ทีมระดับโลก เห็นเราติ๊กต็อก เขายิ้ม เตรียมฟอร์เมชั่นสำหรับการตัดบอลและโต้กลับเร็วรอเลย
ติ๊กต็อก ผมว่าไม่ไหวเหมือนกัน เจอระดับนี้ ต้องเล่นแบบอื่นร่วมด้วย เพราะติ๊กต็อกมันไม่ไปไหน ต้องใช้คนเยอะแล้วเสี่ยงโดนโต้กลับด้วย ทีมระดับท็อป50โลก โต้กลับได้อันตรายทุกทีม บาซ่ายังเลิกเล่น มันต้องผสมผสานกับเทคนิคอย่างอื่น จะเน้นอย่างเดียวเล่นเก่งแบบเดียวไประดับเอเชียไม่ได้แน่
ไทยแก้เกมรับได้ไม่ดีเลย
ผมนึกว่าอุรุกวัยเขาจะสบายๆ ไม่ศึกษาเรา แต่ที่ไหนได้เขาศึกษาเราเหมือนกัน ดูจากการเล่นรุกเป็นการเล่นที่โจมตีเราโดยเฉพาะ เช่นการเติมเกมด้านข้างโอเวอร์แล็บตีโซน ทำบ่อยมากเหมือนจะซ้อมดูด้วย วิ่งเต็มสปีดเติมทุกจังหวะ แต่เรากลับโซนอยู่นั่นแหละ ทิ้งด้านข้างให้เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าบ่อยมาก เพราะไม่ได้วิ่งประกบไปไหนไปด้วยแบบที่ควรจะทำ พอเขาจ่ายค่อยออกจากโซนไปวิ่งปิดมันก็ช้าไปทำไมเห็นบ่อยมาก เขาเน้นลูกตั้งเตะโจมตีด้วยสรีระเป็นพิเศษ เขาทำการบ้านเกมรุกมาดี เกมรับก็เพรสซิ่งหนัก และตัดเกมเจทันที่ที่ตัดได้ ประกบเจแน่น เตะตัดข้างหลังบ่อยมากแต่ไม่ได้ใบเหลือง(ตำหนิกรรมการ) ไม่ปล่อยให้เจมีพท.มีเวลามีบอลเพื่อเข้าสู่แดนอันตราย
ที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สู้เขาได้เพราะ เขามีวินัยในเกมรับดีกว่าเรา เขาวิ่งตามติดไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้มีเวลาแบบไทยแน่นอน ของเราว่างบ่อยมากโอเวอร์แล็บมา แบ็กเราทิ้งระยะห่างมาก และเป็นแบบนี้ทั้งเกม ไม่ใช่เพราะเขาฝีเท้าดีกว่าจึงไม่เสียประตู แต่เพราะเขามีวินัยในเกมรับ และเทคติกในเกมรุก แต่เราติ๊กต็อกเข้าไปจนได้ยิงนี้ก็ไม่ธรรมดานะ เซตเกมจนเจาะเข้ายิง หรือถึงเส้นหลังในกรอบเขตโทษได้ ซึ่งมันยากกว่าการโต้กลับเร็วนะ เพราะกองหลังเขาก็ยืนกันเต็ม ถือว่า เก่งมาก แต่โดยรวมยังไม่ใช่วิธีที่ควรจะเล่นบ่อยเกินไป
ดูเบสิคทักษะ เรายังสร้างโอกาสเล็กน้อยได้บ้างครับ เราต่อบอลกันได้ในบางครั้ง ไปจบพท.สุดท้ายได้ แต่เราไม่มีแบบแผน ไม่มีเทคติกช่วยให้เราได้เปรียบขึ้น เน้นเคาะตามช่อง ไม่มีอะไรที่เป็นจุดแข็ง ไม่มีการสอดโอเวอร์แล็บ แต่แบ็กเติมแบบปีกมากกว่า เคาะตามช่องเพื่ออะไรเมื่อมันไม่ได้ผล เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยเวย์คือทางนี้งั้นเหรอ..