สวัสดีครับเจอกับผม เต้ อีกแล้วนะครับ ที่ผมทำรีวิวช้า มันก็มีหลายเหตุผลด้วยกันแต่สรุป ช้าก็คือช้าครับ 555+ วันนี้ผมก็มีเจ้า Xiaomi Mijia Car AirPurifier หรือเครื่องกรองอากาศในรถยนต์มาให้ชมกันครับถึงช่วงนี้ฝุ่นมันจะลดลงบ้างแล้ว แต่ผมก็ทำรีวิวให้เพื่อนๆ ชมกันเผื่อใครคิดอยากจะซื้อ
ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไรมากครับบังเอิญเพื่อนบอกว่าซื้อมา แต่ผมยังไม่คิดจะซื้อเลยติดต่อขอยืมเพื่อนกะว่าจะมาทำรีวิว แต่พอคิดไปคิดมา ของแบบนี้มันใช้ระยะยาวถึงจะบอกความรู้สึกได้ ผมก็เลยต้องซื้อมาจนได้ ด้วยราคา 2800 บาท โดยประมาณ จาก Shopeeร้าน Xiaomilovers ครับ
ตอนแรกจะซื้อของร้าน Thaisuperphoneแต่ว่าต้องสั่ง แต่ร้าน Thaisuperphone ราคาเครื่องแค่2500 บาท ไม่รวมค่าส่ง ถือว่าถูกนะครับ กระทู้นี้อาจจะไม่ละเอียดหรือมีอะไรหลายๆอย่างขาดตกบกพร่องไปบ้างนะครับ ถ้ามีอะไรสอบถามก็ถามมาในคอมเมนท์ได้เลยนะครับ
ส่วนใครที่อยากดูเป็นวีดีโอพร้อมวิธีติดตั้งก็เชิญชมได้เลยครับ
V
V
V
V
V
เรามาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่าครับ
จริงๆ ยังมีกล่องอีกชั้นที่เป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลนะครับ ด้านนอกจะมีสติ๊กเกอร์ สเปกคร่าวๆ แปะอยู่ข้างกล่องครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา 555+ ส่วนหน้าตากล่องด้านในก็จะมีรูปเครื่องกรองอากาศแบบนี้แหละครับ ซึ่งรูปหน้ากล่องนั้นดูใหญ่กว่าเครื่องจริงครับ ตอนแรกผมก็ตกใจว่าเครื่องมันใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ ซึ่งพอแกะออกมาแล้วขนาดก็ถือว่ากำลังดีครับ ไม่ใหญ่จนเกินไป
สเปกคร่าวๆ ของ Xiaomi Mijia Car Air Purifier
Xiaomi MiJia Car Air Purifier หรือ เครื่องฟอกอากาศในรถของแท้จากเสี่ยวหมี่ ออกแบบระบบการไหลเวียนของอากาศแบบพัดลมคู่ ที่กรองอากาศได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมา CADR 60 ลบ.ม./ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3-7 นาที และยังสามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน แบบ real-time ผ่านบูลทูธ 4.1 และยังมาพร้อมกับตัวไส้กรอง 360 องศา ใช้วัสดุนำเข้าจากบริษัท Toray ของประเทศญี่ปุ่น คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5ไมครอนได้มากถึง 99.99%
คุณสมบัติ
สี : ดำ เหมาะสำหรับรถที่มีขนาดภายใน 4.2-7.2 ตารางเมตร
ออกแบบระบบการไหลเวียนของอากาศแบบพัดลมคู่ ที่กรองอากาศได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมา CADR 60 ลบ.ม./ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.-7 นาที
ใช้ตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับค่าอากาศอนุภาค Amphenol ของประเทศอเมริกา
ใช้มอเตอร์ DC Brushless ทำให้สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
ตัวเครื่องสามารถกรองอากาศเข้าได้ 3 ด้าน และวงจรการไหลเวียนของอากาศจากหลังไปหน้า
รถเก๋งใช้เวลากรองอากาศเพียง 3 ส่วนรถ SUV ใช้เวลา 5 นาที และรถตู้ 7 นาที
ไส้กรอง 360 องศา คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5ไมครอนได้มากถึง 99.99%
ตัวไส้กรองใช้วัสดุนำเข้าจากบริษัท Toray ของประเทศญี่ปุ่น
ชั้นไส้กรองด้านนอกใช้วัสดุ PET ที่จะช่วยกรองอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่น ผม ได้ 360 องศา
ชั้นไส้กรองด้านในใช้ H11-class คุณภาพสูง ที่ช่วยกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5ไมครอน เช่น ละอองเกสรดอกไม้
สามารถเปลี่ยนไส้กรองได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดฝาหลัง ใช้เวลาเพียง 10 วินาที
เชื่อมต่อและควบคุมผ่านบูลทูธ 4.1
สามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน แบบ real-time
แจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรองผ่านทางสมาร์ทโฟน
ตัวเครื่องมีปุ่ม ปิด/เปิด, ไฟสถานะการทำงาน+คุณภาพอากาศ
แอพรองรับ ทั้ง Android และ iOS
ประหยัดพลังงาน ใช้ไฟน้อยสุดแค่ 6.5 วัตต์
แรงดันไฟฟ้า 12V DC
มีโหมดการทำงานเงียบ เสียงเบาเพียง 42dB(A)
ความยาวสายชาร์จ 4.5 เมตร (เสียบกับช่องจุดบุหรี่)
ขนาด สูง 12 x กว้าง 12 x ยาว 38 cm. ขนาดไส้กรอง 22.8 x 9.3cm.
**ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศในรถ โดยมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มากกว่า 4,000 ชั่วโมง**
อุปกรณ์ภายในกล่อง
Xiaomi MiJia Car Air Purifier x1
ไส้กรอง x1
ตัวยึดเครื่องกรองอากาศกับเบาะ x1
สายชาร์จยาว 4.5 เมตร x1
แผ่นหนังรองศีรษะ x1
คู่มือ x1
เมื่อเราเปิดกล่องด้านบนเราก็จะเจอกับคู่มือก่อน...ก็ควรจะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว 555+
ต่อมาเราก็จะเจอกับกล่องหัวชาร์จไฟที่มีความยาวประมาณ 4.5 เมตร
และด้านที่ต่อกับที่จุดบุหรี่ของรถก็จะมีช่อง USB มาให้ด้วย ซึ่งถือว่าดีมากครับเผื่อใครมีกล้องหน้ารถ อย่างเช่นผม ก็ไม่ต้องไปหาซื้อที่ต่อพ่วงที่จุดบุหรี่อีก
ซึ่งช่องUSB ที่ให้มานั้นสามารถปล่อยไฟได้ที่ 5V 2.1A ซึ่งมากพอที่จะชาร์จ iPad เลย ถ้ามี QuickCharge มาให้คงดี 555+
อุปกรณ์ต่อมาก็จะเป็นขายึดเครื่องกับหัวเบาะรถ และแผ่นรองหัวเบาะ
ต่อมาก็จะเป็นตัวเครื่องส่วนเรื่องขนาดเครื่อง ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเทียบขนาด เลยเอา Mix 3 มาวางเทียบไปก่อนครับ
ตัวเครื่องจะมีช่องลมดูดอากาศเข้าทั้งหมด3 ทาง และช่องลมออก 2 ทาง คือซ้ายและขวา
ด้านข้างก็จะมีโลโกMijia… ซึ่งพอติดตั้งเสร็จ ช่องลมจะต้องหันขึ้น และสัญลักษณ์Mijia ก็จะเป็นแบบนี้
ด้านข้างของอีกฝั่งก็จะเป็นฝาครอบเซนเซอร์วัดค่าฝุ่นแต่ไม่ได้ใช้เลเซอร์วัดเหมือน Xiaomi Air Purifier นะครับตัวเครื่องจึงบอกได้แค่ค่าฝุ่นโดยประมาณ ไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขอย่างละเอียดเหมือนเครื่องกรองในบ้านครับ
ใกล้ๆกันนั้นก็จะมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง พร้อมไฟสถานะต่างๆ ที่จะมีตั้งแต่สีเขียวที่บอกว่าอากาศดีที่มีค่าฝุ่นตั้งแต่ ต่ำกว่า 50 และไฟสีเหลือง ก็ตั้งแต่ 75-150และถ้าไฟสีแดงก็ตั้งแต่ 150 ขึ้นไปครับ
และเมื่อเรากดปุ่มในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน ก็จะเป็นเหมือนเป็นการเปลี่ยนความแรงพัดลมตามลำดับเช่นกดครั้งแรกก็จะเป็นโหมด Silent ต่อมาก็จะเป็น Standardและ Fast จนครั้งสุดท้ายจะเป็นออโต้แต่ผมแนะนำว่าปรับในแอพจะดีกว่า เพราะจะได้ไม่งงครับ
ต่อมาก็จะเป็นช่องเสียบไฟซึ่งพอติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งนี้จะอยู่ด้านใต้ของเครื่องครับ เท่ากับว่าติดตั้งในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว
ประเภทของหัวชาร์จก็จะคล้ายหรือเหมือนกับหัวชาร์จของโน๊ตบุ๊คACER หรือ ASUS เลยครับ 555+
ฝาด้านหลังก็จะมีสเปกคร่าวๆบอกเอาไว้ครับ
การเปิดฝาเพื่อเปลี่ยนใส้กรองก็ทำได้เหมือนกับเครื่องกรองอากาศในบ้านเลยครับ
แต่การดึงใส้กรองออกมานั้นต้องดึงด้วยสองมือครับจะดึงมือเดียงก็ได้ แต่ต้องดึงอีกข้างพอสุดแล้วก็มาดึงอีกข้างครับ ทางที่ดีดึงด้วยสองมือจะจบกว่าครับ 555+
ส่วนเรื่องใส้กรองเท่าที่ผมดู คือมันไม่มีชั้นคาบอน แลยคิดว่าตัวนี้ไม่สามารถกรองกลิ่นได้ครับส่วนชนิดของกรองจะเป็น Class H-11 ถึงจะไม่ถึง HEPA แต่ถือว่าเพียงพอที่จะกรองฝุ่น PM2.5,PM0.5,PM0.3 ได้ครับไม่ต้องห่วง
และเมื่อเราถอดไส้กรองอากาศออกมาก็จะเจอกับใบพัดลมแบบนี้เลยครับซึ่งจะเหมือนกันทั้ง 2 ฝั่ง
ด้วยที่ฝาหลังที่มีเขี้ยวบนล่างเหมือนกันบางทีอาจจะทำให้เราสับสนได้เวลาเราจะปิดฝา เค้าก็เลยมีจุดมาให้สังเกตว่าจุดต้องตรงกันตรงนี้ถึงจะปิดได้ก็ถือว่าเป็นการใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยให้กับผู้ใช้ได้ดีครับ
ในส่วนของการติดตั้งผมแนะนำว่าให้ดูวีดีโอจะเข้าใจง่ายกว่าครับ แต่ผมก็จะอธิบายคร่าวๆ ให้ฟังแล้วกันครับรถที่ผมใช้จะเป็น Toyota Vios ปี 2010 รุ่น G Limitedซึ่งรุ่นนี้จะสามารถพับเบาะลงมาได้ แต่ถ้ารุ่นย่อยอื่นเช่น J E ก็จะพับเบาะไม่ได้ครับ แต่ไม่ใช่ปัญหาครับผมมองว่าเราแค่เดินสายไม่ให้เห็นสายก็พอครับ ของผมเดินสายแล้วซ่อนหลังเบาะครับ
ภาพนี้จะเป็นฝั่งเบาะหลังด้านขวานะครับสังเกตว่าสายไฟผมเดินมาจากหลังเบาะแล้วหายไป
ภาพนี้มันก็จะดูสกปรกนิดนึงนะครับ555+ ผมถอดฝาครอบที่เป็นส่วนที่กันรอยของขอบประตูออกแล้วเดินสายไปด้านหน้าที่ต่อไปจะเป็นเข็มขัดนิรภัยครับ
จริงๆแล้วไม่ต้องทำแบบผมก็ได้ครับ แค่ยัดสายเข้าไปตามช่องว่างก็ได้ครับ แต่ของผม พอมาถึงขั้นตอนนี้ผมถอดฝาครอบชุดเข็มขัดนิรภัยคนขับออกมาแล้วเดินสายให้เป็นระเบียบแค่นั้นครับซึ่งการถอดไม่ต้องใช้ไขควงหรืออะไรเลย ใช้แค่มือเรางัดมันออกมา แต่ก่อนจะงัดชิ้นพลาสติกออกมาให้แกะยางของประตูออกมาก่อนนะครับแกะแค่พอเราแกะชิ้นส่วนที่ต้องการ ไม่ต้องแกะออกมาหมดครับ เดี๋ยวจะใส่คืนไม่ได้ลำดับในการแกะของรถส่วนใหญ่ก็จะต้องแกะแผ่นรองกันรอยตรงขอบประตูออกก่อนแล้วตามด้วยยางขอบประตูครับ ถึงจะถอดชิ้นส่วนอื่นๆ ต่อได้
ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบอย่างละเอียดครับ
ต่อมาอันนี้ก็จะเป็นประตูฝั่งคนขับซึ่งผมทำวิธีเดียวกันกับประตูหลังเลยครับ
