อเมริกาจัดกองเรือ Carrier strike group มาบุกเต็มอัตรา
แฟนทอมบอกว่าเพราะการเน้นด้านปริมาณเป็นจุดเด่นของอเมริกา
แล้วก็แอบแซวเรื่องแอบฟังที่เคกับกริพเพนคุยกันเมื่อคืนนิดหน่อย


แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็มีการนำเสนอขั้นตอนการปล่อยเครื่องบินจากเรือ ตั้งแต่ Taxi ออกจากจุดจอด จนกระทั่ง Take off

ในการปล่อยเครื่องบินนั้นหลังจากตรวจสอบระบบต่าง ๆ จนครบแล้วก็จะเป็นการ Taxi เข้าสู่แท่นยิงของรางดีดตัว (Catapult)
ซึ่งต้องต่อแถวรอคิวปล่อยตัวตามลำดับนะ

ซึ่งขณะ Taxi จะมีเจ้าหน้าที่ทัศนสัญญาณบนดาดฟ้าบิน คอยให้สัญญาณกำกับว่าต้องไปทางไหน หยุดตรงไหนจนถึงเข้าสู่แท่นยิงเลย
อันนี้เรียกว่า Aircraft Marshalling

เพราะบนดาดฟ้าเสียงจะดังมากเลยต้องบอกด้วยท่าทาง และสัญญาณก็เหมือน ๆ กับของภาคพื้นครับ
แต่จะมีเพิ่มการให้สัญญาณเกี่ยวกับการออกตัวเข้ามา

สำหรับการให้สัญญาณในตอนกลางคืนก็เป็นท่าเดียวกับกลางวัน เพียงแต่จะถือไฟที่มือทั้งสองข้างเพิ่มเข้ามาเพื่อให้เห็นลักษณะการโบกมือ


Jet Blast Deflector

เป็นแผ่นป้องกันแรงขับจากไอพ่นของเครื่องบินที่กำลังรอปล่อยตัว
ไม่ให้ไปทำอันตรายลูกเรือและเครื่องบินลำอื่นที่ Taxi มารอคิวอยู่ด้านหลัง

ปกติแล้วจะวางนอนระนาบไปกับพื้นของดาดฟ้าบิน เมื่อใช้งานก็จะถูกยกขึ้นแบบเฉียง ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความร้อนและแรงขับออกไป

ที่หอบังคับการของเรือบรรทุกเครื่องบินจะมีป้ายคำเตือนตัวใหญ่ ๆ ที่คล้าย ๆ กันอยู่ว่า "Beware of jet blast propellers and rotors"
คือ ให้ระวังไอพ่นและใบพัด
(Propellers คือใบพัดที่อยู่ตรงปีก หรือด้านหน้า Rotors ใช้กับใบพัดที่อยู่ด้านบนของพวกอกาศยานปีกหมุน)


Shooter, Catapult control pod

Shooter พี่เสื้อเหลืองที่เราเห็นบ่อย ๆ ตอนปล่อยเครื่องบิน จะมีท่า Go / Launch ซึ่งเป็นท่านั่งชี้นิ้วปล่อยเครื่องบินเท่ ๆ นี่ก็เป็นหนึ่งในทัศนสัญญาณนะ
https://www.navysite.de/cvn/catcom.htm
(พวกเสื้อสีเหลืองเป็นนายทหารอำนวยการอากาศยาน จัดคิว ควบคุมรางดีด)

ถ้าใครอยากรู้ว่าเสื้อมีกี่สี แต่ละสีทำหน้าที่อะไรบ้าง อ่านในกระทู้นี้เลย
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2006/04/X4311309/X4311309.html

ส่วนผู้ทำหน้าที่กดปุ่มยิงเพื่อให้รางดีดส่งครื่องบินขึ้นบินจะอยู่ใน Catapult control pod ที่อยู่ใต้ดาดฟ้า ตรงบริเวณรางดีดนั่นแหละครับ จะมีหน้าต่างให้ชะเง้อมองด้านบนได้ จะมีคนคอยติดต่อกับหอบังคับการเรื่องว่าจะให้ปล่อยเครื่องบินเมื่อใด
พอจะปล่อยเครื่องบินก็ให้ Shooter ที่รอให้สัญญาณ นั่งชี้นิ้วเป็นสัญญาณให้นักบินรู้ว่าจะยิงแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ใน Pod ก็จะกดปุ่มยิงส่งเครื่องบินออกไป



โปรดเปิดเพลงนี้ประกอบ

เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นดอเธอร์ F/A-18E ของไรโน
(ตอนบอกขอฝากตัวด้วยมีส่ายเครื่องบินดุ๊กดิ๊กด้วย น่าร้ากกกก)


