1. เพลงประกอบแนว R&B เพลง Rap และเพลงบรรเลงแนว Rock จะมีให้ฟังตลอด ในฉาก แข่งรถ
2. โคโยตี้สาวสวย อกใหญ่ ก้นดก โผล่มาเต้น ยั่วน้ำลายผู้ชายซึ่งมีทุกภาค ส่วนใหญ่จะโผล่มาตอนต้นเรื่อง ไม่ก็กลางเรื่อง
3. ฉากเปิดของหนังชุดนี้ทุกภาค จะเริ่มที่ฉากแข่งรถ ไม่ก็ฉากแอ็คชั่นที่เกี่ยวกับรถยนต์ แล้วฉากจบก็จะมานั่งกินบาร์บีคิวกัน ไม่ก็ไปเที่ยวชายหาด
4. รถคู่ใจคันออกลุยของสองพระเอก ดอม และ
ไบรอัน รถ Nissian Skyline สีน้ำเงิน และ รถ Dodge Challenger ปี 70 สีดำ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะเห็นมันทั้งสองแทบทุกภาค
5.
พี่ดอมของเราทุกภาคที่แกแสดงต้องมีบทพูดของแกที่ออกจะน้ำเน่าไม่ก็พูดซึ้งตลอดทุกภาค เช่น ภาคแรกที่พี่แกพูดกับไบรอันว่า "ฉันใช้ชีวิตทีละ 1/4 ไมล์ เรื่องอื่นไม่สำคัญ นอกนั้นฉันเป็นอิสระ" และอีกหลายประโยค (แม่ผมบอกพี่แกคารมณ์ดี สาวๆติด 55)
6. แฟรนไซส์เรื่อง Fast & Furious จริงๆ จะจบไว้ที่ไตรภาค เพราะ ภาน 2-3 รายได้ไม่ดี โดยเฉพาะภาคสาม Tokyo Drift ทางค่ายสตูดิโอ Universal ได้จัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แต่ด้วยฉากจบของหนัง ได้มีการนำดาราหลักจากภาคแรก Vin Diesel ในบทดอมมาโผล่ เรียกกระแสแฟนหนังได้เพิ่มขึ้น โดยทีมงานผู้สร้าง ตัวผกก.และมือเขียนบทในภาค Tokyo Drift อย่าง Justin Lin และ Chris Morgan ได้ถูกจ้างต่อในการทำหนังภาคต่อ ในชื่อ Fast & Furious ในปี 2009 โดยนำนักแสดงหลักจากภาคแรกกลับมาแสดง นั่นคือ Vin Diesel, Paul Walker, Michelle Rodriguez และ Jordana Brewster ซึ่งเมื่อหนังออกฉายไปได้ไม่นาน หนังได้รับเสียงตอบรับที่ดี และรายได้ทะลุเป้า คืนทุนให้ทางสตูดิโอและผู้สร้าง ทำให้ทางค่ายออกไฟเขียวสร้างภาคต่อ
7. หนังเรื่อง Point Break ในปี 1991 ที่นำแสดงโดย Keanu Reeves และ Patrick Swayze นั่น เป็นหนังต้นแบบและเป็นไอเดียในการสร้างหนังเรื่อง Fast & Furious ของทีมงานผู้สร้าง โดยจะเห็นได้ว่าหนังทั้งสองเรื่องมีพล็อตเรื่องคล้ายคลึงกัน พระเอกเป็นตำรวจสายสืบหนุ่มได้รับภารกิจแฝงตัวอยู่กับพวกชาวแกงค์เพื่อสืบหาและตามจับตัวอาชญากร เปลี่ยนจากแกงค์นักกระดานโค้คลื่นมาเป็นแกงค์รถซิ่ง ซึ่ง Point Break ก็เป็นหนึ่งในหนังตำนานเรื่องหนึ่งที่เป็นไอเดียและแรงบันดาลใจให้กับหนังยุคต่อๆมาหลายเรื่อง
