สืบเนื่องจากกระทู้ก่อนหน้าที่มีไอเดียจะซื้อรถจักรยานยนต์ เลยมาตั้งกระทู้ถามเส้นทาง พี่ๆที่เคยขับขี่
https://ppantip.com/topic/38576001
พอตัดสินใจได้ว่าจะซื้อรถ จึงหาวิธีรีบทำใบขับขี่ ตั้งใจให้ระยะเวลาที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์น้อยที่สุด (กลัวพี่ตำรวจจับ)
ในกรณีของผมคือ ผมเคยมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่แล้ว เมื่อ 8 ปีก่อน เป็นแบบชั่วคราว 1 ปี
(ซึ่งเดี๋ยวนี้แบบชั่วคราวมีอายุ 2 ปีแล้วนะครับ ใครสอบข้อเขียนแบบชั่วคราวต้องตอบว่า 2 ปีนะ ที่เค้าเปลี่ยนจาก 1 เป็น 2 เพราะขนส่งต่อไม่ไหวคนเยอะเกิน จึงขยายเวลาให้) ซึ่งถ้าผมทำครั้งนี้ ถือว่าเป็นการต่อเฉยๆ ไม่ใช่ทำใหม่ แต่ขาดเกิน 3 ปีต้องอบรมและสอบใหม่หมด โดยจะได้ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์แบบ 5 ปี
(ถ้าใครยังไม่เคยมี จะได้แบบชั่วคราว 2 ปีมา เมื่อหมดอายุไปต่อจะได้แบบ 5 ปี)
เริ่มหาข้อมูลพบว่า การที่จะได้ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์นั้นต้องผ่าน
1.การอบรม 5 ชั่วโมง
2.การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (การมองทางกว้าง , การมองทางลึก , ปฏิกริยาร่างกาย)
3.การทดสอบข้อเขียน 50 ข้อ ต้องให้ได้ 45 ข้อ คิดเป็น 90% (โดยข้อสอบจะเหมือนกันทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์)
4.การทดสอบปฏิบัติในสนาม (ของจักรยานยนต์มี การปฏิบัติตามป้าย , ขี่ซิกแซกกรวย , ขี่ทางตรงบนคอนกรีตแคบ 30cm)
หาข้อมูลจากขนส่งและวางแผน
ขนส่งใน กทม มีหลายศูนย์ โดยศูนย์ที่ใกล้ผมที่สุดคือบางจาก(เขต3) เมื่อโทรไปถาม ความประทับใจแรกคือเจ้าหน้าที่ ปากจัดมาก ไม่มี service mind แม้แต่นิดเดียว เข้าใจว่าคนมาติดต่อเยอะ แต่คุณก็เจ้าหน้าที่รัฐกินภาษีประชาชนนะ .....ช่างมันเถอะ ไม่อยากบ่น.... ใจความสรุปคือ เขตนี้ ต้องสอบข้อเขียน กับสอบปฏิบัติแยกวันกัน (คือต้องสอบ 2 วัน) เพราะการสอบปฏิบัติจะเริ่มตอน 8:30 และไม่มีรอบอื่น ถ้าคุณสอบข้อเขียน 8:30 เสร็จ ก็หมดรอบสอบปฏิบัติวันนั้นแล้ว
ถ้าจะอบรมกับทางขนส่งต้อจองคิวออนไลน์ เมื่อเปิดมาเช็คในเว็ปแล้วพบว่าจะได้คิวอีกที เดือนมิถุนาเลย...oh my god...แม้แต่ศูนย์อื่นผมก็เช็คนะครับ ทั้งในกทมและปริมณฑลก็ไม่ต่างกัน (ซึ่งต้องลางานไปไปวันธรรมดาด้วยนะ) ผมเลยตัดสินใจไปอบรมเอกชนของสวนดุสิต ใครสนใจลองเสริชหาข้อมูลนะครับ สามารถจองได้ในไลน์เลย มีคิวอบรมแทบทุกวัน (เสียเงิน 500 บาท)
ผมวางแผนให้อบรมเสร็จ แล้วสอบต่อกันเลย จะได้ได้ใบขับขี่เร็วที่สุด โดยวันสอบศูนย์นี้สอบวันจันทร์อังคาร จึงจองคิวอบรมวันอาทิตย์ เลยตั้งใจซื้อมอเตอร์ไซค์มาขี่ไปไหนใกล้ๆก่อน เพื่อซ้อมขับขี่ ซัก 2-3 วันครับ (วางแผนล็อควันสอบ แล้วย้อนหลังมาเป็นวันซื้อครับ)
