่า น้องก็บอกไม่เป็นไร ขอลองคบกันไปก่อนถ้าไปกันไม่ได้จริงๆค่อยคุยกันใหม่ได้ (ทำไมน้องดีจัง)โคตรอดทนเลย เป็นเราถ้าเจอ ผญ.แบบนี้เราหนีไปนานแล้ว ด้วยความใส่ใจของน้องทุกวันนี้เราก็ยังคงเป็นแฟนกัน ไปเที่ยวกันบ้างแต่ไม่บ่อย ทุกวันน้องจะทักตลอด ตอนนี้น้องมาฝึกงานแล้ว
ทุกคนในที่ทำงานรู้แล้วว่าคบกันแต่หลายคนก็ไม่เชื่อว่าคบกัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเราคบใคร แถมตอนน้องมาฝึกงานรอบแรกน้องมาจีบอีกคนที่ไม่เหมือนเราเลย เราก็รู้สึกในใจนะว่าทำไมต้องจีบ ผญ.คนนั้นก่อนเรา แล้วมาจีบเราทำไมเราไม่เหมือน ผญ.คนนั้นสักนิด
หลายคนในที่ทำงานเริ่มพูดกับเราว่า คบกันจริงเหรอ น้องเขาหลงหรือเปล่า ผญ.สองคนไม่เหมือนกันเลยนะ หน้าตา นิสัย สังคม 555เราก็คิดนะ ถึงไม่ยอมคบแต่แรกไง แต่ในเมื่อรับปากคบแล้วก็รับผิดชอบคำพูดตัวเองแล้วก็ความรู้สึกของน้องบ้างถึงแม้บางทีเราจะอึดอัดก็เถอะ แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเราไม่พอใจ ผญ.คนนั้นอีกครั้ง เขาเอาเปรียบเราอีกแล้วหน้าตาเฉยมาก
เราปรี้ดมาก555แต่ก็ไม่เป็นไร ทำงานต้องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ตกเย็นก็ไปเดินเล่นกับน้อง(แฟน)ต่อ ชิลๆเนอะ น้องขับรถมารอหน้าปากซอยเข้าบ้าน เราออกมารอเพราะได้ไม่ต้องวนรถเข้าไปผ่านถนนใหญ่เลยสะดวกดี แต่พอตอนกลับนี่สิแฟนไม่ยอมวนรถไปส่งที่เดิม เราบอกไปส่งที่เดิมไม่ได้เหรอ แฟนบอกว่าลงตรงนี้ก็ได้
ช่องแบริเออสามารถเดินผ่านได้ มันมีช่องอยู่เดินไปอีกหน่อยก็ถึงหน้าปากซอยแล้ว เขาได้ไม่ต้องไปรอไฟแดงอีกรอบแล้วก็จะได้ไม่ต้องวนรถข้ามถนนอีกรอบ ok เราก็เห็นด้วย แฟนได้ไม่ต้องเสียเวลา ตอนนั้นใจเราก็เริ่มคิดนะแต่คือมีเหตุผลไง งืม วนรถเสียเวลา ต่อจากนั้นเราก็บอกแฟนว่าจะไปงานศพกับพี่ ผช.อีกคนที่ทำงานด้วยกัน แฟนก็ไม่อยากให้ไปเพราะพี่คนนั้นเขาโสด มาถึงตอนลงรถอีกแล้ว เราก็บอกพี่คนนั้นเลยว่าพี่จอดส่งตรงนี้ก็ได้หนูเดินข้ามฝั่งเองได้ พี่แกก็ไม่ยอมมากับพี่ชายกลัวอะไร วนรถแค่นี้ เท่านั้นแหละ จี้ดเลย โดนมาก เพื่อนร่วมงานวนรถได้แต่แฟนวนรถไม่ได้555 เหตุผลเดียวกัน แต่คนละฐานะ เท่านั้นแหละเราคิดยาวเลย พอแฟนโทรมาเขาก็บอกว่าพอกลับมาถึงบ้านแล้วเขารู้สึกไม่ดีเลยที่เขา
ปล่อยเราลงตรงนั้น ถ้าเราถูกรถชนเขาคงแย่ แล้วเราจะทำไงได้ล่ะนอกจากบอกว่าไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากเลย เราก็ปลอดภัยดีนี่นา(แต่เราคิดมากไปไกลแล้ว)ต่อจากนั้น น้อง(แฟน)โทรมาเราก็ไม่รับ แชทมาก็ไม่คุยเราเป็นแบบนี้อีกแล้ว เป็น สองวันเต็มๆ เรารู้สึกว่าเราเหมือนเป็นตัวสำรอง เป็นตัวเลือกที่ไม่ได้ถูกเลือกเป็นคนแรก ทำไมเราต้องได้ขอเหลือจาก ผญ.คนนั้น ถ้าน้อง(แฟน)จีบ ผญ.คนอื่นเราคงโอเคกว่านี้ ถ้าเป็น ผญ.คนนั้นจะกล้าปล่อยให้เดินข้ามถนนที่รถเยอะๆคนเดียวไหม
