คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับ EPSON นั้น
เปลี่ยนรุ่นเร็วมาก และเลขรุ่น ก็มั่วพอสมควร ครับ
สำหรับ ณ วันนี้ ในรุ่นที่
เทียบเท่ากับ HP 315 / Brother T310 (แต่แพงกว่า)
ก็คือ L3110
รองรับการพิมพ์ borderless (ไร้ขอบ) ได้เพียงระดับ 4R(4"x6") ครับ
ไม่สามารถทำได้ถึงขนาด A4
ส่วน Canon นั้น
ไม่แน่ใจว่า คุณดูรุ่นไหนไว้
แต่ถ้ารุ่นที่เทียบเท่า HP 315 / Brother T310
ก็ควรเป็น Canon G2010 ครับ
รุ่นนี้รองรับ Borderless ถึง A4 นะครับ
การพิมพ์ไร้ขอบ
เขาจะบอกค่าสูงสุด
เช่น ถ้าบอกว่า พิมพ์ได้ถึง A4
นั่นคือ เล็กกว่านั้น พิมพ์ได้แน่ ๆ ครับ
การพิมพ์กระดาษแข็ง
คือจริง ๆ แล้วกระดาษที่เครื่องรองรับ จะคิดกันด้วย น้ำหนักเป็น Gram ต่อตารางเมตร ครับ g/m2 หรืออาจเรียกเป็น gsm
สำหรับ Brother T310 รองรับได้ถึง 300gsm
(เวลาซื้อกระดาษดูข้างห่อได้)
แต่ต้องป้อนทีละแผ่น ผ่านช่องทาง Bypass พิเศษที่เขาเตรียมไว้
เพื่อที่กระดาษจะไม่ต้องโค้งงอ
ส่วน HP ใน เอกสาร ระบุว่า แบบนี้ครับ
http://h20195.www2.hp.com/v2/getpdf.aspx/4AA7-1011EEP.pdf
>>> ซึ่งเราไม่ต้องการแบบมีไวไฟนะคะ
ถ้า งบพอ อยากแนะนำแบบ WiFi ครับ
คือแบบ WiFi นี่หมายถึง เพิ่มการเชื่อมต่อ WiFi มาให้
ผลดีก็คือ
- คุณต่อ Printer ไว้กับคอมพ์ 1 เครือ่ง ผ่าน USB ไว้ แล้วยังเชื่อมเข้ากับ WiFi ในบ้าน เพื่อให้คนอื่น ๆ สั่ง Print ได้ง่ายด้วย
- หรือแบบบ้านผม มี notebook กันคนละเครือ่ง ส่วน Printer ก็ไม่ต่อสาย USB เลยครับ แต่ต่อกับ WiFi ในบ้าน ไปวางไว้ข้าง ๆ ทีวี
ใครอยาก Print ก็ไม่ต้องกลัวว่า ต้องเปิดคอมพ์ที่ต่อสายอยู่ // อยาก Print ก็ Print เลย แล้วเดินไปหยิบกระดาษ
- การต่อผ่าน WiFi ช่วยให้ ความสะดวก ความอยาก Print มากขึ้นครับ / ผลดี ก็คือ เครื่องได้ถูกใช้งานบ่อย ๆ
จากเดิมที่รู้สึก ไม่สะดวก เวลาจะ Print ต้องเปิดเครื่องที่เชื่อมต่อเท่านั้น
แต่จะกลายเป็น Print จากมือถือ ก็ยังได้เลย
- เครื่อง Printer ที่มี WiFi ในปัจจุบัน หลาย ๆ เครื่องยังมีเพิ่มความสามารถ ด้าน Google Cloud Print
คือ เชื่อมต่อกับ internet ได้ครับ
นั่นคือ สามารถ ที่จะสั่ง Print จากนอกบ้านเข้ามาได้ (ตามสิทธิ์ที่กำหนด)
- Scan เอกสารเข้ามือถือ ได้สบาย อย่างของผม บางที มีเอกสารบางตัว ได้รับมา แต่ไม่อยากถือไปอ่าน
ก็ Scan เข้ามือถือเลย แล้วเก็บไว้อ่านในมือถือได้สบาย
- ยิ่งถ้าคุณชอบที่จะพิมพ์รูปถ่ายด้วยละก็ ถ่ายรูปเสร็จ แต่งรูปด้วยมือถือ แล้ว... / Print เลย
>>> ถ้าการเปิดใช้งานเครื่องเราน่าจะเปิดอย่างน้อย3-4วันต่ออาทิตย์อ่ะ เพราะเราก็ปริ้นอะไรจุกจิกบ่อยๆ5555
>>> ตรงนี้จะเสี่ยงหัวพิมพ์ตันง่ายไหมคะ?
