สวัสดีครับ ทริปนี้ จุดหมายปลายทางเราคือ อาณาจักรขอมอันยิ่งใหญ่ นครวัด เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ครับ เราเริ่มต้นการเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี เราออกจากอุบลประมาณ หกโมงเช้า โดยรถยนต์ส่วนตัว มุ่งหน้าสู่จังหวัดศรีสะเกษ และเราเลือกที่จะข้ามด่านที่ ด่านช่องสะงำซึ่งเป็นด่านที่ไกล้ที่สุดจากอุบล เรามาถึงด่านชายแดนช่องสะงำ ประมาณ แปดโมงครึ่งใช้เวลา จากอุบลราชธานี - ด่านชายแดนช่องสะงำ ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าครับ
เราจอดรถไว้ที่ด่านฝั่งไทย มีบริการฝากรถ มีหลังคาบังแดดบังฝนได้ดีเลยครับ อัตราค่าฝาก ชั่วคราว 40 บาท ค้างคืน คืนละ 100 บาท เราจอด 2 คืน 200 บาท จากที่จอดรถไปด่านไม่ไกลมาก จะเดินชมวิวไปหรือนั่งพี่วินไปก็มีบริการครับ
การข้ามด่านไม่ยากไม่มีพิธีรีตองอะไรเยอะ มีแค่พาสปอร์ต ให้พี่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ปั้มขาออกแล้วก็เดินไปยังฝั่งพี่ กัมพูชา ปั้มเข้าประเทศพร้อม จ่างเงิน 100 บาท เป็นอันเรียบร้อย เสร็จจาก ตม.แล้ว จะมีญาติๆ มาถามข่าวการไปการมาของเราเยอะแยะเลยครับประเทศนี้เขาใจดีจัง ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ต่างมาถามว่าเราจะไปใหน มีรถยัง ให้พี่ไปส่งใหม เราได้แต่ยิ้มครับ เราเดินออกมา เพื่อไปหาซื้อซิมโทรศัพท์เปลี่ยนก่อน ซิ่มที่นี่พร้อมเติมเงิน ราคาได้ที่ 80 บาท สบายใจละครับ ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว หลักจากได้ซิมแล้ว ญาติๆ เราก็ยังคงตามมาดูแลอยู่ เราเลยบอกญาติเราไปว่าจะไปเสียมเรียบ พี่ญาติบอกว่า 1500 บาท เราก็อืม...ตามที่อ่านรีวิวมาเป๊ะ แต่ในรีวิวพี่เขาต่อได้ 1200 บาท เราก็ต่อบ้างครับ ต่อกันไปกันมาสักพักหนึ่งราคาได้ที่ 1300 บาท ดิวกันที่ราคานี้ไปส่งถึงที่พักเลย พี่แกรีบบึ่งรถมารับเลยครับ เก็บของสัมภาระขึ้นรถเสร็จสับ เรามุ่งหน้าต่อไปเที่เมืองเสียมเรียบ และนี่คือรถที่พาเราไปครับ
แอร์เย็นๆนิดหน่อย บวกกับเสียงเพลงที่พี่เปิดมาที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็หลับสิครับ แต่ถนนที่นี่คลื่นจะใหญ่นิดหน่อย หลับๆ อยู่ก็ต้องตืนครับเพราะคลื่นถนนที่นี่
และแล้วเราก็มาถึงเสียมเรียบ ประมาณเที่ยงกว่าๆ เราได้จองที่พัก ผ่าน Agoda ครับเราเลือกที่ Lub D Cambodia Siem Reap ครับเราเลือกที่จะนอน โฮสเทล ราคาจะได้สบายกระเป๋ากันหน่อย เราจองไว้สองคืน ได้ราคาที่ 400 บาท และเป็นครั้งกับโฮสเทลของผมด้วย ไปดูบรรบากาศที่พักกันครับ คนที่พักส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ
ด้านหน้าจะเป็นร้ากาแฟครับ ไว้มานั่งสโลไลฟ์กัน ห้องห้องหนึ่งจะมี 10 เตียง เป็นเตียงสองชั้น มีปลั๊กไฟให้มีตู้ล็อกเกอร์เล็กตรงเตียงนอนและตู้ล็อกเกอร์ใหญ่พร้อมราวแขวนผ้าให้ แต่ไม่มีกุญแจให้ จบเลย ไม่ได้เอากุญแจมาด้วย ครั้งนี้เราได้ชั้นบนครับ เป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำเลย
