สวัสดีค่ะชาวpantip วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การจัดฟันกับคลินิกแห่งนึงนะคะ
เราจัดฟันกับคลินิกนี้ หมอคนเดิมมา1ปี เพื่อการผ่าต่อขากรรไกร คุณหมอเป็นคนเงียบขรึม จะพูดกับเราก็ต่อเมื่อสั่งให้อ้าปากเท่านั้น มีปัญหาบ้างแต่เราก็รับได้ ไม่ว่าจะเรื่องหมอมือหนัก เคยพลาดจนทำเหงือกเราเลือดไหล บลาๆๆ แต่วันนี้คือจุดเปลี่ยน เพราะคุณหมอใช้คำพูดดูถูก สบประมาทคนไข้ค่ะ
จะเล่าเหตุการณ์ตามลำดับนะคะ
1. เริ่มขึ้นเมื่อหมอบอกว่าวันนี้จะมีพิมฟันครั้งที่2 (ครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้วและครั้งนั้นหมอมือหนัก มันเจ็บมากจนหน้าเรารู้สึกร้อนๆและน้ำตาไหล พิมแล้ว ดึงขึ้น แทบไม่เลาะเครื่องมืออะไรที่ติดไปกับที่พิมเลย)
2. เราพูดกับหมอด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ "ครั้งนี้เบาๆนะคะ" ไม่ได้ตะคอก ไม่ได้ทำกิริยาอะไรให้ฝั่งนั้นควรจะขุ่นเคืองเลย
3. หมอหันมาชักสีหน้าใส่ "ไม่ใช่เด็กแล้วค่ะ! เจ็บแค่นั้นมันไม่ตายหรอก" เราก็เงิบนิดๆค่ะ แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วให้เค้าลงมือต่อไป
4. โชคดี คราวนี้หมอมือเบา มีการระวังเครื่องมือในปากไม่ให้มันติดไปกับที่พิม เราก็โล่งใจไปได้สักนิดนึง
5. มาขั้นตอนต่อไป เปลี่ยนลวดที่จัดฟัน ทีนี้ลวดมันเส้นใหญ่ สอดเข้าไปในเครื่องมือยาก หมอเลยต้องหนักมือขึ้น เราก็เข้าใจ ถึงเจ็บแต่เราก็อดทน ไม่ส่งเสียงร้องออกไปให้ขัดสมาธิหมอ
6. 5-10นาทีผ่านไป มันก็ยังไม่เข้า หมอเลยใช้แรงเยอะกว่านั้นดึงลวดให้เข้า แต่คราวนี้มันเจ็บจนเราต้องร้อง โอ้ย2-3รอบ เสียงไม่ได้ดังมาก(คุณลองไปดู mr.bean ทำฟัน เราร้องประมาณนั้นเลย แต่ไม่มีการขยับร่างกาย)
7. หมอชักสีหน้าและตะคอกใส่เรา
"นี่ อย่ามาเวอร์ได้ปะ! เจ็บแค่นี้ทำเป็นร้องยังกับจะตาย"
8. ยังไม่หยุด เขาใส่เราเป็นชุดค่ะ "รู้ไหม เธอนี่เหมือนเด็ก5ขวบที่ทำฟัน ร้องไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครมาโอ๋เธอหรอกนะ" , "แล้วนี่ยังคิดจะไปผ่ากราม แค่นี้ทนไม่ได้ต่อไปเธอก็ผ่าไม่ได้หรอก เงียบๆไป!"
9. (เราร้องเพราะเราเจ็บจริง ก็อุตส่าเงียบให้เขามา10นาทีนะ และการผ่าตัดใช้ยาสลบ ตอนหายชามันก็เจ็บจริง แต่ตอนนั้นฉันจะไปร้องเจ็บให้คุณได้ยินมั้ยคะ?)