***ขอย้ำนิดนึงครับคือ Vios Gen 2 ที่จุดบุหรี่จะอยู่ตรงกลางรถข้างๆ เบรกมือเลยผมเลยสิ้นสุดการเดินสายไฟที่จุดนี้ครับ สำหรับรถรุ่นอื่น จะเดินแบบนี้ก็ได้ครับแล้วกองสายส่วนที่เหลือไว้ใต้เบาะคนขับแล้วม้วนสายเก็บให้ดี แล้วลากมาต่อที่จุดบุหรี่คอนโซลหน้ารถก็ได้ครับ**
ผมเองก็พันสายไฟเก็บไว้ที่บริเวณนี้ครับ
***ขั้นตอนนี้ผมอยากเตือนนิดนึงครับผมแนะนำว่าให้เอาปลายที่เป็นหัวเสียบของเครื่องกรองร้อยผ่านรางเบาะก่อน แล้วค่อยเดินสายไปที่หลังรถนะครับ เพราะไม่งั้นพอถึงขั้นตอนี้แล้วเราจะเอาหัวที่จุดบุหรี่ ยัดใต้รางเบาะนั่งไม่ได้ครับ เพราะมันใหญ่เกินไป***
อย่างที่ผมบอกไปครับว่ารถผมที่จุดบุหรี่อยู่กลางรถแต่รถรุ่นนี้ไม่มีที่จุดบุหรี่ติดรถมาให้ครับ 555+ และที่หัวของปลั๊กก็มีช่อง USBมาให้อีกช่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากครับเพราะผมจะได้ไม่ต้องไปซื้อตัวพ่วงมาอีกให้มันรถ
กล้องหน้ารถก็ยังใช้งานได้เหมือนเดิม(อยากอวด Yi Ultra Dash
[CR] รีวิว เครื่องกรองอากาศในรถ Xiaomi Mijia Car Air Purifier ดีมั้ย มันจำเป็นด้วยหรอ ภาค 2
ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไรมากครับบังเอิญเพื่อนบอกว่าซื้อมา แต่ผมยังไม่คิดจะซื้อเลยติดต่อขอยืมเพื่อนกะว่าจะมาทำรีวิว แต่พอคิดไปคิดมา ของแบบนี้มันใช้ระยะยาวถึงจะบอกความรู้สึกได้ ผมก็เลยต้องซื้อมาจนได้ ด้วยราคา 2800 บาท โดยประมาณ จาก Shopeeร้าน Xiaomilovers ครับ
ตอนแรกจะซื้อของร้าน Thaisuperphoneแต่ว่าต้องสั่ง แต่ร้าน Thaisuperphone ราคาเครื่องแค่2500 บาท ไม่รวมค่าส่ง ถือว่าถูกนะครับ กระทู้นี้อาจจะไม่ละเอียดหรือมีอะไรหลายๆอย่างขาดตกบกพร่องไปบ้างนะครับ ถ้ามีอะไรสอบถามก็ถามมาในคอมเมนท์ได้เลยนะครับ
ส่วนใครที่อยากดูเป็นวีดีโอพร้อมวิธีติดตั้งก็เชิญชมได้เลยครับ
V
V
V
V
V
เรามาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่าครับ
จริงๆ ยังมีกล่องอีกชั้นที่เป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลนะครับ ด้านนอกจะมีสติ๊กเกอร์ สเปกคร่าวๆ แปะอยู่ข้างกล่องครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา 555+ ส่วนหน้าตากล่องด้านในก็จะมีรูปเครื่องกรองอากาศแบบนี้แหละครับ ซึ่งรูปหน้ากล่องนั้นดูใหญ่กว่าเครื่องจริงครับ ตอนแรกผมก็ตกใจว่าเครื่องมันใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ ซึ่งพอแกะออกมาแล้วขนาดก็ถือว่ากำลังดีครับ ไม่ใหญ่จนเกินไป
สเปกคร่าวๆ ของ Xiaomi Mijia Car Air Purifier
