เรื่องความสวยความงามหนีไม่พ้นผู้หญิงทั่วโลกเลยค่ะ ในปัจจุบันเครื่องสำอางออกใหม่บ่อยมาก มีทั้งแพคเกจน่ารัก ร่วมมือกับการ์ตูนชื่อดัง หรือจะสวยหรูดูแพง คุณสมบัติคุมมัน ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่หลุด ไม่เป็นคราบ ในหัวข้อนี้เราจะพูดถึง “แป้งพัฟ” นอกจากมีรีวิวจากบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังมาหลายคน หลายแบรนด์เปรียบเทียบความแตกต่างกันแล้ว แต่ยังมีบางแบรนด์ยังออกโฆษณาโทรทัศน์อยู่ 2 แบรนด์ไทยถูกและดี คือ
แป้งพัฟคุมมันสุดฮอตลูกสาวแบรนด์ศรีจันทร์ แพคเกจน่ารัก พกพาง่าย ราคาเหมาะกับน้องๆนักเรียนนักศึกษา ที่บิวตี้บล็อกเกอร์และสาวๆส่วนใหญ่รีวิวมากที่สุด ใช้ดีไม่แพ้แบรนด์แม่เลยจ้า
คุณสมบัติ : แป้งผสมรองพื้นควบคุมความมัน เนื้อบางเบา ปกปิดปานกลาง ไม่มีสารกันแดด
รูปแบบโฆษณา : เรื่องราวของนักเรียนกำลังเข้าแถวแล้วมีครูระเบียบมาตรวจใบหน้าของนักเรียนว่ามีใครแต่งหน้ามาเรียนหรือไม่ จนมาถึงแบรนด์แอมบาสซาเดอร์สุดสวย “น้องเจน รมิดา” พยายามแอ๊บว่าตัวเองไม่แต่งหน้าและแอบถือแป้งศศิไขว้หลังไม่ให้ใครรู้ว่าแอบแต่งหน้ามา แต่แล้วครูระเบียบมาตรวจใบหน้าน้องเจนแล้วครูระเบียบพูดกับน้องเจนว่า “อย่าให้รู้นะ ว่าแต่งหน้ามา” เพราะน้องเจนมีเคล็ดลับสุดยอดนักเนียนดีเด่นด้วย “แป้งพัฟ ศศิ เมจิก แมท ฟาวเดชั่น พาวเดอร์”
คหสต. สำหรับเรานะ โฆษณาเหมือนจะส่งเสริมนักเรียนแต่งหน้าผิดกฎระเบียบของโรงเรียน เพราะวัยนักเรียนต้องการความเป็นธรรมชาติสมวัย ไม่ต้องโบกรองพื้นหนา ทาปากสีเจ็บๆ เพราะแป้งศศิมันเป็นแป้งผสมรองพื้น ต่อให้เนื้อแป้งไม่หนาสำหรับวัยใส ถ้าในชีวิตจริงทาแป้งผสมรองพื้นไปโรงเรียน ครูจับได้แน่นอนเพราะครูดูออกว่าทารองพื้นหรือแป้งพัฟมาโรงเรียนแน่ๆ ถ้าอยากแต่งหน้าไปโรงเรียนจริงๆ เอาแบบ make up no make up คือทาครีมบำรุงผสมกันแดด ตามด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงไม่ผสมรองพื้นก็มา ส่วนแป้งศศิเก็บไว้ใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวหรือไปเรียนพิเศษก็พอ
แป้งพัฟราคาหลักสิบ ที่อาชีพพริตตี้,นางโชว์ชอบใช้กันมากที่สุด หลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตากับตลับสีเขียวสูตร oil free มาแล้ว ใช้แล้วดี คุมมันโอเค(ขึ้นอยู่กับความชอบของส่วนบุคคล) ตอนนี้ทางแบรนด์ได้ออกมาเพิ่มอีก 2 รุ่น คือ ตลับสีส้ม สูตร Extra Cover เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ พร้อมปกป้องแสงแดด และตลับสีชมพู Aura White สูตรเพื่อผิวขาวกระจ่างใส ดูมีออร่า ใครที่อยากสวยแต่งบน้อย แป้ง zendori ตอบโจทย์คนงบน้อย น้องๆนักศึกษาสามารถหาซื้อได้
