ดิฉันและครอบครัวเป็นลูกค้าของฐิติกรมาเป็น 10ปีเมื่อก่อนบ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่อยู่รวมกันร่วม10คน เวลาออกรถมอไซค์แม่จะให้ผ่อนกับ ฐิติกร ราวๆุ6คัน ช่วงนั้นพนักงานน่ารักใจดีมาก ดิฉันเรียกเขาว่าน้าพจน์เพราะแม่เรียกเขาพจน์ เป็นใครจากไหนไม่รุ้ รู้แต่เขาเป็นพนักงานของฐิติกร ครบกำหนดวันชำระก่อน1วันเขาจะโทรมาเตือนแม่และถามว่าพร้อมไหม๊พุ่งนี้จะได้เข้าไป ถ้างวดไหนติดขัดไม่มีใครยุบ้านเงินไม่พร้อม จะเลื่อนแต่ไม่เคยเกิน2วัน ส่งจนหมดทุกคัน พอปัจจุบันนี้ต่างคนต่างมีกิจการของตัวเอง เป็นจากคนซื้อเป็นค้ำให้ลูกน้องที่ทำงานรับเงินเดือนกับเรา พอใครออกรถเราก็จะไปค้ำให้ล่าสุดเขาเปลี่ยนคือคนค้ำต้องค้ำมาแล้ว1ปี แต่คนที่เราค้ำให้ส่งทุกงวด ช้านิดช้าหน่อยแต่ไม่เคยขาดส่ง แต่ล่าสุด เกิดเหตุการณ์แบบไม่น่าให้อภัยกับพนักงาน บ.ฐิติกร ดิฉันโดนกล่าวหาว่า เป็นบุคคลไม่น่าไว้ใจ เข้าข่ายมิจฉาชีพ คุณเอาอะไรมาวัดเอาอะไรมาคิด มีอยู่วันนึงน้องที่ทำงานกับดิฉันโทรมาให้ไป บ.ฐิติกร เราก็ไปความว่าน้องไปสอบถามเรื่องออกรถ ทำไมถึงติดการขอสินเชื่อ ออกรถไม่ได้ คือน้องคนนี้ใครอธิบายก็ไม่เข้าใจเลยแนะนำให้ไปถาม พนักงาน บ.ฐิติกร แจ้งว่าเอาบัตรมา จะเช็คให้ เช็คนะคะว่าได้ไหม แต่ไม่ได้ออกรถ ซึ่งเราไปถึงจังหวะนั้นพอดีก็ได้ยินพนักงานพูดแบบนั้น ผ่านมาได้เกือบเดือน เราไปนั่งเล่นที่ร้านรถซึ่งรู้จักกัน บอกว่า มีพนักงานแจ้งมา ว่าชื่อนี้เป็นบุคคลไม่น่าไว้ใจ เอาแล้ว ดิฉันเลยให้พนักงานเช็คเข้าไป มันเ-ี้ยมากค่ะแจ้งว่าดิฉันไปขอสินเชื่อออกรถ เมื่อวันที่27/03/62 ค่ะไม่ผิดค่ะ นี่พึ่งต้นเดือน 3 แต่ดิฉันไปขอสินเชื่อปลายเดือน3 คงรีบแจ้งจัด แต่ดิฉันไม่เคยไปออกรถกับ บ.ฐิติกร เพราะออกไม่ได้ติดค้ำคนที่ทำงานอยู่ นี่ถ้าดิฉันไปออกรถจริงๆคงโดนทางร้านรถแจ้งความจับแน่ อยากรู้ว่าคุณใช้หัวสมองไหนคิด รึว่าได้เลื่อนตำแหน่งกับการทำให้คนอื่นเสียหาย เกือบลืมบอก พนักงานคนนี้อยู่ บ.ฐิติกร จังหวัดลพบุรีที่ว่าเป็นพนักงานคนนี้เพราะดิฉันมั่นใจขอบัตรไปเช็คมีคนนี้คนเดียว อยากย้อนถามสิ่งที่คุณกล่าวหารึว่าคุณเคยปฎิบัติ พอกันทีมีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลาน แนะนำด้วยค่ะว่าควรทำอย่างไรกับพนักงานคนนี้