ซื้อรถพุธ 27 กุมภาพันธ์ (โดน Honda Click150i สีเงินมาครับ)
อาทิตย์ 3 มีนาคม อบรม 5 ชั่วโมง
จันทร์ 4 มีนาคม ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และสอบข้อเขียน
อังคาร 5 มีนาคม ทดสอบขับขี่สนามจริง และได้ใบอนุญาตขับขี่
การอบรม 5 ชั่วโมง ผมจองไว้รอบเช้า 8:30-13:30 ไปให้ถึงก่อนเวลาซัก 10 นาทีครับ มีเซ็นชื่อลงทะเบียนและเอา
สำเนาบัตรประชาชนไปด้วยนะครับ รับหนังสือแล้วเข้าห้องอบรมได้เลย จะมีวิทยากร อาจารย์คุณผู้หญิงฉายสไลด์ความรู้ ประกอบกับประสบการณ์ฮาๆบนท้องถนนของแก ผมชอบนะ พออบรมเสร็จ ก็เข้าคิวเซ็นชื่อรับใบรับรองได้เลย พร้อมเข้าสอบกับทางขนส่ง
เอกสารที่ต้องใช้
1.ใบรับรองการอบรม 5 ชั่วโมงจากเอกชน
2.สำเนาบัตรประชาชน
3.ใบรับรองแพทย์ว่าปกติ
4.บัตรประชาชน
5.ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ (ถ้าเคยมี)
พอเตรียมเอกสารครบแล้วก็พร้อมสอบกับทางขนส่งเลยครับ ผมไปตั้งแต่ประมาณ 7:30 เพื่อไปเอาคิวก่อน โดยทุกคนต้องผ่านเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อรับคิวแต่ละหมวดหมู่ครับ ในกรณีของผมคือคิว F คืออบรมกับทางเอกชนมาแล้ว พร้อมรับทดสอบ และจะเรียกคิว F ตอน 8:30 ก็ไปกินข้าวรอก่อนได้ครับ (ในขนส่งก็มีร้านข้าวหลายร้านนะ หรือจะขี่ออกมาเส้นสุขุมวิทก็ได้)
การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย มีทั้งหมด 3 ด่านครับ เจ้าหน้าที่จะชี้แจงรายละเอียดแต่ละด่านก่อน
1.การทดสอบสายตาทางกว้าง เค้าจะให้เราตั้งจมูกบนแท่น แล้วจะมีดวงไฟด้านข้างตาทั้งสองฝั่ง (เห็นไฟแค่หางตา) ไฟจะมี 3 สีคือ แดง เหลืองเขียว สลับกันไปแต่ละข้าง ถ้าคนสายตาดีจะสามารถผ่านได้ครับเพราะเห็นลางๆ ผมตอบผิดไป 1 ครั้งเจ้าหน้าที่ก็ให้ผ่านครับ (แต่ลุงก่อนหน้าแกชำเลืองมอง แล้วค่อยตอบตลอด เจ้าหน้าที่ให้กลับบ้านครับเพราะตกมา 2 รอบแล้ว)
2.การทดสอบสายตาทางลึก (อันนี้ผมว่ายากสุด) จะให้เราขยับแท่งพลาสติก 1 แท่ง ให้ระดับทางลึกเท่าอีกแท่งที่อยู่กับที่ ซึ่งให้เรานั่งไกลประมาณ 3-4 เมตร ทริคคือให้ดูคนก่อนหน้า และดูแท่งนี้ระยะเอียงๆก่อน เพื่อกะให้ถูกครับ โดยผมก็กะๆให้มันเท่ากัน ใช้ความรู้สึกเอานะ 55 ผ่านมาได้ครับ
3.การทดสอบปฏิกริยา (อันนี้ผมว่าง่ายสุดครับ ไม่เห็นใครตกครับ) จะมีแท่นคันเร่งและแท่นเบรก ให้ใช้เท้าเหยียบ โดยกดคันเร่งค้าง แล้วพอไฟแดงขึ้นให้เหยียบเบรก (ทริกผมให้ดูแต่ไฟแดงครับ เห็นแล้วเหยียบเลย)
การทดสอบข้อเขียน 50 ข้อ ต้องให้ได้ 45 ข้อ คิดเป็น 90% (โดยข้อสอบจะเหมือนกันทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์) โดยข้อสอบเค้าจะสุ่มจาก 800 ข้อมาครับ ถ้าไปอบรมเอกชน ข้อสอบอยู่ในเล่มนั้นแหละครับ อ่านทวนซัก 2 รอบก็ทำได้แล้ว (แต่มีคนไม่ผ่านเยอะเหมือนกันนะครับ) ป้าย , กฎหมาย , จำนวนวันหาก โอนรถ, เปลี่ยนสีรถ, โดนใบสั่ง ออกอยู่แล้วครับ
