คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
1.Learners’ needs analysis แล้วปรับให้เข้ากับ แผนการสอน เช่นต้องสอนการฟัง ก็ไปหาคลิปสัมภาษณ์ดารา/นักกีฬาที่เด็กๆชอบมาเปิดแทนคลิปในหนังสือ
อยากสอนให้สนุกครูต้องทำงานหนักครับ
2.Principled eclecticism ใช้ teaching method ที่หลากหลาย ทำให้นักเรียนเดาทางไม่ได้
3. ZPD (constructivism/scaffolding) จัดเรียงความยากของเนื้อหาให้ดีๆ เพื่อให้นักเรียนค่อยๆทำได้เป็นสเต็ปๆ ถ้านักเรียนรู้สึกว่าบทเรียนยากเกินทำได้ เด็กจะไม่สนุกแล้วถอดใจ
4. Task-based learning มอบหมายภารกิจให้นักเรียนทำ (ต้องเป็นงานที่ real world problem) ทำให้เด็กเห็นจุดประสงค์ของการเรียน ไม่ใช่แค่ท่องจำเพื่อไปสอบ เทคนิคนี้จะไปด้วยกันได้ดีกับ communicative language teaching approach ซึ่งเน้นทักษะการสื่อสารมากกว่าท่องแกรมม่าแบบ Grammar Translation แต่ไม่ได้แปลว่าเด็กจะไม่แม่นโครงสร้างนะ เพียงแต่ CLT มองโครงสร้างจากมุมของ function ไม่ใช่form
อยากสอนให้สนุกครูต้องทำงานหนักครับ
2.Principled eclecticism ใช้ teaching method ที่หลากหลาย ทำให้นักเรียนเดาทางไม่ได้
3. ZPD (constructivism/scaffolding) จัดเรียงความยากของเนื้อหาให้ดีๆ เพื่อให้นักเรียนค่อยๆทำได้เป็นสเต็ปๆ ถ้านักเรียนรู้สึกว่าบทเรียนยากเกินทำได้ เด็กจะไม่สนุกแล้วถอดใจ
4. Task-based learning มอบหมายภารกิจให้นักเรียนทำ (ต้องเป็นงานที่ real world problem) ทำให้เด็กเห็นจุดประสงค์ของการเรียน ไม่ใช่แค่ท่องจำเพื่อไปสอบ เทคนิคนี้จะไปด้วยกันได้ดีกับ communicative language teaching approach ซึ่งเน้นทักษะการสื่อสารมากกว่าท่องแกรมม่าแบบ Grammar Translation แต่ไม่ได้แปลว่าเด็กจะไม่แม่นโครงสร้างนะ เพียงแต่ CLT มองโครงสร้างจากมุมของ function ไม่ใช่form
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาษาอังกฤษ
ภาษาต่างประเทศ
เรียนภาษาที่ต่างประเทศ
การศึกษา
ครู - อาจารย์
สอนภาษาอังกฤษยังไงให้ไม่น่าเบื่อ ?
คือผมเพิ่งได้เริ่มมาสอนภาษาอังกฤษมาได้สักพักแล้ว และก็ประสบปัญหาที่ครูส่วนใหญ่ประสบพบเจอกันครับ
คือ นักเรียนค่อน ข้างไม่ค่อยสนใจในการสอนแถมยังเล่นมือถือกัน เลยอยากจะขอคำแนะนำจากคุณครูท่านอื่นๆครับ ว่ามีวิธีการสอนที่ดึงดูดความ