สวัสดีครับ, หลังจากที่ผมห่างหายไปนานจากการเขียนบทความรีวิว วันนี้ผมไอ YoungMobile83 จะขอพาเพื่อนๆมารู้จักกับสมาร์ทโฟนจากค่ายลูกของ Xiaomi ในชื่อรุ่น Redmi Go สมาร์ทโฟนตัวแรกจากค่าย Redmi ที่ใช้งานแอนดรอย์เดิมๆ ในระบบปฎิบัติการณ์ Android GO Edition ที่เน้นในเรื่องของแอพที่มีขนาดเล็กกว่าปกติและใช้ทรัพยากรของเครื่องนั้นน้อยกว่าแอนดรอยด์โดยทั่วไป แล้วมันจะดีและน่าใช้ขนาดไหนหรอ ? ตามไปชมกันเลยครับ... 

-- ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย --

- ตัวเครื่อง Redmi GO -

- เข็มจิ้มซิม -

- คู่มือการใช้งาน -

- สายชาร์จแบบ USB 2.0 micro Type B -

- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 5V 1A 5W -

-- สเปค -- 

- หน้าจอ 5" ความละเอียด 720P อัตราส่วน 16:9 ความสว่าง 300 nits-

- SoC (System on Chip) Qualcomm Snapdragon 425  - 

- RAM (แรม) 1GB / เนื้อที่ 8GB สามารถเพิ่ม microSD Card ได้มากสุด 128GB -

- Dual SIM // Nano SIMx2 + microSD Card -

- Wifi 802.11 b/g/n , Bluetooth 4.1 -

- GPS, AGPS, GLONASS, BeiDou -

- Sensor : Vibrator motor / Proximity sensor / Accelerometer / Ambient light sensor -

- กล้องหลังความละเอียด 8MP f/2.0 -

- กล้องหน้า 5MP f/2.2 -

- แบตเตอรี่ 3,000 mAh -

-- Design --

การออกแบบของ Redmi GO นั้นมีความเรียบง่ายทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลยจริงๆ โดยด้านหน้าจะเป็นหน้าจอขนาด 5" พร้อม และลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ด้านหน้าต่างๆ รวมไปถึงกล้องหน้าที่วางเรียงไว้อยู่ด้านบน และ navigation bar ด้านล่างนั้นจะเรียงจาก Recent Apps - Home - Back ซึ่งบางคนอาจจะชินกับปุ่มย้อนกลับด้านขวามากกว่าอยู่ด้านซ้ายก็ได้ แค่คัวผมนั้นถูกจริตกับปุ่มย้อนกลับด้านซ้ายมากกว่าขวาเลยใช้งานได้ขัดใจนิดหน่อย และอีกเรื่องนึงเลยก็คือ navigation bar ของ Redmi Go นั้นไม่มีไฟ LED สำหรับส่องไฟปุ่ม ในช่วงที่แสงน้อยและตอนกลางคืน อาจจะทำให้การกดโดนตรงๆนั้นจะยากหน่อยๆ 

สำหรับด้านหลังของเครื่องนั้นจะเป็นแผ่นพลาสติกด้านที่ผมกลับรู้สึกชอบกว่าพลาสติกใส หรือกระจกใสนะตรงที่ มันไม่ลื่นและลอยนิ้วมือไม่ติด และในตำแหน่งซ้ายบนนั้นจะมี LED แฟลช และกล้องหลังเรียงกันแบบแนวนอน 

ในส่วนของด้านล่างก็จะมีสลักโลโก MI พร้อมกับบอกรหัสโมเดลของรุ่นนี้ และผลิตโดย Xiaomi 

โดยขอบเครื่องของ Redmi Go นั้นก็ยังคงใช้วัสดุแบบพลาสติกเช่นเดียวกับด้านหลังนั่นเอง ส่วนด้านขวานั้นจะเป็นรวมปุ่มทั้งหมดไว้ในฝั่งเดียวกันเลย ไม่ว่าจะเป็น พาวเวอร์ และเพิ่ม-ลดเสียง, ส่วนด้านซ้ายนั้นจะมีแค่ช่องสำหรับใส่ซิม และ microSD เท่านั้น

ด้านบนของตัวเครื่องนั้นจะมีพอร์ตหูฟังแบบ 3.5มม. และไมโครโฟนหนึ่งตัว / ด้านล่างนั้นมีไมโครโฟน 1 ตัว พอร์ตชาร์จแบบ USB 2.0 Type B และลำโพง

-- Ready, Set, Go --

Android GO Edition หลายคนคงเข้าใจว่านี่คือ Pure Android ที่ต้องมาพร้อมกับ Launcher ของ Google.... แต่มันไม่ใช่กับใน Redmi Go ที่ถูกใช้งานด้วย Mint Launcher ที่มีหน้าตาการใช้งานใกล้เคียงกับ Pixel Launcher แค่ไม่มีหน้าใช้งานของ Google Feed. 

ซึ่งจุดเด่นของ Mint Launcher นั้นสามารถดาวน์โหลด icon pack จาก Play Store มาใช้งานได้ รวมไปถึงปรับขนาดของไอคอนให้เล็ก-ใหญ่ได้ตามที่เราชอบ และแถวนอนสามารถเรียงแอพกันได้ตั้งแต่ 3 แอพไปจนถึง 5 แอพกันเลยทีเดียว.

