<< ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง >> ละครดี ๆ ที่เราอยากเก็บไว้ดูนาน ๆ

อืม.... คิดมาตั้งแต่เมื่อคืนว่าควรตั้งกระทู้นี้หรือเปล่า ว่างเว้นจากการตั้งกระทู้มาก็นานแล้วด้วยแฮะ ไม่ใช่เรื่องของเกมที่เราคุ้นเคยซะด้วย จะเขียนไหวไหม ตั้งกระทู้แบบนี้จะซ้ำซากไปหรือเปล่า... แต่ก็อยากบอกเล่าความรู้สึกอ่ะค่ะ

เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ สืบเนื่องมาจากที่เราไม่ค่อยได้เจอละครที่ถูกจริตเรามากนัก เป็นคนไม่ติดละครเลยค่ะ ซีรี่ส์เกาหลีก็นาน ๆ จะติดซักเรื่อง ละครไทยนี่ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ เราชอบดูหนัง ดูละคร แต่ถึงเรื่องไหนจะชอบ ตามดู อ่านกระทู้ แต่ไม่เคยมีเรื่องไหนที่เราตามดูละครสดทุกตอน เป็นคนที่ออกแนวดูก็ได้ พลาดก็ไปดูย้อนหลังเอาก็ได้ ลืมก็ลืม นึกออกเมื่อไหร่ค่อยดู ช่างมัน.... เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและอาจจะเป็นละครเรื่องเดียวที่เราดูสดตั้งแต่ EP แรกจนถึง EP สุดท้าย

"ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง" เป็นละครที่เราเล็งไว้แต่แรกเลยว่า "น่าดู" ตั้งแต่ที่ละครยังไม่ลงจอด้วยซ้ำ ส่วนตัวแล้วตอนเห็นโปรโมทครั้งแรกรู้สึกว่าละครมันดูแหวก ๆ ดี เป็นละครตลก + เรื่องของหมอยาสมุนไพรที่ไม่ได้หาดูได้บ่อย ๆ   เห็นรูปนางเอกอุ้มพระเอกแล้วมันน่าสนใจดี  รู้สึกว่านักแสดงดูเหมาะกับบทดีด้วยเราเลยเฝ้ารอดูหน้าจอตั้งแต่วันแรก กะว่าถ้าไม่ถูกจริตเราก็โบกมือลาแน่นอน แต่ปรากฎว่าพอดู ep แรก "อ้าวเฮ้ย! เรื่องนี้สนุกว่ะ" คือตอนดูคิดในใจอย่างนี้เลย....จากนั้นเราก็ตามดูสดมาทุกอาทิตย์ กลายเป็นคนติดละครไปในบัดดล (ซึ่งหลังจากนี้ก็น่าจะอีกนานที่เราจะกลับมาติดละครอีก)

เราชอบความพิถีพิถันเรื่องสมุนไพร ในฉากมีการ present สมุนไพรแทรกมาให้ความรู้แบบที่ไม่ติดขัด เข้าใจง่าย ในความบันเทิงที่นอกจากมีความฟินจิกหมอน ความตลก รั่ว ฮา ยังมีสาระและความรู้มอบให้ ในสายตาของเราละครเรื่องนี้เด่นที่นักแสดง บทละคร และความละเอียดของผู้กำกับค่ะ

เรื่องของนักแสดง ในสายตาเราตอนนี้ มาริโอ้ คือ ทองเอก หมอยาแห่งท่าโฉลง คือตอนดูไม่มีความรู้สึกว่าเค้าคือ มาริโอ้ เมาเร่อ เราไม่ค่อยได้ดูละครของเค้า เราเลยไม่เคยรู้หรอกว่าเค้าเล่นดราม่าดีขนาดนี้ (ล่าสุดที่ดู.... โน่นเลย รักเกิดในตลาดสด ตอนนั้นเรามองว่าเค้าเป็นต๋องได้กวนดี ถึงจะยังสู้แอนดริวไม่ได้) เพราะไม่ใช่แฟนละคร ไม่ได้ดูละครที่มาริโอ้เล่นมานานเราถึงได้เห็นพัฒนาการของเค้าแบบชัดเจน เป็นคนที่แสดงฉากตลกได้แบบเข้าขากับทุกคน แสดงฉากออดอ้อนปู่และชบาได้น่ารัก พาร์ทที่ต้องเรียกน้ำตาก็แสดงให้เห็นได้ถึงทุกอารมณ์ อาการมือสั่น ปากสั่น ลนลาน ทั้งหมดเรามองว่าทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นเราจึงลืมไปว่าเค้าคือ มาริโอ้ แต่เป็นหมอทองเอก  เราคิดจริง ๆ ค่ะว่าเค้าควรได้รับรางวัลนักแสดงนำชาย

