ข้อมูลการเดินทาง...
ขาไป
08.25-12.10 BKK-HKG HX 768
Transit 3.20 H
13.30-20.55 HKG-NRT HX610
ขากลับ
09.40 - 13.30 NRT – HKG HX 611
Transit 10.25 H
23.55 - 01.55 HKG – BKK HX 761
การเดินทางเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ Check in row K
ได้รับ Boarding pass 2 ใบ กรุงเทพ-ฮ่องกง / ฮ่องกง-นาริตะ
ส่วนกระเป๋าก็สามารถ Check thru รับที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ โหลดได้ไม่เกินคนละ 20 กิโล
การจัดที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 ช่องว่างระหว่างที่นั่งตัวเองกับเบาะคนข้างหน้ากว้างในระดับหนึ่ง
เครื่องออกสักพักแอร์เริ่มเสิร์ฟอาหาร รูปแบบตามปกติของสายการบินนี้เลยค่ะ มีอาหารหลักไปทางสไตล์จีนๆ / ผลไม้ / ของหวานหรืออะไรสักอย่าง / และขนมปัง ไฟล์ทนี้เราเลือกเป็นบะหมี่กับไก่ค่ะ รสชาติจืดๆ แบบอาหารจีนแต่ถือว่าโอเคเลยแหละ ถ้าได้พริกป่นกับน้ำตาลอีกนิดนะ...อื้อหือออ ส่วนของพี่ที่ไปด้วยกันเลือกเป็นไส้กรอกกับไข่คนก็ดูน่าอร่อยดี เครื่องดื่มที่มีให้ก็จะเป็นพวกน้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ (ไม่แน่ใจว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไหมนะ ดูเหมือนไม่เคยเห็นเลย)
ระบบ Entertainment ต่างๆ ของ Hongkong Airlines นี่โอเคเลยนะ มีหนังใหม่ๆ หลายเรื่องแต่มีแค่คำบรรยายภาษาอังกฤษ เพลงก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งอังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่นเลยทีเดียว
วันนี้ท้องฟ้าสดใส บรรยากาศดีมากกกก แต่เนื่องจากต้องตื่นเช้าบวกกับการกินอิ่ม ไม่กี่นาทีต่อมา...คร่อก! หลับค่ะ
จากกรุงเทพไปฮ่องกงใช้เวลาราวๆ สองชั่วโมงกว่าๆ ถึงสามชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงสนามบินฮ่องกงแล้วค่ะ
เดินตามป้าย Transfer ไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นต้องมีการสแกนกระเป๋าใหม่อีกครั้ง
ขอบอกว่าตอนที่เรามาถึงยังไม่มีการบอก Gate ที่หน้าจอ แต่แถวๆ หน้าประตูตรงส่วน Transfer เนี่ยมีจอให้เช็ก Gate ได้ด้วย เพียงแค่สแกนบอร์ดดิ้งพาส หรือกดรหัสหมายเลขไฟล์ทบินของเราก็จะมีบอก Gate เวลาที่เครื่องออก รวมถึงข้อมูลระยะเวลาจากจุดที่อยู่ไปยัง Gate ว่าใช้เวลาเท่าไหร่ด้วย คือมันดีอ่ะ
มีเวลาเปลี่ยนเครื่องสามชั่วโมงสำหรับเราแล้วถือว่าโอเค ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ถ้าเวลาน้อยก็กลัวมีปัญหาเครื่องบินดีเลย์อีก หาอะไรกินนิดหน่อย นั่งคุยกันเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นแล้วค่ะ