ในส่วนของห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมแยกชาย หญิง มีห้องอาบน้ำแยก ห้องส้วมครับ ห้องน้ำสะอาดใช้ได้ ดีครับ
เล่ามาซะนานตอนนี้มันเที่ยงแล้วนะครับ เก็บของเข้าที่พักเสร็จสับ ออกไปหาของกินกัน ทริปนี้เรามากับรีวิวครับเราอ่านรีวิวมาเยอะ มีคนไทยรีวิวร้านนี้มาเยอะคะแนนดีด้วย ร้าน SPOONS ดูจาก map แล้วไม่ไกลจากที่พักครับงั้นเดินชมวิวกันไปครับ ไม่ไกลมากเราก็มาถึง
บรรยากาศร้านร่มรื่นดีครับ ชิวๆ สบายๆ มีออร์เดิฟมาให้ชิมด้วย เป็นผักผลไม้หลากหลายชนิด ราดด้วยน้ำซอสอะไรสักอย่ากลมกล่อมดีคง เราสั่งอาหารมาสองอย่าง อันนี้จำชื่อไม่ได้แต่รสชาด ปะแล่มปะแล่ม ใช้ได้
กินเสร็จอิ่มครับ แต่มันต้องต่อด้วยของหวาน ถึงจะถูกต้องเราเดินต่องมาร้านไอศกรีมรสเด็ด ร้าน Gelato ไอศกรีมร้านนี้เด็ดจริงครับ บรรยากาศร้านก็ได้ลั่นชัตเตอร์รัวๆเลย ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ที่ PUB STREET เลยครับ
ส่วนอันนี้ร้านข้างๆ สวยดี เลยเก็บภาพมาฝาก
เราเลยถือโอกาศสำรวจ PUB STREET ตอนกลางวันเลย กลางวันจะไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ครับ แต่พอตกเย็นมานี่เต็มเลยละครับ ถ่ายรูปเล่นไปพลางๆ เพราะตอนเย็นเราค่อยจะกลับมาอีก
เดินจนเหนื่อยละครับกลับ ไปตากแอร์เย็นๆ ที่ห้องพักดีกว่าครับ เพราะอากาศที่นี่ร้อนใช้ได้เลยที่เดียว ไปพักเอาแรงกันก่อนเพราะช่วงเย็นเราต้องไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม นครวัด ในวันพรุ่งนี้
หลักจากพักร่างกับแอร์เย็นๆได้สักพักเราก็ได้เวลาที่ต้องออกไปซื้อตั๋วกันแล้วครับเราเลยลองออกมาเรียกรถที่หน้าที่พักดู มีพี่สามล้อรออยู่เต็มเลย เราลองถามราคาดู พี่แกบอก 2 คน คนละ 10 US โหวพี่ คิดในใจฟันตรูแล้ว แต่เหมือนตอนต้นคือเราทำการบ้านมาเยอะ อ่านรีวิวมาเยอะครับ ตามรีวิวพี่ๆ แนะนำให้เรียก Grab ครับเพราะราคาจะถูกกว่าและ Grab ที่นี่ถูกกฎหมายด้วย ไม่เหมือนประเทศบางประเทศที่ Grab ผิดกฎหมาย ประเทศข้างๆนิ กลับเข้ามาเข้าเรื่องดีกว่าครับ ลืมบอกไปครับว่าที่นี่แนะนำให้ใช้สกุลเงิน US ดอลล่าร์ จะได้เรดราคาดีกว่าเงินบาท หรือเงิน เรียวของกัมพูชา
สักพักพี่ Grab เราก็มา เหลืองอ๋อยมาเลย
พี่ Grab เราชื่อพี่ รัตนา ครับ อัธยาศัยดี ชวนคุยดี พาเราไปซื้อตั๋ว แล้วเราก็เลยดิวพี่แกให้พาไปชมพระอาทิตย์ตกที่บาเค็งต่อเลย
เรามาถึงที่จำหน่ายตั๋ว ยังไม่เปิดครับ เราไปเข้าแถวรอสักพัก เพราะเขาจะเปิดขาย 16.30 น. ยืนแปบๆ พี่เขาก็เริ่มบรรเลงครับ ราคา ตั๋วจะมีอยู่ 3 แบบให้ได้เลือกครับ
1 วัน ราคา 37 US
3 วัน ราคา 62 US
7 วัน ราคา 72 US
เราเลือกแบบ 1 วันครับ ตั๋วที่นี่จะมีรูปเราแปะอยู่ในตั๋วด้วยเกร๋ๆ ไม่มีการขโมยตั๋วกันแน่นนอน พอเราได้ตั๋วเสร็จเราก็รีบให้พี่รัตนาบึ่งรถไปที่บาเค็งเลย เพื่อที่จะให้ทันชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่สามล้อพี่รัตนาแกก็ไปเรื่อยๆ ของแก ตรูจะทันใหมนิ แต่พี่ๆที่นี่เขาขับรถแบบ สโลไลฟ์กันมากครับ ถ้าสามเจอสามล้อบ้านเราละก็.......
