เนื่องจากวันลา อันจำกัด และ วันเที่ยว ไม่แน่นอนนัก ประจวบกับ สายการบิน มาเก๊า ออกโปรโมชั่นไป - กลับ จากกรุงเทพ ในราคา 4,8xx บาท เลยทำให้ ผม ตัดสินใจแบบ เห็นปุ๊ป ดึงบัตรปั๊ป แล้วก็ จองโรงแรม หาข้อมูลภายในเวลา 1 เดือนหลังทำการจอง
โดยการจอง จองผ่าน เว็บไซต์ ของ Ar-pae.com ซึ่งทั้งปีที่ผ่านมาจะมีโปรโมชั่นเยอะมาก ลองหาดูแล้วแต่ช่วงเวลานะ
สำหรับการเดินทาง ตามนี้เลย ดูที่เวลาเดินทางเป็นหลัก วันนี้ไปดึงจากหน้าเว็บ ช่วงที่ผมเดินทาง คือ คืน วันศุกร์ และ กลับ วันอาทิตย์ สำหรับคนที่เวลาจำกัด และ ไม่ต้องการจะเสียเงินเยอะ มาเก๊า น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
สำหรับการเตรียมตัวนั้นไม่มีอะไรมากเลย
- ห้องพัก เนื่องจาก มาเก๊า เป็นเกาะขนาดเล็กที่อยู่ในเขตปกครองตนเอง และ เป็นเขตเศรษฐกิจของจีน ทำให้ราคาห้องพ้ก ค่อนข้างสูงขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการเดินทางของแต่ละคน แนะนำ ให้หาห้องพักที่ใกล้ ๆ กับ จัตุรัส เซนาโด ซึ่งเอาจริง ๆ แล้ว จุดสำคัญ อยู่ในละแวกนั้นและไม่ไกลกันมาก สามารถเดินได้แบบไม่ลำบาก
- ปลั๊กไฟ สามารถเอาสายชาร์จของบ้านเราไปชาร์จได้เลย
- สภาพอากาศ เหมือนเมืองไทยมี ร้อน ฝน แดด ลม มาครบ
- การเดินทาง หลักคือ รถประจำทาง ที่ตรงเวลา วิ่งไว และ รวดเร็ว
- วีซ่า ฟรีไม่ต้องขอ ยกเว้นจะเดินทางต่อไปยัง เซิ่นเจิน ประเทศจีน
- แลกเงิน แนะนำให้แลกเป็น เหรียญฮ่องกง เนื่องจาก คาสิโน ที่นั้นไม่รับ ธนบัตรของมาเก๊า แต่ร้านค้าทั่วไปทั้งเกาะรับทั้ง เมาเก๊า และ ฮ่องกง เนื่องจากค่าเงินของทั้ง 2 ประเทศเท่ากัน แต่ คนไทย อย่างเรา ๆ จะเสียเรทต่างกัน ถ้าใครทำใจว่าไม่เข้า คาสิโนได้ ก็แลก มาเก๊าไปเลยยาว ๆ

ขอข้ามพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แต่จะเน้น ตรงเช็คอินว่า เคาเตอร์เช็คอินจะเปิดก่อนเวลาเดินทาง 3 ชั่งโมง ซึ่งคนต่อแถวเยอะมากเช่นกัน แต่รับรองทันแน่นอน

การเดินทาง โดยใช้สายการบิน แอร์มาเก๊า สามารถโหลดกระเป๋าได้ 20 กิโลกรัม มีอาหาร และ เครื่องดื่มบริการบนเครื่อง แต่จะไม่บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นะครับ (ถ้าผมจำไม่ผิดไม่มีใครได้บริการเลยมั่ง เพราะหลังจากทานอาหารเสร็จ ผมหลับเลย) หน้าตาอาหารก็จะเน้นอาหารจีน เป็นหลักที่ผมได้เป็น ผัดเส้นก๋วยเตี๋ยวกับเนื้อปลา+กุ้ง ก็ตามประสารถชาติของอาหารจีนสำหรับก็อิ่ม แต่ถ้าได้ มะนาว กับ พริกป่นนี้ ฟินไปอีก

