เคยกินยาคุมฉุกเฉินไหม เป็นอย่างไรบ้าง? (18+) (กระทู้แชร์ประสบการณ์,เล่าสู่กันฟัง)

เมื่อพูดถึงยาคุมฉุกเฉินแล้ว
หลายๆคนจะคิดไปในทางแง่ลบก่อนเลยถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในขณะที่ยังไม่พร้อม
ใช่ไหมครับ ไม่แปลกหรอกครับ
เพราะตัวผมเองความคิดในหัวแว้บแรกเรื่องยาคุมฉุกเฉินก็เป็นเช่นนั้น

ตั้งแต่เด็กจนโตมาตัวผมเอง
ไม่เคยได้ทำความรู้จักกับเจ้ายาคุมฉุกเฉินนี่เลย จนกระทั่ง เมื่อเดือนก่อน
ประจำเดือนของแฟนผมมาวันแรกวันที่ 16 กพ. และหมดวันที่ 20 กพ.
หลังจากนั้นคืนวันที่ 24 กพ. เราก็มีอะไรกัน แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ถุงยางอนามัยยี่ห้อที่ผมมักใช้อยู่เป็นประจำเวลามีอะไรกับแฟน กับแตกซะอย่างนั้น ที่รู้เพราะว่าทุกครั้งหลังเสร็จภารกิจ
ผมจะไปทดสอบการรั่วซึมของถุงยาง โดยการใส่น้ำเสมอๆเพื่อความมั่นใจ แต่คราวนี้ตอนใส่น้ำทดสอบ
น้ำไหลผ่านถุงยางดังซู่ เลย(แทบไม่มีแรงต้านน้ำ) พอมาลองดูก็เลยพบว่า
ถุงยางอนามัยฉีกขาด ตรงกะเปาะเลย สิ่งแรกที่คิดคือ เครียดมากๆครับ
เพราะไม่เคยเกดเหตุการณ์นี้มาก่อน แต่พอคิดย้อนกลับไป ผมก็ไม่ได้หลั่งในนะวันนั้น
ซึ่งเป็นความโชคดีมากๆอย่างนึง แต่อย่างไรก้อเครียดอยู่ดี เพราะการหลั่งนอกก็ยังมีเปอร์เซ็นต์ในการตั้งครรภ์อยู่
ผมเครียดมากครับ แล้วตอนนั้นแหละ เรื่องของยาคุมฉุกเฉินก็เข้ามาในหัวผม
ผมรู้ดีว่ายาคุมฉุกเฉินนั้นควรรีบกินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์
แต่ดูนาฬิกาแล้ว .. เที่ยงคืนสี่สิบกว่านาที ร้านยาในละแวกที่ผมอาศัยอยู่ สาม-สี่ทุ่มก็ปิดหมดแล้วละครับ
แฟนผมก็บอกว่า ไม่เป็นไร เช้าก็ค่อยรีบตื่นออกไปซื้อ กลายเป็นว่า คืนนั้น
นอนไม่หลับเลยครับ เครียดมาก ระหว่างที่เครียดมากๆนั้น ผมก็เปิดหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตไปด้วย
ทำให้ได้รู้จักกับยาคุมฉุกเฉินมากขึ้น จนเช้าอีกวัน
กว่าจะได้กินยาคุมฉุกเฉินก็ปาเข้าไป 9 โมงเช้าแล้ว แต่จากบทความในอินเตอร์เน็ตทำให้รู้ว่าถ้ากินใน
24 ชม. แรก ผลของยาจะยังมีประสิทธิภาพสูงอยู่ อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะงงว่า
ทำไมผมดูเครียดมากขนาดนั้นทั้งที่ควรจะเป็นแฟนผมที่เครียดมาก คือก็ต้องยอมรับตรงๆว่าผมไม่มีความรู้ด้านการคุมกำเนิดเท่าไหร่เลยครับ
ความไม่รู้นี่แหละนำมาซึ่งความกังวลต่างๆนานา แต่แฟนผมเขาก้อบอกว่า
ไม่ได้หลั่งในซักหน่อย แถมหากนับวันแล้ว วันตกไข่ก็ประมาณวันที่ 1 มีค นู่น
แล้วยังกินยาคุมฉุกเฉินอีก โอกาสท้องก้อคงยากแล้ว ซึ่งมันก็จริงอยู่ตามที่แฟนผมบอก
แต่ทำยังไงล่ะครับ คนมันไม่มีความรู้ด้านนี้ หรือเรียกสั้นๆว่าโง่ ก็กังวลไปเรื่อย
ช่วงนั้นกินอะไรไม่ค่อยลงเลยครับ เครียดมาก รู้สึกจะอ้วกอยู่ตลอด
ระหว่างนี้ผมก็หาข้อมูลใน อินเตอร์เน็ตตลอด อ่านมันแทบทุกเว็บ (แต่พันทิปนี่จะอ่านน้อยหน่อย
เพราะอ่านแล้วหลายๆ กระทู้อ่านแล้วเครียดกว่าเดิม อิอิ) ทำให้เราพอรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงแล้ว
แต่ก้อยังเครียดอยู่ดี เมื่ออยุ่ในจุดนั้น ผมมักจะเห็นความเป็นไปได้ที่จะท้อง
มากกว่าความเป็นไปได้ที่จะไม่ท้อง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว
ความเป็นไปได้ที่จะท้องนั้นไม่สูงเลย