และแล้วเราก็มาถึงครับ บาเค็ง หรือ ปราสาทพนมบาแคง เป็นศาสนสถานแห่งแรกของเมืองพระนคร ตั้งอยู่บนยอดเขา จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะเห็นยอดปราสาทนครวัดผุดขึ้นกลางป่า และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดเสียมเรียบ ครับ เราไม่รอช้าเร่งฝีเท้าขึ้นไปยอดเขาครับหวังว่าจะได้เห็นไข่แดง ก่อนลับขอบฟ้า
เราต้องมาต่อแถวครับเพราะด้านบนเขาจำกัดจำนวนคน เราก็รอต่อไปสิครับ รอๆๆๆ เมื่อไหร่จะถึงคิวเราซักที ลงมาบ้างดิเปลี่ยนกันขึ้นไปดูบ้าง แล้วมีเสียงจากเจ้าหน้าที่บอกว่าไปดูตรงด้านล่างก็ได้นะครับเพราะพระอาทิตย์จะตกแล้ว แต่เราไม่ยอท้อถอยครับไม่เอา จะขึ้นไปดูข้างบน งั้นรอต่อไป ในที่สุดก็ถึงคิวของเราครับได้ขึ้นแล้วโว้ยยย
ได้ขึ้นมาแล้วโว้ย.......ใหนละไข่แดงของเรา อะไรนะไข่แดงเราไปแล้ว อดครับเพราะกว่าที่เราจะได้ขึ้นมาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ยังไงก็ได้ขึ้นมาละชมวิวรอบๆ เอาก็พอได้อยู่น้า วิวดีอยู่สวยงาม
สรุปแล้วเรามาไม่ทันไข่แดง งั้นเรากลับกันดีกว่าเราบอกให้พี่รัตนา ไปส่งเราที่ PUB STREET เพื่อที่จะไปเดินชิวๆ หาของกินกัน
มาถึงยามค่ำคืนคึกคักจริงๆ ครับต่างกันมากจากตอนที่เรามาตอนกลางวันนี้ ผู้คนคับคั่ง มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้น เราเลือกร้านนี้แล้วกันครับ สั่งของกินมาอย่างหนึ่งเป็นเหมือนผัดผักใส่เนื่อสัตว์ บวกด้วยไข่ดาว รสชาดกรมกร่อมครับ ถือว่าอร่อยเลยละ รสชาดไม่ต่างจากบ้านเราแล้วเราก็ได้เครื่องดื่มมา 1 แก้วเป็นเบียร์ครับ เพราที่นี่เบียร์ถูกมาก ถูกกว่าน้ำเปล่าด้วยซ้ำ แก้วนี้ตกอยู่ที่ 0.5 US ถ้าราคาเงินไทยก็ ประมาณ 16 บาท เที่ยบกับบ้านเรากระป๋องละ 40 50 บาท แต่น้ำเปล่าตกอยู่ที่ขวดละ 1 US จึงเหมาะสำหรับสายดริ้งครับ แต่เราคงดริ้งเยอะไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ นครวัด หลังจากที่เราพลาดพระอาทิตย์ตกที่บาเค็งไปแล้วในวันนี้
คืนนี้แค่นี้ก่อนละกันครับแล้วมาต่อกันในวันที่ 2 ของเราครับ
[CR] อุบล - ศรีสะเกษ - ช่องสะงำ - อัลลองเวง - เสียมเรียบ นครวัด นครธม 3 วัน 2 คืน
เราจอดรถไว้ที่ด่านฝั่งไทย มีบริการฝากรถ มีหลังคาบังแดดบังฝนได้ดีเลยครับ อัตราค่าฝาก ชั่วคราว 40 บาท ค้างคืน คืนละ 100 บาท เราจอด 2 คืน 200 บาท จากที่จอดรถไปด่านไม่ไกลมาก จะเดินชมวิวไปหรือนั่งพี่วินไปก็มีบริการครับ
