คำสารภาพจากคนเกลียดเด็ก สู่มนุษย์แม่


จากผู้หญิงเปรี้ยวๆ ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีลูก (และเกลียดเด็ก) แต่...วันนี้กลายมาเป็นคุณแม่เต็มตัว เลยอยากจะขอมาแชร์เรื่องราวเพื่อเป็นกำลังให้มนุษย์แม่ทุกคนนะคะ ว่าคนที่ไม่ชอบเด็ก... วันนึง...พอเส้นทางในชีวิตเติบโตขึ้น เราก็เป็นแม่คนและรักเด็กได้เหมือนกันนะ

แนะนำตัว
สวัสดีค่ะ ชื่อเฟิร์นนะคะ ตอนนี้อายุ 30+ ปัจจุบันเป็น working woman คุณแม่ลูก 2
miniheart

ต้องเล่าก่อนเลยว่าเฟิร์นเป็นคนที่เกลียดเด็กมากๆ คือขึ้นชื่อในกลุ่มเพื่อนสนิทเลยว่าไม่ชอบเด็ก (และเพื่อนในกลุ่มก็ไม่อินกับเด็กเหมือนกัน) เฟิร์นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ชอบเด็ก แต่รวมๆ คืออารมณ์แบบคาดเดาไม่ได้ ไม่ชอบเสียงร้องไห้ ไม่ชอบเล่นมุ้งมิ้ง ฟีลประมาณหลายๆ คนที่ไปกด like page ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำคัญทุกคน อะไรทำนองนั้นเลยค่ะ

พอเรียนจบมามีแฟนอีกทีตอนอายุ 27 ก็คิดเรื่องอนาคต แต่ด้วยความที่คบกันแบบไม่เคยคุยเรื่องการแต่งงานกันตรงๆ (แต่คบแบบจริงจังนะคะ) แฟนก็ไม่เคยถามว่าอยากมีลูกไหม ตลอดเวลาที่คบกันแฟนก็ดูออกหล่ะ ว่าเฟิร์นไม่ชอบเด็กเท่าไหร่ เช่น เวลาไปร้านอาหารแล้วพอเห็นคนนั่งข้างโต๊ะๆ มีลูกมาด้วย หรือขึ้นเครื่องบินแล้วได้ยินเสียงเด็กร้อง ก็จะแบบหันไปมองหน้าแฟนแล้วยิ้มอ่อนๆ แล้วคนที่ไม่ชอบเด็กอย่างเฟิร์นก็ดั๊น.. ได้ทำงานที่บางครั้งต้องอยู่กับเด็ก ต้องไปถ่ายภาพ สัมภาษณ์เด็กๆ คือเฟิร์นก็ใจดีกับเด็กนะคะ แบบไม่เคยทำหน้ายักษ์หรือดุใส่ แต่ด้วยความที่เราไม่ชอบ ก็จะไม่อิน ไม่ไปเล่นด้วย แบบทำงานๆ ให้เสร็จพอ

จนคบกันแฟนมา 5 ปี เค้าก็ขอแต่งงาน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คุยกันเรื่องนี้จริงจัง แต่เราก็ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องลูก หลังจากที่แฟนขอแต่งงาน เราวางแผนจัดงานแต่งด้วยตัวเอง ประมาณเดือนพ.ค. 

(รีวิวงานแต่งของเฟิร์นค่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ต่อจากนั้นเดือนก.ค. เฟิร์นก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ คือพุงจะป่องๆ หน่อย แบบอึดอัดๆ ไม่สบายตัว ก็คิดไว้แล้วหล่ะว่าน่าจะท้องนะ แต่เร็วไปไหมอ่ะ (กรี๊ด... เพิ่งแต่งแค่เดือนกว่าๆ) คือยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ เฟิร์นรู้ว่าเค้าอยากมีลูกมากๆ เค้ารักเด็กมาก แฟนก็บอกว่าปล่อยเป็นตามธรรมชาตินะ แต่เราก็ไม่คิดว่าลูกจะมาเร็ว เลยเก็บความสงสัยไว้ และไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์

