หนังเรื่องแสงกระสือ(Inhuman kiss) ไม่ใช่หนังผี หรือจะเรียกว่าหนังผีก็คงไม่เต็มปากนัก แต่หนังพาเราไปจนสุดทางและมันช่างเจ็บปวดหัวใจ..
ผ่านมา 3 เดือนของปีนี้ นี่คือหนังไทยที่ดีที่สุด แต่คงไม่สามารถทำรายได้มากมายอะไรได้ หนังดูง่ายย่อยง่าย และเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจของเราได้ แต่ที่ขาดไปคือ ความหลอน ความเป็นผีกระสือที่น่าจะเป็นผีไทยเราที่น่ากลัวตัวหนึ่ง แต่ผกก.และทีมงานคงไม่ได้ตีความและตั้งใจให้ออกมาแบบนั้น
สิ่งที่ได้คือการตีความผีไทยตัวนี้ใหม่ด้วยองค์ประกอบศิลป์ การออกแบบ และการถ่ายภาพที่ทำได้ค่อนข้างโดดเด่น.. แต่ส่วนตัว ถ้าจะเน้นความหลอนลงไปออกแบบให้ดูหม่นๆกว่านี้ หนังน่าจะตีตลาดเมืองนอกได้ดี เพราะผีกระสือไทยเรา ธรรมดาที่ไหน
แสงกระสือจึงเป็นหนังที่ออกไปทางการเอาใจช่วยกระสือ และเรื่องราวความรักระหว่าง คนกับสิ่งที่ไม่ใช่คน คล้ายหนังเรื่อง The Shape of Water หนังออสการ์ปีที่แล้ว ช่วงองค์สุดท้ายของหนังพาเราไปไกลมาก ในความแอ็คชั่นที่เอาอยู่ เป็นหนังสัตว์ประหลาดสู้กัน มีความเลือดสาดสมใจ ซึ่งก็ตอบโจทย์คนหนังสยองได้อยู๋ ระหว่างทางของหนังเน้นการเล่าเรื่องเรื่อยๆ มีความเนิบนาบบ้างแต่สุดท้ายหนังกุมหัวใจของเรา หนังส่งสารบางอย่างกับเราหากเราจะเอามาคิดต่อ และสารนั้นก็ส่งออกมาอย่างน่าสนใจแต่ขาดความลุ่มลึกไปบ้าง
หนังมีแต่ความเจ็บปวดและสะท้อนให้เห็นการสูญเสียมากมายที่เราเข้าถึงได้ พ่อแม่สูญเสียลูกไป คนที่เรารักต้องจากไป คำสัญญาที่เราไม่สามารถรักษาไว้ให้กับคนที่เรารัก วัยเยาว์ที่ต้องสูญเสียไปเพราะสงคราม(น่าเสียดายประเด็นนี้) เหมือนประหนึ่งว่า ความชั่วร้าย(Inhuman) หรือในที่นี้คือ กระสือ มันเข้ามาทำให้ทุกอย่างต้องพรากจากกัน ชอบการที่พระเอกไม่สามารถจะจูบคนที่ตนรักได้แล้ว เพราะร่างกายถูกทำลายไปแล้ว และไม่ใช่มนุษย์แล้ว ชอบที่หนังมันไม่เพ้อฝัน ชอบที่หนังพาเราเจ็บปวด นักแสดงแสดงได้ดี ท่ามกลางบทที่อาจมีจุดบอดมากมาย เข้าถึงอารมณ์ตัวละครและทำได้น่าชื่นชม งานสร้างและดนตรีประกอบสวยงาม
ไม่ใช่ทุกแสงจะสวยงามเสมอไป อย่างน้อยก็แสงกระสือ ..แสงที่เข้ามาพรากทุกอย่างออกจากกัน
แสงกระสือ : ไม่ใช่ทุกแสงจะสวยงามเสมอไป หนังไทยที่น่าเอาฉายต่างประเทศ
ผ่านมา 3 เดือนของปีนี้ นี่คือหนังไทยที่ดีที่สุด แต่คงไม่สามารถทำรายได้มากมายอะไรได้ หนังดูง่ายย่อยง่าย และเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจของเราได้ แต่ที่ขาดไปคือ ความหลอน ความเป็นผีกระสือที่น่าจะเป็นผีไทยเราที่น่ากลัวตัวหนึ่ง แต่ผกก.และทีมงานคงไม่ได้ตีความและตั้งใจให้ออกมาแบบนั้น
สิ่งที่ได้คือการตีความผีไทยตัวนี้ใหม่ด้วยองค์ประกอบศิลป์ การออกแบบ และการถ่ายภาพที่ทำได้ค่อนข้างโดดเด่น.. แต่ส่วนตัว ถ้าจะเน้นความหลอนลงไปออกแบบให้ดูหม่นๆกว่านี้ หนังน่าจะตีตลาดเมืองนอกได้ดี เพราะผีกระสือไทยเรา ธรรมดาที่ไหน
แสงกระสือจึงเป็นหนังที่ออกไปทางการเอาใจช่วยกระสือ และเรื่องราวความรักระหว่าง คนกับสิ่งที่ไม่ใช่คน คล้ายหนังเรื่อง The Shape of Water หนังออสการ์ปีที่แล้ว ช่วงองค์สุดท้ายของหนังพาเราไปไกลมาก ในความแอ็คชั่นที่เอาอยู่ เป็นหนังสัตว์ประหลาดสู้กัน มีความเลือดสาดสมใจ ซึ่งก็ตอบโจทย์คนหนังสยองได้อยู๋ ระหว่างทางของหนังเน้นการเล่าเรื่องเรื่อยๆ มีความเนิบนาบบ้างแต่สุดท้ายหนังกุมหัวใจของเรา หนังส่งสารบางอย่างกับเราหากเราจะเอามาคิดต่อ และสารนั้นก็ส่งออกมาอย่างน่าสนใจแต่ขาดความลุ่มลึกไปบ้าง
หนังมีแต่ความเจ็บปวดและสะท้อนให้เห็นการสูญเสียมากมายที่เราเข้าถึงได้ พ่อแม่สูญเสียลูกไป คนที่เรารักต้องจากไป คำสัญญาที่เราไม่สามารถรักษาไว้ให้กับคนที่เรารัก วัยเยาว์ที่ต้องสูญเสียไปเพราะสงคราม(น่าเสียดายประเด็นนี้) เหมือนประหนึ่งว่า ความชั่วร้าย(Inhuman) หรือในที่นี้คือ กระสือ มันเข้ามาทำให้ทุกอย่างต้องพรากจากกัน ชอบการที่พระเอกไม่สามารถจะจูบคนที่ตนรักได้แล้ว เพราะร่างกายถูกทำลายไปแล้ว และไม่ใช่มนุษย์แล้ว ชอบที่หนังมันไม่เพ้อฝัน ชอบที่หนังพาเราเจ็บปวด นักแสดงแสดงได้ดี ท่ามกลางบทที่อาจมีจุดบอดมากมาย เข้าถึงอารมณ์ตัวละครและทำได้น่าชื่นชม งานสร้างและดนตรีประกอบสวยงาม
ไม่ใช่ทุกแสงจะสวยงามเสมอไป อย่างน้อยก็แสงกระสือ ..แสงที่เข้ามาพรากทุกอย่างออกจากกัน