ไม่ใช่หรอก บอลสมัยใหม่ เทรนด์ต้องแบบบาซ่า แมนซิตี้ แบบพรีเมียร์ลีก คือ การเล่นเน้นปะทะกันตัวต่อตัวสูงมาก แต่ละคนต้องมีทักษะการเอาตัวรอดพอสมควร ต้องเก่งในเรื่องพื้นฐานรอบด้านแล้วมีจุดเด่นที่เหนือกว่าคนอื่นในตำแหน่งของตนเอง การเลือกสารัชที่เล่นได้ดีในนัดกับจีน พอนัดนี้ เป็นไงเล่นไม่ออกเพราะทักษะการเอาตัวรอดมีน้อยเกินไป บางเกิน และ ลูกกลางอากาศทีมเสียเปรียบมาก ตัวเล็กเยอะเกินไป อุรุกวัยก็เน้นลูกโด่งมากเวลาได้เซตพีซ
แล้วตัวสำรองที่ส่งลงไป ก็ทำเกมอ่อนลง ทักษะก็ไม่ดี เปลี่ยนรูปเกมไม่ได้เสียบอลหน้ากรอบเขตโทษบ่อยมาก เพราะเอาตัวรอด1/1ได้ไม่กี่คน คายบอลออกทางกว้างไม่ได้เพราะไม่กล้า เพราะโดนบีบ แต่ความเป็นจริงบอลสมัยใหม่ ส่งได้ต้องส่งเพราะคนรับต้องเอาตัวรอดได้ เกริกฤทธิ์ถูกตัดชื่อออก แต่เรียกมาเพราะตัวอื่นถอน กลับได้ลงเสียงั้น แล้วตัวเลือกที่เลือกมาก่อนไม่ได้ลงคืออะไร คือ แสดงว่าเราไม่มีแบบแผน 1-2-3 ใช่ไหม
ผมว่า นักเตะทีมชาติรุ่นนี้ หลายคนทัศนคติโบราณเกินไปแล้ว ตามไม่ทันบอลสมัยใหม่ โค้ชก็ยังไม่ผ่านนะครับ ฟุตบอลไม่ว่าสมัยไหน ส่วนมาก จะทำประตูด้วยลูกครอสจากด้านข้าง และการโต้กลับเร็ว การเซตบอลช้าเจาะเข้าทำจะได้ประตูน้อยมาก
ติ๊กต็อกคงไม่ไหว มันไม่ไปข้างหน้า
ติ๊กต็อก ผมว่าไม่ไหวเหมือนกัน เจอระดับนี้ ต้องเล่นแบบอื่นร่วมด้วย เพราะติ๊กต็อกมันไม่ไปไหน ต้องใช้คนเยอะแล้วเสี่ยงโดนโต้กลับด้วย ทีมระดับท็อป50โลก โต้กลับได้อันตรายทุกทีม บาซ่ายังเลิกเล่น มันต้องผสมผสานกับเทคนิคอย่างอื่น จะเน้นอย่างเดียวเล่นเก่งแบบเดียวไประดับเอเชียไม่ได้แน่
ไทยแก้เกมรับได้ไม่ดีเลย ผมนึกว่าอุรุกวัยเขาจะสบายๆ ไม่ศึกษาเรา แต่ที่ไหนได้เขาศึกษาเราเหมือนกัน ดูจากการเล่นรุกเป็นการเล่นที่โจมตีเราโดยเฉพาะ เช่นการเติมเกมด้านข้างโอเวอร์แล็บตีโซน ทำบ่อยมากเหมือนจะซ้อมดูด้วย วิ่งเต็มสปีดเติมทุกจังหวะ แต่เรากลับโซนอยู่นั่นแหละ ทิ้งด้านข้างให้เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าบ่อยมาก เพราะไม่ได้วิ่งประกบไปไหนไปด้วยแบบที่ควรจะทำ พอเขาจ่ายค่อยออกจากโซนไปวิ่งปิดมันก็ช้าไปทำไมเห็นบ่อยมาก เขาเน้นลูกตั้งเตะโจมตีด้วยสรีระเป็นพิเศษ เขาทำการบ้านเกมรุกมาดี เกมรับก็เพรสซิ่งหนัก และตัดเกมเจทันที่ที่ตัดได้ ประกบเจแน่น เตะตัดข้างหลังบ่อยมากแต่ไม่ได้ใบเหลือง(ตำหนิกรรมการ) ไม่ปล่อยให้เจมีพท.มีเวลามีบอลเพื่อเข้าสู่แดนอันตราย