พอสอบข้อเขียนเสร็จถ้าผ่านเค้าจะถามว่าจะนัดวันสอบปฏิบัติเลยมั้ย (คือวันรุ่งขึ้น) ถ้าคุณไม่นัด คุณจะต้องมานัดอีก 1 วันแล้วมาสอบอีก (ยุ่งไปอีกครับ) ถ้าใครจะมาสอบ ขอให้หาวันว่างติดกัน 2 วันมาเลยครับ จะได้ทีเดียวจบ
*สรุปวันนี้ผมมาตอน 7:30 เสร็จตอน 9:00 สรุป ลางานแค่ 1 ชั่วโมงครับ (เข้างาน 8:30) ถือว่าเร็วกว่าที่คิดมาก
การทดสอบปฏิบัติในสนาม วันรุ่งขึ้นสนามเปิด 8:30 ครับ มาตรงเวลา เค้าจะให้คนที่ตกวันก่อนสอบให้ดูก่อน แล้วทำตาม เส้นทางมี การปฏิบัติตามป้าย , ขี่ซิกแซกกรวย , ขี่ทางตรงบนคอนกรีตแคบ 30cm
มีคนตกด้วยนะครับ ตอนซิกแซกและขี่ทางตรงห้ามเอาขาลงพื้นเด็ดขาดครับ พอเสร็จจากนี้ก็รับเอกสารปั๊มอนุมัติ แล้วไปรอเข้าคิวถ่ายรูปออกบัตรเลยครับ สรุปรวมวันนี้เสร็จ 10:00 ถือว่าเร็วกว่าที่คิดอีกแล้ว
สรุปทั้งหมด คือการติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ที่นี่คือเสียอารมณ์มากครับ และการจองคิวก็ไกลมาก ควรไปอบรมเอกชนเสียเงิน 500 ดีกว่าครับ แล้วการสอบไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้น (แต่ต้องสอบ 2 วันนะ) โดยรวมถือว่าโอเคครับ ผมอาจจะไม่ได้ไปช่วงคนเยอะด้วย
แชร์ประสบการณ์ การทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ปี 2562 (ขนส่งบางจาก)
https://ppantip.com/topic/38576001
พอตัดสินใจได้ว่าจะซื้อรถ จึงหาวิธีรีบทำใบขับขี่ ตั้งใจให้ระยะเวลาที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์น้อยที่สุด (กลัวพี่ตำรวจจับ)
ในกรณีของผมคือ ผมเคยมีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่แล้ว เมื่อ 8 ปีก่อน เป็นแบบชั่วคราว 1 ปี
(ซึ่งเดี๋ยวนี้แบบชั่วคราวมีอายุ 2 ปีแล้วนะครับ ใครสอบข้อเขียนแบบชั่วคราวต้องตอบว่า 2 ปีนะ ที่เค้าเปลี่ยนจาก 1 เป็น 2 เพราะขนส่งต่อไม่ไหวคนเยอะเกิน จึงขยายเวลาให้) ซึ่งถ้าผมทำครั้งนี้ ถือว่าเป็นการต่อเฉยๆ ไม่ใช่ทำใหม่ แต่ขาดเกิน 3 ปีต้องอบรมและสอบใหม่หมด โดยจะได้ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์แบบ 5 ปี
(ถ้าใครยังไม่เคยมี จะได้แบบชั่วคราว 2 ปีมา เมื่อหมดอายุไปต่อจะได้แบบ 5 ปี)
เริ่มหาข้อมูลพบว่า การที่จะได้ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์นั้นต้องผ่าน
1.การอบรม 5 ชั่วโมง
2.การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย (การมองทางกว้าง , การมองทางลึก , ปฏิกริยาร่างกาย)
3.การทดสอบข้อเขียน 50 ข้อ ต้องให้ได้ 45 ข้อ คิดเป็น 90% (โดยข้อสอบจะเหมือนกันทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์)
