จบกันไปแล้ว กับเกมส์ระหว่าง อาร์เซนอล vs แมนยู ผลก็อย่างที่ทราบๆกัน อาร์เซนอล ชนะไป 2-0
ความพ่ายแพ้นัดนี้ บางคนก็บอกว่า เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ได้เหนือความคาดหมายมากมายนัก เนื่องจากบอกตามตรงว่า สิ่งที่โซลชา ทำให้กับแมนยู มันเป็นอะไรที่ wow มากแล้ว การที่คุมทีมลงเล่นมา 3 เดือน ผ่านการแข่งขันอันหนักหน่วง มา 4-5 นัดติดๆกัน โดยได้ผลการแข่งขันที่จะบอกว่า อยู่ในระดับที่ดีก็ได้ มาก็เยอะ
การคุมทีม แล้วไม่แพ้เลย คงเป็นไปไม่ได้ แต่การพ่ายแพ้ในนัดนี้ก็ไม่ได้แย่มากมายนัก (ไม่ได้บอกว่ามันไม่แย่ มันก็แย่ในบางมุม) แน่ในความแย่ มันก็มีสิ่งดีๆ หลายๆสิ่งให้เราได้เห็นกัน เดี๋ยวจะมาไล่อธิบายเป็นข้อๆ
ทีนี้มาว่ากันในเรื่องของรูปเกมส์บ้าง นัดนี้ เป็นนัดเยือน ในบ้านปืนใหญ่ ที่มีฟอร์มการเล่นในบ้านค่อนข้างดี อีกทั้งแมนยูได้ตัวผู้เล่นตัวหลักกลับมาจากอาการบาดเจ็บบ้างบางส่วน
โซลชา จัดตัวผู้เล่นในระบบ 4-4-2 โดยมี มาติช ยืนกลางคู่กับเฟรด ให้ป้อกบาเล่นซ้าย และดาโล่ เล่นขวา คู่หน้าเป็น แรชและลูกากู
เริ่มเกมส์มา ต้องยอมรับว่า แมนยูเริ่มเกมส์ได้ไม่ดีนัก และเกรงกลัวอาร์เซน่อลมากเกินไป ในช่วง 10-15 นาทีแรก ก่อนเสียประตู แมนยูไม่สามารถเล่นตามเกมส์ของตัวเองได้เลย เพราะถอยลงไปรับลึกเกินไป ทำให้แดนกลางและแดนหลังอาร์เซนอล สามารถเดินขึ้นมากดดันได้ ทำให้บอลของแมนยู ไม่ค่อยสามารถลำเลียงผ่านไปยังคู่กองหน้าได้เท่าไร เพราะโดนบีบพื้นที่เร็ว
แต่หลังจากเสียประตูแรกแล้ว แมนยูก็ยกระดับเกมส์ตัวเองขึ้นมาได้พอตัว และหลังจากพักครึ่งมาแล้ว โซลชา แก้เกมส์มาได้ค่อนข้างดี คือสั่งให้ยืนสูงขึ้นมาอีกประมาณ 15 หลา ทำให้รูปเกมส์เป็นในลักษณะ แมนยูเปิดเกมส์บุกเต็มตัว และอาร์เซนอลใช้จังหวะโต้กลับ
แมนยู จริงๆแล้วมีจังหวะเข้าทำที่ควรจะเปลี่ยนเป็นประตูในหลายๆครั้ง ทั้งลูกากูเข้าชาร์จชนคานในครึ่งแรก เฟรดยิงชนเสา แรชได้ยิงโล่งๆ แต่เร่งเกินไปเลยยิงไปไหนก็ไม่รู้ ดาโล่หลุดไป (ควรจะยิง) ตบกลับมาให้แรชชาร์จโดนบล้อก ลูกากูได้พลิกยิงโล่งๆ โดนเซฟในครึ่งหลัง ถ้าในเกมส์นี้ มีความคมในการจบสกอร์มากกว่านี้ ผลอาจจะจบที่เสมอ ก็เป็นได้
แต่เมื่อทำไม่ได้ ก็ต้องมาเสียจุดโทษในจังหวะที่ไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างว่า กลางสัปดาห์เราก็ได้ผลประโยชน์จากจุดโทษมา จึงมองว่า เป็นเรื่องของทางคนที่เกี่ยวข้อง จะไปทำอย่างไร ให้กฎมันชัดเจน ไม่เกิดข้อกังขาในเรื่องจุดโทษอีกต่อไปกัน
เมื่อตามหลัง 2 ลูก และกองหลังอาร์เซนอล ก็เล่นกันได้ดี สามารถดักเกมส์ได้สวยๆหลายครั้ง ก็เป็นอันสิ้นสุด สำหรับสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ของโซลชาในนัดนี้
อย่างที่บอกในความพ่ายแพ้ ก็ยังมีสิ่งดีๆ หลายอย่าง
