[รีวิวที่ 260] Cadaver: วัตถุดิบดี แต่หลงทาง
คะแนน: 6/10
(Diederik Van Rooijen, 2019)
.
by ตั๋วหนังมันแพง
.
“ฉันเชื่อว่าเมื่อคนตายแล้ว คือตาย หมดเวรหมดกรรม”
.
1.เนื้อเรื่อง ⭐⭐⭐
.
ถ้าว่ากันตามตรงสำหรับหนังผีแนวนี้ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ใช่จุดขายสำคัญให้เอามาพูดต่อนัก แต่ผมก็แอบชอบการปูพื้นหลังและนิสัยของตัวละคร ที่ค่อนข้างละเอียดและช่วยเสริมกับแก่นของหนังได้ดี
.
คือตัวนางเอก “เมแกน รี้ด” เนี่ย เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ ในอดีตมา นางจึงมีอาการ PTSD จำพวกหูแว่ว+เห็นภาพหลอน
ทีนี้พอย้ายมาทำงานในห้องเก็บศพแล้ว ปมในส่วนนี้จึงเริ่มทำงานขึ้นมาทำให้นางเอก ‘รู้สึกกังขา’ ในสิ่งที่ตัวเองรับรู้ ว่าเอ๊ะ ที่ฉันเผชิญอยู่มันคือผีจริงหรือแค่หลอนไป ส่งผลให้คนดูอย่างเราต้องร้องเอ๊ะไปด้วย
.
แต่ส่วนที่น่าเสียดายก็คือพอเอาเข้าจริง ‘กิมมิก’ ส่วนที่กล่าวถึงกลับไม่ได้ถูกหยิบมาใช้เท่าไรนัก แถมปมในส่วนของความสัมพันธ์กับอดีตแฟนหนุ่มก็ดูใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ ไปหน่อย ไม่มีอะไรให้ผูกใจจำได้เลย
.
2.ตัวละคร/นักแสดง ⭐⭐⭐
.
หลักๆ ก็คงต้องชม “Shay Mitchell” แหละ เพราะเธอเล่นคนเดียวร่วมครึ่งเรื่อง และต้องบอกว่าหนังในครึ่งแรกมันสนุกได้เพราะการแสดงอารมณ์ของเธอจริงๆ ถือว่าเอาหนังอยู่ครับ
.
แต่ทีมนักแสดงสมทบกลับไม่ได้ทำงานอย่างที่ควรเป็น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบทไม่ส่งด้วยแหละ ตัวสมทบมันเลยอยู่ในสถานะ ‘ใช้แล้วทิ้งได้’ (Disposable) ซึ่งมันไม่ควรเลย
.
ถ้าคิดจะใส่เข้ามาในหนังแต่แรกก็ควรให้ความสำคัญกับพวกเขาซะหน่อยสิ
.
3.ความบันเทิง ⭐⭐⭐
.
พูดเลยเป็นหนังที่มีวัตถุดิบที่ดีโคตรๆ ลำพังที่เก็บศพของโรงพยาบาลก็เป็นสถานที่ที่คนส่วนมากหวาดกลัวอยู่แล้ว ยังมีความวังเวงของการทำงานกะดึกคนเดียว และของเล่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ‘หลอดไฟเซนเซอร์’ ที่ใช้เอามาเล่นได้อีกเยอะ
.
ดังนั้นในช่วงต้น-กลางเรื่อง ลำพังแค่ฉากห้องเก็บศพกับมุมกล้องชวนหวาดเสียวมันก็น่ากลัวชิหายวายป่วงแล้ว บางครั้งหนังมันก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่มันเกิดจากความกลัวในหัวของเราเอง
.
แต่ในช่วงท้ายเรื่องผมกลับรู้สึกว่าหนังเป๋จากทิศทางที่มันควรจะเป็นไปเยอะเลย คือบรรยากาศหลอน+วังเวงที่หนังปั้นมาตลอดเรื่องมันแทบจะกลายเป็นหนัง underworld ไปแล้ว
.
ผีที่มาเป็นตัวๆ มาเป็นลักษณะ physical จ๋าๆ มันลดทอนความน่ากลัวและความขลังไปเยอะ ไอ้ส่วนที่ควรจะลี้ลับมันก็ไม่ลับแล้ว ถ้าเทียบเป็นกราฟ ช่วงท้ายเรื่องก็คงดิ่งอย่างรุนแรง น่าเสียดายมากๆ
.
ส่วนตัวคิดว่าหนังมันยัง deliver สิ่งที่เราอยากดูไม่ได้ อย่างฉากเผชิญหน้าตอนสุดท้ายนี่ผมก็คาดหวังให้นางเอกชกวัน-ทูไปเลยให้มันรู้แล้วรู้รอด ไหนๆ ก็ปูเรื่องเชิงมวยของนางเอกมาแล้ว ก็ใช้ให้มันคุ้มค่าไปเลยสิคุณ!
.
ป.ล. ยังแอบงงนิดหน่อยว่าหนังเปลี่ยนชื่อจาก The Possession of Hannah Grace มาเป็น Cadaver ทำไม?
.
#ตั๋วหนังมันแพง #Cadaver
[รีวิวที่ 260] Cadaver: วัตถุดิบดี แต่หลงทาง by ตั๋วหนังมันแพง
ทีนี้พอย้ายมาทำงานในห้องเก็บศพแล้ว ปมในส่วนนี้จึงเริ่มทำงานขึ้นมาทำให้นางเอก ‘รู้สึกกังขา’ ในสิ่งที่ตัวเองรับรู้ ว่าเอ๊ะ ที่ฉันเผชิญอยู่มันคือผีจริงหรือแค่หลอนไป ส่งผลให้คนดูอย่างเราต้องร้องเอ๊ะไปด้วย