รูปแบบโฆษณา : คอนเซ็ปท์เป็นแนวอนิเมะญี่ปุ่น ถ้าใครดูโฆษณานี้ครั้งแรกแล้วเข้าใจว่าเป็น teaser อนิเมะเรื่องใหม่ของช่องอมรินทร์อีก(ถ้าใครดูเกมกระชากล้านนะแล้วเห็นโฆษณานี้) แต่ความจริงแล้วคือโฆษณาแป้งพัฟ zendori ไง กับความคิดอีกอย่างนึงคือบางคนเข้าใจว่าแบรนด์ zendori เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วคือแบรนด์ไทย แต่รูปแบบโฆษณาเป็นอนิเมะ เรื่องราวของสามสาวสามสไตล์ มาขอพรแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ว่า “ขอให้หนูสวยทีเถอะ” หลังจากขอพรแล้วเจอภูติน้อยร่วงหล่นจากฟ้ามาวางลงฝ่ามือของหญิงสาวเป็นเซนเตอร์ของกลุ่มจนเกิดเป็นแป้งพัฟ zendori ทำให้ทั้งสามสาวเปลี่ยนจากเด็กผู้หญิงธรรมดากลายเป็นนางแบบไอดอลขวัญใจประชาชนของทุกคน ทั้งสามสาวทำสำเร็จแล้ว และภูติน้อยพูดปิดท้ายจบโฆษณาว่า “ฝากด้วยนะ...เซนโดริ”
คหสต. เราชอบคอนเซ็ปท์นี้มาก ดูแล้วไม่น่าเบื่อเหมือนคนแสดงที่เกินจริง พอมาคั่นระหว่างใน youtube เราจะไม่กดข้ามเลย เป็นโฆษณาที่สร้างสรรค์ น่ารักเหมาะสมวัยใสหัดแต่งหน้าอีกด้วย เห็นแล้วอยากซื้อมาใช้แน่นอน
ตามหัวข้อนี้
1. เพื่อนๆ ชอบรูปแบบโฆษณาชุดไหนมากกว่ากัน
2. ระหว่าง 2 แบรนด์ดังกล่าว เพื่อนๆ ว่าอันไหนใช้ดีกว่ากันและควรซื้อซ้ำ
TVC sasi vs zendori ชุดไหนมีรูปแบบสร้างสรรค์น่าซื้อใช้มากกว่ากัน
แป้งพัฟคุมมันสุดฮอตลูกสาวแบรนด์ศรีจันทร์ แพคเกจน่ารัก พกพาง่าย ราคาเหมาะกับน้องๆนักเรียนนักศึกษา ที่บิวตี้บล็อกเกอร์และสาวๆส่วนใหญ่รีวิวมากที่สุด ใช้ดีไม่แพ้แบรนด์แม่เลยจ้า
คุณสมบัติ : แป้งผสมรองพื้นควบคุมความมัน เนื้อบางเบา ปกปิดปานกลาง ไม่มีสารกันแดด
รูปแบบโฆษณา : เรื่องราวของนักเรียนกำลังเข้าแถวแล้วมีครูระเบียบมาตรวจใบหน้าของนักเรียนว่ามีใครแต่งหน้ามาเรียนหรือไม่ จนมาถึงแบรนด์แอมบาสซาเดอร์สุดสวย “น้องเจน รมิดา” พยายามแอ๊บว่าตัวเองไม่แต่งหน้าและแอบถือแป้งศศิไขว้หลังไม่ให้ใครรู้ว่าแอบแต่งหน้ามา แต่แล้วครูระเบียบมาตรวจใบหน้าน้องเจนแล้วครูระเบียบพูดกับน้องเจนว่า “อย่าให้รู้นะ ว่าแต่งหน้ามา” เพราะน้องเจนมีเคล็ดลับสุดยอดนักเนียนดีเด่นด้วย “แป้งพัฟ ศศิ เมจิก แมท ฟาวเดชั่น พาวเดอร์”