4.การทดสอบปฏิบัติในสนาม (ของจักรยานยนต์มี การปฏิบัติตามป้าย , ขี่ซิกแซกกรวย , ขี่ทางตรงบนคอนกรีตแคบ 30cm)
หาข้อมูลจากขนส่งและวางแผน
ขนส่งใน กทม มีหลายศูนย์ โดยศูนย์ที่ใกล้ผมที่สุดคือบางจาก(เขต3) เมื่อโทรไปถาม ความประทับใจแรกคือเจ้าหน้าที่ ปากจัดมาก ไม่มี service mind แม้แต่นิดเดียว เข้าใจว่าคนมาติดต่อเยอะ แต่คุณก็เจ้าหน้าที่รัฐกินภาษีประชาชนนะ .....ช่างมันเถอะ ไม่อยากบ่น.... ใจความสรุปคือ เขตนี้ ต้องสอบข้อเขียน กับสอบปฏิบัติแยกวันกัน (คือต้องสอบ 2 วัน) เพราะการสอบปฏิบัติจะเริ่มตอน 8:30 และไม่มีรอบอื่น ถ้าคุณสอบข้อเขียน 8:30 เสร็จ ก็หมดรอบสอบปฏิบัติวันนั้นแล้ว
ถ้าจะอบรมกับทางขนส่งต้อจองคิวออนไลน์ เมื่อเปิดมาเช็คในเว็ปแล้วพบว่าจะได้คิวอีกที เดือนมิถุนาเลย...oh my god...แม้แต่ศูนย์อื่นผมก็เช็คนะครับ ทั้งในกทมและปริมณฑลก็ไม่ต่างกัน (ซึ่งต้องลางานไปไปวันธรรมดาด้วยนะ) ผมเลยตัดสินใจไปอบรมเอกชนของสวนดุสิต ใครสนใจลองเสริชหาข้อมูลนะครับ สามารถจองได้ในไลน์เลย มีคิวอบรมแทบทุกวัน (เสียเงิน 500 บาท)
ผมวางแผนให้อบรมเสร็จ แล้วสอบต่อกันเลย จะได้ได้ใบขับขี่เร็วที่สุด โดยวันสอบศูนย์นี้สอบวันจันทร์อังคาร จึงจองคิวอบรมวันอาทิตย์ เลยตั้งใจซื้อมอเตอร์ไซค์มาขี่ไปไหนใกล้ๆก่อน เพื่อซ้อมขับขี่ ซัก 2-3 วันครับ (วางแผนล็อควันสอบ แล้วย้อนหลังมาเป็นวันซื้อครับ)
ซื้อรถพุธ 27 กุมภาพันธ์ (โดน Honda Click150i สีเงินมาครับ)
อาทิตย์ 3 มีนาคม อบรม 5 ชั่วโมง
จันทร์ 4 มีนาคม ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และสอบข้อเขียน
อังคาร 5 มีนาคม ทดสอบขับขี่สนามจริง และได้ใบอนุญาตขับขี่
การอบรม 5 ชั่วโมง ผมจองไว้รอบเช้า 8:30-13:30 ไปให้ถึงก่อนเวลาซัก 10 นาทีครับ มีเซ็นชื่อลงทะเบียนและเอาสำเนาบัตรประชาชนไปด้วยนะครับ รับหนังสือแล้วเข้าห้องอบรมได้เลย จะมีวิทยากร อาจารย์คุณผู้หญิงฉายสไลด์ความรู้ ประกอบกับประสบการณ์ฮาๆบนท้องถนนของแก ผมชอบนะ พออบรมเสร็จ ก็เข้าคิวเซ็นชื่อรับใบรับรองได้เลย พร้อมเข้าสอบกับทางขนส่ง
เอกสารที่ต้องใช้
1.ใบรับรองการอบรม 5 ชั่วโมงจากเอกชน
2.สำเนาบัตรประชาชน
3.ใบรับรองแพทย์ว่าปกติ
4.บัตรประชาชน
5.ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ (ถ้าเคยมี)
พอเตรียมเอกสารครบแล้วก็พร้อมสอบกับทางขนส่งเลยครับ ผมไปตั้งแต่ประมาณ 7:30 เพื่อไปเอาคิวก่อน โดยทุกคนต้องผ่านเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อรับคิวแต่ละหมวดหมู่ครับ ในกรณีของผมคือคิว F คืออบรมกับทางเอกชนมาแล้ว พร้อมรับทดสอบ และจะเรียกคิว F ตอน 8:30 ก็ไปกินข้าวรอก่อนได้ครับ (ในขนส่งก็มีร้านข้าวหลายร้านนะ หรือจะขี่ออกมาเส้นสุขุมวิทก็ได้)
การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย มีทั้งหมด 3 ด่านครับ เจ้าหน้าที่จะชี้แจงรายละเอียดแต่ละด่านก่อน
1.การทดสอบสายตาทางกว้าง เค้าจะให้เราตั้งจมูกบนแท่น แล้วจะมีดวงไฟด้านข้างตาทั้งสองฝั่ง (เห็นไฟแค่หางตา) ไฟจะมี 3 สีคือ แดง เหลืองเขียว สลับกันไปแต่ละข้าง ถ้าคนสายตาดีจะสามารถผ่านได้ครับเพราะเห็นลางๆ ผมตอบผิดไป 1 ครั้งเจ้าหน้าที่ก็ให้ผ่านครับ (แต่ลุงก่อนหน้าแกชำเลืองมอง แล้วค่อยตอบตลอด เจ้าหน้าที่ให้กลับบ้านครับเพราะตกมา 2 รอบแล้ว)
2.การทดสอบสายตาทางลึก (อันนี้ผมว่ายากสุด) จะให้เราขยับแท่งพลาสติก 1 แท่ง ให้ระดับทางลึกเท่าอีกแท่งที่อยู่กับที่ ซึ่งให้เรานั่งไกลประมาณ 3-4 เมตร ทริคคือให้ดูคนก่อนหน้า และดูแท่งนี้ระยะเอียงๆก่อน เพื่อกะให้ถูกครับ โดยผมก็กะๆให้มันเท่ากัน ใช้ความรู้สึกเอานะ 55 ผ่านมาได้ครับ
3.การทดสอบปฏิกริยา (อันนี้ผมว่าง่ายสุดครับ ไม่เห็นใครตกครับ) จะมีแท่นคันเร่งและแท่นเบรก ให้ใช้เท้าเหยียบ โดยกดคันเร่งค้าง แล้วพอไฟแดงขึ้นให้เหยียบเบรก (ทริกผมให้ดูแต่ไฟแดงครับ เห็นแล้วเหยียบเลย)
การทดสอบข้อเขียน 50 ข้อ ต้องให้ได้ 45 ข้อ คิดเป็น 90% (โดยข้อสอบจะเหมือนกันทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์) โดยข้อสอบเค้าจะสุ่มจาก 800 ข้อมาครับ ถ้าไปอบรมเอกชน ข้อสอบอยู่ในเล่มนั้นแหละครับ อ่านทวนซัก 2 รอบก็ทำได้แล้ว (แต่มีคนไม่ผ่านเยอะเหมือนกันนะครับ) ป้าย , กฎหมาย , จำนวนวันหาก โอนรถ, เปลี่ยนสีรถ, โดนใบสั่ง ออกอยู่แล้วครับ
พอสอบข้อเขียนเสร็จถ้าผ่านเค้าจะถามว่าจะนัดวันสอบปฏิบัติเลยมั้ย (คือวันรุ่งขึ้น) ถ้าคุณไม่นัด คุณจะต้องมานัดอีก 1 วันแล้วมาสอบอีก (ยุ่งไปอีกครับ) ถ้าใครจะมาสอบ ขอให้หาวันว่างติดกัน 2 วันมาเลยครับ จะได้ทีเดียวจบ
*สรุปวันนี้ผมมาตอน 7:30 เสร็จตอน 9:00 สรุป ลางานแค่ 1 ชั่วโมงครับ (เข้างาน 8:30) ถือว่าเร็วกว่าที่คิดมาก
การทดสอบปฏิบัติในสนาม วันรุ่งขึ้นสนามเปิด 8:30 ครับ มาตรงเวลา เค้าจะให้คนที่ตกวันก่อนสอบให้ดูก่อน แล้วทำตาม เส้นทางมี การปฏิบัติตามป้าย , ขี่ซิกแซกกรวย , ขี่ทางตรงบนคอนกรีตแคบ 30cm
มีคนตกด้วยนะครับ ตอนซิกแซกและขี่ทางตรงห้ามเอาขาลงพื้นเด็ดขาดครับ พอเสร็จจากนี้ก็รับเอกสารปั๊มอนุมัติ แล้วไปรอเข้าคิวถ่ายรูปออกบัตรเลยครับ สรุปรวมวันนี้เสร็จ 10:00 ถือว่าเร็วกว่าที่คิดอีกแล้ว
สรุปทั้งหมด คือการติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ที่นี่คือเสียอารมณ์มากครับ และการจองคิวก็ไกลมาก ควรไปอบรมเอกชนเสียเงิน 500 ดีกว่าครับ แล้วการสอบไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้น (แต่ต้องสอบ 2 วันนะ) โดยรวมถือว่าโอเคครับ ผมอาจจะไม่ได้ไปช่วงคนเยอะด้วย