ทำไมเราไม่เคยเจอเหตุผลแบบนี้จากคนรู้จักทั่วไป ทำไมเราต้องเจอคำว่าเสียเวลาวนรถจากคนที่เป็นแฟนคนแรกของเรา 555ตอนนี้เราเสียใจจัง ทุกครั้งที่มองหน้าแฟนจะต้องคอยนึกถึง ผญ.คนนั้น เมื่อไรเราจะเลิกคิด ทุกครั้งที่โกรธ ผญ.คนนั้น เราอยากเลิกกับแฟนเหลือเกิน เราไม่อยากได้ของที่ ผญ.คนนั้นทิ้ง ของที่เขาไม่เลือก ทำไมต้องเป็นเราที่ได้ต่อ
ทั้งๆที่ก็รู้ว่าไม่ใช่ความผิดของแฟนเราสักนิดแต่เราอดคิดไม่ได้ จนวันนี้เราก็ทนไม่ไหวเราถามแฟนไปตรงๆ
ว่าเรากับ ผญ.คนนั้นเหมือนกันตรงไหน ทำไม่จีบคนอื่นแทน ผญ.คนนั้น ทำไมต้องมาจีบเรา แฟนตอบไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง แฟนบอกว่าทำไมต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เราก็ตอบง่ายๆแค่ว่า ก็แค่อยากรู้ คนอื่นเยอะแยะทำไมไม่จีบชอบอะไร ผญ.คนนั้น
คือเราทรมานทุกครั้งที่มองหน้าแฟน (แล้วแฟนก็ไม่รู้ว่าเรากับ ผญ.คนนั้นไม่ชอบกัน )เราเลยบอกแฟนสั้นๆแค่ว่า รู้มั้ยทุกครั้งที่มองหน้าเธอเราจะนึกถึง ผญ.คนนั้นทุกครั้ง
เราต้องทำยังไง แฟนก็เอาแต่ขอโทษทั้งๆที่แฟนก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
เราก็ไม่รู้จะทำยังไง
มันเป็นความผิดของเราเองแหละที่มองหน้าแฟนแล้วอดนึกถึง ผญ.คนนั้นไม่ได้ ใจหนึ่งก็อยากเลิก แต่อีกใจก็ไม่อยากเลิก นอกจากรู้สึกผิด สงสาร คงรักไปแล้วก็ได้ เห้อออ เราจะทำยังไงดี มันสุขแต่ไม่สุด เหมือนอมทุกข์กันตลอดเวลา เหมือนอยู่แบบรอวันจาก
**แฟนคนแรก
เราอายุ29
แฟน22
แฟนยังเรียนไม่จบ
เราไม่ได้เปย์แฟน เรามักหุ้นกันจ่าย
คบกันแล้วเหนื่อยทำยังไงดี
เราไม่ให้มีการเริ่มต้น ในที่สุดเราก็โกหกน้องว่าอีก1เดือนข้างเราจะหมั้นกับผช.อีกคน น้องเชื่อเราเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างมันประจวบเหมาะมาก น้องเอาแต่ร้องไห้ ไม่ด่าเราสักคำ เอาแต่ขอโทษที่มาสร้างความวุ่นวายให้เรา ถามเราว่าทำไมเราทำแบบนี้คบกับอีกคนแล้วทำไมทำกันแบบนี้ บอกแค่ว่ามาหลอกกันทำไม ทำให้เขาเสียเวลาทำไม