8. ตัวละคร Luke Hobbs ที่นำแสดงโดย The Rock ตอนแรกนั่น บทนี้ถูกเล็งโดยจะนำ ดาราอาวุโสอย่าง Tommy Lee Jones มาแสดง โดยจะให้ตัวละครนี้ เป็นนายตำรวจมาดเก๋า เน้นวางแผน สุขุม นิ่งไม่เน้นการบู๊มากมาย เน้นใช้สมอง ต่อกรกับพวกดอม แต่ตัว Vin Diesel ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้หนังเรื่องนี้ เห็นว่า ท่าทางจะไม่เวิร์ค โดยแกได้โพสลงเฟสบุ๊คส่วนตัวถามแฟนหนังว่า Fast & Furious 5 นั่นอยากเห็นใครมาแสดงเป็นคู่กัดคู่ปรับดอมบ้าง คำตอบส่วนใหญ่คือ The Rock ทำให้บท Luke Hobbs ตกมาอยู่ที่ The Rock และเปลี่ยนคาแร็กเตอร์จากเดิม ให้มาเป็นนายตำรวจสายลุย อึด ถึก ทน กล้าชน และมันก็เวิร์คจริงๆ
9. Michelle Rodriguez ในเครดิตท้ายเรื่อง ภาคห้า นั่น ตัวละคร เล็ตตี้ ยังไม่ตาย ทำเอาแฟนหนังเซอร์ไพร์สมาก คนที่เซอร์ไพร์สกว่าคือ ตัวเธอจริงๆ หลังบทของเธอได้ตายไปในภาคสี่ มิเชลล์ไม่ได้ติดตามหนังชุดนี้ต่อ โดยเธอไปเที่ยวในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีแฟนคลับเธอมาบอกเธอว่า ฉากเครดิต Fast ภาคห้านั่น ตัวละครเธอยังไม่ตาย ทำให้ตัวเธอเซอร์ไพร์สมาก และเธอก็ได้กลับมาแสดงจริงๆ ในภาคหก
10. ทีแรกในหนังภาคแปดนั่น ตัวร้ายใหม่ของหนังจะเป็นผู้ชาย แต่ทีมงานผู้สร้างอยากได้ความแปลกใหม่ โดยให้เป็นผู้หญิงแทน บทนั่นก็ส่งให้ Charlize Theron ดาราสาวสวยผู้คว้ารางวัลออสการ์จากหนังเรื่อง Monster ในปี 2004 โดยทีแรกเธอไม่สนรับบท ไซเฟอร์ ด้วยซ้ำ แต่ด้วยเธอเห็นชื่อผกก. F. Gary Gray เข้า เธอเลยรับบทนี้ เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อนในเรื่อง The Italian Job ในปี 2003
11. จาพนม หรือ โทนี่ จา นักแสดงสายบู๊สัญชาติไทย ที่ได้ไปแสดงในหนังเรื่องนี้ในภาคที่เจ็ด ได้มีฉากบู๊ตัวต่อตัวกับ พอล วอล์กเกอร์ ฉากบนรถติดอาวุธ ซึ่งฉากนั่นใช้เวลาถ่ายทำถึงสามสัปดาห์ และไม่นานจากนั้น พอล วอล์กเกอร์ ก็ประสบอุบัคิเหตุเสียชีวิต นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จาพนมได้มีโอกาสเข้าฉากกับพอลตอนยังมีชีวิตอยู่มนหนังเรื่องนี้
12. Jason Statham ยอดพระเอกสายบู๊จากหนังดังอย่างเรื่อง Transporter ไตรภาค และ Death Race คือ อีกหนึ่งตัวละครลึกลับที่โผล่มาในฉาก end credits ของหนังภาคที่หก ที่ทำแฟนหนังเซอร์ไพร์สกันเป็นแถว ไม่คิดว่า เฮียโล้นเจสันจะมาร่วมแสดงในหนังชุดนี้ด้วย และแกเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญในหนังภาคต่อๆมา
13. โลเคชั่นหลักในการถ่ายทำหนังชุดนี้ คือดเมือง London ประเทศอังกฤษ ในภาคหก ในหนังภาคแยก Hobbs & Shaw และในภาค 9 ที่กำลังถ่ายทำอยู่ โดยทีมงานผู้สร้างนั่นบอกเมืองนี้มีความน่าหลงใหลอยู่สูง
14. Chris Morgan คนเขียนบทให้กับหนังชุดนี้มาตั้งแต่ภาค 3 นั่นแกยังเป็นคนเขียนบทหนังภาคแยก Hobbs & Shaw อีกด้วย
15. ฉากในภาคแปดที่เหล่ารถไม่ต่ำกว่าสิบคันถูกขับตกลงมาจากตึกสูง หรือ เรียกฉากนี้ว่า "โปรยฝนรถ" เรื่องจริงในการถ่ายทำ ใช้รถไปจริงๆว่า 60 คัน ฉากนี้ไม่ใช้ CG ช่วย รถตกมาจริงๆ ระเบิดจริง