ที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สู้เขาได้เพราะ เขามีวินัยในเกมรับดีกว่าเรา เขาวิ่งตามติดไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้มีเวลาแบบไทยแน่นอน ของเราว่างบ่อยมากโอเวอร์แล็บมา แบ็กเราทิ้งระยะห่างมาก และเป็นแบบนี้ทั้งเกม ไม่ใช่เพราะเขาฝีเท้าดีกว่าจึงไม่เสียประตู แต่เพราะเขามีวินัยในเกมรับ และเทคติกในเกมรุก แต่เราติ๊กต็อกเข้าไปจนได้ยิงนี้ก็ไม่ธรรมดานะ เซตเกมจนเจาะเข้ายิง หรือถึงเส้นหลังในกรอบเขตโทษได้ ซึ่งมันยากกว่าการโต้กลับเร็วนะ เพราะกองหลังเขาก็ยืนกันเต็ม ถือว่า เก่งมาก แต่โดยรวมยังไม่ใช่วิธีที่ควรจะเล่นบ่อยเกินไป
ดูเบสิคทักษะ เรายังสร้างโอกาสเล็กน้อยได้บ้างครับ เราต่อบอลกันได้ในบางครั้ง ไปจบพท.สุดท้ายได้ แต่เราไม่มีแบบแผน ไม่มีเทคติกช่วยให้เราได้เปรียบขึ้น เน้นเคาะตามช่อง ไม่มีอะไรที่เป็นจุดแข็ง ไม่มีการสอดโอเวอร์แล็บ แต่แบ็กเติมแบบปีกมากกว่า เคาะตามช่องเพื่ออะไรเมื่อมันไม่ได้ผล เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยเวย์คือทางนี้งั้นเหรอ..ไม่ใช่หรอก บอลสมัยใหม่ เทรนด์ต้องแบบบาซ่า แมนซิตี้ แบบพรีเมียร์ลีก คือ การเล่นเน้นปะทะกันตัวต่อตัวสูงมาก แต่ละคนต้องมีทักษะการเอาตัวรอดพอสมควร ต้องเก่งในเรื่องพื้นฐานรอบด้านแล้วมีจุดเด่นที่เหนือกว่าคนอื่นในตำแหน่งของตนเอง การเลือกสารัชที่เล่นได้ดีในนัดกับจีน พอนัดนี้ เป็นไงเล่นไม่ออกเพราะทักษะการเอาตัวรอดมีน้อยเกินไป บางเกิน และ ลูกกลางอากาศทีมเสียเปรียบมาก ตัวเล็กเยอะเกินไป อุรุกวัยก็เน้นลูกโด่งมากเวลาได้เซตพีซ
แล้วตัวสำรองที่ส่งลงไป ก็ทำเกมอ่อนลง ทักษะก็ไม่ดี เปลี่ยนรูปเกมไม่ได้เสียบอลหน้ากรอบเขตโทษบ่อยมาก เพราะเอาตัวรอด1/1ได้ไม่กี่คน คายบอลออกทางกว้างไม่ได้เพราะไม่กล้า เพราะโดนบีบ แต่ความเป็นจริงบอลสมัยใหม่ ส่งได้ต้องส่งเพราะคนรับต้องเอาตัวรอดได้ เกริกฤทธิ์ถูกตัดชื่อออก แต่เรียกมาเพราะตัวอื่นถอน กลับได้ลงเสียงั้น แล้วตัวเลือกที่เลือกมาก่อนไม่ได้ลงคืออะไร คือ แสดงว่าเราไม่มีแบบแผน 1-2-3 ใช่ไหม
ผมว่า นักเตะทีมชาติรุ่นนี้ หลายคนทัศนคติโบราณเกินไปแล้ว ตามไม่ทันบอลสมัยใหม่ โค้ชก็ยังไม่ผ่านนะครับ ฟุตบอลไม่ว่าสมัยไหน ส่วนมาก จะทำประตูด้วยลูกครอสจากด้านข้าง และการโต้กลับเร็ว การเซตบอลช้าเจาะเข้าทำจะได้ประตูน้อยมาก