จากนั้นน้องก็ทักมาน้อยลง ถ้าวิดีโอคอลมาก็แค่แป้บเดียว เราถาม เราขอโทษก็เอาแต่น้ำตาไหลแล้วรีบวางสายหนี เป็นอย่างนี้ได้ ประมาณอาทิตย์หนึ่ง เราก็เริ่มไม่ไหว เครียด เกิดมาไม่เคยโกหกใครเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ แถมยังต้องเป็นห่วงน้องอีก จนต้องแชทไปหาน้องไปขอโทษไปอธิบายแต่ก็ยังไม่ยอมสารภาพความจริง พูดง่ายๆก็คือแชทไปหลอกอีกครั้งนั่นแหละ หลอกให้เขาเข้าใจว่าทำไมต้องหมั้น ทำไมถึงไม่อยากคุยกับน้องแบบเกินพี่น้องอีก เราอ้างทุกอย่างทั้งอายุ หน้าที่การงาน แนวคิด นิสัย ความชอบ อาหารการกิน เหตุผลโคตรเยอะ
สุดท้ายน้องก็เข้าใจและโอเค น้องบอกว่า 'งั้นเราปล่อยมือกัน' (😁นี่แหละ สิ่งนี้ที่รอคอย สามเดือนที่ผ่านมาเกิดผลแล้วค่ะ)
เท่านั้นแหละ ทุกอย่างน่าจะจบ แต่มันไม่จบนี่สิ
ในที่สุดน้องก็รู้ว่าความจริงว่างานหมั้นจอมลวงโลกนั้นนไม่มีจริง วัน
หมั้นมันเลยมาแล้ว 555แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หัวเราะไม่ออกเลย คราวนี้เราดวงตก น้องไม่ด่าไม่ว่าสักคำ น้องถามแค่ว่ารังเกียจผมขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมไม่บอกกันตรงๆ ทำไมต้องหลอกกันอีกแล้ว เมื่อไรจะเลิกหลอกกันสักที พูดแค่ว่าเสียใจ รู้มั้ยตั้งแต่วันที่พี่บอกผมว่าจะหมั้น ผมคิดถึงพี่ ผมร้องไห้ตลอด ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่ร้อง นอนหลับตื่นมานึกถึงก็ร้อง แล้วพี่รุ้มั้ยฝึกงานรอบสองเทอมนี้ผมก็ติดต่อทำเรื่องมาฝึกงานที่ทำงานพี่เรียบร้อยแล้ว แล้วพี่ก็ทิ้งผม ผมจะทำยังไง ย้ายที่ฝึกไม่ได้แล้วด้วย ผมเห็นพี่ผมจะทำยังไง
ผมจะทักพี่แบบไหน ต้องทำตัวแบบไหน พูดไปร้องไห้ไป พี่อาจจะยิ้มอาจสนุกตอนที่ผมบอกว่าจะไม่ยุ่งกับพี่อีก แต่ผมมีแต่เสียใจมีแต่ร้องไห้ เมื่อไรพี่จะเลิกเล่นกับความรู้สึกผมสักที
เราก็เอ๋อรับประทาน รู้สึกผิดมากเหมือนทำร้ายคนคนหนึ่งตลอดเวลาอยู่แล้ว พอมาเจอประโยคในวันนี้โคตรเจ็บโคตรรู้สึกแย่กับตัวเอง เพื่อความสุขของตัวเองเราทำร้ายคนหนึ่งคนที่อาจจะรักเราขนาดนี้เลย คิดๆๆที่ผ่านมาเราทำอะไรลงไป เราเอาแต่หนี เราไม่ยอมคุยกับใครจนบางคนก็บอกว่าเราเย็นชา เราหยิ่ง เราปิดกั้น ใช่มันคือเรื่องจริงเรายอมรับแล้ว แล้วทำไมเราถึงคุยกับน้องคนนี้ ความรู้สึกของน้องเราควรรับผิดชอบบ้างไหม เราเห็นแก่ตัวเหลือเกิน แล้วเราจะสบายใจไหมถ้าเราเลิกคุยกันจริงๆ เราคงรู้สึกผิดตลอดไป สุดท้าย
เราก็ร้องไห้ ร้องเยอะที่สุดที่เคยร้องตลอดสามเดือน เราขอโทษจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้เราและน้องรู้สึกดีขึ้น ตอนนั้นต่างคนต่างรู้สึกแย่ สุดท้ายคุยไปคุยมาน้องก็ขอคบเป็นแฟน เราก็ตัดสินใจในทันที ว่า คบก็คบ น้องจะมาแก้แค้นเราก็ไม่ว่า ถือว่าหายกันก็ยังดี ไม่อยากรู้สึกผิดอีกแล้ว ทรมาน ไม่อยากโกหกไม่อยากให้ใครเสียใจอีกแล้ว เหนื่อยกันมามากเหลือเกิน จากวันนั้นจนวันนี้ก็จะหนึ่งเดือนแล้วที่เราคบกัน เราหัวเราะมากขึ้นน้องก็คงมีความสุขมากขึ้น แต่ก็ไม่ที่สุด เพราะหลายครั้งที่เราชอบเงียบหาย มีปัญหาอะไรก็เงียบไม่ยอมบอกน้อง ไม่พอใจน้องเราก็เงียบ น้องก็จะคอยถามคอยทักหาคอยห่วงตลอด