16. ตัวจริงนั่น Vin Diesel ไม่ใช่คนขับรถเก่งเทพเหมือนในหนัง ตัวจริงแกไม่มีใบขับขี่ด้วยซ้ำ และแกก็ไม่ได้เป็นคชอบรถมาก ตัวจริงแกเป็นคนชอบเล่นกีฬาแนวเอ็กซตรีม เหมือนในหนังเรื่อง Triple X นั่นแหละ ส่วนพอล วอล์กเกอร์ตัวจริงแกเป็นคนชอบเรื่องรถมาก เป็นนักแข่งรถในสนามจริงๆ เบื้องหลังการถ่ายทำในหนังหลายภาค แกขับรถเล่นฉากแอ็คชั่นจริงๆในบางฉาก ไม่ได้ขับในจอเขียวอย่างเดียวแบบพี่วิน ดีเซล
17. Kurt Russell ในบท มิสเตอร์ โนบอดี้ ที่โผล่มาในหนังภาคเจ็ด แกคือพระเอกหนังดังยุค 80 ที่ตัว Vin Diesel ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวเลยนำแกมาแสดงในหนังเรื่องนี้
18. ทีมงานผู้สร้างหนังเรื่อง Fast & Furious เคยให้สัมภาษณ์ว่าหนังเรื่องนี้ในภาค 6-8 และภาคต่อๆมา จะมีความคล้ายกับหนังเรื่อง Mission Impossible และ James Bond 007 หนังจะเน้นการทำงานเป็นทีม ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ทำงานเหมือนสายลับทีมจารชน แต่ยังคงความเป็นฟาส โดยการนำรถซิ่งต่างๆใช้ทำภารกิจ แต่ฉากแข่งรถแบบสามภาคแรกนั่นจะลดลง เพราะ การเปลี่ยนแปลงแนวทางของหนังนั่นเอง
19. Justin Lin คือ ผกก.ที่ได้กำกับหนังชุดนี้มากที่สุดถึง 6 ภาค ตั้งแต่ภาค 3-6 และสองภาคสุดท้าย 9-10
20. ช่วงโปรโมตฟาสภาคหก วิน ดีเซล เคยให้สัมภาษณ์ว่าแม่ของเขานั่น อยากให้เขากำกับหนังชุดนี้สักภาค แต่เขาปฏิเสธและบอกว่าเขาไม่พร้อม (ซึ่งก่อนหน้านั่นในปี 2006 วินเองเคยกำกับหนังและแสดงเองแนวดราม่ามาเรื่องนึงและหนังก็เจ๊งไม่เป็นท่า)
21. หนังเรื่องฟาส ยังมีแผนสร้างหนังภาคแยกต่ออีก นอกจาก Hobbs & Shaw ทีมงานผู้สร้างและตัว วิน ดีเซล อยากสร้างหนังภาคแยกโดยเล่าเรื่องราวของ เล็ตตี้ และ จีเซล อีกด้วย
22. สิ่งเซอร์ไพร์สครั้งใหญ่คือ ตัวละคร Deckard Shaw ตัวร้ายในภาคเจ็ด ที่ฆ่าฮาน ระเบิดบ้านของดอม ทำฮ็ฮบบ์เจ็บหนักเข้าโรงพยาบาล ถล่มพวกทหารในโรงพยาบาลเพื่อเข้าไปเยี่ยมน้องชาย มาในภาคแปดดูคาแร็กเตอร์แกจะเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร กลายเป็นคนดูขี้เล่น กวนโอ๊ย เข้ามาช่วยลูกของดอม ศูตรหลักในภาคก่อนหน้า แถมตอนจบขัดใจสุดๆ เข้ามาร่วมวงในทีมของดอม งง กันเป็นแถว คือ ... เรื่องฮาน ตกลง... หายกันแล้วเหรอ
23. สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องฟาสมีภาคต่อจนถึงภาคแปดได้ เพราะ จุดเริ่มต้นจากภาคแรกด้วยทุนหนังเพียง 38 ล้านเหรียญ แต่สามารถทำรายได้ใน box office ไปถึง 207 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่สร้างภาคต่อไม่ได้แล้ว)