การที่หัวตัน คือ เป็นแค่ความเสี่ยงครับ คือ หัวพิมพ์ Inkjet นั้น เหมือนเข็มฉีดยา จำนวนมาก
เมื่อสั่งพิมพ์แล้ว หมึกก็จะตกค้างที่ปลายเข็ม
ทำให้มีการแห้งกรัง เกาะที่ปลายเข็ม ของหัวพิมพ์ได้ครับ
หากใช้งานบ่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ หลุดไปเอง เพราะยังไม่แห้งกรังนัก
แต่ถ้าปล่อยให้แห้ง ก็สั่งล้างหัวพิมพ์ได้ครับ
ถ้าแห้งแล้วแห้งอีก ไม่ยอมเปิดใช้
หรือทั้งเดือน เปิดใช้ก็จริง แต่ว่า เปิดใช้เฉพาะสีดำกับแดง (สมมุติ) ผลก็คือ สีเหลือง และฟ้า จะมีโอกาสตัน ครับ
อ้อ... ด้วยความที่ผมใช้ Brother อยู่หลายเครื่อง
ข้อดีของ Brother ที่ผมมองว่า ยี่ห้ออื่น ไม่น่าจะมี ก็เช่น
- สั่งพิมพ์แบบทดสอบและล้างหัวพิมพ์ได้ง่าย ๆ จากคำสั่งที่หน้าปัทม์ ไม่ต้องสั่งจากคอมพ์ ไม่ต้องจำปุ่มพิเศษ ที่กดแบบแปลก ๆ เพราะเป็นคำสั่งให้เลือกกดอย่างชัดเจน
- ถ่ายเอกสารย่อขยาย 25-400% จากหน้าเครื่องเลย
- ถ่ายเอกสาร ระบุคุณภาพงานได้
- ถ่ายเอกสาร ได้รวดเดียวสูงสุดถึง 99 สำเนา (ยี่ห้ออื่น ๆ ได้เท่าไรไม่ทราบ แต่ไม่น่าจะมีถึง 99)
- เวลาเกิดปัญหา ซับหมึกเต็มทาง software (คือ เขาจะมีตัวนับซับหมึก ไว้บังคับผู้ใช้ ให้นำเครื่องส่งศูนย์บริการบ้าง) สามารถ กางตำราใน Youtube กดคำสั่งพิเศษบางอย่าง(อันนี้ต้องกดแบบแปลก ๆ) เพื่อสั่งเคลียร์ค่าตัวนับซับหมึกได้เลย โดยไม่ต้องหาโหลดโปรแกรมให้เสี่ยง ต่อ Virus ครับ
เปลี่ยนรุ่นเร็วมาก และเลขรุ่น ก็มั่วพอสมควร ครับ
สำหรับ ณ วันนี้ ในรุ่นที่
เทียบเท่ากับ HP 315 / Brother T310 (แต่แพงกว่า)
ก็คือ L3110
รองรับการพิมพ์ borderless (ไร้ขอบ) ได้เพียงระดับ 4R(4"x6") ครับ
ไม่สามารถทำได้ถึงขนาด A4
ส่วน Canon นั้น
ไม่แน่ใจว่า คุณดูรุ่นไหนไว้
แต่ถ้ารุ่นที่เทียบเท่า HP 315 / Brother T310
ก็ควรเป็น Canon G2010 ครับ
รุ่นนี้รองรับ Borderless ถึง A4 นะครับ
การพิมพ์ไร้ขอบ
เขาจะบอกค่าสูงสุด
เช่น ถ้าบอกว่า พิมพ์ได้ถึง A4
นั่นคือ เล็กกว่านั้น พิมพ์ได้แน่ ๆ ครับ
การพิมพ์กระดาษแข็ง
คือจริง ๆ แล้วกระดาษที่เครื่องรองรับ จะคิดกันด้วย น้ำหนักเป็น Gram ต่อตารางเมตร ครับ g/m2 หรืออาจเรียกเป็น gsm
สำหรับ Brother T310 รองรับได้ถึง 300gsm
(เวลาซื้อกระดาษดูข้างห่อได้)
แต่ต้องป้อนทีละแผ่น ผ่านช่องทาง Bypass พิเศษที่เขาเตรียมไว้
เพื่อที่กระดาษจะไม่ต้องโค้งงอ
ส่วน HP ใน เอกสาร ระบุว่า แบบนี้ครับ