ส่วนคิมเบอร์ลี่ เธอเป็นชบาที่น่ารักมาก ๆ สดใส ปกติเรามองว่าคิมเบอร์ลี่เธอหน้าดูมีอายุมากกว่าบทที่ได้รับ (คือ....เราจะโดนใครตื้บมั้ยคะเนี่ย -- แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ ไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้เลย)  แต่พอมาดูเธอเล่นเรื่องนี้ทำให้เชื่อได้ว่าเธอคือ ชบา เธอเป็นสาววัยรุ่น แก่น ๆ ซน ๆ เวลายิ้ม หัวเราะ แสดงอาการอยากรู้อยากเห็น หรือไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเธอน่ารักเหมือนเด็กน้อยจริง ๆ ค่ะ  ยิ่งฉากที่ทองเอกบอกรักชบาซ้ำ ๆ แล้วชบาเขินอายแล้วบอกว่า "งือ...มันเขินน่ะ" ฉากนั้นคือมันน่ารักมาก ๆ >_<  มันดูธรรมชาติมาก เรียลมาก  มาริโอ้-คิมเบอร์ลี่แสดงกันได้เข้าขามาก เป็นธรรมชาติจนเหมือนคู่ผัว-เมียจริง ๆ  น่ารักสุด ๆ ไปเลยค่ะ

สำหรับคนอื่น ๆ ที่เราไม่ได้พูดถึงก็ไม่ใช่ว่าแสดงไม่ดี ปู่หมอ เปียก ตุ่น ชงโค ท่านขุน พ่อกล้า แม่ผ่อง แม่สายหยุด คุณนายกิ่งแข พ่อเพิ่ม รำเพย แม่เยื้อน และนักแสดงสมทบอื่น ๆ ก็แสดงกันได้เข้าขากันและเป็นธรรมชาติเช่นกัน โดยเฉพาะหลวงตา เรารู้สึกว่าเลือกนักแสดงดีมาก รู้สึกเหมือนเป็นพระจริง ๆ เพราะเสียงท่านดูเด็ดขาด มีอำนาจนิด ๆ แต่ฟังแล้วเย็นทั้งหูทั้งใจและมีเมตตา น่าเลื่อมใส น่านับถือ เราไม่รู้ว่าวงการละครใครเป็นผู้คัดเลือกนักแสดง ผู้จัด ช่อง หรือผู้กำกับ แต่รู้แค่ว่าตาแหลมมากที่วางตัวละครได้เหมาะสมกับบทแทบทุกตัว

ว่าด้วยเรื่องบทและผู้กำกับบ้าง เพราะละครเรื่องนี้เป็นพีเรียดร่วมสมัยที่มีเรื่องของยาเป็นแกนกลางและเอา Rom-com มาห่อไว้อีกที (ขอใช้คำว่าร่วมสมัยละกันนะคะ) ดังนั้นการที่คนดูจะตำหนิว่าละครเรื่องนี้ไม่เห็นจะโบราณสมจริงก็ดูจะไม่แฟร์เท่าไหร่ เพราะงั้นเราก็จะไม่พูดถึงความสมจริงของบท เสื้อผ้า กิริยา หรืออะไรทั้งนั้น จะขอแสดงความเห็นในเรื่องของบทล้วน ๆ ซึ่งเราชอบค่ะ

เราชอบที่ได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร เริ่มแรกทองเอกและชบายังเป็นแค่วัยรุ่น เที่ยวเล่นไปวัน ๆ  ทองเอกจะแสดงความรับผิดชอบ / เอาจริงเอาจังก็เอาตอนรักษาผู้ไข้หรืออะไรที่เกี่ยวกับยา ทองเอกจีบสาวไปเรื่อยตามเพื่อนซี้แบบเปียกและตุ่นจนดูเจ้าชู้  ส่วนชบานั้นดูยังไม่ค่อยรู้สึกตัวเองนักว่ารักทองเอก ยังเป็นเด็กน้อยไปตามนิสัยของคุณหนูที่เกิดมาสบายและไม่เคยมีอะไรให้ต้องกังวล.... แต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอเข้าใจได้ว่าความรักก่อตัวขึ้นเมื่อได้ไปร่วมผจญภัยกัน ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันแม้จะเป็นเวลาไม่กี่วัน ในขณะที่เรื่องราวดำเนินไป ทองเอกก็เริ่มแสดงให้เห็นด้านที่โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แสดงความชัดเจนออกมามากขึ้นว่ารักใคร (แต่ซีนที่เหมือนจะหลีสาวผู้ไข้ก็ทำให้เห็นว่าทองเอกยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม ๆ ซะทีเดียว) และก็ได้เรียนรู้ความรักจริง ๆ และชบาสำคัญกับตัวเองขนาดไหนก็เมื่อตอนเกือบจะเสียเมียไปด้วยโรคระบาด  ส่วนชบาเองจากเดิมที่เป็นเด็กน้อยบ้าฟันดาบ อยากออกสนามรบต่อสู้กับข้าศึก อยากเรียนทำยาด้วยความบ้าเห่อในตอนแรก (ด้วยความที่น่าจะโตมากับยา และวิธีการรักษาของแม่หมอมั่น พอเห็นหมอรักษาคนจริง ๆ ใช้พืชผัก-สมุนไพร ใช้ของรอบตัวมาทำยารักษาคนไข้ให้หายได้ก็ชื่นชม อยากทำได้บ้าง)  ก็เปลี่ยนมาเป็นจริงจังและตั้งใจเรียนทำยาจริงอย่างจริงจังถึงขั้นกล้าขัดคำสั่งพ่อแม่  บทที่วางไว้แทบไม่มีอะไรเสียเปล่า ความดีที่ทองเอกทำย้อนกลับมาช่วยทองเอก ทั้งเรื่องของพระองค์หญิงที่ทองเอกรักษา  หีบทองที่เป็นสินน้ำใจจากคหบดีที่ทองเอกรักษาและเปียกกับตุ่นแอบรับมา บ่าวที่ช่วยให้ทองเอกหนีออกจากที่คุมขังบ้านท่านขุนไปได้  สิ่งที่ผ่านไปนั้นได้กลับมาแสดงถึงความสำคัญในภายหลัง 