หลังจากเครื่องแตะที่ สนามบินนานาชาติ มาเก๊า ก็ผ่านพิธีการซึ่งแถวไม่ยาว ไม่ถามเลย ดู พาสสปอร์ต แล้วก็ปรินทร์ เอกสารมาให้ ตามที่เห็นนี้เลยครับ
ไม่มีการแม๊ก หรือ แม้แต่ เทปใส ปิดให้เลยนะ ถ้าร่วงละก่อ งานเข้า อันนี้ต้องเก็บไว้ให้ดีนะ ซึ่งทางการ มาเก๊า อนุญาตให้พำนักได้ เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม


ในช่วงที่เดินไปยัง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทุกท่านจะเห็นป้ายบอกทาง เพื่อ เดินทางต่อไปยัง ฮ่องกง และ จีนแผ่นดินใหญ่ แบบนี้เลย


ด้วยความที่อยากจะทำให้ทริปนี้ประหยัดที่สุด เครื่องลงประมาณ ตี 1 หาที่นอนเป็นเก้าอี้ในบริเวณนั้น ผล คือ นอนลำบากพอควร และ มีเสียงรบกวนตรวจเวลา ซึ่งเอาจริง ๆ ไม่อยากแนะนำให้ทำแบบผมนะ แต่ในเมื่อเป็นแผน แบ็คแพคนะเว้ยเห้ย นอนตรงไหนก็ได้ สุดท้ายก็เผลอหลับไปประมาณ 4 ชั่วโมง จนช่วงเช้าที่กลุ่มขาออกนอกประเทศเริ่มมาเช็คอิน เสียงนี้ ลั่นเลย จำใจต้องตื่น และ ล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน เตรียมตัว เดินทางไป มาเก๊ากันได้เลย

เช้าวันเสาร์ ซึ่งนับเป็น วันที่ 1 ของการ ผจญภัย ในมาเก๊า แบบ คนเดียว มีการทำการบ้านมาแล้วว่าจะไปที่ไหนบ้างก็ จุดสำคัญ แผนผมไปไหนบ้าง
1. จัตุรัส เซนาโด
2. ซากโบสถ์ เซ็นต์พอล หรือ Ruins of St. Paul
3. รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมกลางทะเล
4. วัดอาม่า
5. คาสิโน เวนน์
6. คาสิโน เลอบัว
7. คาสิโน ปารีสเทีย
8. คาสิโน เวเนเทียน
เห็นจากรายชื่อแล้ว อย่าคิดว่าผมเป็นผีพนัน นะ แต่เนื่องจาก คาสิโน ที่บอกมาทั้งหมดนี้ คือ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งเชิดหน้าชูตาของคนมาเก๊า เพราะในสถานที่เหล่านี้ มีงานศิลปะเยอะมาก โดยเฉพาะ เวนน์ และ เวเนเทียน (อันนี้เค้ามีแม่น้ำอยู่ในตัวอาคารซึ่งหลายคนเรียกว่า เวนิส ของ มาเก๊า)
สรุปที่ได้ไปนั้น เอาภาพมาเล่ากันดีกว่าครับ จะได้ไม่ยาวไปกว่านี้

ซากปราการเซ็นต์พอล อยู่ใกล้ กับ จัตรัสเซนาโด เดินทะลุกันได้เลย 


พิพิทธภัณฑ์มาเก๊า หันหน้าเข้า ป้อมปราการเซนต์พอลจะอยู่ขวามือ 


ด้านในของ พิพิทธภัณฑ์มาเก๊า เสียค่าเข้าที่ 15 MOP 


ป้อมปราการ Mount Fortress หันหน้าเข้า ป้อมปราการเซนต์พอลจะอยู่ขวามือ อยู่ชั้นบนสุดของ พิพิทธภัณฑ์มาเก๊า 


โบส์ถ เซนต์ดอมินิค จะอยู่ระหว่างทางเดินทาง เซนต์พอล ไป จัตุรัส เซนาโด เดินประมาณ 7-10 นาทีก็ถึงแล้ว


จัตุรัส เซนาโด เอาจริงแล้วเหมือนแหล่งศูนย์กลางของมาเก๊า ร้านขายของเยอะมาก ของกิน ของใช้ เต็มไปหมด


คาสิโน แกรนด์ ริสบัว กลางคืนสวยมาก


เดินทาง ต่อไปอีกนิดก็จะเจอกับ ตึก เวนน์ ข้างในมีการแสดงเสียงสีแสง ในชื่อว่า ต้นไม้แห่งชีวิต


