- วันนี้หวานใจ ที่อยู่ด้วยกันจนจะครบรอบแต่งงาน 50 ปีในเดือนเมษายนนี้ มีอายุ 80 ปี ... แต่เธอเป็นผู้ป่วยติดเตียงมา 2 ปีแล้ว
- คนป่วย เส้นเลือดในสมองตีบ เมื่ออายุ 45 ปี แต่เพราะลูกยังเล็ก จึงมีแรงฮึด ในการฟื้นฟูร่างกายจนกลับไปทำงานได้ ในลักษณะ
กึ่งพิการ .. แต่ช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง รวมถึงขับรถได้ และทำงานจนเกษียณ ..
- ตั้งแต่ป่วย ก็เป็นคนมีวินัยในการดูแลรักษาตัวมาก พบว่าป่วยเป็นเบาหวานเมื่ออายุ 55 ปี สรุปว่า โรคประจำตัวคือ เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง โรคทางสมอง..อัมพฤกษ์ ตามมาด้วยหัวใจ ไตวายเรื้อรัง ต่อมลูกหมากโต มีคุณหมอดูแลประจำทุกโรคค่ะ
- อายุ 78 ปี มีอาการสำลักอาหาร มีไข้ พบว่าปอดติดเชื้อ ... ก็เข้ารับการรักษา อยู่ที่รพ.เกือบ 2 เดือน คุณหมอบอกว่า
การรักษาตัวครั้งนี้ ทำให้เกิดอาการไตวายเฉียบพลัน ต้องล้างไต 4 ครั้ง ไตฟื้นฟูกลับมาได้ ไม่ต้องล้างไตต่อ
แต่เชื้อโรคได้ไปทำลายกล้ามเนื้อ จนไม่สามารถเดิน หรือ กลืนอาหารได้ ต้องทำการฟื้นฟูด้วยการทำกายภาพ
- 2 ปี กับการเป็นผู้ป่วยติดเตียง แม้จะมีนักกายภาพมาดูแล แต่อาการก็มีแต่ทรง กับทรุด แต่ก็รู้สึกตัวดี ...พูดคุยสื่อสารได้
แต่ก็เข้าๆ ออกๆ รพ.น่าจะเกือบ 10 ครั้ง ไม่นับการไปพบหมอตามนัด วันนี้เธอต้องให้อาหารทางสายที่หน้าท้อง และก็มีอาการ
ปอดติดเชื้อทุกครั้งที่ admit
- การเข้าadmit ครั้งหลังสุดนี้ พบว่าน่าสงสารมาก เพราะไข้ขึ้นอยู่หลายวัน suction เพื่อดูดเสมหะบางครั้งก็ไม่ออก ต้องเคาะปอด
วันละหลายรอบ
- เรามองว่าการอยู่ในสภาพแบบนี้ คือการอยู่แบบไม่มีคุณภาพชีวิต ดิฉันจะยื้อชีวิตเขาต่อไปเพื่ออะไร ... ได้กรอกแบบฟอร์มทางรพ.
ไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ จะไม่มีการใส่ท่อหายใจ เจาะคอ ปั๊มหัวใจ สุดท้ายคือ จะไม่เข้าไอซียู ... บาปไหม
- คุณหมอบอกพรุ่งนี้ คนป่วยน่าจะกลับบ้านได้ เพื่อมาดูแลกันต่อไปที่บ้าน .. ไม่ทราบอีกนานเท่าไหร่ ...น่าจะขึ้นกับวิบากกรรม
ที่คนป่วย มีกับเราและลูก ที่ยังชดใช้ไม่หมด
- กรรมดี ที่เรามีต่อกันก็คงเมื่อตอนที่เราแต่งงาน มีลูก ไปเที่ยวกัน แม้แต่อยู่ด้วยกัน จน 50 ปี ก็ไม่เคยทะเลาะกัน 2 ปีนี้ก็ดูแลกัน
ด้วยความเต็มใจ แต่เราก็มองถึงอนาคต ... มันจะจบเมื่อไหร่ ?
