หาทางออก เพราะอึดอัด โมโหแม่เพราะเกลียดพ่อเลี้ยง

เริ่มต้นจาก ครอบครัวเราพ่อแม่ หย่ากันตั้งแต่ เราเรียนประถมต้น แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกับพ่ออีกเลย เราอาศัยอยู่กับตายาย ที่ต่างจังหวัด ส่วนแม่ทำงานอยู่กทม 
จนมาวันนึง...เราเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย แล้วแม่ก็มีแฟน โดยที่ตายายไม่เห็นด้วย

แต่ก็ยอมให้มีมาจนถึงทุกวันนี้ จนเราอายุ 23 ปี เราต้องมาฝึกงานที่กทม แล้วแม่ก็ซิ้อบ้าน และให้เราไปอยู่ด้วย หลังจากนั้นปัญหาก็มีมาตลอด เช่น เรื่องเล็กๆน้อยๆ พ่อเลี้ยงของเรา ทำอาชีพ ขับแท็กซี่ เป็นคนพูดมาก พูดเยอะ ไม่มีมารยาทชอบยิ้มเรื่องคนอื่น ซึ่งเราไม่ชอบ เราก็เก็บไว้ในใจ กินข้าวเยอะ ชอบตินั้นตินี้ กินไปพูดไป กินเสร็จก็ไม่ล้าง แล้วมันจะปล่อยไว้ให้ใครล้าง และตอนเย็นแม่เราทำงานกลับมา ต้องมาทำกับข้าวให้มันกิน พอเหนื่อย ก็มาใส่อารมณ์ลงที่เรา และเวลาเราดูทีวีมันก็เดินมาเปลี่ยนช่องเฉยเลย คือเราดูอยู่อ่ะ และก่อนที่จะซื้อบ้านมันก็สัญญากับแม่ว่าจะไปรับไปส่งแม่เราถึงที่ทำงาน แล้วพอมาวันนึงมันอยากจะไปส่งก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ไป แล้วแม่ก็จะให้เราตื่นไปส่ง  มันจะชอบไปฟ้องแม่ว่าเราไม่ทำความสะอาดบ้านเลย ซึ่งแม่ก็ไม่ได้มาว่าเราหรอก เพราะเราจะทำแค่วันเสาร์ หรือทำอาทิตย์ละครั้ง 

จนมาวันนึง เรากับแม่ทะเลาะกันเรื่องจิปาถะความสะอาดที่บ้าน  ต่างๆ แล้วเราโมโหเราก็ไม่ยอมเราก็เถียงคืน จนแม่เราเผลอไล่เราออกจากบ้าน เราก็จะไปจริง แต่พอจะไปจริงๆก็มาพูดดีด้วย เราก็อยู่ต่อ....

เราก็ทนอยู่มาได้จนเราอายุ25 ปี เราอึดอัดใจทุกวัน เราต้องเห็นแม่เหนื่อย กลับมาต้องมาทำกับข้าวให้มันแ_ก  แล้วมันก็เทศกินซะเหลือเกิน แล้วพอวันไหนแม่เราเหนื่อยมากๆ อารมณ์ก็จะพาลมาลงที่เรา เราก็จะพาลโกรธมันไปด้วย เพราะถ้าไม่มีมันแม่เราคงไม่เหนื่อยอย่างนี้ (ปกติถ้าเรากับแม่อยู่ด้วยกันสองคน เราก็จะซื้อข้าวสำเร็จรุปเข้าไปเลย  แต่ถ้ามีมันอยู่ด้วยเราก็ไม่อยากซื้อ เพราะเราเกลียดมัน 
และมันไม่กินอาหารตลาดด้วยนะ ต้องเป็นอาหารที่แม่ทำเท่านั้น !!! และเวลาเราซื้ออาหารมา เพื่อที่จะเก็บเอาไว้กินในเช้าวันถัดไป แช่ตู้เย็นไว้ พอเช้ามาของกินหาย มันเอาไปกิน เราแช่อะไรอร่อยๆไว้มันเอาไปกินหมดเลย ไม่มีขออนุญาต 

และเวลาที่เราจะพูดถึงมัน แม่จะชอบบอกว่าอย่างน้อยเขาก็ช่วยเรื่องค่าเทอม หมายถึงตอนที่แม่ส่งเราเรียน แล้วเราก็จะคิดในใจว่า ไม่มีมันเราก็อยู่แบบพอเพียงก็ได้ เงินเดือนแม่เราประมาณ 4 หมื่น ลูก 2 คน ตอนนั้นเราเรียนมหาลัยรัฐบาลค่าเทอมก็ไม่แพงมาก แต่ละเทอม ไม่เกิน 8,000 บาท และน้องเราก็เรียนมัธยมในตอนนั้น แม่อ้างว่ามันช่วยค่าเทอม คือเราก็ไม่ได้ขอมันนะ อย่ามาทวงบุญคุณกับเรา จริงๆแล้วเราว่ามันไม่ได้มาช่วยอะไรหรอก เป็นข้ออ้างของแม่ ที่อยากให้เรามองว่ามันดีต่างหาก

จนถึงวันที่พ่อ มันเสียที่ต่างจังหวัด แม่ก็มาบังคับให้เราลางาน เพื่อไปงานศพพ่อมัน ซึ่งไม่ใช่ญาติเราเลย เราโครตโมโห เราต้องมาเสียการเสียงานเพราะพ่อมันตาย  เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เราก็ต้องไป ซึ่งเราก็ต้องแอ๊บทำดีกับคนที่บ้านมัน ทั้งๆที่เราเกลียด 