สิ่งที่คุณไม่รู้ เรื่องเซอร์ไพร์สและสิ่งที่ขาดไม่ได้จากหนังเรื่อง Fast & Furious ทั้งแปดภาค
2. โคโยตี้สาวสวย อกใหญ่ ก้นดก โผล่มาเต้น ยั่วน้ำลายผู้ชายซึ่งมีทุกภาค ส่วนใหญ่จะโผล่มาตอนต้นเรื่อง ไม่ก็กลางเรื่อง
3. ฉากเปิดของหนังชุดนี้ทุกภาค จะเริ่มที่ฉากแข่งรถ ไม่ก็ฉากแอ็คชั่นที่เกี่ยวกับรถยนต์ แล้วฉากจบก็จะมานั่งกินบาร์บีคิวกัน ไม่ก็ไปเที่ยวชายหาด
4. รถคู่ใจคันออกลุยของสองพระเอก ดอม และ
ไบรอัน รถ Nissian Skyline สีน้ำเงิน และ รถ Dodge Challenger ปี 70 สีดำ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราจะเห็นมันทั้งสองแทบทุกภาค
5. พี่ดอมของเราทุกภาคที่แกแสดงต้องมีบทพูดของแกที่ออกจะน้ำเน่าไม่ก็พูดซึ้งตลอดทุกภาค เช่น ภาคแรกที่พี่แกพูดกับไบรอันว่า "ฉันใช้ชีวิตทีละ 1/4 ไมล์ เรื่องอื่นไม่สำคัญ นอกนั้นฉันเป็นอิสระ" และอีกหลายประโยค (แม่ผมบอกพี่แกคารมณ์ดี สาวๆติด 55)
6. แฟรนไซส์เรื่อง Fast & Furious จริงๆ จะจบไว้ที่ไตรภาค เพราะ ภาน 2-3 รายได้ไม่ดี โดยเฉพาะภาคสาม Tokyo Drift ทางค่ายสตูดิโอ Universal ได้จัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แต่ด้วยฉากจบของหนัง ได้มีการนำดาราหลักจากภาคแรก Vin Diesel ในบทดอมมาโผล่ เรียกกระแสแฟนหนังได้เพิ่มขึ้น โดยทีมงานผู้สร้าง ตัวผกก.และมือเขียนบทในภาค Tokyo Drift อย่าง Justin Lin และ Chris Morgan ได้ถูกจ้างต่อในการทำหนังภาคต่อ ในชื่อ Fast & Furious ในปี 2009 โดยนำนักแสดงหลักจากภาคแรกกลับมาแสดง นั่นคือ Vin Diesel, Paul Walker, Michelle Rodriguez และ Jordana Brewster ซึ่งเมื่อหนังออกฉายไปได้ไม่นาน หนังได้รับเสียงตอบรับที่ดี และรายได้ทะลุเป้า คืนทุนให้ทางสตูดิโอและผู้สร้าง ทำให้ทางค่ายออกไฟเขียวสร้างภาคต่อ
7. หนังเรื่อง Point Break ในปี 1991 ที่นำแสดงโดย Keanu Reeves และ Patrick Swayze นั่น เป็นหนังต้นแบบและเป็นไอเดียในการสร้างหนังเรื่อง Fast & Furious ของทีมงานผู้สร้าง โดยจะเห็นได้ว่าหนังทั้งสองเรื่องมีพล็อตเรื่องคล้ายคลึงกัน พระเอกเป็นตำรวจสายสืบหนุ่มได้รับภารกิจแฝงตัวอยู่กับพวกชาวแกงค์เพื่อสืบหาและตามจับตัวอาชญากร เปลี่ยนจากแกงค์นักกระดานโค้คลื่นมาเป็นแกงค์รถซิ่ง ซึ่ง Point Break ก็เป็นหนึ่งในหนังตำนานเรื่องหนึ่งที่เป็นไอเดียและแรงบันดาลใจให้กับหนังยุคต่อๆมาหลายเรื่อง
