..นักวิชาการรุมด่า นายกรณ์ ปชป บิดเบือน โกหก ด่า ธนาธร โอน blind trust ไม่โปร่งใส (ข่าว)

สืบเนื่องจากนายกรณ์ ผู้ที่มีความรู้สูง ทางการเงิน กลับพยายามบิดเบือน คำว่าblind trust   โดยใช้คำว่า "มองไม่เห็น"  หรือ blind ให้ดูเหมือน ตรวจสอบไม่ได้ แนะให้ ธนาธร "ขายทิ้ง"  ซึ่งรู้อยู่ว่าเขาจะไม่ทำ และ สร้างประเด็น  ให้คนที่ไม่ชอบคนรวย ออกมาซ้ำเติม แบบสมัยทักษิณ ขายหุ้นในตลาดหุ้น แต่ไม่เสียภาษี   

โชคดี  ธนาธร มีคนรักเยอะ  นายกรณ์ จึงโดนด่าเละเทะ ตามเฟส ทั้งหลาย  ล่าสุด นักวิชาการดีๆ เช่น คุณ สฤณี  ออกมาชี้แจง  ที่ธนาธร ทำ มาตรฐานสูงกว่า นักการเมืองหลายท่านมาก  

https://mgronline.com/politics/detail/9620000027116
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ผมในฐานะเซียนหุ้น    ยืนยัน สิ่งที่คุณ ธนาธร ทำ

สุดยอดมาก  แสดงออกถึงความตั้งใจจริงในการเข้ามาทำการเมืองแบบ สุจริตโปร่งใส  


ขอย้ำ ย่อหน้าสุดท้ายของข่าวอีกครั้ง  ว่า

เสริมอีกนิดว่า คุณธนาธรเป็นนักการเมืองคนแรกที่รู้จัก ที่ 1) ประกาศว่าจะจัดตั้ง blind trust ก่อนรู้ผลการเลือกตั้ง 2) เปิดเผย MOU ต่อสาธารณะ 3) ในสัญญาจะกำหนดข้อบังคับว่า trustee จะต้องไม่ซื้อหุ้นไทย และ 4) ไม่รับโอนทรัพย์สินคืนจนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว 3 ปี -- ทั้งสี่ข้อนี้เป็นมาตรฐานสูงที่ไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหนทำมาก่อนค่ะ



ขอโหวต กระทู้ด้วยครับ  ให้คนเห็นกันทั่วๆ  ใน 2 ห้อง  +1
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
โค้งสุดท้าย ไม้ตาย วาทกรรม สวยหรู เอาดีใส่ตัว ชั่วใส่คนอื่น
ไม่เปลี่ยนแปลง
แมงสาปพันธุ์แท้
ความคิดเห็นที่ 30
บรรดาคนที่จ้องจับผิดเรื่อง blind trust ของธนาธร
ควรจะรวมตัวกันไปเรียกร้องความโปร่งใสเรื่องบัญชีทรัพย์สินที่มีคนมีอายุบางคนชิงลาออกก่อนน่ะนะ
และเรื่องโต๊ะจีนของบางพรรคบ้างที่ กกต พูดเองว่าไม่มีเงินจากต่างชาติ แต่อิศรานิวส์ไปเจอที่อยู่ของผู้บริจาคจากไอซ์แลนด์
ไม่ใช่มัวมาจับผิดเรื่องที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจถ่องแท้
ความคิดเห็นที่ 1
"นักวิชาการด้านการเงิน" โต้ "กรณ์" บิดเบือนคำ "blind trust" ว่าตรวจสอบไม่ได้ ทำคนเข้าใจผิด ชี้จริงอยู่ที่ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ "ธนาธร" แสดงความประสงค์ชัดเจนใน MOU ว่าจะสร้างเงื่อนไขแบบ "blind trust" ยันต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ทุกประการ อีกทั้งต้องรายงานทรัพย์สินต่อ ก.ล.ต. - ปปช. ซึ่งเป็นการวางมาตรการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนแล้ว ชมสิ่งที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ทำนั้น มาตรฐานสูงไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหนทำมาก่อน