Xiaomi MiJia Car Air Purifier หรือ เครื่องฟอกอากาศในรถของแท้จากเสี่ยวหมี่ ออกแบบระบบการไหลเวียนของอากาศแบบพัดลมคู่ ที่กรองอากาศได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมา CADR 60 ลบ.ม./ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3-7 นาที และยังสามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน แบบ real-time ผ่านบูลทูธ 4.1 และยังมาพร้อมกับตัวไส้กรอง 360 องศา ใช้วัสดุนำเข้าจากบริษัท Toray ของประเทศญี่ปุ่น คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5ไมครอนได้มากถึง 99.99%
คุณสมบัติ
สี : ดำ เหมาะสำหรับรถที่มีขนาดภายใน 4.2-7.2 ตารางเมตร
ออกแบบระบบการไหลเวียนของอากาศแบบพัดลมคู่ ที่กรองอากาศได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมา CADR 60 ลบ.ม./ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.-7 นาที
ใช้ตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับค่าอากาศอนุภาค Amphenol ของประเทศอเมริกา
ใช้มอเตอร์ DC Brushless ทำให้สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
ตัวเครื่องสามารถกรองอากาศเข้าได้ 3 ด้าน และวงจรการไหลเวียนของอากาศจากหลังไปหน้า
รถเก๋งใช้เวลากรองอากาศเพียง 3 ส่วนรถ SUV ใช้เวลา 5 นาที และรถตู้ 7 นาที
ไส้กรอง 360 องศา คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5ไมครอนได้มากถึง 99.99%
ตัวไส้กรองใช้วัสดุนำเข้าจากบริษัท Toray ของประเทศญี่ปุ่น
ชั้นไส้กรองด้านนอกใช้วัสดุ PET ที่จะช่วยกรองอนุภาคขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่น ผม ได้ 360 องศา
ชั้นไส้กรองด้านในใช้ H11-class คุณภาพสูง ที่ช่วยกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า PM2.5/PM0.3-0.5ไมครอน เช่น ละอองเกสรดอกไม้
สามารถเปลี่ยนไส้กรองได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดฝาหลัง ใช้เวลาเพียง 10 วินาที
เชื่อมต่อและควบคุมผ่านบูลทูธ 4.1
สามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน แบบ real-time
แจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรองผ่านทางสมาร์ทโฟน
ตัวเครื่องมีปุ่ม ปิด/เปิด, ไฟสถานะการทำงาน+คุณภาพอากาศ
แอพรองรับ ทั้ง Android และ iOS
ประหยัดพลังงาน ใช้ไฟน้อยสุดแค่ 6.5 วัตต์
แรงดันไฟฟ้า 12V DC
มีโหมดการทำงานเงียบ เสียงเบาเพียง 42dB(A)
ความยาวสายชาร์จ 4.5 เมตร (เสียบกับช่องจุดบุหรี่)
ขนาด สูง 12 x กว้าง 12 x ยาว 38 cm. ขนาดไส้กรอง 22.8 x 9.3cm.
