เที่ยวญี่ปุ่น ช่วงเดือนมกราคม 5 วัน 4 คืน ไปเที่ยวไหนดี ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ จะต้องเดินทางยังไง หวังว่ากระทู้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นนะคะ
สวัสดีค่ะชาวพันทิปที่น่ารักทุกคน
รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรา แต่อย่าเรียกมันว่ารีวิวเลย ข้อมูลน้อยมาก555 เอาเป็นว่ามาเล่าให้ฟัง มาแชร์รูปให้ดูละกันโน๊ะ
ก่อนอื่นเลย ขออนุญาตใช้คำแบบเป็นกันเองนะ เราหวังว่าการเที่ยวครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ และปลุกอารมณ์ให้คนที่ต้องการเที่ยวแต่กำลังลังเลต้องใช้คำว่าปลุกอารมณ์เลยแหละ เพราะเวลาเราอยากเที่ยวมากๆ ทั้งใจร่างกายมันดูพร้อมไปซะหมดทุกอย่าง ยกเว้นเวลาและเงิน อันนี้ปัจจัยสำคัญเราเข้าใจ ป่ะ ตั้งใจเก็บเงิน ละไปจองตั๋วเลยยยยย
มา!!!! เริ่ม!!!
เมื่อช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2019 เราและเพื่อนมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น พอกำหนดวันเที่ยวได้ 5 วัน 4 คืน อย่ารอช้ากดลาเลยยยย
จากนั้นทำการหาตั๋ว จองที่พัก วางแผนเที่ยว เอออ!!! ไปไหนดีวะ google สิจ๊ะ อยากไปไหนก็หาเอา จดไว้แล้วค่อยมาเรียงลำดับการเดินทางว่าเราต้องไปไหนก่อน ไปดูกัน ว่าเราไปไหนมมามั่ง
Day 1 : Tokyo Day 2 : Sensoji Temple Day
3 : Nikko Day 4 : Tokyo Disneyland Day 5 : Fuji
รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อคน
- ค่าเครื่องสายการบิน nokscoot ไป-กลับ 8,358 บาท
- น้ำหนักกระเป๋า ไป-กลับ 20 kg. 2,400 บาท
- ค่าที่พัก 4 คืน 3,538 บาท
- ค่าโดยสาร NEX 1,200 บาท
- ค่า sim2fly AIS : 399 บาท
- ค่า NIKKO PASS 1,004 บาท
- บัตรเข้า Tokyo disneyland 1 วัน 2,165 บาท
- Bus shinjuku-fuji ไป-กลับ 1,085 บาท
- Restro R Bus fuji 600 บาท
- บ้านพักที่ Fuji 1,980 บาท
รวม 22,729 บาท
*มีเถลไถลไปเที่ยวหลายๆย่านบ้าง ก็เสียค่า metro เพิ่ม
(ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าอาหารทุกมื้อและค่าช็อปปิ้งนะแกรร เพราะฉันจำไม่ได้จริงๆ )
การเดินทางทั้งทริป เราใช้ web นี้ www.hyperdia.com ที่จะบอกเวลาของ metro ต่างๆ
____________________________________________________
Day 1
ถึงสนามบิน Narita ไปเก็บของกัน Hello japan ประตูสนามบินเปิดออกลมหนาวปะทะหน้า หืมมมม หนาวววว
ตัดภาพมาที่บ้านเรานอกจากวันสงกานต์ที่โดนสาดด้วยน้ำเย็น เย็นเพียงเสี้ยววินาที เราไม่ค่อยชินกับอากาศแบบนี้เท่าไหร่เพราะพี่ไทยเราหนาว 3 วันก็ถือว่าโชคดีละ เตรียมเสื้อกันหนาวกันลมให้พร้อมนะจ๊ะพี่จ๋า เดี๋ยวจะไม่สบายเอา