http://h20195.www2.hp.com/v2/getpdf.aspx/4AA7-1011EEP.pdf
>>> ซึ่งเราไม่ต้องการแบบมีไวไฟนะคะ
ถ้า งบพอ อยากแนะนำแบบ WiFi ครับ
คือแบบ WiFi นี่หมายถึง เพิ่มการเชื่อมต่อ WiFi มาให้
ผลดีก็คือ
- คุณต่อ Printer ไว้กับคอมพ์ 1 เครือ่ง ผ่าน USB ไว้ แล้วยังเชื่อมเข้ากับ WiFi ในบ้าน เพื่อให้คนอื่น ๆ สั่ง Print ได้ง่ายด้วย
- หรือแบบบ้านผม มี notebook กันคนละเครือ่ง ส่วน Printer ก็ไม่ต่อสาย USB เลยครับ แต่ต่อกับ WiFi ในบ้าน ไปวางไว้ข้าง ๆ ทีวี
ใครอยาก Print ก็ไม่ต้องกลัวว่า ต้องเปิดคอมพ์ที่ต่อสายอยู่ // อยาก Print ก็ Print เลย แล้วเดินไปหยิบกระดาษ
- การต่อผ่าน WiFi ช่วยให้ ความสะดวก ความอยาก Print มากขึ้นครับ / ผลดี ก็คือ เครื่องได้ถูกใช้งานบ่อย ๆ
จากเดิมที่รู้สึก ไม่สะดวก เวลาจะ Print ต้องเปิดเครื่องที่เชื่อมต่อเท่านั้น
แต่จะกลายเป็น Print จากมือถือ ก็ยังได้เลย
- เครื่อง Printer ที่มี WiFi ในปัจจุบัน หลาย ๆ เครื่องยังมีเพิ่มความสามารถ ด้าน Google Cloud Print
คือ เชื่อมต่อกับ internet ได้ครับ
นั่นคือ สามารถ ที่จะสั่ง Print จากนอกบ้านเข้ามาได้ (ตามสิทธิ์ที่กำหนด)
- Scan เอกสารเข้ามือถือ ได้สบาย อย่างของผม บางที มีเอกสารบางตัว ได้รับมา แต่ไม่อยากถือไปอ่าน
ก็ Scan เข้ามือถือเลย แล้วเก็บไว้อ่านในมือถือได้สบาย
- ยิ่งถ้าคุณชอบที่จะพิมพ์รูปถ่ายด้วยละก็ ถ่ายรูปเสร็จ แต่งรูปด้วยมือถือ แล้ว... / Print เลย
>>> ถ้าการเปิดใช้งานเครื่องเราน่าจะเปิดอย่างน้อย3-4วันต่ออาทิตย์อ่ะ เพราะเราก็ปริ้นอะไรจุกจิกบ่อยๆ5555
>>> ตรงนี้จะเสี่ยงหัวพิมพ์ตันง่ายไหมคะ?
การที่หัวตัน คือ เป็นแค่ความเสี่ยงครับ คือ หัวพิมพ์ Inkjet นั้น เหมือนเข็มฉีดยา จำนวนมาก
เมื่อสั่งพิมพ์แล้ว หมึกก็จะตกค้างที่ปลายเข็ม
ทำให้มีการแห้งกรัง เกาะที่ปลายเข็ม ของหัวพิมพ์ได้ครับ
หากใช้งานบ่อยๆ ก็ไม่มีปัญหาครับ หลุดไปเอง เพราะยังไม่แห้งกรังนัก
แต่ถ้าปล่อยให้แห้ง ก็สั่งล้างหัวพิมพ์ได้ครับ
ถ้าแห้งแล้วแห้งอีก ไม่ยอมเปิดใช้
หรือทั้งเดือน เปิดใช้ก็จริง แต่ว่า เปิดใช้เฉพาะสีดำกับแดง (สมมุติ) ผลก็คือ สีเหลือง และฟ้า จะมีโอกาสตัน ครับ
อ้อ... ด้วยความที่ผมใช้ Brother อยู่หลายเครื่อง
ข้อดีของ Brother ที่ผมมองว่า ยี่ห้ออื่น ไม่น่าจะมี ก็เช่น
- สั่งพิมพ์แบบทดสอบและล้างหัวพิมพ์ได้ง่าย ๆ จากคำสั่งที่หน้าปัทม์ ไม่ต้องสั่งจากคอมพ์ ไม่ต้องจำปุ่มพิเศษ ที่กดแบบแปลก ๆ เพราะเป็นคำสั่งให้เลือกกดอย่างชัดเจน