หน้าตาการใช้งานต่างๆของ Redmi Go นั้นยังให้ความเป็น Pure Android อยู่อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแถบแจ้งเตือนหรือการใช้งานของตั้งค่า เรียกได้ว่าสายคนใช้งาน Android One, Android สามารถใช้งาน Redmi Go ได้อย่างคล่องตัวแน่นอน. ในส่วนของ Recent apps อันนี้ต้องขอบอกเลยว่าถ้าใครที่เคยใช้งาน Android 4.0 มาก่อนต้องแอบมีความคุ้นเคยหรือชวนคิดถึง Recent Apps ในรูปแบบนี้แน่นอนครับ.

แอพภายในเครื่องที่มีอยู่นั้นแทบมีให้ใช้งานได้ครบครันเหมือนแอนดรอยด์ปกติ ด้วยแอพตระกูล Go ที่มีขนาดเล็กและกินทรัพยากรน้อยกว่าแอพปกติถึง 50% จึงทำให้การทำงานของ Redmi Go นั้นมีความลื่นไหลถึงแม้จะมีแรมเพียงแค่ 1GB ก็ตามที. (ปล. Android Go สามารถลงแอพปกติได้เหมือน Android ทั่วไป แต่ความสามารถการใช้งานด้านการสลับแอพอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าการใช้งานแอพตระกูล Go)

ถ้า Google มีแอพ Go สำหรับแอพขนาดเล็กเพื่อสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นแล้ว ทางผู้พัฒนาแอพหลักก็ต้องมีแอพสำหรับสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นเหมือนกันด้วยแอพตระกูล Lite ที่จะทำให้การใช้งานของสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นนั้นสามารถใช้งานได้ลื่นไหลเหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ปกติ จึงไม่ต้องกลัวไปเลยว่าเราจะไม่สามารถใช้งานแอพต่างๆได้หรือหงุดหงิดกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Facebook messenger, Instagram, Line( Line Lite ไม่มีใน play Store ไทย ต้องไปหาใน Apk ตามเน็ตเองนะครับ) ต่างๆนั้นมีแอพ Lite เพื่อการใช้งานของสมาร์ทโฟนได้ครบทุกรูปแบบ. 

ด้วยเนื้อที่ในเครื่องที่มีมาให้เพียง 8GB ที่เรียกได้ว่าน้อยนิดที่สุดในปัจุบันที่ทำให้เหล่าผู้ใช้หลายคนที่สนใจหรืออยากศึกษาเจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้อาจต้องเมินหน้าหนีเพราะไม่พอสำหรับการใช้งานแน่นอน แต่ทุกความคิดอาจจะเปลี่ยนไปเมื่อเรานั้นเลือกใช้งานแอพตระกูล Go, Lite ที่ทำให้การใช้งานเนื้อที่ 8GB นั้นเหลือที่พอให้ผมใช้อยู่อีก 2GB เพื่อกันไว้เวลามีการอัพเดทจะได้อัพเดทเครื่องได้. ส่วนรูปภาพหรือวิดีโอก็ยังมีตัวเลือกในการบันทึกภาพอีกก็คือ microSD Card หรือ Google Photo อัพโหลดลงปุ้ปและลบในเครื่องปั๊ปก็ยังได้ครับ. // สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยนั้นจะมีให้เราใช้เพียง Pattern / PIN / Password / Smart Lock ณ ตอนนี้ ในส่วนของ Face Unlock ที่สามารถทำได้เหมือนในโฆษณานั้นอาจต้องรอการอัพเดทจากทาง Mi อีกทีนึง. ถึงแม้ว่าในตอนนี้ผมจะได้รับอัพเดทแรกจากทาง mi แล้วก็ตามที แต่ก็ได้มาแค่ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องตอนใช้งานให้มีความลื่นไหลขึ้น แต่ยังไม่มีฟีเจอร์หรือความปลอดภัยใหม่เพิ่มเข้ามาเลย.

-- Battery --

สำหรับใครที่อยากหามือถือสำรองในการใช้งาน และเน้นเครื่องเล็กแบตอึดๆ อาจจะต้องมองข้ามในเรื่องนี้กันสักหน่อยเพราะว่าในการใช้งาน 1 วันเต็มๆของ  Redmi Go ที่มีแบตเตอรี่มากถึง 3,000 mAh บนหน้าจอ 5" ความละเอียด HD นั้นไม่อาจตอบโจทย์การใช้งานของผมสักเท่าไหร่ในหนึ่งวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอใหญ่กว่า และความละเอียดหน้าจอมากกว่า แต่แบตเตอรี่มีขนาดเท่ากันนั้นมีความสามารถในการใช้งานต่อหนึ่งวันที่ดีกว่าเจ้า Redmi Go อยู่พอสมควร ซึ่งในจุดนี้อาจเป็นเพราะตัว Snapdragon 425 เองที่มีการจัดการพลังงานได้น้อยกว่าสมาร์ทโฟนที่เลือกใช้ Snapdragon 6xx - 8xx อยู่พอสมควร. ซึ่งสามารถดูได้จากตารางการใช้งานแอพของผมในหนึ่งวันตามรูปได้เลยครับ. (อันนี้เป็นการใช้งานแบบที่ผมพยายามจะทำให้เซฟและใช้ในหนึ่งวันได้อย่างไม่มีปัญหานะครับ.)