จนทุกอย่างเริ่มร่อแร่อีกครั้ง เรารู้สึกผิดเหลือเกิน ทำไมเราชอบรู้สึกว่าไม่มีแฟนก็ไม่เป็นไร ถ้าน้องขอเลิกเมื่อไรเราจะไม่ขอคุยกับใครอีกแล้ว ถ้าใครคนใดคนหนึ่งพูดคำว่าเลิกเมื่อไรจะขอเลิกลาขาดทันที ในที่สุดเราก็ทนไม่ไหวขอเปิดใจพูดกับน้องตรงๆ ถึงความคิดที่ทำให้เราชอบเงียบหาย บอกแม้กระทั่งความรู้สึกที่ว่า เรายังไม่รู้เลยว่าเรารักน้องแบบ ชญ. หรือเปล่า น้องก็บอกไม่เป็นไร ขอลองคบกันไปก่อนถ้าไปกันไม่ได้จริงๆค่อยคุยกันใหม่ได้ (ทำไมน้องดีจัง)โคตรอดทนเลย เป็นเราถ้าเจอ ผญ.แบบนี้เราหนีไปนานแล้ว ด้วยความใส่ใจของน้องทุกวันนี้เราก็ยังคงเป็นแฟนกัน ไปเที่ยวกันบ้างแต่ไม่บ่อย ทุกวันน้องจะทักตลอด ตอนนี้น้องมาฝึกงานแล้ว
ทุกคนในที่ทำงานรู้แล้วว่าคบกันแต่หลายคนก็ไม่เชื่อว่าคบกัน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นเราคบใคร แถมตอนน้องมาฝึกงานรอบแรกน้องมาจีบอีกคนที่ไม่เหมือนเราเลย เราก็รู้สึกในใจนะว่าทำไมต้องจีบ ผญ.คนนั้นก่อนเรา แล้วมาจีบเราทำไมเราไม่เหมือน ผญ.คนนั้นสักนิด
หลายคนในที่ทำงานเริ่มพูดกับเราว่า คบกันจริงเหรอ น้องเขาหลงหรือเปล่า ผญ.สองคนไม่เหมือนกันเลยนะ หน้าตา นิสัย สังคม 555เราก็คิดนะ ถึงไม่ยอมคบแต่แรกไง แต่ในเมื่อรับปากคบแล้วก็รับผิดชอบคำพูดตัวเองแล้วก็ความรู้สึกของน้องบ้างถึงแม้บางทีเราจะอึดอัดก็เถอะ แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเราไม่พอใจ ผญ.คนนั้นอีกครั้ง เขาเอาเปรียบเราอีกแล้วหน้าตาเฉยมาก
เราปรี้ดมาก555แต่ก็ไม่เป็นไร ทำงานต้องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ตกเย็นก็ไปเดินเล่นกับน้อง(แฟน)ต่อ ชิลๆเนอะ น้องขับรถมารอหน้าปากซอยเข้าบ้าน เราออกมารอเพราะได้ไม่ต้องวนรถเข้าไปผ่านถนนใหญ่เลยสะดวกดี แต่พอตอนกลับนี่สิแฟนไม่ยอมวนรถไปส่งที่เดิม เราบอกไปส่งที่เดิมไม่ได้เหรอ แฟนบอกว่าลงตรงนี้ก็ได้