การเดินทาง ออกจากสนามบินมาที่จุดรอ bus no.19 นั่ง keisei bus (keisei shuttle bus 1 way) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-50 นาที
ลงที่ Tokyo-ginza-naka okachimachiจากน้านนน ลากกระเป๋าเดินไปเรื่อยๆ ทั้งหนักทั้งหนาว คิดถึงสภาพมือที่เย็นแล้วลากของหนักๆดิ แม่เจ้า เหมือนกระดูกจะแทงออกมา 5555 เว่อละๆ จริงๆมันหนาวพอทนได้นะ ถ้ากระเป๋าไม่ได้หนักเบอนั้น แต่นี่เป็นชะนีพร๊อบเยอะ เป็นไงล่ะ หลาบจำกันเลยทีเดียว ชะนีหน้าไหนไม่มีผู้ชายร่วมทริปด้วยอย่าริอาจเอาของไปเยอะนะคะ เดี้ยนเตือน ไม่งั้นมีร้องแน่นอน อ่ะมัวแต่เม้า ถึงที่พักละ
JR Ueno Station and keisei-ueno station. Close 9F จองผ่าน Agoda Homes
ที่พักเราเป็นเหมือนอพาร์ทเม้น มีห้องน้ำในตัว ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็นเล็ก มี wifi มีหม้อต้มน้ำร้อน เรานอนกันทั้งหมด 5 คน มีเตียง 2 เตียงและเตียงยาง 1 ตัว ซึ่งเราอาสานอนเตียงยาง เพราะมันนุ่มแล้วก็เด้งดึ๋งๆโหววว ตอนนอนต้องฟินแน่เลย เก็บของเรียบร้อยละ เตรียมพร้อมที่จะออกไปเดินเล่นย่านดัง
เจอหญิงสาววัยกลางคนสวมชุดกิโมโน ก็อดแช๊ะภาพไม่ได้ แล้วรู้ป่ะว่า ชุดกิโมโนกับชุดยูกาตะต่างกันตรงไหน
มองภายนอกก็คล้ายๆกัน ชุดกิโมโนทำมาจากผ้าไหมที่มีความหนากว่า เวลาสวมใส่มันจะมีสับในก่อน 1 ชั้นค่อยสวมชุด เหมาะกับฤดูหนาว ส่วนชุดยูกาตะผลิตจากผ้าฝ้าย หรือผ้าโพลิเอสเตอร์ ทำให้ชุดยูกาตะ ราคาถูกกว่า และยังไม่ต้องใส่สับใน สวมใส่สบายกว่าในฤดูร้อน
ถนน shibuya ที่เต็มไปด้วยผู้คน คนเยอะมากจริงๆ 55555
ร้านอาหารก็เยอะเเยะอยากกินไรก็จัดเลยจร๊า เดินเยอะจนปวดเท้า หิวด้วย เราเลยแวะร้านนี้
ร้าน GENKI SUSHI
เป็นซูชิสายพาน ที่สั่งอาหารเเบบบริการตนเอง ที่ราคาเริ่มต้น ประมาณ คำละ 35.- ขึ้นไป ราคาถูกแถมคุณภาพดีเว่ออออออ ไปตำจ่ะจากนั้นเราก็เดินช็อปปิ้งแล้วกลับที่พัก ออกมาอีกทีตอนดึกๆ เกือบๆเที่ยงคืน เพราะหิวอีกแล้ว เดี๋ยวพาไปกินร้านอาหารแนว ซาซิมิ อาหารทะเลแบบสดๆ ราคาดี ที่ไม่ว่าจะไปย่านไหนก็ต้องเจอร้านนี้
ร้าน isomaru suisan ueno สาขา Ueno
ที่เลือกมาสาขานี้ เพราะว่าใกล้ที่พัก ทั้งหนาวทั้งหิว คิวก็ต้องรอ สั่นสู้เด้อจุดนี้ ร้านเปิด 24 ชม. หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาประมาณนั้นเลย
นี่จร๊า กระดองปูย่างงง ยั่ว… ไหมมมมม ยั่วลิ้นสุดๆ555555