- แค่บอกเล่ามาเป็นประสบการณ์ชีวิต ที่หลายคนอาจจะเจอ มาบ้าง
การอยู่อย่างมีคุณภาพชีวิตของคนชรา ... /sao..เหลือ..noi
- คนป่วย เส้นเลือดในสมองตีบ เมื่ออายุ 45 ปี แต่เพราะลูกยังเล็ก จึงมีแรงฮึด ในการฟื้นฟูร่างกายจนกลับไปทำงานได้ ในลักษณะ
กึ่งพิการ .. แต่ช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง รวมถึงขับรถได้ และทำงานจนเกษียณ ..
- ตั้งแต่ป่วย ก็เป็นคนมีวินัยในการดูแลรักษาตัวมาก พบว่าป่วยเป็นเบาหวานเมื่ออายุ 55 ปี สรุปว่า โรคประจำตัวคือ เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง โรคทางสมอง..อัมพฤกษ์ ตามมาด้วยหัวใจ ไตวายเรื้อรัง ต่อมลูกหมากโต มีคุณหมอดูแลประจำทุกโรคค่ะ
- อายุ 78 ปี มีอาการสำลักอาหาร มีไข้ พบว่าปอดติดเชื้อ ... ก็เข้ารับการรักษา อยู่ที่รพ.เกือบ 2 เดือน คุณหมอบอกว่า
การรักษาตัวครั้งนี้ ทำให้เกิดอาการไตวายเฉียบพลัน ต้องล้างไต 4 ครั้ง ไตฟื้นฟูกลับมาได้ ไม่ต้องล้างไตต่อ
แต่เชื้อโรคได้ไปทำลายกล้ามเนื้อ จนไม่สามารถเดิน หรือ กลืนอาหารได้ ต้องทำการฟื้นฟูด้วยการทำกายภาพ
- 2 ปี กับการเป็นผู้ป่วยติดเตียง แม้จะมีนักกายภาพมาดูแล แต่อาการก็มีแต่ทรง กับทรุด แต่ก็รู้สึกตัวดี ...พูดคุยสื่อสารได้
แต่ก็เข้าๆ ออกๆ รพ.น่าจะเกือบ 10 ครั้ง ไม่นับการไปพบหมอตามนัด วันนี้เธอต้องให้อาหารทางสายที่หน้าท้อง และก็มีอาการ
ปอดติดเชื้อทุกครั้งที่ admit
- การเข้าadmit ครั้งหลังสุดนี้ พบว่าน่าสงสารมาก เพราะไข้ขึ้นอยู่หลายวัน suction เพื่อดูดเสมหะบางครั้งก็ไม่ออก ต้องเคาะปอด
วันละหลายรอบ
- เรามองว่าการอยู่ในสภาพแบบนี้ คือการอยู่แบบไม่มีคุณภาพชีวิต ดิฉันจะยื้อชีวิตเขาต่อไปเพื่ออะไร ... ได้กรอกแบบฟอร์มทางรพ.
ไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ จะไม่มีการใส่ท่อหายใจ เจาะคอ ปั๊มหัวใจ สุดท้ายคือ จะไม่เข้าไอซียู ... บาปไหม
- คุณหมอบอกพรุ่งนี้ คนป่วยน่าจะกลับบ้านได้ เพื่อมาดูแลกันต่อไปที่บ้าน .. ไม่ทราบอีกนานเท่าไหร่ ...น่าจะขึ้นกับวิบากกรรม
ที่คนป่วย มีกับเราและลูก ที่ยังชดใช้ไม่หมด
- กรรมดี ที่เรามีต่อกันก็คงเมื่อตอนที่เราแต่งงาน มีลูก ไปเที่ยวกัน แม้แต่อยู่ด้วยกัน จน 50 ปี ก็ไม่เคยทะเลาะกัน 2 ปีนี้ก็ดูแลกัน
ด้วยความเต็มใจ แต่เราก็มองถึงอนาคต ... มันจะจบเมื่อไหร่ ?
- แค่บอกเล่ามาเป็นประสบการณ์ชีวิต ที่หลายคนอาจจะเจอ มาบ้าง