แล้วเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ก็ผ่านไปด้วยความตึงเครียดและกินข้าวไม่ลงของผมเอง
ตอนนี้ต้นเดือนมีคแล้วผมเริ่มจะรู้สึกทำใจได้ขึ้นมาบ้างว่าเออ รอดูไปก่อนละกัน
แต่แล้ว แฟนผมก็บอกว่า ประจำเดือนมา
ทั้งที่ความจริงประจำเดือนควรจะมาช่วงกลางเดือน กลับมีประจำเดือนมา
ไม่ใช่เลือดแบบกระปริบกระปรอย แต่ประจำเดือนมาจริงๆ
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นวันที่ 2 มีค ตอนนั้นความเครียดโจมตีผมอีกระลอก
ไม่รู้ว่าทำไมประจำเดือนถึงมาตอนนี้ ใจนึงก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงของยา
แต่ก็เครียดอยู่ดี แต่ก็ยังพอสามารถทำใจผ่านไปได้ จนช่วงเวลาประมาณกลางเดือน มีค
แฟนผมก็บอกว่า เนี่ยเป็นตกขาวมาตั้งแต่หลังเป็นประจำเดือน เป็นมาตลอดเลย
บางวันมีตกขาวเยอะมาก(แต่สีขาวแบบปกตินะครับ) เยอะแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ได้ยินอย่างงั้น เป็นไงละครับ
ความเครียดที่สะสมมาเรื่อยๆ ปะทุออกมาของจริง ผมเครียดมากๆๆๆๆ อีกแล้ว
ยิ่งเสิชพันทิป และเว็บอื่นๆ ก็พบว่าตกขาวมักจะมามากในผญ.บางคนที่กำลังตั้งครรภ์เดือนแรกๆ
ผมนี่ยิ่งเครียดเลยครับ (แต่ความจริงในเว็บเดียวกันก็บอกว่า
ตกขาวมามากเกิดได้หลายสาเหตุ อาจเกิดจากยาที่มีผลต่อฮอร์โมนก็ได้เช่นกัน) แต่ตอนนั้นผมโดนความเครียดบังตาซะมิด
ไม่เห็นอะไรเลยครับ เลยเครียดมาก แต่ก็ยังเชื่อว่า รอดูอีกสักหน่อย
จนกระทั่งวันที่ 27 มีค ไม่กี่วันมานี้ แฟนผมบอกว่าเมนสมา เพราะมีเลือดติด กกน.
แต่ว่ามาแค่นิดเดียว ผมก็ไปเสิชดู ก็ไปเจอเรื่อง
เลือดล้างหน้าเด็กอีกหนักเลยคราวนี้ แฟนก็ปลอบว่าใจเย็นๆ รอดูพรุ่งนี้ก่อน
ผมยิ่งเครียดหนัก ทั้งตกขาวมามาก เลือดออกกะปริบกะปรอยอีก เครียดมาก
ถึงขนาดบอกกับแฟนว่าพรุ่งนี้ ไปซื้อที่ตรวจครรภ์กันเถอะ ไม่อยากเครียดแบบนี้ต่อไป
เครียดมาทั้งเดือนแล้ว แฟนผมก็โอเค
แต่สุดท้ายคืนนั้นผมก็กังวลจนแทบไม่ได้นอนอยู่ดี แต่ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลายลง
เมื่อเช้าวันที่ 28 แฟนผมมีประจำเดือนมา ก็คือเลือดมาเยอะเหมือนทุกเดือนนั่นแหละครับ
ผมเลยรู้สึกโล่งในระดับหนึ่ง วันที่ 29 ก็ยังมาต่อเนื่อง แต่ปริมาณน้อยลง แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยแน่นอนครับ
แฟนผมก็มีอาการเหมือนตอนเป็นเมนส ทุกๆเดือนเหมือนปกติ วันนั้นมีโอกาสเลยได้เข้าไปปรึกษาพี่เภสัชกร
พี่เภสัชกร ก็เล่าให้ฟังถึงกระบวนการทำงานและออกฤทธิ์ของยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งหลายๆ
เรื่องก็เหมือนกับที่ได้อ่านในอินเตอร์เน็ตนั่นแหละครับ
แต่พอได้ฟังจากปากพี่เภสัชกรว่า ไม่น่ากังวลทั้งเรื่องตั้งครรภ์กับโรคแทรกซ้อนต่างๆนานาก็เลยรู้สึกว่าโล่งใจขึ้นเยอะ
แต่พี่เค้าก็บอกว่า อาจจะต้องรอให้ร่างกายเซ็ตตัว อีกสองสามเดือน
กว่าประจำเดือนแฟนผมจะมาแบบปกติ