10. แต่เราไม่ตอบโต้อะไร ตอนนั้นเครื่องมืออยู่ในปากเราเยอะไปหมด หากเราเถียงกลัวเขาจะไม่ทำต่อให้เราและต้องกลับบ้านไปสภาพที่ฟันไม่เสร็จ 11. หลังจากนั้นเราก็ไม่พูดอะไรเลยค่ะ ปล่อยเขาทำส่วนที่ง่ายๆไป ส่วนที่เจ็บมันไม่มีแล้ว
----------ส่วนระบาย--------
กลับบ้านมาในmoodที่ไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ เราไม่โอเคกับการที่คนอื่น โดยเฉพาะคนที่เราไปใช้บริการวงเงินหลักหมื่นหลักแสน มาพูดจาใส่เหมือนกับเขาทำฟันการกุศลหรือทำฟันฟรี ซึ่งเราเชื่อว่าทำฟันฟรีคุณหมอยังพูดดีกว่านี้อีก
เราทำกับหมอคนนี้มาปีนึงได้แล้ว ก่อนหน้านี้มีเจ็บ เขาเคยดึงเครื่องมือพลาดจนเราเลือดไหล ไม่มีการชอโทษทั้งสิ้น แล้วยังบอก"กรณีนี้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนอะไรมันหรอก" มันเกิดขึ้นแค่ครั้งเดืยวเลยไม่เก็บมาใส่ใจมาก นอกนั้นเขาไม่พูดจามากเท่าไหร่ แค่ถามว่าเครื่องมือหลุดมั้ย แล้วจะสั่งให้อ้าให้นอนทั้งหมด
-----------------------------
เราเกรงว่าถ้ากรณีหมอพูดสบประมาท ดูถูก ถากถาง มันเกิดขึ้นอีก เราคงทนไม่ไหวค่ะ และนี่มันผิดจรรยาบรรณชัดๆ เราควรทำอย่างไรดีคะ?
ควรไปคุยกับหมอหรือเจ้าหน้าที่ที่คลินิกไหม แต่เรากลัวไม่ได้ผล กลัวจะไม่ฟังเรา เพราะเขารู้ว่าเราเปลี่ยนหมอไม่ได้ จัดกับเขามานานไม่มีหมอคนไหนอยากรับจัดต่อจากหมออื่นอยู่แล้ว ที่นี่มีหมอจัดฟันเพียงคนเดียวค่ะ
----------
ป.ล.ในคลินิกนี้ก็มีหมอดีอยู่นะคะ เคยมาขูดหินปูน ไม่ฉีดยาชา เจ็บพอๆกับจัดฟัน เราร้องโอ้ยเหมือนกัน แต่หมอก็อารมณ์ดี ชวนคุย เข้าใจว่าถ้าเจ็บก็ร้องได้ จิกเบาะได้ ถ้ามันไม่ถึงขั้นมาดูถูก เราคงไม่มาโพสต์แบบนี้ค่ะ
--–----------
รบกวนให้คำแนะนำทีนะคะ ขอบคุณค่ะ
ประสบการณ์จัดฟัน โดนหมอดูถูกและสบประมาทค่ะ
เราจัดฟันกับคลินิกนี้ หมอคนเดิมมา1ปี เพื่อการผ่าต่อขากรรไกร คุณหมอเป็นคนเงียบขรึม จะพูดกับเราก็ต่อเมื่อสั่งให้อ้าปากเท่านั้น มีปัญหาบ้างแต่เราก็รับได้ ไม่ว่าจะเรื่องหมอมือหนัก เคยพลาดจนทำเหงือกเราเลือดไหล บลาๆๆ แต่วันนี้คือจุดเปลี่ยน เพราะคุณหมอใช้คำพูดดูถูก สบประมาทคนไข้ค่ะ
จะเล่าเหตุการณ์ตามลำดับนะคะ
1. เริ่มขึ้นเมื่อหมอบอกว่าวันนี้จะมีพิมฟันครั้งที่2 (ครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้วและครั้งนั้นหมอมือหนัก มันเจ็บมากจนหน้าเรารู้สึกร้อนๆและน้ำตาไหล พิมแล้ว ดึงขึ้น แทบไม่เลาะเครื่องมืออะไรที่ติดไปกับที่พิมเลย)
2. เราพูดกับหมอด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ "ครั้งนี้เบาๆนะคะ" ไม่ได้ตะคอก ไม่ได้ทำกิริยาอะไรให้ฝั่งนั้นควรจะขุ่นเคืองเลย