ไฟล์ทนี้ได้อาหารเป็นไก่กับซอสเปรี้ยวๆ ที่ทำจากมะเขือเทศ รสชาติจะประมาณซอสสปาเก็ตตี้ มาพร้อมกับมันบดและผักลวก รสชาติอร่อยดีแต่อาจจะไม่อยู่ท้อง โซบะกับเต้าฮวยเย็นที่ให้มาเป็นความแตกต่างที่ลงตัว
กินข้าว ดูหนังฟังเพลง สักพักหนึ่งก็เข้าสู่เขตน่านฟ้าญี่ปุ่น เครื่องลงที่สนามบินนาริตะ Terminal 2 ค่ะ รู้สึกโชคดีมากเลยเพราะแคปซูลโฮเทลที่จองไว้สำหรับคืนแรกก็อยู่ Terminal นี้ ลากกระเป๋าเข้าที่พักได้เลยค่ะ
ภาพตัดมาที่ขากลับกันบ้าง... กลับมาอยู่ที่สนามบินนาริตะ Terminal 2 อีกครั้ง ทั้งขาไปและขากลับรู้สึกว่าไม่ค่อยได้รอคิวเช็กอินนานๆ เลยค่ะ คนไม่เยอะแป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อยละ ด้วยความที่ต้องตื่นเช้าเลยค่อนข้างจะเพลียๆ ช่วงที่อยู่บนเครื่องก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมามากมาย
บินออกจากญี่ปุ่นได้สักพักแอร์ก็เริ่มประกาศว่าจะเสิร์ฟอาหาร จากที่ฟังคือมีเมนูอาหารอยู่สองอย่าง อย่างแรกจำชื่อไม่ได้แต่เป็นสไตล์ฝรั่งๆ หน่อย กับอีกอย่างคือข้าวญี่ปุ่นกับปลาซาบะซึ่งเป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่น นี่ก็คุยกับพี่ว่าอยู่ญี่ปุ่นมาสิบวันจากคนที่ชอบอาหารญี่ปุ่นมากก็เริ่มชักจะเบื่อๆ แล้ว ขออย่างอื่นที่ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นเถอะ ปรากฏว่าตอนแอร์เข็นรถเข็นมาถึง อาหารอย่างแรกนั้นหมดไปแล้ว ก็เลยเหลือตัวเลือกแค่ข้าวปลาซาบะเท่านั้นค่ะ...ไม่เหลืออะไรให้เราเลือกเลยยย //ยิ้มแห้งๆ
จริงๆ รสชาติของเมนูนี้อร่อยมากค่ะ ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เหนียวหนึบโรยหน้าด้วยงาดำเล็กน้อย ปลาซาบะชิ้นโต ส่วนไข่ม้วนก็มีรสหวานๆ มีผักต้มมาให้นิดหน่อยด้วย แต่ตอนนั้นคือแบบ...น้ำตาจิไหล อย่างน้อยที่มีผลไม้และโยเกิร์ตอร่อยๆ ช่วยเยียวยาจิตใจเราได้บ้าง T_T
ผ่านไปไม่นานก็มาถึงฮ่องกงแล้ว มีเวลาเปลี่ยนเครื่องอยู่ประมาณสิบชั่วโมงเลยออกไปเที่ยวในเมืองฮ่องกงค่ะ โดยนั่งรถเมล์สาย S1 ออกจากสนามบิน แล้วขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Tung chung เข้าเมืองอีกทีซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างประหยัดสุดๆ แล้ว ไหว้พระที่วัด Wong tai sin ช็อปปิ้งที่ Lady’s street night market เสร็จแล้วก็ซดโจ๊กฮ่องกงร้อนๆ สักถ้วย หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับสนามบินฮ่องกงแล้วขึ้นเครื่องกลับไทยอีกทีค่ะ
สรุปสำหรับสายการบิน Hongkong Airlines
ข้อดี -ราคาค่อนข้างถูกมากเมื่อมีโปรโมชั่น เป็น Full service ที่รวมน้ำหนักกระเป๋าและอาหารบนเครื่องแล้ว
-แวะต่อเครื่องที่ฮ่องกง ถ้ามีเวลาเยอะๆ สามารถแวะออกไปเที่ยวฮ่องกงได้ด้วย