การข้ามด่านไม่ยากไม่มีพิธีรีตองอะไรเยอะ มีแค่พาสปอร์ต ให้พี่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ปั้มขาออกแล้วก็เดินไปยังฝั่งพี่ กัมพูชา ปั้มเข้าประเทศพร้อม จ่างเงิน 100 บาท เป็นอันเรียบร้อย เสร็จจาก ตม.แล้ว จะมีญาติๆ มาถามข่าวการไปการมาของเราเยอะแยะเลยครับประเทศนี้เขาใจดีจัง ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ต่างมาถามว่าเราจะไปใหน มีรถยัง ให้พี่ไปส่งใหม เราได้แต่ยิ้มครับ เราเดินออกมา เพื่อไปหาซื้อซิมโทรศัพท์เปลี่ยนก่อน ซิ่มที่นี่พร้อมเติมเงิน ราคาได้ที่ 80 บาท สบายใจละครับ ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แล้ว หลักจากได้ซิมแล้ว ญาติๆ เราก็ยังคงตามมาดูแลอยู่ เราเลยบอกญาติเราไปว่าจะไปเสียมเรียบ พี่ญาติบอกว่า 1500 บาท เราก็อืม...ตามที่อ่านรีวิวมาเป๊ะ แต่ในรีวิวพี่เขาต่อได้ 1200 บาท เราก็ต่อบ้างครับ ต่อกันไปกันมาสักพักหนึ่งราคาได้ที่ 1300 บาท ดิวกันที่ราคานี้ไปส่งถึงที่พักเลย พี่แกรีบบึ่งรถมารับเลยครับ เก็บของสัมภาระขึ้นรถเสร็จสับ เรามุ่งหน้าต่อไปเที่เมืองเสียมเรียบ และนี่คือรถที่พาเราไปครับ
แอร์เย็นๆนิดหน่อย บวกกับเสียงเพลงที่พี่เปิดมาที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็หลับสิครับ แต่ถนนที่นี่คลื่นจะใหญ่นิดหน่อย หลับๆ อยู่ก็ต้องตืนครับเพราะคลื่นถนนที่นี่
และแล้วเราก็มาถึงเสียมเรียบ ประมาณเที่ยงกว่าๆ เราได้จองที่พัก ผ่าน Agoda ครับเราเลือกที่ Lub D Cambodia Siem Reap ครับเราเลือกที่จะนอน โฮสเทล ราคาจะได้สบายกระเป๋ากันหน่อย เราจองไว้สองคืน ได้ราคาที่ 400 บาท และเป็นครั้งกับโฮสเทลของผมด้วย ไปดูบรรบากาศที่พักกันครับ คนที่พักส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ
ด้านหน้าจะเป็นร้ากาแฟครับ ไว้มานั่งสโลไลฟ์กัน ห้องห้องหนึ่งจะมี 10 เตียง เป็นเตียงสองชั้น มีปลั๊กไฟให้มีตู้ล็อกเกอร์เล็กตรงเตียงนอนและตู้ล็อกเกอร์ใหญ่พร้อมราวแขวนผ้าให้ แต่ไม่มีกุญแจให้ จบเลย ไม่ได้เอากุญแจมาด้วย ครั้งนี้เราได้ชั้นบนครับ เป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำเลย
ในส่วนของห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมแยกชาย หญิง มีห้องอาบน้ำแยก ห้องส้วมครับ ห้องน้ำสะอาดใช้ได้ ดีครับ
เล่ามาซะนานตอนนี้มันเที่ยงแล้วนะครับ เก็บของเข้าที่พักเสร็จสับ ออกไปหาของกินกัน ทริปนี้เรามากับรีวิวครับเราอ่านรีวิวมาเยอะ มีคนไทยรีวิวร้านนี้มาเยอะคะแนนดีด้วย ร้าน SPOONS ดูจาก map แล้วไม่ไกลจากที่พักครับงั้นเดินชมวิวกันไปครับ ไม่ไกลมากเราก็มาถึง