พอมานั่งคิดดูแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดที่ทำให้ผมเกิดความเครียดและความกังวลมากๆเลย
ก็คือความไม่รู้และความประมาทของผมเองครับ คืนวันที่ถุงยางอนามัยแตก
ผมมีอะไรกับแฟนตอนปิดไฟ อาจจะด้วยความไม่ชำนาญ .////. ทำให้การใส่ถุงยางในที่มืดเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผม
และอาจไล่ลมออกจากกะเปาะไม่หมดในตอนใส่ นั้นเองที่เป็นที่มา
ผมกับแฟนเลยคุยกันว่าเอาไงดีหลังจากนี้ไป และได้ข้อสรุปว่าแฟนผมจะกินยาคุมแบบแผงดีกว่า
เพราะจะสะดวกกว่าและโอกาสพลาดน้อยกว่า ฟังดูแล้วอาจดูเป็นการผลักภาระความรับผิดชอบ
จากความประมาทของผม ซึ่งผมไม่ปฏิเสธครับ ผมยอมรับผิดทุกอย่าง
และผมได้คุยกับแฟนแล้ว จึงได้ข้อสรุปมาแบบนี้ ดังนั้นใครที่ใช้ถุงยางอนามัยอยู่ก็อยากให้ใส่ใจกับขั้นตอนการใส่และการใช้หน่อยนะครับ
ผมรู้ว่าเมื่อถึงสถานการณ์จริงแล้วสารเคมีในร่างกายทำให้มันหยุดยาก แต่ก็อยากให้
ใส่ใจและระมัดระวังกันซักหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องมาเครียดเหมือนกับผม

ซึ่งนี่แหละครับเรื่องราวของผมกับยาคุมฉุกเฉิน
ส่วนตัวแล้วที่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะอยากแชร์ประสบการณ์ ผมเองรู้ตัวว่าเป็นคนที่ขี้กังวลมากๆ
อาจจะติดอันดับโลกเลยก็ว่าได้ ผมเลยอยากเป็นกำลังใจให้หลายๆคนที่กำลังเครียด กังวล
หรือตกที่นั่งลำบากแบบเดียวกันนี้หรือ แย่กว่าผมก็ตาม ผมรู้ว่าไม่มีใครจะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้ถ้าไม่อยู่ในสภานการณ์เดียวกัน
ผมเลยอยากเป็นกำลังใจให้นะครับ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ ที่สำคัญคือผมต้องขอบคุณแฟนของผมด้วยที่อยู่ด้วยกันมาตลอด
คอยใจเย็นเสมอในเวลาที่ผมกังวลมากๆ คอยให้ความสบายใจ ผมไม่ใช่ผช.ที่ดีสุดแต่จะพยายามดูแลเธอให้ดีที่สุด
และขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วยนะครับ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านในทางใดทางหนึ่งนะครับ

ป.ล.   ตัวผมเองบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ แต่ยังไม่พร้อมกับการมีบุตร

ป.ล.2 อยากให้แสดงความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่