เราชอบบรรยากาศในร้าน เพราะว่ามีชาวแก๊งค์เค้ามาเม้ามอยหอยสังกัน เสียงดังเฮฮา แบบปาร์ตี้วันศุกร์ ชนิดที่ไม่กลับบ้านกลับช่องกันหรอคุณขา เราว่าเป็นฟิลที่ดี กลิ่นก็หอมดี แต่หัวไม่น่าหอมแล้ว กลับที่พักไปสระผมด้วยนะ เพราะเป็นร้านแบบปิด อากาศไม่ถ่ายเทเท่าไหร่ แต่ว่าไม่อึดอัด จากลาวันแรกกันไปเท่านี้ เดี๋ยว Day2 จะมาเล่าต่อ ป่ะกลับบ้านนอนนนนน
Day 2
วันนี้จะค่อนข้างชิวๆนะ เพราะเที่ยวแต่ในเมือง
ก่อนไปวัดแวะแลกตั๋ว nikko pass ก่อน ถ้ารอเอาวันไปเดี๋ยวจะไม่ทัน
วัดเซนโซ หรือที่เรียกกันว่าวัดเซนโซจิเป็นวัดพุทธที่อยู่ในย่านอาซากุสะ
วัดเปิดตั้งแต่เวลา 06.30-17.00
ทางเข้าวัดจะมีประตูขนาดใหญ่ บนคานประตูมีโคมกระดาษขนาดใหญ่สูงถึง 5.5 เมตร เรียกว่า คามินาริมง ที่มีน้ำหนักตั้ง 700 kg. เป็นจุดถ่ายรูปที่ใครมาโตเกียวเที่ยววัดต้องมาเช็คอินนะจ๊ะพี่จ๋า
ตามริมทางเดินมีขายของเยอะแยะไปหมด ของฝากที่ระลึก อาหาร พูดถึงอาหารแวะกินแป๊ป เพราะยังไม่ได้กินไรมาตั้งแต่เช้าเลย
เราเลือกกินร้านนี้และยินดีต่อเเถวเพราะกลิ่นหอมมาก ร้านนี้เลย Ramen yoroiya เปิด 11.00-20.30 น.
ร้านมี 2 ชั้น สั่งอาหารชั้น 1 ถ้าข้างล่างเต็ม ขึ้นชั้น 2 ได้เลย สั่งเสร็จเดี๋ยวมีพนักงานขึ้นไปบริการ ส่วนคนที่กังวลเรื่องห้องน้ำ ไม่ต้องห่วงนะ ชั้น 2 มีจร๊า เอ้อ! ส่วนชะนีกระเพาะช้าง อย่าเพิ่งริอาจสั่งพิเศษนะเมิงงง555 กินถ้วยแรกให้ใกล้หมดก่อนไม่พอค่อยสั่ง ส่วนผู้ชายที่หิวโหยและชอบราเมนอยู่แล้วแนะนำให้พิเศษไปเลยจร๊า
ฟินมากกกก ราคาประมาณ 300 กว่าบาท น้ำซุปหอมไปถึงหน้าร้าน เส้นนุ่มและที่สำคัญให้เยอะ ไข่ต้มดีนุ่มลิ้น ซดน้ำซุปไปทีนะ หืมมม กรมกร่อมหอมกลิ่นเปลือกส้มปลายๆ โอ้ยยย นี่อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ ต้องไปลองงง ปกติเราไม่ชอบกินราเมนนะ แต่พอกลับมาไทย โหยหาราเมนซะอย่างงั้น พอกินเสร็จก็เดินเที่ยวเล่นนิดหน่อยแล้วไปต่อที่ Harajuku
ย่าน Harajuku เป็นย่านชิคๆ ศูนย์รวมวัยรุ่นเหมือนสยามบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นเองที่มาเดินเล่นแต่งตัวแนวๆ หรือจะเป็นชาวต่างชาติ คนไทย
มุมถ่ายรุปเยอะเเยะไปหมด
ตบท้ายด้วยอาหารเย็นก่อนกลับที่พัก กินไหนดี กินซ่าสิเราจะไปกินปิ้งย่างกันนนนนนน ร้าน Carne station,Ginza เป็นบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง อาหารหลากหลายมาก เนื้อ หมู ปลา ไก่ ผัก อาหารสด อาหารสำเร็จ หวาน คาว และแอลกอฮอร์ เอาเป็นว่ามีให้เลือกเหมือนในซุปเปอร์
การเดินทาง : นั่ง metro meiji jingumae ประมาณ 170 เยน ไป GinZa พอขึ้นจากสถานีรถไฟ ก็เปิด Google Map เลยจร๊า
__________________________________
เที่ยวญี่ปุ่น เดือนมกราคม 5 วัน 4 คืน ไปไหนดี?