บรรยากาศร้านร่มรื่นดีครับ ชิวๆ สบายๆ มีออร์เดิฟมาให้ชิมด้วย เป็นผักผลไม้หลากหลายชนิด ราดด้วยน้ำซอสอะไรสักอย่ากลมกล่อมดีคง เราสั่งอาหารมาสองอย่าง อันนี้จำชื่อไม่ได้แต่รสชาด ปะแล่มปะแล่ม ใช้ได้
กินเสร็จอิ่มครับ แต่มันต้องต่อด้วยของหวาน ถึงจะถูกต้องเราเดินต่องมาร้านไอศกรีมรสเด็ด ร้าน Gelato ไอศกรีมร้านนี้เด็ดจริงครับ บรรยากาศร้านก็ได้ลั่นชัตเตอร์รัวๆเลย ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ที่ PUB STREET เลยครับ
ส่วนอันนี้ร้านข้างๆ สวยดี เลยเก็บภาพมาฝาก
เราเลยถือโอกาศสำรวจ PUB STREET ตอนกลางวันเลย กลางวันจะไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ครับ แต่พอตกเย็นมานี่เต็มเลยละครับ ถ่ายรูปเล่นไปพลางๆ เพราะตอนเย็นเราค่อยจะกลับมาอีก
เดินจนเหนื่อยละครับกลับ ไปตากแอร์เย็นๆ ที่ห้องพักดีกว่าครับ เพราะอากาศที่นี่ร้อนใช้ได้เลยที่เดียว ไปพักเอาแรงกันก่อนเพราะช่วงเย็นเราต้องไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม นครวัด ในวันพรุ่งนี้
หลักจากพักร่างกับแอร์เย็นๆได้สักพักเราก็ได้เวลาที่ต้องออกไปซื้อตั๋วกันแล้วครับเราเลยลองออกมาเรียกรถที่หน้าที่พักดู มีพี่สามล้อรออยู่เต็มเลย เราลองถามราคาดู พี่แกบอก 2 คน คนละ 10 US โหวพี่ คิดในใจฟันตรูแล้ว แต่เหมือนตอนต้นคือเราทำการบ้านมาเยอะ อ่านรีวิวมาเยอะครับ ตามรีวิวพี่ๆ แนะนำให้เรียก Grab ครับเพราะราคาจะถูกกว่าและ Grab ที่นี่ถูกกฎหมายด้วย ไม่เหมือนประเทศบางประเทศที่ Grab ผิดกฎหมาย ประเทศข้างๆนิ กลับเข้ามาเข้าเรื่องดีกว่าครับ ลืมบอกไปครับว่าที่นี่แนะนำให้ใช้สกุลเงิน US ดอลล่าร์ จะได้เรดราคาดีกว่าเงินบาท หรือเงิน เรียวของกัมพูชา
สักพักพี่ Grab เราก็มา เหลืองอ๋อยมาเลย
พี่ Grab เราชื่อพี่ รัตนา ครับ อัธยาศัยดี ชวนคุยดี พาเราไปซื้อตั๋ว แล้วเราก็เลยดิวพี่แกให้พาไปชมพระอาทิตย์ตกที่บาเค็งต่อเลย
เรามาถึงที่จำหน่ายตั๋ว ยังไม่เปิดครับ เราไปเข้าแถวรอสักพัก เพราะเขาจะเปิดขาย 16.30 น. ยืนแปบๆ พี่เขาก็เริ่มบรรเลงครับ ราคา ตั๋วจะมีอยู่ 3 แบบให้ได้เลือกครับ
1 วัน ราคา 37 US
3 วัน ราคา 62 US
7 วัน ราคา 72 US
เราเลือกแบบ 1 วันครับ ตั๋วที่นี่จะมีรูปเราแปะอยู่ในตั๋วด้วยเกร๋ๆ ไม่มีการขโมยตั๋วกันแน่นนอน พอเราได้ตั๋วเสร็จเราก็รีบให้พี่รัตนาบึ่งรถไปที่บาเค็งเลย เพื่อที่จะให้ทันชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่สามล้อพี่รัตนาแกก็ไปเรื่อยๆ ของแก ตรูจะทันใหมนิ แต่พี่ๆที่นี่เขาขับรถแบบ สโลไลฟ์กันมากครับ ถ้าสามเจอสามล้อบ้านเราละก็.......