8. ตัวละคร Luke Hobbs ที่นำแสดงโดย The Rock ตอนแรกนั่น บทนี้ถูกเล็งโดยจะนำ ดาราอาวุโสอย่าง Tommy Lee Jones มาแสดง โดยจะให้ตัวละครนี้ เป็นนายตำรวจมาดเก๋า เน้นวางแผน สุขุม นิ่งไม่เน้นการบู๊มากมาย เน้นใช้สมอง ต่อกรกับพวกดอม แต่ตัว Vin Diesel ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้หนังเรื่องนี้ เห็นว่า ท่าทางจะไม่เวิร์ค โดยแกได้โพสลงเฟสบุ๊คส่วนตัวถามแฟนหนังว่า Fast & Furious 5 นั่นอยากเห็นใครมาแสดงเป็นคู่กัดคู่ปรับดอมบ้าง คำตอบส่วนใหญ่คือ The Rock ทำให้บท Luke Hobbs ตกมาอยู่ที่ The Rock และเปลี่ยนคาแร็กเตอร์จากเดิม ให้มาเป็นนายตำรวจสายลุย อึด ถึก ทน กล้าชน และมันก็เวิร์คจริงๆ
9. Michelle Rodriguez ในเครดิตท้ายเรื่อง ภาคห้า นั่น ตัวละคร เล็ตตี้ ยังไม่ตาย ทำเอาแฟนหนังเซอร์ไพร์สมาก คนที่เซอร์ไพร์สกว่าคือ ตัวเธอจริงๆ หลังบทของเธอได้ตายไปในภาคสี่ มิเชลล์ไม่ได้ติดตามหนังชุดนี้ต่อ โดยเธอไปเที่ยวในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีแฟนคลับเธอมาบอกเธอว่า ฉากเครดิต Fast ภาคห้านั่น ตัวละครเธอยังไม่ตาย ทำให้ตัวเธอเซอร์ไพร์สมาก และเธอก็ได้กลับมาแสดงจริงๆ ในภาคหก
10. ทีแรกในหนังภาคแปดนั่น ตัวร้ายใหม่ของหนังจะเป็นผู้ชาย แต่ทีมงานผู้สร้างอยากได้ความแปลกใหม่ โดยให้เป็นผู้หญิงแทน บทนั่นก็ส่งให้ Charlize Theron ดาราสาวสวยผู้คว้ารางวัลออสการ์จากหนังเรื่อง Monster ในปี 2004 โดยทีแรกเธอไม่สนรับบท ไซเฟอร์ ด้วยซ้ำ แต่ด้วยเธอเห็นชื่อผกก. F. Gary Gray เข้า เธอเลยรับบทนี้ เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อนในเรื่อง The Italian Job ในปี 2003
11. จาพนม หรือ โทนี่ จา นักแสดงสายบู๊สัญชาติไทย ที่ได้ไปแสดงในหนังเรื่องนี้ในภาคที่เจ็ด ได้มีฉากบู๊ตัวต่อตัวกับ พอล วอล์กเกอร์ ฉากบนรถติดอาวุธ ซึ่งฉากนั่นใช้เวลาถ่ายทำถึงสามสัปดาห์ และไม่นานจากนั้น พอล วอล์กเกอร์ ก็ประสบอุบัคิเหตุเสียชีวิต นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จาพนมได้มีโอกาสเข้าฉากกับพอลตอนยังมีชีวิตอยู่มนหนังเรื่องนี้
12. Jason Statham ยอดพระเอกสายบู๊จากหนังดังอย่างเรื่อง Transporter ไตรภาค และ Death Race คือ อีกหนึ่งตัวละครลึกลับที่โผล่มาในฉาก end credits ของหนังภาคที่หก ที่ทำแฟนหนังเซอร์ไพร์สกันเป็นแถว ไม่คิดว่า เฮียโล้นเจสันจะมาร่วมแสดงในหนังชุดนี้ด้วย และแกเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญในหนังภาคต่อๆมา
13. โลเคชั่นหลักในการถ่ายทำหนังชุดนี้ คือดเมือง London ประเทศอังกฤษ ในภาคหก ในหนังภาคแยก Hobbs & Shaw และในภาค 9 ที่กำลังถ่ายทำอยู่ โดยทีมงานผู้สร้างนั่นบอกเมืองนี้มีความน่าหลงใหลอยู่สูง
14. Chris Morgan คนเขียนบทให้กับหนังชุดนี้มาตั้งแต่ภาค 3 นั่นแกยังเป็นคนเขียนบทหนังภาคแยก Hobbs & Shaw อีกด้วย
15. ฉากในภาคแปดที่เหล่ารถไม่ต่ำกว่าสิบคันถูกขับตกลงมาจากตึกสูง หรือ เรียกฉากนี้ว่า "โปรยฝนรถ" เรื่องจริงในการถ่ายทำ ใช้รถไปจริงๆว่า 60 คัน ฉากนี้ไม่ใช้ CG ช่วย รถตกมาจริงๆ ระเบิดจริง