ตรวจการตั้งครรภ์ 3 รอบ

ครั้งที่ #1
หลังจากที่รู้สึกแปลกๆ ว่าท้องรึป่าวนะ (บอกไว้เลยนะคะ ว่ามันจะเป็นเซ้นต์ของผู้หญิง คืออยู่ๆ จะมีหน้าท้องขึ้นมา รู้สึกอืดๆ ไม่สบายตัว บอกไม่ถูก) ก็เลยไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจตอนพักเที่ยงที่ทำงานเลยจ้ะ (ใจร้อน) แต่พอรอซักพัก สรุปขีดขึ้นแค่ 1 ขีด ก็โทรบอกแฟนว่ายังไม่ท้องนะ ในใจก็แอบเสียใจนิดๆ (นี่ขนาดเกลียดเด็ก 555) แล้วเก็บที่ตรวจในถุงพลาสติกไว้เพื่อเอาไปทิ้งที่บ้าน ตอนเย็นก็เลยไลน์ไปบอกเพื่อนว่า เนี่ย..นึกว่าท้อง... แต่ว่าแค่อ้วน 555 แล้วระหว่างที่คุยกับเพื่อนก็เดินไปหยิบที่ตรวจจะเตรียมไปทิ้ง แกะมาดูจากถุงพลาสติกก่อนทิ้งอีกรอบ

เฮ้ย!! มันขึ้น 2 ขีดแบบจางๆ ตอนนั้น ตกใจ ดีใจ ช็อกมาก ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนดู ทุกคนในกลุ่มกรี๊ดดีใจกันหมด (ลืมเรื่องเกลียดเด็กไป 30 วิ) แต่อีกใจเราก็แอบกังวลว่าท้องจริงหรอ แค่ทำไมขีดไม่ขึ้นเลย หรือว่ามันทิ้งไว้นานสีเลยซึมรึป่าวนะ แล้วก็เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะกลัวบอกแฟนแล้วเค้าเสียใจ ถ้าลูกยังไม่มาจริงๆ


ครั้งที่ #2


หลังจากนั้น เฟิร์นกับแฟนต้องไปดูงานและไปเที่ยวที่ไต้หวัน ก็ซื้อที่ตรวจตั้งครรภ์มาอีก 1 อัน ตรวจตอนไหนจ้ะ... บนเครื่องเลยจ้า!! 5555 (อารมณ์มโนเหมือนอยู่ในหนังรักโรแมนติก ซีนเซอร์ไพรส์แฟนบนเครื่อง กอดกันกลมพร้อมแท่งฉี่ 5555) แต่ดั๊นไม่มีจังหวะ! เพราะเครื่องออกประมาณเที่ยงคืน (ง่วงซิคะ) เฟิร์นเลยได้ไปเข้าห้องน้ำก่อนเครื่อง landing ในตอนเช้า นาทีนั้นคงรีบชิ้งฉ่องมากไปหน่อย เข้าใจอารมณ์ไหมคะ ว่าเครื่องบินก็สั่น แถมกัปตันก็ประกาศให้นั่งประจำที เอาไงดีๆ กลายเป็นว่ารีบชิ้งฉ่องไปหน่อยจนเครื่องวัดค่าไม่ได้ 555... สรุปขึ้นแค่ 1 ขีด ไม่ท้องค่า หนังรักโรแมนติกก็จบลงเท่านี้

ครั้งที่ #3
วันที่ 2 ของทริปไต้หวัน พอได้จังหวะ เฟิร์นเลยขอแวะเข้าร้านยาซะหน่อย จะแอบแฟนนางก็เดินตามมาตลอด ก็เลยบอกนิ่งๆ ว่าซื้อเผื่อไว้ แล้วพอเช้าวันที่ 3 ก็รีบตื่นไปชิ้งฉ่อง (ขอบอกว่ารอบแรกตอนเช้าฮอร์โมนแม่มาเต็มสุดนะจ๊ะ)
สรุป... 2 ขีด OMG !!!!
โมเม้นท์นั้นคือดีใจมาก เดินไปนอนกอดแฟน ปลุกให้ตื่น แล้วบอกว่า ตั้มจะเป็นพ่อคนแล้วนะ (อ่อ ลืมบอก สามีชื่อตั้มค่า) ดีใจนอนกอดกันกลมเลยทีเดียว หลังจากรู้ว่าท้อง ก็เที่ยวไต้หวันแบบชิลมากก กินปลาดิบ กินกาแฟ เดินขึ้นเขา คิดว่าชีวิตไม่ต้องเปลี่ยนอะไร เป็นคุณแม่สายชิล จนกลับกทม. ไปนัดคุณหมอตรวจการตั้งครรภ์อีกรอบ ความชิลจึงหมดไป ความเป็นมนุษย์แม่จึงเข้าครอบงำในที่สุด