ทวนแผนอีกครั้ง
ฝูง F/A-18 ทำหน้าที่ดึงความสนใจข้าศึกให้เสียรูปขบวน
จากนั้นบรอว์เลอร์จะมาเป็นฝูงที่สองค้นหาและทำลายข้าศึก
พอเปิดช่องได้แล้ว ฝูงบินที่สามคือพวกเคจะเข้าไปแทนที่ในช่องที่เปิดนั้น
จากนั้นก็ให้พวกบรอว์เลอร์และเครื่องบินที่มีคนขับทำการครองอากาศ


พวกบรอว์เลอร์เปิดช่องให้พวกเคฝ่าเข้ามาได้


แต่ข้างในนั้นก็พบกับเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก 2 ลำ
ซึ่งมันปล่อยลำเล็กออกมาได้ด้วย


ระดับ EPCM สูงขึ้นจนทำให้พวกอนิม่าชะงักไป กริพเพนเองก็รู้สึกไม่ดี

และก็เป็นไปตามคาด บรอว์เลอร์ถูกไซควบคุม

เพราะว่าอัลกอริทึมของบรอว์เลอร์จะกำหนดการเคลื่อนไหวถัดไปจากการอ่านแพทเทิร์น EPCM
ไซก็เลยแก้แพทเทิร์น EPCM ใหม่ เพื่อให้ตัวเองควบคุมการเคลื่อนไหวของบรอว์เลอร์ได้แทน


ภารกิจล้มเหลว จนต้องถอนกำลัง
ไรโนมาช่วยเคและกริพเพนไว้ได้ แต่ก็แยกกันกับอีเกิลและแฟนทอม


เชื้อเพลิงใกล้หมด JAS-39 ก็เสียหายหนัก
แถมยังอยู่ไกลจากกองเรือเกินไปเลยต้องตัดสินใจลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง


ที่สนามบินไม่มีใครอยู่เลย เชื้อเพลิงและอะไหล่ก็ไม่มี


บรรยากาศที่เต็มไปด้วยหมอกทำให้เคนึกถึงในความฝัน



หลังจากที่ไปพักและหาอะไรกินที่อาคารผู้โดยสารพบว่าที่นี่ยังคงมีสภาพดีอยู่
มีทั้งไฟฟ้า และแอร์
เป็นไปได้ว่าน่าจะมีคนคอยดูแล แต่ตอนนี้อาจจะกำลังไปซ่อนตัวที่ไหนสักแห่ง


หลังจากสำรวจมาทั้งวันก็ยังไม่พบใครเลยต้องไปพักที่โรงแรมก่อน


ระหว่างออกจากลิฟต์เคได้ยินเสียงแปลก ๆ อยู่คนเดียว

ไรโนเลือกห้อง 405
เพราะเป็นเลขวันเกิด 5 เม.ย.


ซึ่งเท่ากับว่าเธอเกิดมาได้ไม่ถึงปี ดังนั้นจึงเป็นเด็กอายุ 0 ขวบ!


กริพเพนเพลียมากเลยขอนอนทันทีทั้งชุดบินนั่นแหละ

เคตื่นมากลางดึกแต่ก็ยังไม่ถึงเวลาผลัดเวร

ไรโนเลยชวนคุยนิดหน่อย เธอบอกว่าเธอชอบความมืดตอนกลางคืน
เพราะเหมือนกับว่าทุกอย่างได้หลอมรวมกันไปหมด ไม่มีเส้นแบ่ง

ตอนเกิดมาใหม่ ๆ มีคนพอเธอไปตั้งแคมป์ ตอนนั้นมองท้องกลางคืนแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองได้ล่องลอยในใจกลางจักรวาล
รู้สึกว่าจะมีชีวิตรอดอยู่เพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ไม่ได้


เช้ามา กลายเป็นว่าเคหลับตลอดทั้งคืนโดยที่ไรโนไม่ได้มาปลุกให้เปลี่ยนเวร

เจ้าตัวก็ทิ้งจดหมายไว้ให้เค บอกว่าขอออกไปสำรวจข้างนอกต่อ


กริพเพนยังรู้สึกไมดีอยู่ ทั้งที่ระบบของเธอก็บอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เลยต้องพักผ่อนต่อไปก่อน

เคได้ยินเสียงแปลก ๆ อีกครั้งแต่ก็ไม่พบอะไร

เมื่อออกมานอกห้องก็ไม่พบใคร แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีใครแอบมาโผล่ด้านหลัง


ซึ่งดูยังไงก็ไรโนชัด ๆ  แล้วก็ตัดจบตอน

ตอนต่อไปน่าจะตอนสุดท้ายแล้วครับ
เคอยู่ในสภาพบาดเจ็บ หรือจะโดนไรโนอัด!???