คหสต. สำหรับเรานะ โฆษณาเหมือนจะส่งเสริมนักเรียนแต่งหน้าผิดกฎระเบียบของโรงเรียน เพราะวัยนักเรียนต้องการความเป็นธรรมชาติสมวัย ไม่ต้องโบกรองพื้นหนา ทาปากสีเจ็บๆ เพราะแป้งศศิมันเป็นแป้งผสมรองพื้น ต่อให้เนื้อแป้งไม่หนาสำหรับวัยใส ถ้าในชีวิตจริงทาแป้งผสมรองพื้นไปโรงเรียน ครูจับได้แน่นอนเพราะครูดูออกว่าทารองพื้นหรือแป้งพัฟมาโรงเรียนแน่ๆ ถ้าอยากแต่งหน้าไปโรงเรียนจริงๆ เอาแบบ make up no make up คือทาครีมบำรุงผสมกันแดด ตามด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงไม่ผสมรองพื้นก็มา ส่วนแป้งศศิเก็บไว้ใช้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไปเที่ยวหรือไปเรียนพิเศษก็พอ
แป้งพัฟราคาหลักสิบ ที่อาชีพพริตตี้,นางโชว์ชอบใช้กันมากที่สุด หลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตากับตลับสีเขียวสูตร oil free มาแล้ว ใช้แล้วดี คุมมันโอเค(ขึ้นอยู่กับความชอบของส่วนบุคคล) ตอนนี้ทางแบรนด์ได้ออกมาเพิ่มอีก 2 รุ่น คือ ตลับสีส้ม สูตร Extra Cover เหมาะสำหรับผิวที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ พร้อมปกป้องแสงแดด และตลับสีชมพู Aura White สูตรเพื่อผิวขาวกระจ่างใส ดูมีออร่า ใครที่อยากสวยแต่งบน้อย แป้ง zendori ตอบโจทย์คนงบน้อย น้องๆนักศึกษาสามารถหาซื้อได้
รูปแบบโฆษณา : คอนเซ็ปท์เป็นแนวอนิเมะญี่ปุ่น ถ้าใครดูโฆษณานี้ครั้งแรกแล้วเข้าใจว่าเป็น teaser อนิเมะเรื่องใหม่ของช่องอมรินทร์อีก(ถ้าใครดูเกมกระชากล้านนะแล้วเห็นโฆษณานี้) แต่ความจริงแล้วคือโฆษณาแป้งพัฟ zendori ไง กับความคิดอีกอย่างนึงคือบางคนเข้าใจว่าแบรนด์ zendori เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วคือแบรนด์ไทย แต่รูปแบบโฆษณาเป็นอนิเมะ เรื่องราวของสามสาวสามสไตล์ มาขอพรแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ว่า “ขอให้หนูสวยทีเถอะ” หลังจากขอพรแล้วเจอภูติน้อยร่วงหล่นจากฟ้ามาวางลงฝ่ามือของหญิงสาวเป็นเซนเตอร์ของกลุ่มจนเกิดเป็นแป้งพัฟ zendori ทำให้ทั้งสามสาวเปลี่ยนจากเด็กผู้หญิงธรรมดากลายเป็นนางแบบไอดอลขวัญใจประชาชนของทุกคน ทั้งสามสาวทำสำเร็จแล้ว และภูติน้อยพูดปิดท้ายจบโฆษณาว่า “ฝากด้วยนะ...เซนโดริ”
คหสต. เราชอบคอนเซ็ปท์นี้มาก ดูแล้วไม่น่าเบื่อเหมือนคนแสดงที่เกินจริง พอมาคั่นระหว่างใน youtube เราจะไม่กดข้ามเลย เป็นโฆษณาที่สร้างสรรค์ น่ารักเหมาะสมวัยใสหัดแต่งหน้าอีกด้วย เห็นแล้วอยากซื้อมาใช้แน่นอน
ตามหัวข้อนี้
1. เพื่อนๆ ชอบรูปแบบโฆษณาชุดไหนมากกว่ากัน
2. ระหว่าง 2 แบรนด์ดังกล่าว เพื่อนๆ ว่าอันไหนใช้ดีกว่ากันและควรซื้อซ้ำ