3. หมอหันมาชักสีหน้าใส่ "ไม่ใช่เด็กแล้วค่ะ! เจ็บแค่นั้นมันไม่ตายหรอก" เราก็เงิบนิดๆค่ะ แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วให้เค้าลงมือต่อไป
4. โชคดี คราวนี้หมอมือเบา มีการระวังเครื่องมือในปากไม่ให้มันติดไปกับที่พิม เราก็โล่งใจไปได้สักนิดนึง
5. มาขั้นตอนต่อไป เปลี่ยนลวดที่จัดฟัน ทีนี้ลวดมันเส้นใหญ่ สอดเข้าไปในเครื่องมือยาก หมอเลยต้องหนักมือขึ้น เราก็เข้าใจ ถึงเจ็บแต่เราก็อดทน ไม่ส่งเสียงร้องออกไปให้ขัดสมาธิหมอ
6. 5-10นาทีผ่านไป มันก็ยังไม่เข้า หมอเลยใช้แรงเยอะกว่านั้นดึงลวดให้เข้า แต่คราวนี้มันเจ็บจนเราต้องร้อง โอ้ย2-3รอบ เสียงไม่ได้ดังมาก(คุณลองไปดู mr.bean ทำฟัน เราร้องประมาณนั้นเลย แต่ไม่มีการขยับร่างกาย)
7. หมอชักสีหน้าและตะคอกใส่เรา "นี่ อย่ามาเวอร์ได้ปะ! เจ็บแค่นี้ทำเป็นร้องยังกับจะตาย"
8. ยังไม่หยุด เขาใส่เราเป็นชุดค่ะ "รู้ไหม เธอนี่เหมือนเด็ก5ขวบที่ทำฟัน ร้องไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครมาโอ๋เธอหรอกนะ" , "แล้วนี่ยังคิดจะไปผ่ากราม แค่นี้ทนไม่ได้ต่อไปเธอก็ผ่าไม่ได้หรอก เงียบๆไป!"
9. (เราร้องเพราะเราเจ็บจริง ก็อุตส่าเงียบให้เขามา10นาทีนะ และการผ่าตัดใช้ยาสลบ ตอนหายชามันก็เจ็บจริง แต่ตอนนั้นฉันจะไปร้องเจ็บให้คุณได้ยินมั้ยคะ?)
10. แต่เราไม่ตอบโต้อะไร ตอนนั้นเครื่องมืออยู่ในปากเราเยอะไปหมด หากเราเถียงกลัวเขาจะไม่ทำต่อให้เราและต้องกลับบ้านไปสภาพที่ฟันไม่เสร็จ 11. หลังจากนั้นเราก็ไม่พูดอะไรเลยค่ะ ปล่อยเขาทำส่วนที่ง่ายๆไป ส่วนที่เจ็บมันไม่มีแล้ว
----------ส่วนระบาย--------
กลับบ้านมาในmoodที่ไม่ดีเท่าไหร่ค่ะ เราไม่โอเคกับการที่คนอื่น โดยเฉพาะคนที่เราไปใช้บริการวงเงินหลักหมื่นหลักแสน มาพูดจาใส่เหมือนกับเขาทำฟันการกุศลหรือทำฟันฟรี ซึ่งเราเชื่อว่าทำฟันฟรีคุณหมอยังพูดดีกว่านี้อีก
เราทำกับหมอคนนี้มาปีนึงได้แล้ว ก่อนหน้านี้มีเจ็บ เขาเคยดึงเครื่องมือพลาดจนเราเลือดไหล ไม่มีการชอโทษทั้งสิ้น แล้วยังบอก"กรณีนี้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนอะไรมันหรอก" มันเกิดขึ้นแค่ครั้งเดืยวเลยไม่เก็บมาใส่ใจมาก นอกนั้นเขาไม่พูดจามากเท่าไหร่ แค่ถามว่าเครื่องมือหลุดมั้ย แล้วจะสั่งให้อ้าให้นอนทั้งหมด
-----------------------------
----------
ป.ล.ในคลินิกนี้ก็มีหมอดีอยู่นะคะ เคยมาขูดหินปูน ไม่ฉีดยาชา เจ็บพอๆกับจัดฟัน เราร้องโอ้ยเหมือนกัน แต่หมอก็อารมณ์ดี ชวนคุย เข้าใจว่าถ้าเจ็บก็ร้องได้ จิกเบาะได้ ถ้ามันไม่ถึงขั้นมาดูถูก เราคงไม่มาโพสต์แบบนี้ค่ะ
--–----------
รบกวนให้คำแนะนำทีนะคะ ขอบคุณค่ะ