วัดอาม่า


เวเนเทียน

สถานที่เที่ยวมาใน มาเก๊า ก็จะอยู่ประมาณนี้หล่ะครับ

เคล็ดลับการอยู่ในรอดใน มาเก๊า เทคนิคนี้จะนำไปใช้ก็ได้เลยนะ
1. ร้านอาหารตามรีวิว ทานได้แต่ไม่ควรทุกมื้อ และ Rare Item จะสามารถพบได้ตาม ซอก ซอย ซึ่งเยอะมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยง ในรอบบริเวณ จัตุรัส ซานนาโด ลองแกล้งหลงเดินเข้าไปสักซอย ได้เรื่องแน่นอน ซึ่งอันนี้รับรองว่า อร่อย และ ดี รับรองได้ เพราะร้านตามรีวิว คนเยอะ ต้องรีบกิน รีบไป ต่อแถวนาน
2. ร้านซุปเปอร์มาเก็ต ท้องถิ่นก็อยู่ในบริเวณซอกหลีบอีกเช่นกัน โดยเฉพาะร้าน K Minimart ไปเจอ เบียร์มาราคาถูกมาก ถูกกว่า 7-11 เยอะอยู่นะ
3. ควรหาขวดน้ำเปล่าติดตัวไว้หน่อยก็ดีครับ แต่ถ้าหิวน้ำจริง ๆ เดินเข้าคาสิโนไปเลย มีมากกว่าน้ำเปล่าด้วย
4. ผู้คนนอกแหล่งท่องเที่ยว ภาษาอังกฤษ คือ 0 นะอย่าคาดหวัง จิ่มเอาเลยอยากทานอะไร อย่างน้อยมีคู่มือภาษาจีนไปสักหน่อยก็ดีนะ
5. พกดวงไปเยอะ ๆ หน่อย การเล่น การพนันเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำ แต่ถ้ามีโชคขึ้นมา ก็เหมือนได้ไปเที่ยวฟรีเลย
6. เสื้อผ้า แบรนด์เนม หลายที่ต้องระวังนะ เพราะเป็นของเลียนแบบ ซึ่ง มาเก๊าอยู่ตรงข้ามกับจีนแผนดินใหญ่ บอกเลยว่า ต้องดูดี ๆ ไปเจอเสื้อ Champion ในราคา 800 กว่าบาท และ แน่นอนว่า ปลอมมาแต่ไกลเลย แต่ถ้าเป็น Shop ใน คาสิโน อันนี้ของจริงแน่นอน
7. พยายามเดินหาตลาดสด บอกเลยว่า ได้อารมณ์เหมือนบ้านเราเลย และ ราคาถูกมาก และที่เจอมามีแต่ของอร่อย จะพยายามลงรูป ตลาด และ ร้านอาหารข้างทางให้ดูนะครับ
8. เส้นทางรถฟรี จาก คาสิโนหนึ่งไปอีกหคาสิโนนึ่ง ร่วมไปถึง จากบ่อนไปท่าเรือ จากบ่อนไปสนามบิน มีหลายโรงแรมให้บริการและ สะดวกมาก จาก ท่าเรือ ไปโรงแรม เลอบัว, จากสนามบิน ไปเวเนเซีย แล้วจาก เวเนเซียไปท่าเรือ, จะวนลักษณะนี้ซึ่งก็จะประหยัดไป 24 บาท แต่ถ้านั่งจาก สนามบินก็ต่อเดียวไม่ยุ่งยาก แต่ถ้าหากนับเป็นการแวะเที่ยวด้วย ที่ เวเนเทียน กับ ปารีสเซียน ถือว่าเด็ดเลยหล่ะ
สุดท้ายแล้ว มาเก๊า อยู่กึ่งกลางระหว่าง ฮ่องกง กับ จีนแผ่นดินใหญ่ ถ้าวางแผนดี ๆ สามารถไปได้ ถึง 3 ประเทศในทริปเดียว และ ตั่วเครื่องบินของสายกินบินแห่งชาติมาเก๊าก็ดูจะเข้าท่าหน่อย แต่ถ้าจะลงที่ จีน แล้วข้ามมา มาเก๊า แล้ว ไปจบที่ฮ่องกง ก็ได้อีกเช่นกันวางแผนดี ได้ไปครบ 3 ประเทศเลยนะ

มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
พยายามหาตลาดสด และ ร้านข้างทาง ให้ได้มากที่สุด เพราะราคาต่างจากร้านดัง และ ร้านรีวิว เยอะ รวมถึง อาหารบ้างรายการ รสชาติดี และ เยอะมาก ผมไปเจอมา 2 ตลาด ส่วนชื่อนั้น ห้ามถามนะ บอกเลยว่า ไม่รู้จริง ๆ