ช่องแบริเออสามารถเดินผ่านได้ มันมีช่องอยู่เดินไปอีกหน่อยก็ถึงหน้าปากซอยแล้ว เขาได้ไม่ต้องไปรอไฟแดงอีกรอบแล้วก็จะได้ไม่ต้องวนรถข้ามถนนอีกรอบ ok เราก็เห็นด้วย แฟนได้ไม่ต้องเสียเวลา ตอนนั้นใจเราก็เริ่มคิดนะแต่คือมีเหตุผลไง งืม วนรถเสียเวลา ต่อจากนั้นเราก็บอกแฟนว่าจะไปงานศพกับพี่ ผช.อีกคนที่ทำงานด้วยกัน แฟนก็ไม่อยากให้ไปเพราะพี่คนนั้นเขาโสด มาถึงตอนลงรถอีกแล้ว เราก็บอกพี่คนนั้นเลยว่าพี่จอดส่งตรงนี้ก็ได้หนูเดินข้ามฝั่งเองได้ พี่แกก็ไม่ยอมมากับพี่ชายกลัวอะไร วนรถแค่นี้ เท่านั้นแหละ จี้ดเลย โดนมาก เพื่อนร่วมงานวนรถได้แต่แฟนวนรถไม่ได้555 เหตุผลเดียวกัน แต่คนละฐานะ เท่านั้นแหละเราคิดยาวเลย พอแฟนโทรมาเขาก็บอกว่าพอกลับมาถึงบ้านแล้วเขารู้สึกไม่ดีเลยที่เขา
ปล่อยเราลงตรงนั้น ถ้าเราถูกรถชนเขาคงแย่ แล้วเราจะทำไงได้ล่ะนอกจากบอกว่าไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากเลย เราก็ปลอดภัยดีนี่นา(แต่เราคิดมากไปไกลแล้ว)ต่อจากนั้น น้อง(แฟน)โทรมาเราก็ไม่รับ แชทมาก็ไม่คุยเราเป็นแบบนี้อีกแล้ว เป็น สองวันเต็มๆ เรารู้สึกว่าเราเหมือนเป็นตัวสำรอง เป็นตัวเลือกที่ไม่ได้ถูกเลือกเป็นคนแรก ทำไมเราต้องได้ขอเหลือจาก ผญ.คนนั้น ถ้าน้อง(แฟน)จีบ ผญ.คนอื่นเราคงโอเคกว่านี้ ถ้าเป็น ผญ.คนนั้นจะกล้าปล่อยให้เดินข้ามถนนที่รถเยอะๆคนเดียวไหม
ทำไมเราไม่เคยเจอเหตุผลแบบนี้จากคนรู้จักทั่วไป ทำไมเราต้องเจอคำว่าเสียเวลาวนรถจากคนที่เป็นแฟนคนแรกของเรา 555ตอนนี้เราเสียใจจัง ทุกครั้งที่มองหน้าแฟนจะต้องคอยนึกถึง ผญ.คนนั้น เมื่อไรเราจะเลิกคิด ทุกครั้งที่โกรธ ผญ.คนนั้น เราอยากเลิกกับแฟนเหลือเกิน เราไม่อยากได้ของที่ ผญ.คนนั้นทิ้ง ของที่เขาไม่เลือก ทำไมต้องเป็นเราที่ได้ต่อ
ทั้งๆที่ก็รู้ว่าไม่ใช่ความผิดของแฟนเราสักนิดแต่เราอดคิดไม่ได้ จนวันนี้เราก็ทนไม่ไหวเราถามแฟนไปตรงๆ
ว่าเรากับ ผญ.คนนั้นเหมือนกันตรงไหน ทำไม่จีบคนอื่นแทน ผญ.คนนั้น ทำไมต้องมาจีบเรา แฟนตอบไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง แฟนบอกว่าทำไมต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เราก็ตอบง่ายๆแค่ว่า ก็แค่อยากรู้ คนอื่นเยอะแยะทำไมไม่จีบชอบอะไร ผญ.คนนั้น
คือเราทรมานทุกครั้งที่มองหน้าแฟน (แล้วแฟนก็ไม่รู้ว่าเรากับ ผญ.คนนั้นไม่ชอบกัน )เราเลยบอกแฟนสั้นๆแค่ว่า รู้มั้ยทุกครั้งที่มองหน้าเธอเราจะนึกถึง ผญ.คนนั้นทุกครั้ง
เราต้องทำยังไง แฟนก็เอาแต่ขอโทษทั้งๆที่แฟนก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
เราก็ไม่รู้จะทำยังไง
มันเป็นความผิดของเราเองแหละที่มองหน้าแฟนแล้วอดนึกถึง ผญ.คนนั้นไม่ได้ ใจหนึ่งก็อยากเลิก แต่อีกใจก็ไม่อยากเลิก นอกจากรู้สึกผิด สงสาร คงรักไปแล้วก็ได้ เห้อออ เราจะทำยังไงดี มันสุขแต่ไม่สุด เหมือนอมทุกข์กันตลอดเวลา เหมือนอยู่แบบรอวันจาก
**แฟนคนแรก
เราอายุ29
แฟน22
แฟนยังเรียนไม่จบ
เราไม่ได้เปย์แฟน เรามักหุ้นกันจ่าย