วันที่ 18 มี.ค. จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินของตัวเองที่ถือหุ้นธุรกิจเครือซัมมิทมูลค่า 5 พันล้านบาทว่าใช้แนวทาง Blind Trust คือโอนทรัพย์สินไปให้ Trust หรือ กองทุน เป็นผู้ดูแล ซึ่งวิธิการนี้จะเป็นมาตรฐานใหม่ ไม่เคยมีนักการเมืองคนไหนทำมาก่อน ซึ่งยกระดับมาตรฐานแสดงความจริงใจให้เกิดต่อสาธารณะ

จากนั้นนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ตอบโต้ในทำนองว่าหากต้องการโปร่งใสอย่างแท้จริง ควรขายทรัพย์สิน หรือไม่ก็เปิดเผยข้อมูลให้ตรวจสอบได้ ไม่ใช่โอนเข้าไปในที่ที่ "มองไม่เห็น" เพราะจะยิ่ง "ตรวจสอบไม่ได้"

ล่าสุด สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านการเงิน นักเขียน นักแปลชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า

ความเห็นต่อโพสของคุณกรณ์ (ดูได้ในเพจ KornChatikavanijDP) ต่อกรณี blind trust คุณธนาธร


1. ในฐานะนักการเงิน คุณกรณ์ย่อมเข้าใจดีว่า blind trust คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ทำงานแบบไหนในต่างประเทศ การนำคำว่า "มองไม่เห็น" มาเล่น บิดคำให้กลายเป็นเท่ากับหมายความว่า "ตรวจสอบไม่ได้" จึงไม่ถูกต้อง เพราะ blind ในคำว่า blind trust ไม่ใช่แปลว่าตรวจสอบไม่ได้ คำว่า "มองไม่เห็น" แปลตรงตัวว่า เจ้าของทรัพย์สินไม่มีสิทธิมองเห็นหรือบงการการจัดการทรัพย์สินใดๆ เท่านั้น

2. ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ blind trust ก็จริง แต่คุณธนาธรก็ได้แสดงความประสงค์ชัดเจนแล้วใน MOU ซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะว่า จะสร้างเงื่อนไขแบบ blind trust ขึ้นมาในสัญญาบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคล

3. blind trust ที่คุณธนาธรตั้งในครั้งนี้ เป็นการทำสัญญากับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนสัญชาติไทย อยู่ในรูปกองทุนส่วนบุคคล (private fund) ในเมืองไทย ซึ่งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ทุกประการ ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ไม่ใช่ trust ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ (แบบที่คุณกรณ์โพสว่าเคยทำ) และในเมื่อคุณธนาธรยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์สิน (กองทุนเพียงแต่รับมอบอำนาจในการจัดการมา) จึงยังต้องรายงานทรัพย์สินถ้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามกฎระเบียบของ ปปช. (เหมือนกับที่รัฐมนตรีคนก่อนๆ ที่โอนทรัพย์สินให้กองทุนส่วนบุคคลจัดการ มีหน้าที่ต้องทำเช่นเดียวกัน -- แต่ย้ำอีกทีว่า ไม่มีข้อมูลค่ะว่ากองทุนเหล่านั้นอันไหนเข้าข่าย blind trust บ้าง)

4. การรายงานทรัพย์สินใน trust นี้ ต่อ ก.ล.ต. และ ปปช. (ซึ่งเป็นหน้าที่ของ trustee หรือผู้ดูแล trust) จะต้องละเอียดแค่ไหน อย่างไร เป็นเรื่องที่เจ้าของโพสนี้ไม่แน่ใจ (เพราะกฎหมาย blind trust ตรงๆ ยังไม่มีนั่นแหละ) แต่ในหลักการ การจัดตั้งโครงสร้างแบบนี้ถือว่าเป็นการวางมาตรการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนแล้ว ดังนั้นถ้าจะต้องเปิดเผย อย่างมากก็ควรเปิดเผยทรัพย์สินเดิม (ณ ตอนที่สร้าง trust นั้นขึ้นมา เพราะถือว่ามีโอกาสเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนกับทรัพย์สินเดิม เพราะเจ้าของรู้ว่ามีอะไรบ้าง) และยอดรวมของมูลค่าทรัพย์สินใน trust ตามกำหนดการยื่นของ ปปช. เท่านั้น (เราอยากรู้รายละเอียดทรัพย์สินก็เพราะเจ้าของทรัพย์สินมีอำนาจจัดการ สุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเขาโอนอำนาจการจัดการไปแล้ว เราก็ไม่ต้องรู้ละเอียดขนาดนั้นก็ได้)

