จากอาการที่คุณเล่ามา อาการปวดอัณฑะ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่นเกิดจากลูกอัณฑะบิดขั้ว เป็นการบิดขั้วบริเวณเส้นเลือด
ที่นำเลือดมาเลี้ยงอัณฑะ ทำให้ลูกอัณฑะขาดเลือดไปเลี้ยงจึงเกิดอาการปวด ซึ่งมักจะเป็นภาวะฉุกเฉินหรือเกิดขึ้นได้ทันทีทันใดค่ะ หรือ
เกิดจากอัณฑะอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อ อาจจะเป็นเชื้อไวรัส หรือ แบคทีเรีย ทำให้อัณฑะอักเสบ มีอาการบวมแดง เจ็บเวลาสัมผัสได้
และอาจเกิดจากนิ่วในทางเดินปัสสาวะ มักเกิดจากการมีนิ่วในท่อไต ท่อไตมีการบีบก้อนนิ่ว จึงเกิดอาการปวดร้าว ไปบริเวณหลัง ขาหนีบ หรือ
อัณฑะได้ นอกจากนี้สาเหตุอาจจะเกิดได้จากการมีเส้นเลือดขอดบริเวณอัณฑะ ซึ่งอาการปวดมักปวดหน่วงๆเวลายืนหรือเดินนานๆ
พอได้นอนพักอาการมักจะดีขึ้นได้ เป็นต้นค่ะ

เบื้องต้น เนื่องจากอาการปวดบริเวณลูกอัณฑะ อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งในการวินิจฉัยที่ถูกต้อง จำเป็นต้องทำการตรวจร่างกาย รวมถึง
ตรวจด้วยวิธีอื่นๆ เช่นตรวจปัสสาวะ หรือการตรวจอัลตราซาวน์ เอกเรย์ร่วมด้วย  จึงจะทำให้ได้รับคำวินิจฉัยที่ถูกต้องได้ แนะนำว่าให้คุณ
ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการก่อนนะคะ ซึ่งถ้าพบความผิดปกติคุณจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