กฎแรงดึงดูด ใช้ในชีวิตประจำวันยังไง แล้วดีจริงไหม หรือเป็นเพียงวาทะกรรมในกลุ่มย่อยๆ ที่แพร่กระจายออกมา

ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
สำหรับเรา
เรามองไปลึกกว่านั้น ... ละเอียดกว่านั้น
เรามองไปถึงกฏแห่งกรรมค่ะ

คือเราจะทำความดี หรือช่วยเหลือใคร เราจะมองว่า เราทำเพื่อ “ตนเอง”
เพราะกรรมดีที่เราทำ จะมาสนองเรา  เท่ากับเราปูทางดีๆไว้ให้ตัวเองนั่นแหละค่ะ

หากถามว่า .. ในชีวิต  เคยถูกคนเอาเปรียบเพราะความใจอ่อนของเราไหม ?
ตอบว่า เคยค่ะ .. ก็มี เสียใจมากบ้าง น้อยบ้าง
แต่ทุกครั้งที่เจอคนเลว เราจะอนุญาตให้ตัวเองเสียใจไม่กี่ชม. จากนั้น ต้องเริ่มกระบวนการเรียนรู้ค่ะ
เรา “เสีย“ ใจ แต่เราต้อง “ได้” สติปัญญา คืนกลับมาเสมอ เราตั้งกฏของเราไว้แบบนั้น

หากถามต่อว่า ... แล้วทำไมเรายังศรัทธาเรื่องนี้อยู่ล่ะ
ตอบว่า เพราะสิ่งดีๆที่เราได้รับ มันยังสมน้ำสมเนื้อกันค่ะ
(เพียงแค่อาจไม่เร็วทันใจเรานัก ก็แค่นั้นเอง)

ยกตัวอย่าง เช่น
เราชอบช่วยเหลือ คนที่กำลังลำบาก ช่วยแบบให้เปล่า และ ไม่เคยลำเลิกบุญคุณ
ถ้านับเฉพาะตัวบุคคล ก็มีทั้งคนที่ระลึกถึงคอยหาทางตอบแทน และมีทั้งคนที่เฉยๆ หรือกระทั่งย้อนกลับมาหักหลัง
ถ้ามองแค่นี้ ... เราอาจท้อ เวลาเจอปฏิกิริยาสนองกลับที่ไม่ดี

แต่ทว่า...

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เวลาเราเข้าตาจน เวลาเราลำบาก เราไม่เคยได้ทันเอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลือจากใครเลยค่ะ
จะมีใครคนหนึ่ง ยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ (แบบไม่หวังผล)
และเราจะซาบซึ้งใจมาก ตรงนี้แหละ ที่หล่อเลี้ยงใจเรา ให้เรายังอยากจะดีต่อคนอื่น อยากให้คนอื่นรู้สึกดีใจ แบบที่เราเคยเป็น

อีกกรณีคือให้ความรู้
เราให้แบบไม่กั๊กจริงๆในเรื่องที่เราชำนาญ.... ไม่เคยหวงความรู้ใครเลย
ผลที่ได้คือ เรายิ่งชำนาญในเรื่องนั้นๆยิ่งขึ้น ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งเพิ่มพูน ....

สรุปความ.
เราเชื่อว่า ดีดูดดี ชั่วดูดชั่ว จากรากฐานที่เราเชื่อว่า กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอค่ะ

เทียน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่