- ถ่ายเอกสารย่อขยาย 25-400% จากหน้าเครื่องเลย
- ถ่ายเอกสาร ระบุคุณภาพงานได้
- ถ่ายเอกสาร ได้รวดเดียวสูงสุดถึง 99 สำเนา (ยี่ห้ออื่น ๆ ได้เท่าไรไม่ทราบ แต่ไม่น่าจะมีถึง 99)
- เวลาเกิดปัญหา ซับหมึกเต็มทาง software (คือ เขาจะมีตัวนับซับหมึก ไว้บังคับผู้ใช้ ให้นำเครื่องส่งศูนย์บริการบ้าง) สามารถ กางตำราใน Youtube กดคำสั่งพิเศษบางอย่าง(อันนี้ต้องกดแบบแปลก ๆ) เพื่อสั่งเคลียร์ค่าตัวนับซับหมึกได้เลย โดยไม่ต้องหาโหลดโปรแกรมให้เสี่ยง ต่อ Virus ครับ
แสดงความคิดเห็น
ระหว่าง HP Deskjet Ink 315 กับ brother dcp-t310 เลือกซื้อตัวไหนดีคะ
-ส่วนตัวเราเคยปริ้นจากbrotherแต่ไม่มั่นใจว่ารุ่นนี้ไหม สีมันจะออกไปทางไม่เข้มเน้นโทนอ่อนไปหน่อย แบบสีไม่สดมากน่ะค่ะ ส่วนตัวเราไม่ชอบ แต่มีข้อดีตรงที่มันการล้างหัวพิมพ์อัตโนมัติในตัวมันเอง เราชอบตรงนี้อยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่ค่อยชอบสี
-ส่วนตัวhpเราชอบดีไซน์มันค่ะ แล้วก็ปริ้นสีเช่นรูปภาพได้สีสดดี แต่ก็เคยอ่านในพันทิปหลายๆกระทู้ว่าสีดำของHpนั้นไม่ค่อยติดกระดาษโฟโต้ เราเลยเอะใจตรงนี้หน่อยๆว่า จริงไหมคะ? เพราะเราอาจมีปริ้นรูปภาพโดยใช้กระดาษโฟโต้อยู่เหมือนกัน
ตอนแรกเราสนใจไว้ถึง4ยี่ห้อ คือ canon epson hp และ brother แต่สุดท้ายก็ตัดแคนอนออกเพราะหลายๆคนบอกว่ามันไม่ค่อยทน ส่วนเอปสันก็ตัดออก
เพราะปริ้นไร้ขอบไม่ได้ เลยเหลือไว้2ยี่ห้อนี้ ซึ่งเราไม่ต้องการแบบมีไวไฟนะคะ เลยอยากให้ช่วยเลือกหรือแนะนำข้อดีข้อเสียของ2ตัวนี้หน่อยค่ะ
อ้อ เรามีคำถามค่ะคือ
-ทั้ง2รุ่นปริ้นแบบไร้ขอบขาวกระดาษ 4*6 นิ้วได้ไหมคะ? รู้แค่a4 55555
-2รุ่นนี้ปริ้นกระดาษแข็งได้ไหมคะ เช่น พวกกระดาษปกรายงาน กระดาษร้อยปอนด์ กระดาษสติกเกอร์
การใช้งานส่วนใหญ่ของเรา
เราจะใช้เครื่องปริ้นส่วนใหญ่ในการปริ้นเล่มรายงาน ปริ้นภาพ ปริ้นกระดาษโน๊ต ปริ้นพอร์ตโฟลิโอ้ [ไม่ได้ปริ้นยื่นมหาลัยนะคะเอาไว้ส่งในโรงเรียนค่ะ] (เลยอยากได้แบบที่ปริ้นแล้วไม่มีขอบขาว) แล้วก็อาจจะมีปริ้นพวกสติกเกอร์บ้างค่ะ
ถ้าการเปิดใช้งานเครื่องเราน่าจะเปิดอย่างน้อย3-4วันต่ออาทิตย์อ่ะ เพราะเราก็ปริ้นอะไรจุกจิกบ่อยๆ5555 ตรงนี้จะเสี่ยงหัวพิมพ์ตันง่ายไหมคะ?
เราถามแบบไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลยจริงๆค่ะ แฮะๆยังไงก็ช่วยแนะนำเราทีนะคะ