ข้อเสีย -น้ำหนักกระเป๋าโหลดได้แค่ 20 กิโลกรัมค่ะ ถ้าเจอจนท.ใจดีๆ ก็ให้สุดๆ ไม่เกิน 23 ละกัน ถ้าเกินต้องจ่ายหน้าเคาน์เตอร์และราคาก็ค่อนข้างแพงอยู่ (แบบว่าช่วงที่ไปอากาศยังมีเย็นๆ เสื้อผ้าก็เลยเยอะอ่ะเนอะ ไม่ได้ช็อปอะไรเลยจริงจริ๊งงง)
โดยรวมแล้วเป็นสายการบินที่เหมาะสำหรับคนชอบความประหยัด แต่ก็ยังอยากได้การบริการอื่นๆ เช่นราคารวมโหลดกระเป๋าและอาหารบนเครื่องด้วย รวมถึงไม่มีปัญหากับการต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่องด้วย อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยคือสนามบินฮ่องกง เป็นสนามบินที่ค่อนข้างสวยงาม มีที่นั่งรอเยอะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักเดินทางก็พรั่งพร้อม ห้องน้ำสะอาดด้วย เรียกว่าเป็นสนามบินที่เหมาะสำหรับการแวะเปลี่ยนเครื่องมากๆ เลยค่ะ
อาจจะเป็นกระทู้สั้นๆ ให้เห็นภาพคร่าวๆ เผื่อมีใครที่กำลังสนใจสายการบินนี้อยู่ แต่ถ้าอยากรู้ข้อมูลอื่นที่ละเอียดกว่ารวมถึงการแวะเที่ยวฮ่องกงลองแวะไปอ่านกระทู้ที่เราเคยเขียนไว้ได้ค่ะ >>
Review Hongkong Airlines (Economy class) BKK-KIX-BKK + Transit 14 Hours in HK
https://ppantip.com/topic/37454602
[CR] Review Hongkong Airlines กรุงเทพ-นาริตะ,โตเกียว ไปเที่ยวญี่ปุ่นแวะฮ่องกง สองประเทศในทริปเดียว
ข้อมูลการเดินทาง...
ขาไป
08.25-12.10 BKK-HKG HX 768
Transit 3.20 H
13.30-20.55 HKG-NRT HX610
ขากลับ
09.40 - 13.30 NRT – HKG HX 611
Transit 10.25 H
23.55 - 01.55 HKG – BKK HX 761
การเดินทางเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ Check in row K
ได้รับ Boarding pass 2 ใบ กรุงเทพ-ฮ่องกง / ฮ่องกง-นาริตะ
ส่วนกระเป๋าก็สามารถ Check thru รับที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะ โหลดได้ไม่เกินคนละ 20 กิโล
การจัดที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 ช่องว่างระหว่างที่นั่งตัวเองกับเบาะคนข้างหน้ากว้างในระดับหนึ่ง
เครื่องออกสักพักแอร์เริ่มเสิร์ฟอาหาร รูปแบบตามปกติของสายการบินนี้เลยค่ะ มีอาหารหลักไปทางสไตล์จีนๆ / ผลไม้ / ของหวานหรืออะไรสักอย่าง / และขนมปัง ไฟล์ทนี้เราเลือกเป็นบะหมี่กับไก่ค่ะ รสชาติจืดๆ แบบอาหารจีนแต่ถือว่าโอเคเลยแหละ ถ้าได้พริกป่นกับน้ำตาลอีกนิดนะ...อื้อหือออ ส่วนของพี่ที่ไปด้วยกันเลือกเป็นไส้กรอกกับไข่คนก็ดูน่าอร่อยดี เครื่องดื่มที่มีให้ก็จะเป็นพวกน้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟ (ไม่แน่ใจว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไหมนะ ดูเหมือนไม่เคยเห็นเลย)