ได้ ส้มมาจากร้านนี้ 5 ลูก และ ลูกไหน อีก 3 ลูก รวมราคาแล้ว 11 MOP คูณ 4 กลม ๆ ไปเลยครับ


ร้านชื่อดัง ตาม รีวิว ชื่อ Chan Kong Kei เป็นร้านข้าว หน้าหมูแดง หมูย่าง เป็ด ไก่ หมูกรอบ สำหรับผมแล้ว ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เค็มไป


ร้านนี้ คือ Rare Item ในดวงใจ ที่อยากให้ทุกคนไปลองกัน ไม่รู้จักชื่อร้าน และ ชื่อ อาหาร แต่การเดินทางไปร้าน ให้ เดินข้ามถนน จากจัตุรัสเซนาโด ไปอีกฝั่งแล้วหันหลังให้กับน้ำพุ จากนั้นเดินไปทางขวามือ ประมาณ 150 - 200 เมตร ร้านจะอยู่ตรงหน้าปากซอยฝั่งนั้นสังเกตุที่มีคนเข้าแถวเยอะ ๆ ร้านนี้พูดภาษาอังกฤษได้โดยจะเป็นผู้หญิงวัยกลางคน เมนูที่ผมสั่ง โดยการชี้ไปที่ อาหาร นั้น ได้แก่ เครื่องในวัว, ผัก, ปลาหมึก ตามภาพด้านล่างอีกภาพ ลักษณะของอาหารจานนี้ คือ เป็น เครื่องในวัว และ มีส่วนประกอบของไก่ รวมไปถึงผัก และ ลูกชิ้น ที่ต้องเอาไปจุมลงในน้ำที่เดือด ๆ ตามภาพ กลิ่นของเครื่องในไม่คาว และ ไม่เหนียว มีความกรอบนิด ๆ น้ำซอสไม่เลี่ยน กลิ่นหอมคล้ายเครื่องเทศ แต่ไม่ฉุน เหมือนบ้านเรา ร้านนี้ คือ ดีจริง ๆ ครับ ส่วนราคานั้นจำไม่ได้จริง ๆ แต่ไม่แพงมาก คุ้ม และ อร่อยจริง ๆ


หน้าตา อาหารจานนี้ ทานกับ เบียร์ ซิงเตา นี้คือ เด็ดดวงจริง ๆ 


เบียร์ ซิงเตา จากจีนแผ่นดินใหญ่ บ้านเราก็มีขายนะ


ต่อไป เป็นร้าน ขนมจีบ ซาลาเปา โจ๊ก และ ลูกชิ้นปลา พิกัดร้านนี้ ครั้งนี้ให้หันหน้า เข้าทาง น้ำพุ ของ จัตุรัส แล้วเดินขวามือทางไปโรงแรม รีสบัว เดินไปประมาณ 150 เมตร ร้านจะอยู่ตรงมุม เป็นร้านของผู้หญิง และ ผู้ชายขายด้วยกัน สั่งแค่ ขนมจีบ 5 ลูกในราคา 20 MOP ราคาสูงอยู่นะ รสชาติไม่ได้ดีมากมายจนว้าว เนื้อไส้แน่น น้ำจิ่มเปรี้ยว ๆ หวาน 


หน้าตาอาหารครับ 


ต่อไปเป็นร้าน ก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่รู้จักชื่อ เดินจากวัดอาม่า หันหน้าเข้าวัด เดินทางซ้ายมือ จากหน้าวัดอาม่ามาประมาณ 1 ก.ม. จะเจอตลาดก่อน ซึ่งก็มีของสด ทั้ง ผลไม้ ผัก หมู ดอกไม้ ร้านก๋วยเตี๋ยวจะอยู่บนศูนย์อาหาร ลักษณะเป็นการรวมร้านอาหารให้มาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ร้านอยู่ชั้น 2 เปิดประตูไปแล้วเดินทางซ้ายร้านจะอยู่ร้านที่ 2 หรือ 3 จากประตู ราคาจานนี้ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 46 MOP ใส่เยอะมากหลายอย่าง ผมทานไม่หมดจริง ๆ อิ่มมาก คนขายใจดีบอกว่าใส่ถุงไหมจะได้เอาไปกินต่อได้ ใจจจริงก็อยากได้ แต่ Hostel ไม่มีถ้วยอ่ะ