16. ตัวจริงนั่น Vin Diesel ไม่ใช่คนขับรถเก่งเทพเหมือนในหนัง ตัวจริงแกไม่มีใบขับขี่ด้วยซ้ำ และแกก็ไม่ได้เป็นคชอบรถมาก ตัวจริงแกเป็นคนชอบเล่นกีฬาแนวเอ็กซตรีม เหมือนในหนังเรื่อง Triple X นั่นแหละ ส่วนพอล วอล์กเกอร์ตัวจริงแกเป็นคนชอบเรื่องรถมาก เป็นนักแข่งรถในสนามจริงๆ เบื้องหลังการถ่ายทำในหนังหลายภาค แกขับรถเล่นฉากแอ็คชั่นจริงๆในบางฉาก ไม่ได้ขับในจอเขียวอย่างเดียวแบบพี่วิน ดีเซล
17. Kurt Russell ในบท มิสเตอร์ โนบอดี้ ที่โผล่มาในหนังภาคเจ็ด แกคือพระเอกหนังดังยุค 80 ที่ตัว Vin Diesel ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวเลยนำแกมาแสดงในหนังเรื่องนี้
18. ทีมงานผู้สร้างหนังเรื่อง Fast & Furious เคยให้สัมภาษณ์ว่าหนังเรื่องนี้ในภาค 6-8 และภาคต่อๆมา จะมีความคล้ายกับหนังเรื่อง Mission Impossible และ James Bond 007 หนังจะเน้นการทำงานเป็นทีม ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ทำงานเหมือนสายลับทีมจารชน แต่ยังคงความเป็นฟาส โดยการนำรถซิ่งต่างๆใช้ทำภารกิจ แต่ฉากแข่งรถแบบสามภาคแรกนั่นจะลดลง เพราะ การเปลี่ยนแปลงแนวทางของหนังนั่นเอง
19. Justin Lin คือ ผกก.ที่ได้กำกับหนังชุดนี้มากที่สุดถึง 6 ภาค ตั้งแต่ภาค 3-6 และสองภาคสุดท้าย 9-10
20. ช่วงโปรโมตฟาสภาคหก วิน ดีเซล เคยให้สัมภาษณ์ว่าแม่ของเขานั่น อยากให้เขากำกับหนังชุดนี้สักภาค แต่เขาปฏิเสธและบอกว่าเขาไม่พร้อม (ซึ่งก่อนหน้านั่นในปี 2006 วินเองเคยกำกับหนังและแสดงเองแนวดราม่ามาเรื่องนึงและหนังก็เจ๊งไม่เป็นท่า)
21. หนังเรื่องฟาส ยังมีแผนสร้างหนังภาคแยกต่ออีก นอกจาก Hobbs & Shaw ทีมงานผู้สร้างและตัว วิน ดีเซล อยากสร้างหนังภาคแยกโดยเล่าเรื่องราวของ เล็ตตี้ และ จีเซล อีกด้วย
22. สิ่งเซอร์ไพร์สครั้งใหญ่คือ ตัวละคร Deckard Shaw ตัวร้ายในภาคเจ็ด ที่ฆ่าฮาน ระเบิดบ้านของดอม ทำฮ็ฮบบ์เจ็บหนักเข้าโรงพยาบาล ถล่มพวกทหารในโรงพยาบาลเพื่อเข้าไปเยี่ยมน้องชาย มาในภาคแปดดูคาแร็กเตอร์แกจะเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร กลายเป็นคนดูขี้เล่น กวนโอ๊ย เข้ามาช่วยลูกของดอม ศูตรหลักในภาคก่อนหน้า แถมตอนจบขัดใจสุดๆ เข้ามาร่วมวงในทีมของดอม งง กันเป็นแถว คือ ... เรื่องฮาน ตกลง... หายกันแล้วเหรอ
23. สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องฟาสมีภาคต่อจนถึงภาคแปดได้ เพราะ จุดเริ่มต้นจากภาคแรกด้วยทุนหนังเพียง 38 ล้านเหรียญ แต่สามารถทำรายได้ใน box office ไปถึง 207 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไม่สร้างภาคต่อไม่ได้แล้ว)