ระบบ Entertainment ต่างๆ ของ Hongkong Airlines นี่โอเคเลยนะ มีหนังใหม่ๆ หลายเรื่องแต่มีแค่คำบรรยายภาษาอังกฤษ เพลงก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งอังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่นเลยทีเดียว
วันนี้ท้องฟ้าสดใส บรรยากาศดีมากกกก แต่เนื่องจากต้องตื่นเช้าบวกกับการกินอิ่ม ไม่กี่นาทีต่อมา...คร่อก! หลับค่ะ
จากกรุงเทพไปฮ่องกงใช้เวลาราวๆ สองชั่วโมงกว่าๆ ถึงสามชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงสนามบินฮ่องกงแล้วค่ะ
เดินตามป้าย Transfer ไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นต้องมีการสแกนกระเป๋าใหม่อีกครั้ง
ขอบอกว่าตอนที่เรามาถึงยังไม่มีการบอก Gate ที่หน้าจอ แต่แถวๆ หน้าประตูตรงส่วน Transfer เนี่ยมีจอให้เช็ก Gate ได้ด้วย เพียงแค่สแกนบอร์ดดิ้งพาส หรือกดรหัสหมายเลขไฟล์ทบินของเราก็จะมีบอก Gate เวลาที่เครื่องออก รวมถึงข้อมูลระยะเวลาจากจุดที่อยู่ไปยัง Gate ว่าใช้เวลาเท่าไหร่ด้วย คือมันดีอ่ะ
มีเวลาเปลี่ยนเครื่องสามชั่วโมงสำหรับเราแล้วถือว่าโอเค ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ถ้าเวลาน้อยก็กลัวมีปัญหาเครื่องบินดีเลย์อีก หาอะไรกินนิดหน่อย นั่งคุยกันเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นแล้วค่ะ
ไฟล์ทนี้ได้อาหารเป็นไก่กับซอสเปรี้ยวๆ ที่ทำจากมะเขือเทศ รสชาติจะประมาณซอสสปาเก็ตตี้ มาพร้อมกับมันบดและผักลวก รสชาติอร่อยดีแต่อาจจะไม่อยู่ท้อง โซบะกับเต้าฮวยเย็นที่ให้มาเป็นความแตกต่างที่ลงตัว
กินข้าว ดูหนังฟังเพลง สักพักหนึ่งก็เข้าสู่เขตน่านฟ้าญี่ปุ่น เครื่องลงที่สนามบินนาริตะ Terminal 2 ค่ะ รู้สึกโชคดีมากเลยเพราะแคปซูลโฮเทลที่จองไว้สำหรับคืนแรกก็อยู่ Terminal นี้ ลากกระเป๋าเข้าที่พักได้เลยค่ะ
ภาพตัดมาที่ขากลับกันบ้าง... กลับมาอยู่ที่สนามบินนาริตะ Terminal 2 อีกครั้ง ทั้งขาไปและขากลับรู้สึกว่าไม่ค่อยได้รอคิวเช็กอินนานๆ เลยค่ะ คนไม่เยอะแป๊บเดียวก็เสร็จเรียบร้อยละ ด้วยความที่ต้องตื่นเช้าเลยค่อนข้างจะเพลียๆ ช่วงที่อยู่บนเครื่องก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะไรมามากมาย
บินออกจากญี่ปุ่นได้สักพักแอร์ก็เริ่มประกาศว่าจะเสิร์ฟอาหาร จากที่ฟังคือมีเมนูอาหารอยู่สองอย่าง อย่างแรกจำชื่อไม่ได้แต่เป็นสไตล์ฝรั่งๆ หน่อย กับอีกอย่างคือข้าวญี่ปุ่นกับปลาซาบะซึ่งเป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่น นี่ก็คุยกับพี่ว่าอยู่ญี่ปุ่นมาสิบวันจากคนที่ชอบอาหารญี่ปุ่นมากก็เริ่มชักจะเบื่อๆ แล้ว ขออย่างอื่นที่ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นเถอะ ปรากฏว่าตอนแอร์เข็นรถเข็นมาถึง อาหารอย่างแรกนั้นหมดไปแล้ว ก็เลยเหลือตัวเลือกแค่ข้าวปลาซาบะเท่านั้นค่ะ...ไม่เหลืออะไรให้เราเลือกเลยยย //ยิ้มแห้งๆ