มาที่ผู้กำกับบ้าง ตอนนี้เราชื่นชมคุณชุเพราะเรามองว่าผู้กำกับใส่ใจในรายละเอียดและเป็นคนที่ตัดสินใจคัทหรือปล่อยผ่านอะไร ๆ ได้ถูกจังหวะดีค่ะ ความหลุดจากบทบางช่วงที่ปล่อยผ่านมาช่วยให้ละครลื่นไหลและเป็นไปตามธรรมชาติ ดูไม่ขัดตา และที่เราชอบมากที่สุดคือความใส่ใจในตัวละครโดยเฉพาะฉากบ่าวที่ช่วยปล่อยทองเอกหนี ตอนนั้นมีการเฉลยว่าทองเอกเคยรักษาแม่ของบ่าวคนนั้น เค้าจึงตอบแทนบุญคุณ ยอมเสี่ยงต่อการโดนลงหวาย.... พอเราได้มาดูย้อนหลังอีกรอบแล้วเลยได้เห็นว่าซีนก่อนหน้านั้น -- บ่าวคนนี้ไม่ยอมกระทืบทองเอกตอนที่ถูกท่านขุนจับได้ค่ะ -- ฉากนั้นบ่าวทุกคนรุมกระทืบทองเอกหมดเว้นแต่คนนี้ เค้ายืนละล้าละลังจนท่านขุนต้องตะคอกสั่งอีกรอบ เราชอบการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ค่ะ 

ละครเรื่องนี้สร้างรอยยิ้มให้กับเราเยอะมาก มีหลากหลายรสชาติ อารมณ์ ทำให้เราหัวเราะ อมยิ้ม ลุ้นจนเครียด สงสารตัวละคร ไม่ได้มีแต่ดราม่าและจุดพีคของเรื่อง ไม่ได้มีแต่พาร์ทตลกโปกฮา ไร้สาระไปวัน ๆ  แต่เป็นละครที่ทำให้สมาชิกบ้านเราทั้งบ้านมารวมตัวกันอยู่หน้าจอทีวีและดูไปพร้อมกันได้ สิ่งเดียวที่ไม่ชอบในละครเรื่องนี้คือช่วงที่เกาหลีมาเยือนท่าโฉลงล่ะนะ มีนิดหน่อยพอให้เป็นสีสันก็ดีนะคะ เราเข้าใจเรื่องของธุรกิจ แต่พอมันมากไปเราก็รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดอะไรซักอย่างให้ค่ะ 

จบละครเรื่องนี้แล้วเราก็อึน ๆ เหมือนกันนะคะ เพราะถูกใจมาก ๆ ไม่รู้จะได้เจอละครดี ๆ แบบนี้อีกเมื่อไหร่ ไม่ค่อยได้เจอละครที่ทำให้เราอินตามได้ง่าย ๆ ด้วย ขนาดว่าเราเดาทางได้เรายังลุ้นซะตัวโก่งกลัวโดนหักมุมให้ชบาตาย  EP จบเรามองว่ารั่วไปหน่อย ฉากจบจริง ๆ เราคงยึดเอาตอนที่ตุ่นเจอลูกล่ะค่ะ  นับจากซีนที่ขึ้นว่า "1 ปีผ่านไป" เราขอนับมันเป็น Epilogue เพราะรั่วเกิน  แต่ถึงจะรั่วเราก็รักค่ะ อยากดูต่อไปเรื่อย ๆ (คงต้องมุดท่อเอาแล้วล่ะ)

สุดท้ายนี้...... ขอ DVD Boxset ได้ไหมคะ คุณชุ คุณก้อง
Cr. รูป จาก CH3 Thailand ค่ะ 

//Edit : Typo// 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่