1) นักเตะตัวหลัก เริ่มทยอยกลับมาลงสนามได้แล้ว ในเกมส์นี้ก็ได้เห็น มาติช และมาซิยาล กลับมาลงสนามได้ แม้ว่า ความฟิตจะยังไม่ค่อยเต็มที่ แต่ก็ทำให้โซลชา มีตัวเลือกในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีในช่วงปลายฤดูกาลแบบนี้
2) เฟรด ในความเห็นของผม เริ่มมีการปรับตัวได้มากขึ้น การครองบอล การจ่ายบอลทำให้ดีพอสมควร แต่เรื่องที่ทำให้เสียจุดโทษ อันนี้มันก็พูดยาก จะเป็นการทำฟาวล์ที่โง่ ก็ว่าได้ แต่มันก็เป็นเรื่องของรูปเกมส์ และการตัดสินของมนุษย์คนนึง แต่โดยรวม ผมมีความพอใจในตัวเฟรดมากขึ้น
3) โซลชา แสดงให้เห็นว่า แมนยู ต้องเล่นเกมส์บุก และกล้าที่จะเปิดเกมส์บุก กับทีมใหญ่ ถ้าเป็นในยุคของมูรินโย่ ผมเชื่อว่า จะมาเล่นเกมส์นี้แบบรับรถบัสแน่นอน และที่สำคัญ โซลชาแสดงให้เห็นถึงความกล้าเสี่ยง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแมนยูมาโดยตลอด คือ แกกล้าเปลี่ยนตัวเกมส์รับออก แล้วเติมตัวรุกลงไป เพื่อชิงเอาประตูคืนกลับมา ความกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิด Fergie's time มาหลายต่อหลายครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่เกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง
4) แมนยู มักจะเป็นทีมที่มีนักเตะฝึกหัด เติบโตมา และเล่นให้กับแมนยูมาโดยตลอด ในนัดนี้ ก็เป็นคิวของ เมสัน กรีนวู้ด นักเตะในตำแหน่งกองหน้า เมื่อโซลชากล้าเปลี่ยนลงมาเล่นแทน มาติช ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
เพื่อนๆ มีความคิดเห็นกันอย่างไร ยินดีรับฟังครับ
++ เก่งหลังเกมส์ ++ ในความพ่ายแพ้ ยังมีสิ่งดีๆ หลายสิ่งที่เกิดขึ้น
ความพ่ายแพ้นัดนี้ บางคนก็บอกว่า เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ได้เหนือความคาดหมายมากมายนัก เนื่องจากบอกตามตรงว่า สิ่งที่โซลชา ทำให้กับแมนยู มันเป็นอะไรที่ wow มากแล้ว การที่คุมทีมลงเล่นมา 3 เดือน ผ่านการแข่งขันอันหนักหน่วง มา 4-5 นัดติดๆกัน โดยได้ผลการแข่งขันที่จะบอกว่า อยู่ในระดับที่ดีก็ได้ มาก็เยอะ
การคุมทีม แล้วไม่แพ้เลย คงเป็นไปไม่ได้ แต่การพ่ายแพ้ในนัดนี้ก็ไม่ได้แย่มากมายนัก (ไม่ได้บอกว่ามันไม่แย่ มันก็แย่ในบางมุม) แน่ในความแย่ มันก็มีสิ่งดีๆ หลายๆสิ่งให้เราได้เห็นกัน เดี๋ยวจะมาไล่อธิบายเป็นข้อๆ
ทีนี้มาว่ากันในเรื่องของรูปเกมส์บ้าง นัดนี้ เป็นนัดเยือน ในบ้านปืนใหญ่ ที่มีฟอร์มการเล่นในบ้านค่อนข้างดี อีกทั้งแมนยูได้ตัวผู้เล่นตัวหลักกลับมาจากอาการบาดเจ็บบ้างบางส่วน
โซลชา จัดตัวผู้เล่นในระบบ 4-4-2 โดยมี มาติช ยืนกลางคู่กับเฟรด ให้ป้อกบาเล่นซ้าย และดาโล่ เล่นขวา คู่หน้าเป็น แรชและลูกากู
เริ่มเกมส์มา ต้องยอมรับว่า แมนยูเริ่มเกมส์ได้ไม่ดีนัก และเกรงกลัวอาร์เซน่อลมากเกินไป ในช่วง 10-15 นาทีแรก ก่อนเสียประตู แมนยูไม่สามารถเล่นตามเกมส์ของตัวเองได้เลย เพราะถอยลงไปรับลึกเกินไป ทำให้แดนกลางและแดนหลังอาร์เซนอล สามารถเดินขึ้นมากดดันได้ ทำให้บอลของแมนยู ไม่ค่อยสามารถลำเลียงผ่านไปยังคู่กองหน้าได้เท่าไร เพราะโดนบีบพื้นที่เร็ว