จริงๆ รสชาติของเมนูนี้อร่อยมากค่ะ ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เหนียวหนึบโรยหน้าด้วยงาดำเล็กน้อย ปลาซาบะชิ้นโต ส่วนไข่ม้วนก็มีรสหวานๆ มีผักต้มมาให้นิดหน่อยด้วย แต่ตอนนั้นคือแบบ...น้ำตาจิไหล อย่างน้อยที่มีผลไม้และโยเกิร์ตอร่อยๆ ช่วยเยียวยาจิตใจเราได้บ้าง T_T
ผ่านไปไม่นานก็มาถึงฮ่องกงแล้ว มีเวลาเปลี่ยนเครื่องอยู่ประมาณสิบชั่วโมงเลยออกไปเที่ยวในเมืองฮ่องกงค่ะ โดยนั่งรถเมล์สาย S1 ออกจากสนามบิน แล้วขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Tung chung เข้าเมืองอีกทีซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างประหยัดสุดๆ แล้ว ไหว้พระที่วัด Wong tai sin ช็อปปิ้งที่ Lady’s street night market เสร็จแล้วก็ซดโจ๊กฮ่องกงร้อนๆ สักถ้วย หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับสนามบินฮ่องกงแล้วขึ้นเครื่องกลับไทยอีกทีค่ะ
สรุปสำหรับสายการบิน Hongkong Airlines
ข้อดี -ราคาค่อนข้างถูกมากเมื่อมีโปรโมชั่น เป็น Full service ที่รวมน้ำหนักกระเป๋าและอาหารบนเครื่องแล้ว
-แวะต่อเครื่องที่ฮ่องกง ถ้ามีเวลาเยอะๆ สามารถแวะออกไปเที่ยวฮ่องกงได้ด้วย
ข้อเสีย -น้ำหนักกระเป๋าโหลดได้แค่ 20 กิโลกรัมค่ะ ถ้าเจอจนท.ใจดีๆ ก็ให้สุดๆ ไม่เกิน 23 ละกัน ถ้าเกินต้องจ่ายหน้าเคาน์เตอร์และราคาก็ค่อนข้างแพงอยู่ (แบบว่าช่วงที่ไปอากาศยังมีเย็นๆ เสื้อผ้าก็เลยเยอะอ่ะเนอะ ไม่ได้ช็อปอะไรเลยจริงจริ๊งงง)
โดยรวมแล้วเป็นสายการบินที่เหมาะสำหรับคนชอบความประหยัด แต่ก็ยังอยากได้การบริการอื่นๆ เช่นราคารวมโหลดกระเป๋าและอาหารบนเครื่องด้วย รวมถึงไม่มีปัญหากับการต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่องด้วย อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยคือสนามบินฮ่องกง เป็นสนามบินที่ค่อนข้างสวยงาม มีที่นั่งรอเยอะ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับนักเดินทางก็พรั่งพร้อม ห้องน้ำสะอาดด้วย เรียกว่าเป็นสนามบินที่เหมาะสำหรับการแวะเปลี่ยนเครื่องมากๆ เลยค่ะ
อาจจะเป็นกระทู้สั้นๆ ให้เห็นภาพคร่าวๆ เผื่อมีใครที่กำลังสนใจสายการบินนี้อยู่ แต่ถ้าอยากรู้ข้อมูลอื่นที่ละเอียดกว่ารวมถึงการแวะเที่ยวฮ่องกงลองแวะไปอ่านกระทู้ที่เราเคยเขียนไว้ได้ค่ะ >>
Review Hongkong Airlines (Economy class) BKK-KIX-BKK + Transit 14 Hours in HK
https://ppantip.com/topic/37454602
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้