5. ดังนั้นคำพูดของคุณกรณ์ที่ดูจะชี้นำว่า "มองไม่เห็น" = "ตรวจสอบไม่ได้" จึงไม่เป็นความจริง พูดไม่ครบ และทำให้คนเข้าใจผิดได้ค่ะ

เสริมอีกนิดว่า คุณธนาธรเป็นนักการเมืองคนแรกที่รู้จัก ที่ 1) ประกาศว่าจะจัดตั้ง blind trust ก่อนรู้ผลการเลือกตั้ง 2) เปิดเผย MOU ต่อสาธารณะ 3) ในสัญญาจะกำหนดข้อบังคับว่า trustee จะต้องไม่ซื้อหุ้นไทย และ 4) ไม่รับโอนทรัพย์สินคืนจนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว 3 ปี -- ทั้งสี่ข้อนี้เป็นมาตรฐานสูงที่ไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหนทำมาก่อนค่ะ
ความคิดเห็นที่ 52
รัฐสภาออสเตรเลียออกบทความสรุปว่ากอง Blind Trust่ แม้จะถูกตรวจสอบได้ทางกฎหมาย แต่ไม่สามารถการันตีความโปร่งใสได้  ไม่การันตีป้องกันกรณีนอมินี และสินทรัพย์เสี่ยงที่อาจเกี่ยวข้อง และตรวจสอบกอง Blind Trust ยากกว่าการลงทุนตามปกติ อาจเกิดการตกหล่น ดังนั้น การลงทุนต่าง ๆ ควรเปิดเผยสู่สาธารณะชน ไม่ปกปิด หรือสร้างความลำบากในการตรวจสอบ ผมนำสรุปบางส่วนมาโพสนะครับ รายละเอียดอ่านได้ในลิงค์รายงานของรัฐสภาออสเตรเลีย

Finally, the creation of a blind trust by itself will prove nothing in regard to the integrity, honesty and proper use of political position as it can give no guarantee that wealth accrued by the improper use of political influence and public position during the politician's career as a Minister has not been retained in a string of nominee companies, trusts and other arrangements outside the blind trust. In the circumstances, continuing disclosure, on the lines of the new rules in the UK House of Commons, with divestment of sensitive assets where this is inevitable, has much to commend itself.

https://www.aph.gov.au/About_Parliament/Parliamentary_Departments/Parliamentary_Library/Publications_Archive/CIB/CIB9697/97cib14?fbclid=IwAR0mft3ctapsWzAcLSy66UwRyHU75kmYu_Oplj0ZuxlNmlhCCKSkqXHdc3A
ความคิดเห็นที่ 29
เพราะมีคนแบบกรณ์อยู่เต็มบ้านเต็มเมืองไงครับคนดีถึงอยู่กันไม่ได้
พอพยายามจะทำดี จะถูกจ้องดิสเครดิตต่างๆนานาจนเผลอๆกลายเป็นความชั่วในสายตาคนอื่น
คนทำดีที่มีศัตรูเป็นคนชั่วอยู่แล้ว ส่วนประชาชนบางคนนั้นก็คนธรรมดา แต่ถูกคนชั่วปั่นหัวก็พลอยตามด่าคนดีๆไปด้วย
การเป็นคนดีมันไม่ง่ายเพราะเหตุนี้แหล่ะ แต่สำหรับปัจจุบันนี้ดีหน่อยที่ประชาชนไม่ได้นิ่งเฉยกันแบบเมื่อก่อน
เพียงแค่นำเสนอความจริง ให้ความรู้ที่ตรงไปตรงมา ความจริงจะชี้เองว่าใครคนดีหรือเลว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่