ภาพตอนไปไต้หวันค่ะ นน. 45 ในตอนนั้น ผ่านไป 1 ปีแล้วยังไม่กลับมาาาาาาาาาาาาาาาาาา....... 
เพี้ยนเซ็งเป็ด

ตรวจครรภ์
จะบอกว่าการตรวจครรภ์สมัยนี้ไม่ใช่ ตรวจฉี่แล้วนะคะ แต่เป็นการเจาะเลือดที่ได้ผลที่แม่นยำกว่า ก็เจาะเลือดไปแล้วรออีกประมาณ 2 อาทิตย์มาพบหมออีกที (นี่ต้องรออีก...เง้อ)

ยินดีด้วยค่ะ คุณกำลังตั้งท้อง

ประโยคนี้ ไม่มีหมอคนไหนพูดนะคะ 555 ลบภาพละครหลังข่าวไปเลยค่ะ จะมีแต่บอกว่าดูจากผลการตรวจแล้วนะคะ แล้วหมอก็พูดอะไรที่เราไม่เข้าใจ (ประมาณการอ่านค่าต่างๆ) แล้วสรุปว่า ตั้งครรภ์ค่ะ โอเคค่ะคุณแม่ขึ้นเตียงเลยนะคะ (ห๊ะ!!!) ค่ะ คุณแม่ขึ้นเตียงเลยค่ะ เดี๋ยวหมอจะซาวน์ให้ดูน้องค่ะ (ห๊ะ!!! แบบออกเสียง)  จุดๆ นี้ คุณแม่ทุกคนต้องเตรียมตัว เตรียมใจนะคะ เพราะมันคือการส่องกล้องไปตรวจภายในค่า

แล้วหมอก็ให้ดูภาพลูกในท้อง ซึ่ง....คือเม็ดถั่ว (5555)  ดูไม่ออกเลยจ้า แค่ 5 มิลเท่านั้น แต่พอหมอให้ฟังเสียงหัวใจเท่านั้นหล่ะ โหย... ซีนดราม่าก็มา น้ำตาไหลพรากเลยค่า สามีเห็นภาพนั้นยังตกใจ 55 ว่ามีเมีย sensitive เรื่องลูกด้วย อ้าว.. นี่เกลียดเด็กไม่ใช่หรอ ทำไมมีโมเม้นท์น้ำตาคลอ

คือพอได้ยินเสียงหัวใจลูก เต้นตุ้บๆ ตุ้บๆ ตุ้บๆ แล้วเรารับรู้ได้ถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตจิ๋วๆ นี้ (เว่อร์ไหม) คือแบบเออ ในพุงของชั้นนี่มีเด็กอยู่นะ เค้ามีชีวิต มีเสียงหัวใจเต้น อยู่ดีๆ ก็ตื้นตัน มีความสุขแบบบอกไม่ถูก คนที่ได้ฟังเสียงหัวใจลูกครั้งแรกน่าจะรู้สึกเหมือนกันนะคะ มันพิเศษมากๆ พังทลายทุกอย่างกำแพงความเกลียดเด็ก ในใจคิดแม่จะยอม งดกาแฟ ปลาดิบ ทุกอย่างเพื่อหนูจริงๆ นะลู๊กกกก เจ้าเม็ดถั่วของแม่


หลังจากนี้จะเล่าแบบรวบตึงนิดนึงนะคะ เพราะเฟิร์นเองก็ไม่ได้ถ่ายภาพโมเม้นต์ตอนท้องไว้แบบคนอื่นๆ (จริงๆ จะบอกว่าถ่ายเก็บไว้ก็ดีนะคะ โน้ตพวกอาการต่างๆ ด้วยเพราะบางทีเราก็ลืมๆ จะได้ให้คำแนะนำเพื่อนหรือเก็บข้อมูลสำหรับคนที่ 2 ไว้ก็ดี)

ปล.
**เฟิร์นไปหาคุณหมอสูติ ที่รพ.ธนบุรี ชื่อคุณหมอสุภางค์ เจอกันแล้ว มาคุยกับแฟนว่าฝากครรภ์กับคนนี้หล่ะ หมอเป็นแนววัยรุ่น สบายๆ คุยกันถูกคอ
**คนท้องนับเป็นวีค ไม่ได้นับเป็นเดือน***
***สมุดบันทึกการตั้งครรภ์สีชมพู ทวงจากพยาบาลด้วย*** / ล่าสุดของรพ. ธนบุรี เปลี่ยนเป็นสมุดของตัวเองสีขาวฟ้า ไฮโซดูดี อันนี้พยาบาลให้เองตอนวีคที่ 10 ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่