แต่หลังจากเสียประตูแรกแล้ว แมนยูก็ยกระดับเกมส์ตัวเองขึ้นมาได้พอตัว และหลังจากพักครึ่งมาแล้ว โซลชา แก้เกมส์มาได้ค่อนข้างดี คือสั่งให้ยืนสูงขึ้นมาอีกประมาณ 15 หลา ทำให้รูปเกมส์เป็นในลักษณะ แมนยูเปิดเกมส์บุกเต็มตัว และอาร์เซนอลใช้จังหวะโต้กลับ
แมนยู จริงๆแล้วมีจังหวะเข้าทำที่ควรจะเปลี่ยนเป็นประตูในหลายๆครั้ง ทั้งลูกากูเข้าชาร์จชนคานในครึ่งแรก เฟรดยิงชนเสา แรชได้ยิงโล่งๆ แต่เร่งเกินไปเลยยิงไปไหนก็ไม่รู้ ดาโล่หลุดไป (ควรจะยิง) ตบกลับมาให้แรชชาร์จโดนบล้อก ลูกากูได้พลิกยิงโล่งๆ โดนเซฟในครึ่งหลัง ถ้าในเกมส์นี้ มีความคมในการจบสกอร์มากกว่านี้ ผลอาจจะจบที่เสมอ ก็เป็นได้
แต่เมื่อทำไม่ได้ ก็ต้องมาเสียจุดโทษในจังหวะที่ไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างว่า กลางสัปดาห์เราก็ได้ผลประโยชน์จากจุดโทษมา จึงมองว่า เป็นเรื่องของทางคนที่เกี่ยวข้อง จะไปทำอย่างไร ให้กฎมันชัดเจน ไม่เกิดข้อกังขาในเรื่องจุดโทษอีกต่อไปกัน
เมื่อตามหลัง 2 ลูก และกองหลังอาร์เซนอล ก็เล่นกันได้ดี สามารถดักเกมส์ได้สวยๆหลายครั้ง ก็เป็นอันสิ้นสุด สำหรับสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ของโซลชาในนัดนี้
อย่างที่บอกในความพ่ายแพ้ ก็ยังมีสิ่งดีๆ หลายอย่าง
1) นักเตะตัวหลัก เริ่มทยอยกลับมาลงสนามได้แล้ว ในเกมส์นี้ก็ได้เห็น มาติช และมาซิยาล กลับมาลงสนามได้ แม้ว่า ความฟิตจะยังไม่ค่อยเต็มที่ แต่ก็ทำให้โซลชา มีตัวเลือกในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีในช่วงปลายฤดูกาลแบบนี้
2) เฟรด ในความเห็นของผม เริ่มมีการปรับตัวได้มากขึ้น การครองบอล การจ่ายบอลทำให้ดีพอสมควร แต่เรื่องที่ทำให้เสียจุดโทษ อันนี้มันก็พูดยาก จะเป็นการทำฟาวล์ที่โง่ ก็ว่าได้ แต่มันก็เป็นเรื่องของรูปเกมส์ และการตัดสินของมนุษย์คนนึง แต่โดยรวม ผมมีความพอใจในตัวเฟรดมากขึ้น
3) โซลชา แสดงให้เห็นว่า แมนยู ต้องเล่นเกมส์บุก และกล้าที่จะเปิดเกมส์บุก กับทีมใหญ่ ถ้าเป็นในยุคของมูรินโย่ ผมเชื่อว่า จะมาเล่นเกมส์นี้แบบรับรถบัสแน่นอน และที่สำคัญ โซลชาแสดงให้เห็นถึงความกล้าเสี่ยง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแมนยูมาโดยตลอด คือ แกกล้าเปลี่ยนตัวเกมส์รับออก แล้วเติมตัวรุกลงไป เพื่อชิงเอาประตูคืนกลับมา ความกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิด Fergie's time มาหลายต่อหลายครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่เกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง
4) แมนยู มักจะเป็นทีมที่มีนักเตะฝึกหัด เติบโตมา และเล่นให้กับแมนยูมาโดยตลอด ในนัดนี้ ก็เป็นคิวของ เมสัน กรีนวู้ด นักเตะในตำแหน่งกองหน้า เมื่อโซลชากล้าเปลี่ยนลงมาเล่นแทน มาติช ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
เพื่อนๆ มีความคิดเห็นกันอย่างไร ยินดีรับฟังครับ