และพอหลานเราปิดเทอมลงมาอยู่ด้วย และหางานทำแถวบ้าน มันก็ใช้หลานเราล้างจานกวาดบ้านถูบ้าน ใช้เป็นขี้ข้าเลย พอมันกินข้าวเสร็จก็ไม่ล้าง หลานเราต้องมาล้างให้ หลานเราซื้ออะไรมากินมันก็แย่งกิน 

และทุกวันนี้ เราไม่อยากทำอะไรเพื่อแม่เลย เพราะ ถ้าเราทำอะไรให้ ก็จะต้องเอาไปเผื่อมันตลอด เช่น เราซื้อนมซื้อของดีๆ มาให้แม่กิน แม่ก็เอาไปให้ไอ้พ่อเลี้ยงหมดเลย คือเหมือนทุกวันนี้เราทำอะไรเพื่อแม่แล้วมันพลอยได้ไปด้วย ทำให้เรารู้สึกอึดอัด รู้สึกไม่มีความสุขเวลาอยู่บ้านหลังนี้

โทรกลับไประบายให้ยายฟัง บอกอยากย้ายออกไปอยู่คนเดียว ยายก็บอกให้อดทน อยู่เพื่อแม่ อยู่ดูแลแม่ ความสุขของแม่ (อ้าวแล้วความสุขของเราละ)
(จริงๆแล้วเราเลี้ยงหมาอยู่ตัวนึง เราก็ยังไม่อยากทิ้งออกไปอยู่หอ หรือคอนโด) 
ทุกวันนี้สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เลิกงานป้อนข้าวหมาเข้าห้อง เช้ารีบออกจากบ้านไปทำงาน  
และอีกไม่นานเราว่าถ้าทะเลาะกันอีก เราจะพูดสิ่งที่เราอึดอัดอยู่ในใจออกไปให้หมด เราคิดว่าแม่คงรับไม่ได้ถ้าเราจะเกลียดสามีของแม่

แล้วเราจะออกไปอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครว่าซักที 

เราอยากรู้ว่ามีใครที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้เหมือนเราไหม แล้วหาทางออกยังไง !!
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คุณต้องอ่านใจแม่ให้ออก
แม่คุณหย่ากับพ่อแล้ว   ตอนนี้ สามี ของแม่ คือผู้ชายคนนี้
เราคนนอก อ่านเกมส์ว่า  ในเมื่อลูกทุกข์ใจขนาดนี้  แม่ก็เหนื่อยขนาดนี้  ทำไมแม่ยังอยู่กับผู้ชายคนนี้ต่อ  ความเป็นไปได้  ที่พอจะคิดออก   ว่าแม่ต้องการอะไรจากเค้ากันแน่
1. เพราะปัญหาการเงิน ต้องพึ่งพาเค้าหรือเปล่า   หรือ
2. ความต้องการด้านร่างกาย(sex)   หรือ
3. ความต้องการด้านจิตใจ  อารมณ์  คือ  รักเค้านั่นแหละ  ต้องการมีผู้ชายสักคนในชีวิต เอาไว้ยึดเหนี่ยว  ไม่อยากเลิกราอีก  คิดว่าการเลิกกับผัวคือความล้มเหลวในชีวิต  ไม่อยากโดนเรียกว่าแม่หม้าย   หรือ
4. เขาเป็นคนดีจริงๆ  แค่คุณกับพ่อเลี้ยงเข้ากันไม่ได้

ผู้หญิงหลายคน  เหตุที่ทนกับคนแย่ๆ  ก็มีแค่3ข้อแรกนั้น

ม่าย-แม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคน  รักลูกมากกว่าตัวเอง  ก็เลือกลูกมาก่อน  ไม่ยอมแต่งงานใหม่จนกว่าลูกสาวจะโตพอป้องกันตัวเองได้  เช็คแล้วเช็คอีกจนแน่ใจผู้ชายดีพอ  รอให้ลูกยอมรับพ่อใหม่ก่อนค่อยแต่ง

แต่ก็มีไม่น้อย  ที่ทนรับสภาพ 1. 2. 3. ไม่ไหว  เลยดึงผู้ชายใหม่เข้ามา
ในชีวิต  ทำให้ความรักระหว่างแม่ลูกต้องบกพร่องไป

ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว (แม่มีผัวใหม่แล้ว)  คุณเองก็ทำข้อ 1. 2. 3. ให้แม่แทนเขาไม่ได้
ทนรับสภาพไปค่ะ   เอาตัวให้รอดไปวันๆ
ตั้งใจเรียน ทำงาน หาเงิน ย้ายออก  พึ่งพาลำแข้งตัวเองค่ะ
ไม่ต้องปรนเปรอแม่หรือเสียเงินกับการซื้อของมาให้แม่แบ่งให้พ่อเลี้ยงหรอก   แม่เค้าไม่ได้ต้องการสิ่งของพวกนั้น  
เก็บเงินไว้ดีกว่า  เอาตัวให้รอด  ตั้งตัวให้ได้เร็วๆค่ะ   อยากออกไปอยู่คนเดียวจริงๆหรือเปล่า
หรือแค่อารมณ์ฉุนเฉียว  ออกไปแล้วลำบากนะ  ทุกสิ่งอย่างต้องใช้เงิน  ค่ากินค่าอยู่ ที่พัก เดินทาง  เงินทั้งนั้น  ถ้าจะออกไปต้องเริ่มตั้งเป้าชีวิตตัวเองได้แล้วค่ะ
อย่าเสียเวลาในชีวิตอันมีค่าของเราไปกับเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้
คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูน  ย่อมโกรธได้  เสียใจได้  แต่อย่านาน  มันเสียเวลาความสุขของเราค่ะ
สู้ๆนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่