ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราชอบทำสีผมค่ะ ปกติจะซื้อ Schwarzkopf Freshlight มาสระย้อมเอง ง่าย รวดเร็ว ถูก สีติดดี ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนสีกี่ครั้งก็ตาม พอสระไปเรื่อยๆมันก็จะออกมาโทนเดิมตลอดเลยค่ะ 😅

วันนึงเราไม่อยากย้อมผมบ่อยๆแล้วค่ะ รู้สึกไม่ค่อยดีต่อสุขภาพผมเท่าไหร่ ผมร่วงด้วย เลยย้อมดำ และว่าจะไม่ทำสีอีก

อยู่ได้ประมาณปีกว่าๆ เริ่มทนไม่ไหวค่ะ รู้สึกผมดำทำให้หน้าเราไม่สดใส อยากทำสีอีกครั้ง ก็เลยหาข้อมูลร้านที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของAVEDA ซึ่งเขาจะใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติมากกว่า 90% ในแต่ละผลิตภัณฑ์ เราคิดว่าน่าจะดี ถนอมเส้นผม สุดท้ายตัดสินใจทำที่MOGA สาขา Central Embussy เพราะว่าเดินทางสะดวก ใกล้บ้าน แต่ๆๆก่อนจะไป เราต้องเช็คราคาค่ะ หน้าเว็บไซต์เขาบอกว่า ขั้นต่ำ 3,500บาท
เราก็ดูรีวิวจากคนนั้นคนนี้ ในพันทิปบ้าง ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ประมาณ 4,500-5,000บาท ค่ะ
จนไปเจอสาวน้อยคนนึงในIG สีผมสวยมากกกก ดูมีมิติวิบวับบอกไม่ถูก ราคาที่น้องเขาทำคือ 9,000บาท! ก็คิดในใจว่า เราทำคงไม่เกินน้องคนนี้ เพราะเหมือนเขาทำเยอะและผมยาวด้วย แต่ถ้าเลยเถิดมาถึง 9,000บาท ก็เป็นราคาที่เราพอไหวอยู่ค่ะ 😓

ก่อนอื่นโทรไปจองค่ะ นัดวันเวลาเรียบร้อย ไม่ได้เจาะจงช่างค่ะ
พอไปถึง พนักงานที่ร้านก็บริการดีค่ะ สุภาพทุกคน จะมีพนักงานมานวดให้ก่อนค่ะ โดยให้เราเลือกกลิ่นAromaที่ชอบ จากนั้นช่างเขาก็มาพูดคุยค่ะว่าอยากได้สีไหน เราก็เปิดรูปให้เขาดูเลย (ซึ่งคนในรูปทำ 4,500บาทค่ะ แต่ผมเขาสั้นกว่าเรานะ) พอคุยกันไปคุยกันมา เราก็เคลิ้มค่ะ ช่างให้ดูสีผมลูกค้าที่เขาเพิ่งทำไป มีไฮไลท์ สีทูโทนออกเทาน้ำตาล ก็ดูสวยดีค่ะ แปลกๆดี เราก็เลยเอาแบบที่ช่างแนะนำ
ซึ่งช่างเขาก็เก่งนะคะ การทำสีผมของเราครั้งนี้ไม่ได้กัดสีเลย ทำรอบแรกออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

แล้วก็ทำสีรอบ 2 ระหว่างนั้นช่างก็แนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆค่ะ เผื่อปกป้องหนังศรีษะเอย ทรีเม้นต์ผมเอย นู้นนั้นนี่ เราไม่อยากผมเสียค่ะ ก็เลยทำตามที่เขาบอก แต่เอาจริงๆนะคะ ช่วงที่ย้อมผม เราแสบหนังศรีษะนะ ทั้งๆที่ก็ให้เขาลงผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างที่เขาบอกว่าป้องกันไม่ให้สีลงสู้หนังศรีษะ และด้วยสีย้อมของAVEDAที่เป็นธรรมชาติด้วยแล้ว เราก็งงค่ะว่าทำไมแสบ แต่กลิ่นของสีย้อมโอเคไม่แรงค่ะ
อะ มาดูเลยละกันเนาะ ว่าทำเสร็จออกมาแล้วเป็นยังไง เชิญชม


จากนั้นก็จะมีคุณป้าเดินมาขายแชมพูของAVEDA เขาก็เชียร์ให้เราเอาตัวนู้นตัวนี้ แต่เราจะเอาสูตรDamage ค่ะ เราไม่กลัวเรื่องที่สีผมมันจะเปลี่ยนค่ะ ปล่อยให้มันเป็นไป แต่เราไม่อยากผมเสีย เลยเน้นเรื่องการบำรุง จากนั้นป้าก็ขายคอร์สทำทรีเม้นค่ะ 5ครั้งฟรี 1ครั้ง ซึ่งในขั้นตอนการทำสีของเรานั้น ได้ทำไปแล้ว 1ครั้ง ก็เลยคิดว่า เออๆลองดู เกิดมาเราไม่เคยทำทรีเม้นที่ร้านเลยนะคะ ก็เลยไม่รู้ว่าปกติราคาเท่าไหร่กัน
อะ มาค่ะ ทีนี้ มาดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดกัน ซึ่งในบิลนี้ ยังไม่รวมค่าแชมพู ครีมนวด นะคะ


ผ่างงงงง!!! เพื่อนๆตาไม่ฟาดค่ะ ใช่ค่ะ ทำสีผม 17,900บาท + ทรีทเม้น 12,500บาท รวมทั้งหมดที่รูดบัตรไปวันนั้นคือ 34,000กว่าบาทค่ะ

มาดูหลังจากทำสีผมไปแล้ว 1เดือน ค่ะ


คุ้มไหม? ถามใจเธอดู ❤️
ส่วนตัวนะคะ ทีแรกคิดว่าจากนี้ไปคงจะย้อมเองตามเคย ฮาๆๆๆ แต่พอทำมาแล้วทุกคนก็ทักค่ะว่า ผมสวย ทำร้านไหน ใครพบเจอก็ทักจริงๆค่ะว่าสวยขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะสีผมที่ทำให้หน้าเราดูสว่างสดใส
เราก็เลยคิดว่า คงจะกลับไปเติมโคนที่ร้านอยู่ดีค่ะ ฮาๆๆๆ ไหนๆทำมาแพงแล้ว ก็เก็บไว้อีกนานๆหน่อย

เพื่อนๆก็พิจารณากันเอาเองนะคะ เราก็อยากมาให้ข้อมูลบ้าง เพราะที่เราเคยหาข้อมูลมายังไม่มีใครทำราคาเท่าเราเลยค่ะ 😅 ใครมีแพงกว่านี้ก็แชร์ๆกันมาน้า ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคลเนาะ ถ้าให้คะแนนความพอใจของเรา เราให้ 8/10 ค่ะ หัก 1คะแนน เรื่องแสบหนังศรีษะ และอีก 1คะแนน เรื่องราคาที่แรงไปหน่อยจ้าาาา


**เพิ่มเติมนะคะ**
พอดีรูปที่ถ่ายในร้าน แสงไฟมันจ้ามากอะค่ะ สีเลยจะอ่อนกว่าสีจริงในชีวิตประจำวัน เลยแนบรูปที่ถ่ายกับเพื่อนๆมาให้เทียบกันค่ะ ก็จะประมาณนี้แหละจ้าาาา


ขอบคุณทุกคำติชมจ้าาาา 🤟