เริ่มแรกเลยนะคะ
1. วันพฤหัสบดี ที่ 21 มี.ค. เรารู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนังช่วงเอวมาถึงหน้าท้องด้านขวาเวลาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการลูบเบาๆ ใส่กางเกง หรือเดิน แต่เป็นอาการแสบร้อนแค่ตรงผิวหนังเฉย ๆ เรานึกว่าผิวเราอาจจะแห้งเลยทาโลชัน กับน้ำมันมะพร้าวไปแต่ไม่หาย 
2. วันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. เรารู้สึกปวดข้างในบริเวณเอว ไม่มีบาดแผลและรอยฟกช้ำ ส่วนบริเวณผิวหนังรอบ ๆ ถ้าถูกสัมผัสจะแสบอยู่ บางทีมีปวดบีบ เกร็ง เป็นช่วง ๆ วิ่งไปที่ขอบสะดือด้านขวา อาการปวดบีบมาเป็นช่วงๆ และถี่ผสมกับการปวดบริเวณเอวและหน้าท้องด้านขวาที่ปวดอยู่ตลอดเวลา เราจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลในประกันสังคม
3. เมื่อถึงรพ. คุณหมอกดที่ท้องด้านขวา ใต้ชายโครงด้านขวาช่วงเอวเรามีสะดุ้งเล็กน้อย แต่บอกไม่ได้แน่ชัดว่าปวดตรงไหน เพราะมันปวดบริเวณท้องด้านขวาไปหมด ร้าวไปถึงหลังด้านขวา คุณหมอจึงให้ตรวจเลือดและปัสสาวะผลออกมาปกติ เราได้ยาลดกรดและยาช่วยย่อยมาทาน แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร พร้อมนัด Ultrasound วันที่ 12 เม.ย. 
4. อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 25 มี.ค. ไปอีกโรงพยาบาลนึง เป็นรพ. รัฐเช่นกันและขอจ่ายเงินสด คุณหมอลองทุบๆที่หลังเราไม่เจ็บแต่เราปวดท้องมาก นั่งตัวตรงๆ ไม่ได้เลย คุณหมอวินิจฉัยมาว่า อาจเป็นกระเพาะอักเสบหรือลำไส้อักเสบ เพราะอาการแบบนี้ถ้าส่องกล้องไปกะเพราะแดงทุกคน เราได้ยารักษาแผลในลำไส้/กระเพาะมาทาน 
5. เราทานยามาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 29 มี.ค. อาการไม่ดีขึ้นและรู้สึกปวดบริเวณเอวและข้างในท้องด้านขวาหนักกว่าเดิม จนไม่สามารถนั่งได้นานๆ ต้องลงไปนอน บางทีปวดบีบจนน้ำตาไหล และไม่สามารถนอนตะแคงขวาได้ แชทไปหาเพื่อนที่เคยเป็นลำไส้อักเสบ เค้าบอกเราว่า 2-3 วันเค้าก็หาย แต่เราเป็นมาครบอาทิตย์แล้ว ยังไม่หาย จึงรีบขึ้นรถไป รพ.ตามประกันสังคมที่แรกที่เราไป ระหว่างทางเวลารถเลี้ยว หรือรถวิ่งเราจะปวดท้องและเสียวที่ท้องด้านขวาตลอดเวลา นั่งไม่สบายเลย
6. เมื่อไปถึง รพ. คุณหมอตรวจตา และกดที่หน้าท้องน้อย 2-3 ที เราบอกว่าเราปวดไปหมด คุณให้ยาแก้ปวดต่างชนิดกันมา 3 แผง และเราถามว่า ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ คุณหมอบอกเดี๋ยวเราตรวจตามนัด (วันที่ 12 เมษา) เราไม่เข้าใจนิดหน่อยว่านี่เราก็มาตรวจอยู่ไม่ใช้หรอ แต่ก็กินยาแก้ปวดเย็นวันนั้นเลย ช่วงดึกอาการปวดที่เอวหายไป เราสามารถก้มได้ เดินได้คล่องกว่าเดิม แต่ยังมีปวดจี๊ดๆ อยู่บ้าง
7. ตื่นเช้ามาเรามีอาการปวดหนักกว่าเดิมที่เอว และ หลังด้านขวา เพราะแค่เดินก็เสียวแล้ว เราเป็นอะไรคะ แล้วต้องปฏิบัติตัวยังไง เพราะมันปวดมากๆ หงุดหงิดไปหมดเลย  

ปล. เราไม่มีประกันของเอกชนนะคะ และเราก็ไม่มีเงินพอไปตรวจกับเอกชนด้วย พอดีเพิ่งทำงานครั้งแรกมาได้แค่ปีเดียว เรานึกว่า เสียประกันสังคม 750 บาท แล้วก็น่าจะเพียงพอ เนื่องจากประกันตัวอื่นๆ ที่เคยดูก็เสียราคาประมาณนี้ ไม่อยากเสียซ้ำซ้อน เราคิดผิดแน่ๆเลย