และแล้วเราก็มาถึงครับ บาเค็ง หรือ ปราสาทพนมบาแคง เป็นศาสนสถานแห่งแรกของเมืองพระนคร ตั้งอยู่บนยอดเขา จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะเห็นยอดปราสาทนครวัดผุดขึ้นกลางป่า และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดเสียมเรียบ ครับ เราไม่รอช้าเร่งฝีเท้าขึ้นไปยอดเขาครับหวังว่าจะได้เห็นไข่แดง ก่อนลับขอบฟ้า
เราต้องมาต่อแถวครับเพราะด้านบนเขาจำกัดจำนวนคน เราก็รอต่อไปสิครับ รอๆๆๆ เมื่อไหร่จะถึงคิวเราซักที ลงมาบ้างดิเปลี่ยนกันขึ้นไปดูบ้าง แล้วมีเสียงจากเจ้าหน้าที่บอกว่าไปดูตรงด้านล่างก็ได้นะครับเพราะพระอาทิตย์จะตกแล้ว แต่เราไม่ยอท้อถอยครับไม่เอา จะขึ้นไปดูข้างบน งั้นรอต่อไป ในที่สุดก็ถึงคิวของเราครับได้ขึ้นแล้วโว้ยยย
ได้ขึ้นมาแล้วโว้ย.......ใหนละไข่แดงของเรา อะไรนะไข่แดงเราไปแล้ว อดครับเพราะกว่าที่เราจะได้ขึ้นมาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ยังไงก็ได้ขึ้นมาละชมวิวรอบๆ เอาก็พอได้อยู่น้า วิวดีอยู่สวยงาม
สรุปแล้วเรามาไม่ทันไข่แดง งั้นเรากลับกันดีกว่าเราบอกให้พี่รัตนา ไปส่งเราที่ PUB STREET เพื่อที่จะไปเดินชิวๆ หาของกินกัน
มาถึงยามค่ำคืนคึกคักจริงๆ ครับต่างกันมากจากตอนที่เรามาตอนกลางวันนี้ ผู้คนคับคั่ง มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้น เราเลือกร้านนี้แล้วกันครับ สั่งของกินมาอย่างหนึ่งเป็นเหมือนผัดผักใส่เนื่อสัตว์ บวกด้วยไข่ดาว รสชาดกรมกร่อมครับ ถือว่าอร่อยเลยละ รสชาดไม่ต่างจากบ้านเราแล้วเราก็ได้เครื่องดื่มมา 1 แก้วเป็นเบียร์ครับ เพราที่นี่เบียร์ถูกมาก ถูกกว่าน้ำเปล่าด้วยซ้ำ แก้วนี้ตกอยู่ที่ 0.5 US ถ้าราคาเงินไทยก็ ประมาณ 16 บาท เที่ยบกับบ้านเรากระป๋องละ 40 50 บาท แต่น้ำเปล่าตกอยู่ที่ขวดละ 1 US จึงเหมาะสำหรับสายดริ้งครับ แต่เราคงดริ้งเยอะไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ นครวัด หลังจากที่เราพลาดพระอาทิตย์ตกที่บาเค็งไปแล้วในวันนี้
คืนนี้แค่นี้ก่อนละกันครับแล้วมาต่อกันในวันที่ 2 ของเราครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้