**ไส้กรองเครื่องฟอกอากาศในรถ โดยมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มากกว่า 4,000 ชั่วโมง**
อุปกรณ์ภายในกล่อง
Xiaomi MiJia Car Air Purifier x1
ไส้กรอง x1
ตัวยึดเครื่องกรองอากาศกับเบาะ x1
สายชาร์จยาว 4.5 เมตร x1
แผ่นหนังรองศีรษะ x1
คู่มือ x1
เมื่อเราเปิดกล่องด้านบนเราก็จะเจอกับคู่มือก่อน...ก็ควรจะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว 555+
ต่อมาเราก็จะเจอกับกล่องหัวชาร์จไฟที่มีความยาวประมาณ 4.5 เมตร
และด้านที่ต่อกับที่จุดบุหรี่ของรถก็จะมีช่อง USB มาให้ด้วย ซึ่งถือว่าดีมากครับเผื่อใครมีกล้องหน้ารถ อย่างเช่นผม ก็ไม่ต้องไปหาซื้อที่ต่อพ่วงที่จุดบุหรี่อีก
ซึ่งช่องUSB ที่ให้มานั้นสามารถปล่อยไฟได้ที่ 5V 2.1A ซึ่งมากพอที่จะชาร์จ iPad เลย ถ้ามี QuickCharge มาให้คงดี 555+
อุปกรณ์ต่อมาก็จะเป็นขายึดเครื่องกับหัวเบาะรถ และแผ่นรองหัวเบาะ
ต่อมาก็จะเป็นตัวเครื่องส่วนเรื่องขนาดเครื่อง ผมก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาเทียบขนาด เลยเอา Mix 3 มาวางเทียบไปก่อนครับ
ตัวเครื่องจะมีช่องลมดูดอากาศเข้าทั้งหมด3 ทาง และช่องลมออก 2 ทาง คือซ้ายและขวา
ด้านข้างก็จะมีโลโกMijia… ซึ่งพอติดตั้งเสร็จ ช่องลมจะต้องหันขึ้น และสัญลักษณ์Mijia ก็จะเป็นแบบนี้
ด้านข้างของอีกฝั่งก็จะเป็นฝาครอบเซนเซอร์วัดค่าฝุ่นแต่ไม่ได้ใช้เลเซอร์วัดเหมือน Xiaomi Air Purifier นะครับตัวเครื่องจึงบอกได้แค่ค่าฝุ่นโดยประมาณ ไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขอย่างละเอียดเหมือนเครื่องกรองในบ้านครับ
ใกล้ๆกันนั้นก็จะมีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง พร้อมไฟสถานะต่างๆ ที่จะมีตั้งแต่สีเขียวที่บอกว่าอากาศดีที่มีค่าฝุ่นตั้งแต่ ต่ำกว่า 50 และไฟสีเหลือง ก็ตั้งแต่ 75-150และถ้าไฟสีแดงก็ตั้งแต่ 150 ขึ้นไปครับ
และเมื่อเรากดปุ่มในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน ก็จะเป็นเหมือนเป็นการเปลี่ยนความแรงพัดลมตามลำดับเช่นกดครั้งแรกก็จะเป็นโหมด Silent ต่อมาก็จะเป็น Standardและ Fast จนครั้งสุดท้ายจะเป็นออโต้แต่ผมแนะนำว่าปรับในแอพจะดีกว่า เพราะจะได้ไม่งงครับ
ต่อมาก็จะเป็นช่องเสียบไฟซึ่งพอติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งนี้จะอยู่ด้านใต้ของเครื่องครับ เท่ากับว่าติดตั้งในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว
ประเภทของหัวชาร์จก็จะคล้ายหรือเหมือนกับหัวชาร์จของโน๊ตบุ๊คACER หรือ ASUS เลยครับ 555+
ฝาด้านหลังก็จะมีสเปกคร่าวๆบอกเอาไว้ครับ
การเปิดฝาเพื่อเปลี่ยนใส้กรองก็ทำได้เหมือนกับเครื่องกรองอากาศในบ้านเลยครับ
แต่การดึงใส้กรองออกมานั้นต้องดึงด้วยสองมือครับจะดึงมือเดียงก็ได้ แต่ต้องดึงอีกข้างพอสุดแล้วก็มาดึงอีกข้างครับ ทางที่ดีดึงด้วยสองมือจะจบกว่าครับ 555+
ส่วนเรื่องใส้กรองเท่าที่ผมดู คือมันไม่มีชั้นคาบอน แลยคิดว่าตัวนี้ไม่สามารถกรองกลิ่นได้ครับส่วนชนิดของกรองจะเป็น Class H-11 ถึงจะไม่ถึง HEPA แต่ถือว่าเพียงพอที่จะกรองฝุ่น PM2.5,PM0.5,PM0.3 ได้ครับไม่ต้องห่วง
และเมื่อเราถอดไส้กรองอากาศออกมาก็จะเจอกับใบพัดลมแบบนี้เลยครับซึ่งจะเหมือนกันทั้ง 2 ฝั่ง
ด้วยที่ฝาหลังที่มีเขี้ยวบนล่างเหมือนกันบางทีอาจจะทำให้เราสับสนได้เวลาเราจะปิดฝา เค้าก็เลยมีจุดมาให้สังเกตว่าจุดต้องตรงกันตรงนี้ถึงจะปิดได้ก็ถือว่าเป็นการใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยให้กับผู้ใช้ได้ดีครับ
ในส่วนของการติดตั้งผมแนะนำว่าให้ดูวีดีโอจะเข้าใจง่ายกว่าครับ แต่ผมก็จะอธิบายคร่าวๆ ให้ฟังแล้วกันครับรถที่ผมใช้จะเป็น Toyota Vios ปี 2010 รุ่น G Limitedซึ่งรุ่นนี้จะสามารถพับเบาะลงมาได้ แต่ถ้ารุ่นย่อยอื่นเช่น J E ก็จะพับเบาะไม่ได้ครับ แต่ไม่ใช่ปัญหาครับผมมองว่าเราแค่เดินสายไม่ให้เห็นสายก็พอครับ ของผมเดินสายแล้วซ่อนหลังเบาะครับ
ภาพนี้จะเป็นฝั่งเบาะหลังด้านขวานะครับสังเกตว่าสายไฟผมเดินมาจากหลังเบาะแล้วหายไป
ภาพนี้มันก็จะดูสกปรกนิดนึงนะครับ555+ ผมถอดฝาครอบที่เป็นส่วนที่กันรอยของขอบประตูออกแล้วเดินสายไปด้านหน้าที่ต่อไปจะเป็นเข็มขัดนิรภัยครับ
จริงๆแล้วไม่ต้องทำแบบผมก็ได้ครับ แค่ยัดสายเข้าไปตามช่องว่างก็ได้ครับ แต่ของผม พอมาถึงขั้นตอนนี้ผมถอดฝาครอบชุดเข็มขัดนิรภัยคนขับออกมาแล้วเดินสายให้เป็นระเบียบแค่นั้นครับซึ่งการถอดไม่ต้องใช้ไขควงหรืออะไรเลย ใช้แค่มือเรางัดมันออกมา แต่ก่อนจะงัดชิ้นพลาสติกออกมาให้แกะยางของประตูออกมาก่อนนะครับแกะแค่พอเราแกะชิ้นส่วนที่ต้องการ ไม่ต้องแกะออกมาหมดครับ เดี๋ยวจะใส่คืนไม่ได้ลำดับในการแกะของรถส่วนใหญ่ก็จะต้องแกะแผ่นรองกันรอยตรงขอบประตูออกก่อนแล้วตามด้วยยางขอบประตูครับ ถึงจะถอดชิ้นส่วนอื่นๆ ต่อได้
ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบอย่างละเอียดครับ
ต่อมาอันนี้ก็จะเป็นประตูฝั่งคนขับซึ่งผมทำวิธีเดียวกันกับประตูหลังเลยครับ
***ขอย้ำนิดนึงครับคือ Vios Gen 2 ที่จุดบุหรี่จะอยู่ตรงกลางรถข้างๆ เบรกมือเลยผมเลยสิ้นสุดการเดินสายไฟที่จุดนี้ครับ สำหรับรถรุ่นอื่น จะเดินแบบนี้ก็ได้ครับแล้วกองสายส่วนที่เหลือไว้ใต้เบาะคนขับแล้วม้วนสายเก็บให้ดี แล้วลากมาต่อที่จุดบุหรี่คอนโซลหน้ารถก็ได้ครับ**
ผมเองก็พันสายไฟเก็บไว้ที่บริเวณนี้ครับ
***ขั้นตอนนี้ผมอยากเตือนนิดนึงครับผมแนะนำว่าให้เอาปลายที่เป็นหัวเสียบของเครื่องกรองร้อยผ่านรางเบาะก่อน แล้วค่อยเดินสายไปที่หลังรถนะครับ เพราะไม่งั้นพอถึงขั้นตอนี้แล้วเราจะเอาหัวที่จุดบุหรี่ ยัดใต้รางเบาะนั่งไม่ได้ครับ เพราะมันใหญ่เกินไป***
อย่างที่ผมบอกไปครับว่ารถผมที่จุดบุหรี่อยู่กลางรถแต่รถรุ่นนี้ไม่มีที่จุดบุหรี่ติดรถมาให้ครับ 555+ และที่หัวของปลั๊กก็มีช่อง USBมาให้อีกช่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากครับเพราะผมจะได้ไม่ต้องไปซื้อตัวพ่วงมาอีกให้มันรถ
กล้องหน้ารถก็ยังใช้งานได้เหมือนเดิม(อยากอวด Yi Ultra Dash
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้